เหตุมันเกิดจากว่า โรงเรียนดังชื่อคุ้นหูแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด นนทบุรี ได้มีการจัดการแก้มผ.ด้วยวิธีการให้เข้าค่าย โดยต้องจ่ายเงินคนละ200บาท จำนวนเด็กทั้งสิ้นประมาณเืกอบสี่ร้อยคน ซึ่งการติดมผ.นี้ เป็นการติดมผ.จากการมาโรงเรียนสาย ไม่ผูกโบเข้าโรงเรียน หรือใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ ( เช่นถุงเท้าพื้นดำ ) เป็นต้น จริงอยู่ การทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนนั้นควรได้รับการลงโทษ แต่การลงโทษนั้นก็ควรเป็นการลงโทษที่เหมาะสม ไม่ใช่อย่างที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ จากที่เล่าไว้ข้างต้น นักเรียนที่ติดมผ. ต้องเข้าค่ายที่รองผอ.หรือทางโรงเรียนจัดขึ้น โดยทางโรงเรียนนั้น ได้ให้ทหารมาเป็นผู้คุมการเข้าค่ายแก้มผ.ครั้งนี้ เหตุที่ทำให้เกิดความไม่พอใจครั้งนี้ขึ้นนั่นคือ การที่ให้ทหารมาลงโทษเด็กที่ทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนนั้นหนักเกินที่เด็กวัยมัธยมจะสามารถทนได้ ทหารฝึกที่มาคุมนั้น มีทั้งสั่งให้เด็กนั่งกลางแดด ที่เป็นแดดในเวลาเกือบเที่ยงวัน และไม่มีร่มเงาเลย ให้มีการฝึกเยี่ยงการฝึกรด. หรือฝึกทหาร เช่นการลุกหมอบ การสั่งทำซ้ายขวาหัน จนกว่าจะพึงพอใจ รวมถึงการจับเวลาให้วิ่งจากฝั่งหนึ่ง ไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของสนาม ถ้าใครเคยเห็นคงจะนึกความกว้างของสนามออก เป็นการฝึกที่หนักมาก เนื่องจากเด็กหลายๆคน ไม่ได้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงนัก แม้ไม่ได้เป็นโรคใดใดก็ตาม ทั้งยังไม่เคยได้รับการฝึกที่โหดและหนักขนาดนี้ สิ่งที่หนักสำหรับเด็ก นอกจากความเหนื่อย นั่นก็คือแสงแดดจ้าของประเทศไทย การให้คนไปตากแดดโดยไม่มีหมวกหรือร่มเงาใดใดบังเลยนั้นส่งผลอันตรายต่อร่างกายมาก หากใครสงสัย สามารถค้นหาได้จากgoogle หลังจากการพักทานอาหารกลางวัน ก็ยังไม่วายที่จะนำเด็กมาทรมาณต่อ ให้นักเรียนออกไปที่สนามอีกครั้ง ในเวลาบ่าย เพื่อรับการฝึกโหดตามแบบทหาร แต่ในภาคบ่ายนี้ มีทั้งการให้คลานไปกับพื้น ให้ทาหน้าดำ รวมทั้งยังมีการเอาน้ำฉีดสาดใส่เด็กด้วยความสนุกสนานของผู้คุมอีกด้วย เจตนาในการตั้งกระทู้ครั้งนี้ เพียงแค่รู้สึกสงสัยว่า การให้เด็กนักเรียนแก้มผ.ด้วยวิธีการนี้ เหมาะสมแล้วหรือ ถูกต้องและตรงกับปัญหาของการมาสายของเด็กแล้วหรือ ทั้งๆที่การแก้มผ.ด้วยวิธีการฝึกของทหารแบบนี้นั้น ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับสาเหตุของการติดมผ.นี้เลย หรือถึงอย่างไรก็ตาม การฝึกแบบนี้ มันไม่เป็นการทรมาณ และเกินขีดความพอดีไปหรือ ทางเจ้าของกระทู้มองไม่เห็นประโยชน์และความเหมาะสมของการกระทำครั้งนี้เลย และได้แต่สงสัยว่า เงินที่เก็บจากเด็กนักเรียนไปนั้น นำไปใช้จ่ายค่าสวัสดิการอาหารของนักเรียนได้ครบพอดี ไม่ขาดไม่เหลือจริงหรือไม่
                ปล. เจตนาเพียงแต่อยากให้ความยุติธรรมแก่เด็กเพียงเท่านัน
                ปล. ปกติการแก้มผ.ของทางโรงเรียน ไม่ได้แก้แบบนี เป็นการให้ทำจิตสาธารณะตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด
อาจเขียนวกวน และงงไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้