เกริ่นก่อนนะครับ หรือไปย่อหน้า 3เลยถ้ารีบ
เริ่มจากผมขับรถไปดูหนังรอบดึกที่โลตัสบางกะปิ
บอกก่อนผมว่าผมไม่ใช่คนแถวนี้แต่ก็อยู่ไม่ไกลมาก พอที่จะขับรถมาดูหนังที่นี่ได้ภายใน 15นาที
ปกติเลยผมไม่ได้ดูที่นี่ แต่วันนี้จำเป็นมากๆเพราะที่นี่มีรอบเวลาที่ผมจะดูได้พอดี ซึ่งก็รอบสุดท้ายนั่นแหละ
ผมจัดการซื้อตั๋วออนไลน์ไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยกับ Application แอปหนึ่ง ซึ่งจะได้ตั๋วเป็น QR Code สามารถแสกนเข้าดูหนังได้เลยเมื่อไปถึง ซึ่งก็ทำประจำกับหลายๆที่
เมื่อผมมาถึงก็รับบัตรจอดรถ แล้วจอดรถใต้อาคารในโลตัสแล้วเดินเข้าห้าง ซึ่งห้างปิดแล้ว แอร์ก็ปิด จากท้ายห้างผมต้องเดินมาหน้าห้างเพื่อขึ้นบันไดเลื่อน 2ชั้นเพื่อไปชั้นดูหนังที่ชั้น 3 มาถึงก็แสกนตั๋วตามปกติ และแจ้งว่าแสตมป์บัตรจอดรถให้ด้วย (เคยมาครั้งก่อนไม่ได้แสตมป์ค่าจอดเกินเวลาแพงมาก)
กลิ่นความห่วยโชยมา
พนักงานหน้าโรงแจ้งว่าต้องลงไปแสตมป์บัตรจอดรถเองที่ลานจอดรถ จะมีซุ้มพนักงานอยู่ที่เสาต้นนี้ นี้ นี้ ไอบ้าเอ้ย ถึงเวลาหนังแล้วนะ แล้วผมเป็นประเภทชอบเข้าไปดูตัวอย่างหนังด้วย แต่ทำไรไม่ได้ ก็เลยรีบลงไปที่ลานจอดรถ จากหน้าห้าง ลงบันไดไปท้ายท้าง ไปเดินหาซุ้มพนักงานอีก ซุ้มไม่ใช่อยู่หน้าประตู ซุ้มอยู่นู้น ประมาณ 200 เมตรกลางลานจอด คือผมจะร้องไห้แล้ว มันไกลมากจากชั้นเมเจอร์
ความพีคของความห่วยคือ
ไปถึงซุ้มพนักงานโลตัสแจ้งว่าใช้ QR Code ไม่ได้ ต้องใช้บัตรตัวจริงในการแสตมป์ ผมนี่ขึ้นเลยนะบอกตรงๆ คือร้อน +เหนื่อย และระยะทางไกลด้วย โคตรไกล ผมน้อยใจห้างมากๆเลยนะบอกตรงๆ คือเราเป็นลูกค้าอะ ไม่ใช่มาขอ แต่แบบมันได้แค่นี้จริงๆหรอ ผมต้องรีบวิ่งอะ คือวิ่งจริงๆ วิ่งขึ้นไปชั้น 3เพื่อไปขอบัตรตัวจริง ผมก็โวยอะ โวยว่าแบบทำไมไม่มีใครบอกผมเลย ผมต้องขึ้นลงกี่รอบ พอได้บัตรตัวจริงแล้ว ผมก็วิ่งลงไปลานจอดท้ายห้าง วิ่งไปซุ้มเพื่อแสตมป์บัตรจอดรถอีกรอบ
ในใจมีแว๊ปนึงคือไม่อยากดูแล้ว อยากกลับบ้าน แล้วจากกลางลานจอดรถ ผมต้องรีบวิ่งมาหน้าห้างขึ้นบันไดไปชั้น 3 บอกตรงๆว่าผมโตตรหอบ เหงื่อก็เปียกชุ่ม คือแบบอนาจใจตัวเอง ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้วะ ทางเมเจอร์กับโลตัสไม่คิดจะบอกอะไร หรือวางระบบให้มันดีกว่านี่หรอ คือผมรู้สึกว่าผมต้องมารับภาระความห่วยตรงนี้ของทั้งคู่
วันนั้นบอกตรงๆว่าผมเข้าไปดูไม่ทัน ดูทันก็ไม่ใช่มนุษย์แล้วที่ต้องวิ่งขนาดนั้น ไม่มีความสุขเลยจริงๆการดูหนังครั้งนั้น คือแบบสุดยอดของความห่วย
เรื่องราวมันผ่านมาซักระยะแล้ว แต่ก็พอจะจำได้อยู่ อาจจะเล่าขาดตกอะไรไปบ้าง แต่เรื่องก็เป็นประมานนี้
จะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมต้องวิ่งหอบเหงื่อแตก 2กิโลกว่าภายในเวลา10นาที กว่าจะได้ดูหนังเมเจอร์ที่โลตัสบางกะปิ
เริ่มจากผมขับรถไปดูหนังรอบดึกที่โลตัสบางกะปิ
บอกก่อนผมว่าผมไม่ใช่คนแถวนี้แต่ก็อยู่ไม่ไกลมาก พอที่จะขับรถมาดูหนังที่นี่ได้ภายใน 15นาที
ปกติเลยผมไม่ได้ดูที่นี่ แต่วันนี้จำเป็นมากๆเพราะที่นี่มีรอบเวลาที่ผมจะดูได้พอดี ซึ่งก็รอบสุดท้ายนั่นแหละ
ผมจัดการซื้อตั๋วออนไลน์ไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยกับ Application แอปหนึ่ง ซึ่งจะได้ตั๋วเป็น QR Code สามารถแสกนเข้าดูหนังได้เลยเมื่อไปถึง ซึ่งก็ทำประจำกับหลายๆที่
เมื่อผมมาถึงก็รับบัตรจอดรถ แล้วจอดรถใต้อาคารในโลตัสแล้วเดินเข้าห้าง ซึ่งห้างปิดแล้ว แอร์ก็ปิด จากท้ายห้างผมต้องเดินมาหน้าห้างเพื่อขึ้นบันไดเลื่อน 2ชั้นเพื่อไปชั้นดูหนังที่ชั้น 3 มาถึงก็แสกนตั๋วตามปกติ และแจ้งว่าแสตมป์บัตรจอดรถให้ด้วย (เคยมาครั้งก่อนไม่ได้แสตมป์ค่าจอดเกินเวลาแพงมาก)
กลิ่นความห่วยโชยมา
พนักงานหน้าโรงแจ้งว่าต้องลงไปแสตมป์บัตรจอดรถเองที่ลานจอดรถ จะมีซุ้มพนักงานอยู่ที่เสาต้นนี้ นี้ นี้ ไอบ้าเอ้ย ถึงเวลาหนังแล้วนะ แล้วผมเป็นประเภทชอบเข้าไปดูตัวอย่างหนังด้วย แต่ทำไรไม่ได้ ก็เลยรีบลงไปที่ลานจอดรถ จากหน้าห้าง ลงบันไดไปท้ายท้าง ไปเดินหาซุ้มพนักงานอีก ซุ้มไม่ใช่อยู่หน้าประตู ซุ้มอยู่นู้น ประมาณ 200 เมตรกลางลานจอด คือผมจะร้องไห้แล้ว มันไกลมากจากชั้นเมเจอร์
ความพีคของความห่วยคือ
ไปถึงซุ้มพนักงานโลตัสแจ้งว่าใช้ QR Code ไม่ได้ ต้องใช้บัตรตัวจริงในการแสตมป์ ผมนี่ขึ้นเลยนะบอกตรงๆ คือร้อน +เหนื่อย และระยะทางไกลด้วย โคตรไกล ผมน้อยใจห้างมากๆเลยนะบอกตรงๆ คือเราเป็นลูกค้าอะ ไม่ใช่มาขอ แต่แบบมันได้แค่นี้จริงๆหรอ ผมต้องรีบวิ่งอะ คือวิ่งจริงๆ วิ่งขึ้นไปชั้น 3เพื่อไปขอบัตรตัวจริง ผมก็โวยอะ โวยว่าแบบทำไมไม่มีใครบอกผมเลย ผมต้องขึ้นลงกี่รอบ พอได้บัตรตัวจริงแล้ว ผมก็วิ่งลงไปลานจอดท้ายห้าง วิ่งไปซุ้มเพื่อแสตมป์บัตรจอดรถอีกรอบ
ในใจมีแว๊ปนึงคือไม่อยากดูแล้ว อยากกลับบ้าน แล้วจากกลางลานจอดรถ ผมต้องรีบวิ่งมาหน้าห้างขึ้นบันไดไปชั้น 3 บอกตรงๆว่าผมโตตรหอบ เหงื่อก็เปียกชุ่ม คือแบบอนาจใจตัวเอง ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้วะ ทางเมเจอร์กับโลตัสไม่คิดจะบอกอะไร หรือวางระบบให้มันดีกว่านี่หรอ คือผมรู้สึกว่าผมต้องมารับภาระความห่วยตรงนี้ของทั้งคู่
วันนั้นบอกตรงๆว่าผมเข้าไปดูไม่ทัน ดูทันก็ไม่ใช่มนุษย์แล้วที่ต้องวิ่งขนาดนั้น ไม่มีความสุขเลยจริงๆการดูหนังครั้งนั้น คือแบบสุดยอดของความห่วย
เรื่องราวมันผ่านมาซักระยะแล้ว แต่ก็พอจะจำได้อยู่ อาจจะเล่าขาดตกอะไรไปบ้าง แต่เรื่องก็เป็นประมานนี้