จะผิดรึป่าวครับ ที่จะรู้สึกแบบนี้ ผมว่าหลายๆคน คงจะเคยมีโมเม้นเเบบนี้กันบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่ว่า สำหรับผม มันอาจจะแปลกกว่านั้น ละมั้ง..
เรื่องราว มันเริ่มจาก ผมอยู่ในช่วงวัยรุ่นครับ อายุก็ 18 ย่าง 19 ผมทำงานที่ร้านอาหารแห่งนึง ก็ทำมานานพอสมควร ส่วนมากก็ไม่ค่อยจะมีเวลามาคิดเรื่องเเบบนี้สักเท่าไร เพราะส่วนมากก็จะคิดถึงเรื่องครอบครัวเป็นหลัก เพราะผมก็กลายเป็นเสาหลักของบ้าน ตั้งเเต่อายุ 15 เเล้ว ผมเป็นคนเงียบๆ เวลาอยู่คนเดียว เเต่ถ้าเวลาไปทำงาน หรือ พบปะผู้คน ผมก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคนนึง เป็นคนเฟรนลี่ละมั้ง ผมจะคอนสร้างเสียงหัวเราะ หรือรอยยิ้ม ให้กับคนรอบข้างเสมอ เรื่องการทำงาน ก็ไม่เคยเหลวไหล จึงน่าจะทำให้ผู้จัดการไว้ใจ ผมอยู่บ้าง เวลาร้านอาหาร สาขาต่างจังหวัด ขาดพนักงาน เขาจึงจะเลือกผมให้ไปช่วย อยู่เสมอ
ทุกอย่างมันเริ่มจากตรงนี้ เพราะร้านที่ผมมาช่วยงานคราวนี้ ผู้จัดการร้านนี้ เคยมาอยู๋ร้านที่ผมประจำอยู่พักนึง จึงคุ้นเคยอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่เคยคุยกันมากนัก จะมารู้จักจิงๆก็เพราะ มาอยู่ร้านนี้ เขาเป็นคนตลกครับ เฟรนลี่ ใจดี หลายๆอย่าง ทำให้เขาเป็นที่รักของพนักงานทุกคน ด้วยความที่ผมมาช่วยงาน พี่เขาก็หาห้องพักให้ เเต่ก็เป็นหอข้างๆแก นั่นแหละครับ ผมมากับเพื่อนอีกคนนึง ที่สนิทกัน เรื่องการเดินทาง ก็จะลำบาก นิดหน่อย เพราะมาอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องอาศัยรถ ผจก. ไปไหน มาไหนด้วยตลอด ไปทำงาน เลิกงาน กินข้าว หรือเที่ยว ก็จะไปกับเเกตลอด ผ่านไปเรื่อยๆ ผมก็ได้พูดคุยกับผจก. ก็เเลกเปลี่ยนเรื่องราวนู่นนี่กัน จนก็เริ่มรู้จักกัน เเล้วก็สนิทขึ้นเรื่อยๆ จนมันมีบางอย่างที่เริ่มเกิดขึ้นกับ ตัวผมเอง ผมรู้สึกแปลกๆ เวลาอยู่กับเขา ผมไม่ค่อยเเน่ใจกับสิ่งที่ผมรู้สึก เพราะว่า ผมคิดไป คิดมา ว่ารู้สึกอะไรกันเเน่ เพราะสิ่งที่ผมคิด มันคงเป็นไปไม่ได้ หลายๆอย่าง มันตีกันอยู่ในหัว ผมรู้สึกสับสน การที่ผมเป็นคนสร้างรอยยิ้ม ให้กับเขาทุกวัน เวลาเขาเครียดจากงาน ผมก็จะคอยเป็นคนสร้างรอยยิ้มให้กับเขาเสมอ เเละการที่ผมได้เห็นรอยยิ้ม นั้นทุกวัน มันทำให้ผมเป็นแบบนี้
ผมไม่รู้จะทำยังไง เเต่จากที่ผมคิด ยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ผมคงต้องสร้าง รอยยิ้มให้กับเขาแบบนี้ทุกวันต่อไป แล้วคงต้องรอ ว่าสักวันนึง ผมอาจจะขึ้นไปอยู่ในจุดยืน ที่ใกล้กับจุดยืนของเขา เเล้วผมคงอาจจะพูดออกไปก็ได้ เพราะตอนนี้ เขาคือสิ่งที่ทำให้ผม จะพยายามทำทุกสิ่งให้ดีกว่านี้ พัฒนาตัวเอง ให้ดีกว่านี้ ดีพอจะเข้าใกล้กับเขา เรื่องจะเป็นยังไง ผมจะคอยมาเล่าต่อนะครับ อ่อ ลืมไป เขาอายุห่างกับผม 13 ปี เยอะจิงๆนั่นเเหละ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ใครมีเป้าหมายของชีวิตเเล้ว ก็เดินหน้าให้เต็มที่นะครับ สู้ๆ
หลงรักคนอายุมากกว่า ผิดไหมครับ ?
เรื่องราว มันเริ่มจาก ผมอยู่ในช่วงวัยรุ่นครับ อายุก็ 18 ย่าง 19 ผมทำงานที่ร้านอาหารแห่งนึง ก็ทำมานานพอสมควร ส่วนมากก็ไม่ค่อยจะมีเวลามาคิดเรื่องเเบบนี้สักเท่าไร เพราะส่วนมากก็จะคิดถึงเรื่องครอบครัวเป็นหลัก เพราะผมก็กลายเป็นเสาหลักของบ้าน ตั้งเเต่อายุ 15 เเล้ว ผมเป็นคนเงียบๆ เวลาอยู่คนเดียว เเต่ถ้าเวลาไปทำงาน หรือ พบปะผู้คน ผมก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคนนึง เป็นคนเฟรนลี่ละมั้ง ผมจะคอนสร้างเสียงหัวเราะ หรือรอยยิ้ม ให้กับคนรอบข้างเสมอ เรื่องการทำงาน ก็ไม่เคยเหลวไหล จึงน่าจะทำให้ผู้จัดการไว้ใจ ผมอยู่บ้าง เวลาร้านอาหาร สาขาต่างจังหวัด ขาดพนักงาน เขาจึงจะเลือกผมให้ไปช่วย อยู่เสมอ
ทุกอย่างมันเริ่มจากตรงนี้ เพราะร้านที่ผมมาช่วยงานคราวนี้ ผู้จัดการร้านนี้ เคยมาอยู๋ร้านที่ผมประจำอยู่พักนึง จึงคุ้นเคยอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่เคยคุยกันมากนัก จะมารู้จักจิงๆก็เพราะ มาอยู่ร้านนี้ เขาเป็นคนตลกครับ เฟรนลี่ ใจดี หลายๆอย่าง ทำให้เขาเป็นที่รักของพนักงานทุกคน ด้วยความที่ผมมาช่วยงาน พี่เขาก็หาห้องพักให้ เเต่ก็เป็นหอข้างๆแก นั่นแหละครับ ผมมากับเพื่อนอีกคนนึง ที่สนิทกัน เรื่องการเดินทาง ก็จะลำบาก นิดหน่อย เพราะมาอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องอาศัยรถ ผจก. ไปไหน มาไหนด้วยตลอด ไปทำงาน เลิกงาน กินข้าว หรือเที่ยว ก็จะไปกับเเกตลอด ผ่านไปเรื่อยๆ ผมก็ได้พูดคุยกับผจก. ก็เเลกเปลี่ยนเรื่องราวนู่นนี่กัน จนก็เริ่มรู้จักกัน เเล้วก็สนิทขึ้นเรื่อยๆ จนมันมีบางอย่างที่เริ่มเกิดขึ้นกับ ตัวผมเอง ผมรู้สึกแปลกๆ เวลาอยู่กับเขา ผมไม่ค่อยเเน่ใจกับสิ่งที่ผมรู้สึก เพราะว่า ผมคิดไป คิดมา ว่ารู้สึกอะไรกันเเน่ เพราะสิ่งที่ผมคิด มันคงเป็นไปไม่ได้ หลายๆอย่าง มันตีกันอยู่ในหัว ผมรู้สึกสับสน การที่ผมเป็นคนสร้างรอยยิ้ม ให้กับเขาทุกวัน เวลาเขาเครียดจากงาน ผมก็จะคอยเป็นคนสร้างรอยยิ้มให้กับเขาเสมอ เเละการที่ผมได้เห็นรอยยิ้ม นั้นทุกวัน มันทำให้ผมเป็นแบบนี้
ผมไม่รู้จะทำยังไง เเต่จากที่ผมคิด ยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ผมคงต้องสร้าง รอยยิ้มให้กับเขาแบบนี้ทุกวันต่อไป แล้วคงต้องรอ ว่าสักวันนึง ผมอาจจะขึ้นไปอยู่ในจุดยืน ที่ใกล้กับจุดยืนของเขา เเล้วผมคงอาจจะพูดออกไปก็ได้ เพราะตอนนี้ เขาคือสิ่งที่ทำให้ผม จะพยายามทำทุกสิ่งให้ดีกว่านี้ พัฒนาตัวเอง ให้ดีกว่านี้ ดีพอจะเข้าใกล้กับเขา เรื่องจะเป็นยังไง ผมจะคอยมาเล่าต่อนะครับ อ่อ ลืมไป เขาอายุห่างกับผม 13 ปี เยอะจิงๆนั่นเเหละ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ใครมีเป้าหมายของชีวิตเเล้ว ก็เดินหน้าให้เต็มที่นะครับ สู้ๆ