ไปอ่านกระทู้นึงเกี่ยวกับเรื่องการถูกล้อ ถูกแกล้งในสมัยเด็ก แล้วรู้สึกจิ๊ดขึ้นมา เพราะตัวเองก็เคยเป็นเด็กคนนึงที่ถูกเพื่อนล้อตอนเรียนประถม แต่โชคดีที่ไม่เคยถูกทำร้ายทางร่างกาย มีแต่ถูกล้อเลียนทางคำพูด แต่นั่นมันก็ทำให้เราในตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ จนต้องย้ายโรงเรียน
ถ้ามองย้อนกลับไป เราในตอนนี้ก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เป็นแค่การล้อ แกล้งกันของเด็กๆ แต่เราในอตอนนั้นเป็นแค่เด็กประถมคนนึง ในตอนนั้นมันถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราร้องไห้เกือบทุกวัน ไม่อยากไปโรงเรียนและทำให้เรากลายเป็นเด็กเงียบขรึมไปเลยช่วงใหญ่ๆ
ชีวิตในตอนนั้นไม่มีความสุขเลยเวลาอยู่ที่โรงเรียน จริงๆตอนประถมเราเป็นคนมีเพื่อนน้อยอยู่แล้ว และมันจะมีแก๊งเด็กที่เหมือนจะเป็นใหญ่ หรือเรียกว่า กร่าง ในห้องเรียนอยู่กลุ่มนึง ที่แบบใครๆก็ต้องเกรงใจ ไม่กล้าว่าอะไร แม้กระทั่งเรื่องทำเวรห้องหรือทำความสะอาดห้องเรียน คนในกลุ่มนี้ก็จะถืออภิสิทธิ์ไม่ทำเวรบ้าง ทำงานน้อยกว่าคนอื่นๆบ้าง ใช้ให้คนอื่นทำงานที่ตัวเองไม่อยากทำบ้าง เวลากินข้าวกลางวัน ก็จะมีบางคนที่เป็นหัวหน้าแก๊งใช้ให้เด็กคนอื่นไปซื้อข้าวให้ แล้วตัวเองนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
เราเป็นเด็กคนนึงที่เคยถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด เช่น หาว่าเรา เอ๋อ (คือเราเป็นเด็กเงียบๆไม่ค่อยพูด) บ้าง ล้อเลียนเราด้วยฉายาแปลกๆ น่าเกลียดบ้าง (ซึ่งเราในตอนนั้นไม่ชอบมาก รู้สึกแย่ทุกครั้งที่ได้ยินคำเรียกพวกนี้) ดูถูกเรา (อาชีพในฝันที่ครูถาม) และคำพูดอีกเยอะแยะที่ชอบว่าเรา (จริงๆมีเด็กร่วมห้องอีกหลายคนที่โดนแบบเรา)
ซึ่งเราอยากจะบอกผู้ปกครองหลายๆคนที่มีลูกที่เจอแบบเรา เราอยากให้ท่านใส่ใจลูก อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กๆของเด็ก ไร้สาระ ไม่สนใจ ไม่รับฟังปัญหาของเด็ก เพราะพื้นฐานทางจิตใจของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเข้มแข็ง สามารถรับมือกับปัญหาพวกนี้ได้ แต่เด็กบางคนไม่เข้มแข็งพอที่จะรับมือปัญหาพวกนี้ อาจจะทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้าและหาทางออกในวิธีผิดๆ และอยากให้ผู้ปกครองคอยอบรมสอนเด็กว่าไม่ควรล้อเลียนเพื่อน แกล้งเพื่อนเพื่อความสนุกของตัวเอง ให้คิดถึงใจเค้าใจเราให้มากๆ
เรื่องของเด็กอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆของผู้ใหญ่
แต่อย่าลืมว่าสำหรับเด็กนั้น นั่นคือเรื่องใหญ่ของเค้าแล้ว และอย่าลืมว่าเพื่อนคือคนที่มีอิทธิพลมากสำหรับเด็ก
แชร์ประสบการณ์โดนล้อตอนเด็กๆ ที่ไม่ใช่ "เรื่องตลก" #ใครเคยเจอมาเล่า แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ
ถ้ามองย้อนกลับไป เราในตอนนี้ก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เป็นแค่การล้อ แกล้งกันของเด็กๆ แต่เราในอตอนนั้นเป็นแค่เด็กประถมคนนึง ในตอนนั้นมันถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราร้องไห้เกือบทุกวัน ไม่อยากไปโรงเรียนและทำให้เรากลายเป็นเด็กเงียบขรึมไปเลยช่วงใหญ่ๆ
ชีวิตในตอนนั้นไม่มีความสุขเลยเวลาอยู่ที่โรงเรียน จริงๆตอนประถมเราเป็นคนมีเพื่อนน้อยอยู่แล้ว และมันจะมีแก๊งเด็กที่เหมือนจะเป็นใหญ่ หรือเรียกว่า กร่าง ในห้องเรียนอยู่กลุ่มนึง ที่แบบใครๆก็ต้องเกรงใจ ไม่กล้าว่าอะไร แม้กระทั่งเรื่องทำเวรห้องหรือทำความสะอาดห้องเรียน คนในกลุ่มนี้ก็จะถืออภิสิทธิ์ไม่ทำเวรบ้าง ทำงานน้อยกว่าคนอื่นๆบ้าง ใช้ให้คนอื่นทำงานที่ตัวเองไม่อยากทำบ้าง เวลากินข้าวกลางวัน ก็จะมีบางคนที่เป็นหัวหน้าแก๊งใช้ให้เด็กคนอื่นไปซื้อข้าวให้ แล้วตัวเองนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
เราเป็นเด็กคนนึงที่เคยถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด เช่น หาว่าเรา เอ๋อ (คือเราเป็นเด็กเงียบๆไม่ค่อยพูด) บ้าง ล้อเลียนเราด้วยฉายาแปลกๆ น่าเกลียดบ้าง (ซึ่งเราในตอนนั้นไม่ชอบมาก รู้สึกแย่ทุกครั้งที่ได้ยินคำเรียกพวกนี้) ดูถูกเรา (อาชีพในฝันที่ครูถาม) และคำพูดอีกเยอะแยะที่ชอบว่าเรา (จริงๆมีเด็กร่วมห้องอีกหลายคนที่โดนแบบเรา)
ซึ่งเราอยากจะบอกผู้ปกครองหลายๆคนที่มีลูกที่เจอแบบเรา เราอยากให้ท่านใส่ใจลูก อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กๆของเด็ก ไร้สาระ ไม่สนใจ ไม่รับฟังปัญหาของเด็ก เพราะพื้นฐานทางจิตใจของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเข้มแข็ง สามารถรับมือกับปัญหาพวกนี้ได้ แต่เด็กบางคนไม่เข้มแข็งพอที่จะรับมือปัญหาพวกนี้ อาจจะทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้าและหาทางออกในวิธีผิดๆ และอยากให้ผู้ปกครองคอยอบรมสอนเด็กว่าไม่ควรล้อเลียนเพื่อน แกล้งเพื่อนเพื่อความสนุกของตัวเอง ให้คิดถึงใจเค้าใจเราให้มากๆ
เรื่องของเด็กอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆของผู้ใหญ่
แต่อย่าลืมว่าสำหรับเด็กนั้น นั่นคือเรื่องใหญ่ของเค้าแล้ว และอย่าลืมว่าเพื่อนคือคนที่มีอิทธิพลมากสำหรับเด็ก