เย้ๆๆ ถึงหน้าร้อนแล้วเที่ยวไหนดี ? ทะเลหรือว่าภูเขา เหนือ ใต้ กลาง อีสาน ตะวันตก หรือ ตะวันออก? เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้เค้าว่ามางั้น ขอเถียงเลยนะคะ ไม่ไปก็รู้ค่ะอ่านเอาจากกูเกิ้ลไงล่ะ แหะๆ !!
จริงค่ะ ไม่ไปไม่ทำไม่ลองไม่รู้ ตอนเพื่อนชวนไปไหว้พระที่เขาวงพระจันทร์ เพื่อนบอกว่าใครขึ้นไปไหว้อธิษฐานขอพรพระท่านบนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะสมหวัง แต่ต้องเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น ซึ่งต้องวัดใจเหมือนกันว่าจะมีความอดทนมากแค่ไหน แต่ถ้าขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วจะได้บุญเยอะ และถ้าใครลูบฆ้องแล้วเสียงดังกังวานมากๆนั่นหมายถึงว่า คนนั้นเป็นคนมีบุญจะประสบแต่ความสุขความเจริญในชีวิต
เพชรน้ำนิลไม่รอช้าเลยค่ะรีบรับคำชวนเชิงท้าทายของเพื่อนทันที นึกยิ้มอยู่ในใจโถช่างไม่รู้เล๊ยว่านู๋นิดเคยวิ่งมินิมาราธอน 16.5 กม. มาแล้วจร้า (แต่ได้ที่โหล่ อันนี้เราไม่บอกใคร ฮา ...)คือชอบนะคะกับอะไรที่เป็นการท้าทายให้ต้องฝ่าฟัน ให้ทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ เพชรน้ำนิลก็อยากจะทดสอบตัวเอง
เค้าบอกว่าข้างบนนั้นวิวสวย เราจะรอดูพระอาทิตย์ตกกัน นู๋นิดชอบถ่ายรูปคงจะได้รูปพระอาทิตย์ตกสวยๆแน่ๆ เพชรน้ำนิลก็ยิ่งตื่นเต้น หอบทั้งกล้อง DSLR ทั้ง Power Bank สำหรับกล้องมือถือ ทั้งน้ำดื่ม ทั้งร่ม ทั้งหมวก (เพื่อนผู้เชี่ยวชาญชวนไปปีนเขาตอนบ่ายโมงค่ะ)แพ็คใส่ลงไปในกระเป๋ากล้อง รวมน้ำหนักแล้วน่าจะประมาณ 3 กก.กว่าๆ เอ้า พร้อมแล้วเดินหน้าเลย
นู๋นิดนั้นเป็นคนชอบออกกำลังกายก็จริง แต่ช่วงนี้ก็ทิ้งช่วงการออกกำลังกายมานานมากแล้ว ด้วยความขี้เกียจส่วนหนึ่ง และด้วยหน้าที่การงานส่วนหนึ่ง พอต้องเดินขึ้นเขา ที่จะว่าไปแล้วเป็นการเดินขึ้นเขาที่ชันมากๆเลยค่ะ เป็นการปีนเขาที่โหดมากเลยทีเดียว เดินได้แค่บันไดขั้นที่ 700 นู๋นิดก็แทบจะอยากทิ้งกระเป๋าสัมภาระที่หอบหิ้วขึ้นไปทั้งหมดทั้งมวลไว้ตรงนั้น
พอถึงบันไดขั้นที่พันกว่าๆ เพื่อนก็โทรมาบอกว่าขอยอมแพ้ บอกจะขอนั่งเล่นเน็ตรออยู่ตรงนี้แหละขอฝากใจไปกับนู๋นิดก็แล้วกัน แค่ใจที่มุ่งมั่นคิดจะทำดีก็เพียงพอแล้วกายไม่ต้องไปก็ได้เพื่อนบอก โห ... อย่างนี้ก็ได้เหรอ?? (คือเพชรน้ำนิลเดินนำหน้าเพื่อนขึ้นมาสูงทิ้งห่างกันมากพอสมควรค่ะ)
เมื่อเพชรน้ำนิลถูกเพื่อนทอดทิ้งกลางทางแบบนี้ ก็ไม่คิดท้อถอยค่ะจะไม่ยอมแพ้แน่ๆ เดินต่อไป
ไม่ก้าวย่อมไม่ถึงจุดหมาย บอกตัวเองแบบนี้ ในขณะที่ขาก็เริ่มจะล้ามากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ก้าวทีละสองขั้น ก็ก้าวช้าๆทีละขั้น เหนื่อยนักก็หยุดพักก่อน นั่งพักมันอยู่ตรงนั้นแหละ เงยหน้าขึ้นไปมองบนยอดเขา ก็ยังมองไม่เห็นจุดหมาย ... ไม่เป็นไร คนอื่นทำได้เราก็ทำได้
ในระหว่างที่ก้าวขึ้นบันไดช้าๆทีละขั้นๆ ก็จะมีคนที่เดินสวนทางลงมา ทุกคนจะมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อิ่มเอิบมีความสุข และก็พูดให้กำลังใจเพชรน้ำนิลตลอดทาง แต่ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า เพชรน้ำนิลเก่งมากที่สะพายกล้องหนักๆขึ้นมาได้ บางคนถึงขนาดมาขอยกดูว่ากระเป๋ากล้องนั้นหนักประมาณไหน นั่นน่ะสิ เรื่องเสร่อๆแบบนี้ไม่มีใครเกินเพชรน้ำนิล!!
ความพยายาม ความอดทน และด้วยใจที่มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ในที่สุดเพชรน้ำนิลก็ขึ้นมาถึงจุดหมายปลายทางได้โดยใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆ พอขึ้นมาถึงแล้วก็นั่งพักนิดหนึ่ง จากนั้นก็ไปบริจาคทาน นำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้พระ และที่พลาดไม่ได้คือ ไปไหว้ขอพรเจ้าแม่เขาวงพระจันทร์ในถ้ำขอพรท่านมากมายด้วยใจที่อิ่มบุญ
หลังจากนั้นก็ออกมาลูบฆ้อง มีน้องผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งหน้าตาน่าเอ็นดู เข้ามาบอกว่าให้ไหว้อธิษฐานก่อนแล้วค่อยลูบ จากนั้นน้องก็ลูบเป็นตัวอย่างให้เพชรน้ำนิลดู เพชรน้ำนิลก็สังเกตตามไปด้วย โอ้โห ฆ้องเสียงดังกังวานมาก พอถึงตาเพชรน้ำนิลมั่ง ก็ยกมือไหว้อธิษฐานและลองทำตามที่น้องสาธิตให้ดู สักพักเดียวเสียงฆ้องก็เริ่มดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดเสียงฆ้องก็ดังกังวานยาวไกลไพเราะมาก น้องผู้ชายคนนั้นถึงกับตบมือให้และผู้คนที่นั่งพักอยู่บริเวณนั้นก็ตบมือให้เพชรน้ำนิลเช่นเดียวกัน ปลื้มสุดๆเลยค่ะ
หลังจากที่นั่งเล่นอยู่ซักพัก เพชรน้ำนิลก็กลับลงมา เพราะกลัวว่าเพื่อนจะรอนาน ไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกล้อง DSLR เลยค่ะ เพราะในช่วงเวลานั้น ความสุขของเพชรน้ำนิล มันอยู่ที่การทำบุญไหว้พระและการที่จิตใจเราได้เอาชนะความเหนื่อยยากลำบาก ไม่ย่อท้อเสียก่อนมากกว่าการที่จะเดินหามุมถ่ายรูป
ตอนเดินขึ้นว่าโหดแล้ว ตอนเดินลงยิ่งโหดมากกว่า ใครว่าเดินลงง่ายกว่าเดินขึ้น เพชรน้ำนิลว่าไม่จริงเลย กล้ามเนื้อขาที่ล้ามาจากตอนขึ้นจะยิ่งล้าหนักขึ้นอีก เพราะต้องรั้งรับน้ำหนักตัวและแรงโน้มถ่วงของโลกเอาไว้ทำ ไม่งั้นเราจะล้มกลิ้งลงเขาแน่ๆ ทำเอาขาสั่นพั่บๆเลยทีเดียว
ก็เป็นวันดีๆของเพชรน้ำนิลอีกวันหนึ่งค่ะ
+ + + พิชิตยอดเขาเอาชนะใจ + + +
เย้ๆๆ ถึงหน้าร้อนแล้วเที่ยวไหนดี ? ทะเลหรือว่าภูเขา เหนือ ใต้ กลาง อีสาน ตะวันตก หรือ ตะวันออก? เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้เค้าว่ามางั้น ขอเถียงเลยนะคะ ไม่ไปก็รู้ค่ะอ่านเอาจากกูเกิ้ลไงล่ะ แหะๆ !!
จริงค่ะ ไม่ไปไม่ทำไม่ลองไม่รู้ ตอนเพื่อนชวนไปไหว้พระที่เขาวงพระจันทร์ เพื่อนบอกว่าใครขึ้นไปไหว้อธิษฐานขอพรพระท่านบนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะสมหวัง แต่ต้องเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น ซึ่งต้องวัดใจเหมือนกันว่าจะมีความอดทนมากแค่ไหน แต่ถ้าขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วจะได้บุญเยอะ และถ้าใครลูบฆ้องแล้วเสียงดังกังวานมากๆนั่นหมายถึงว่า คนนั้นเป็นคนมีบุญจะประสบแต่ความสุขความเจริญในชีวิต
เพชรน้ำนิลไม่รอช้าเลยค่ะรีบรับคำชวนเชิงท้าทายของเพื่อนทันที นึกยิ้มอยู่ในใจโถช่างไม่รู้เล๊ยว่านู๋นิดเคยวิ่งมินิมาราธอน 16.5 กม. มาแล้วจร้า (แต่ได้ที่โหล่ อันนี้เราไม่บอกใคร ฮา ...)คือชอบนะคะกับอะไรที่เป็นการท้าทายให้ต้องฝ่าฟัน ให้ทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ เพชรน้ำนิลก็อยากจะทดสอบตัวเอง
เค้าบอกว่าข้างบนนั้นวิวสวย เราจะรอดูพระอาทิตย์ตกกัน นู๋นิดชอบถ่ายรูปคงจะได้รูปพระอาทิตย์ตกสวยๆแน่ๆ เพชรน้ำนิลก็ยิ่งตื่นเต้น หอบทั้งกล้อง DSLR ทั้ง Power Bank สำหรับกล้องมือถือ ทั้งน้ำดื่ม ทั้งร่ม ทั้งหมวก (เพื่อนผู้เชี่ยวชาญชวนไปปีนเขาตอนบ่ายโมงค่ะ)แพ็คใส่ลงไปในกระเป๋ากล้อง รวมน้ำหนักแล้วน่าจะประมาณ 3 กก.กว่าๆ เอ้า พร้อมแล้วเดินหน้าเลย
นู๋นิดนั้นเป็นคนชอบออกกำลังกายก็จริง แต่ช่วงนี้ก็ทิ้งช่วงการออกกำลังกายมานานมากแล้ว ด้วยความขี้เกียจส่วนหนึ่ง และด้วยหน้าที่การงานส่วนหนึ่ง พอต้องเดินขึ้นเขา ที่จะว่าไปแล้วเป็นการเดินขึ้นเขาที่ชันมากๆเลยค่ะ เป็นการปีนเขาที่โหดมากเลยทีเดียว เดินได้แค่บันไดขั้นที่ 700 นู๋นิดก็แทบจะอยากทิ้งกระเป๋าสัมภาระที่หอบหิ้วขึ้นไปทั้งหมดทั้งมวลไว้ตรงนั้น
พอถึงบันไดขั้นที่พันกว่าๆ เพื่อนก็โทรมาบอกว่าขอยอมแพ้ บอกจะขอนั่งเล่นเน็ตรออยู่ตรงนี้แหละขอฝากใจไปกับนู๋นิดก็แล้วกัน แค่ใจที่มุ่งมั่นคิดจะทำดีก็เพียงพอแล้วกายไม่ต้องไปก็ได้เพื่อนบอก โห ... อย่างนี้ก็ได้เหรอ?? (คือเพชรน้ำนิลเดินนำหน้าเพื่อนขึ้นมาสูงทิ้งห่างกันมากพอสมควรค่ะ)
เมื่อเพชรน้ำนิลถูกเพื่อนทอดทิ้งกลางทางแบบนี้ ก็ไม่คิดท้อถอยค่ะจะไม่ยอมแพ้แน่ๆ เดินต่อไป ไม่ก้าวย่อมไม่ถึงจุดหมาย บอกตัวเองแบบนี้ ในขณะที่ขาก็เริ่มจะล้ามากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ก้าวทีละสองขั้น ก็ก้าวช้าๆทีละขั้น เหนื่อยนักก็หยุดพักก่อน นั่งพักมันอยู่ตรงนั้นแหละ เงยหน้าขึ้นไปมองบนยอดเขา ก็ยังมองไม่เห็นจุดหมาย ... ไม่เป็นไร คนอื่นทำได้เราก็ทำได้
ในระหว่างที่ก้าวขึ้นบันไดช้าๆทีละขั้นๆ ก็จะมีคนที่เดินสวนทางลงมา ทุกคนจะมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อิ่มเอิบมีความสุข และก็พูดให้กำลังใจเพชรน้ำนิลตลอดทาง แต่ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า เพชรน้ำนิลเก่งมากที่สะพายกล้องหนักๆขึ้นมาได้ บางคนถึงขนาดมาขอยกดูว่ากระเป๋ากล้องนั้นหนักประมาณไหน นั่นน่ะสิ เรื่องเสร่อๆแบบนี้ไม่มีใครเกินเพชรน้ำนิล!!
ความพยายาม ความอดทน และด้วยใจที่มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ในที่สุดเพชรน้ำนิลก็ขึ้นมาถึงจุดหมายปลายทางได้โดยใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆ พอขึ้นมาถึงแล้วก็นั่งพักนิดหนึ่ง จากนั้นก็ไปบริจาคทาน นำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้พระ และที่พลาดไม่ได้คือ ไปไหว้ขอพรเจ้าแม่เขาวงพระจันทร์ในถ้ำขอพรท่านมากมายด้วยใจที่อิ่มบุญ
หลังจากนั้นก็ออกมาลูบฆ้อง มีน้องผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งหน้าตาน่าเอ็นดู เข้ามาบอกว่าให้ไหว้อธิษฐานก่อนแล้วค่อยลูบ จากนั้นน้องก็ลูบเป็นตัวอย่างให้เพชรน้ำนิลดู เพชรน้ำนิลก็สังเกตตามไปด้วย โอ้โห ฆ้องเสียงดังกังวานมาก พอถึงตาเพชรน้ำนิลมั่ง ก็ยกมือไหว้อธิษฐานและลองทำตามที่น้องสาธิตให้ดู สักพักเดียวเสียงฆ้องก็เริ่มดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดเสียงฆ้องก็ดังกังวานยาวไกลไพเราะมาก น้องผู้ชายคนนั้นถึงกับตบมือให้และผู้คนที่นั่งพักอยู่บริเวณนั้นก็ตบมือให้เพชรน้ำนิลเช่นเดียวกัน ปลื้มสุดๆเลยค่ะ
หลังจากที่นั่งเล่นอยู่ซักพัก เพชรน้ำนิลก็กลับลงมา เพราะกลัวว่าเพื่อนจะรอนาน ไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกล้อง DSLR เลยค่ะ เพราะในช่วงเวลานั้น ความสุขของเพชรน้ำนิล มันอยู่ที่การทำบุญไหว้พระและการที่จิตใจเราได้เอาชนะความเหนื่อยยากลำบาก ไม่ย่อท้อเสียก่อนมากกว่าการที่จะเดินหามุมถ่ายรูป
ตอนเดินขึ้นว่าโหดแล้ว ตอนเดินลงยิ่งโหดมากกว่า ใครว่าเดินลงง่ายกว่าเดินขึ้น เพชรน้ำนิลว่าไม่จริงเลย กล้ามเนื้อขาที่ล้ามาจากตอนขึ้นจะยิ่งล้าหนักขึ้นอีก เพราะต้องรั้งรับน้ำหนักตัวและแรงโน้มถ่วงของโลกเอาไว้ทำ ไม่งั้นเราจะล้มกลิ้งลงเขาแน่ๆ ทำเอาขาสั่นพั่บๆเลยทีเดียว
ก็เป็นวันดีๆของเพชรน้ำนิลอีกวันหนึ่งค่ะ