ประกันสังคม กับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ เชื่อว่าแทบทุกคนต้องรู้จักกันแน่ๆ เพราะทุกคนที่อยู่ในระบบจะต้องโดนหักเงินออกจากเงินเดือนเพื่อเข้าประกันสังคมกันทุกเดือน แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบกันว่ามันคืออะไร ระบบประกันสังคม คือระบบที่ประเทศต่างๆ สร้างขึ้น เพื่อคุ้มครองคนทำงานจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การว่างงาน การคลอดบุตร ชราภาพ ฯลฯ
และด้วยสิทธิประโยชน์ที่มีหลากหลายนั่นเอง จึงทำให้บางคนอาจจะละเลย หรือเข้าใจบางสิทธิประโยชน์ผิดพลาดไป วันนี้
K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำ เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมกันมากขึ้น
สิทธิประโยชน์แรก คือ สิทธิประโยชน์จากการคลอดบุตร 13,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งผู้ชายอย่างเราๆ ก็สามารถเบิกเงินดังกล่าวได้ แต่สิทธินี้จะเฉพาะกรณีที่ภรรยาไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม รวมถึงเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือนซึ่งจะได้รับเดือนละ 400 บาท โดยได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงครบอายุ 6 ปี บริบูรณ์
สิทธิประโยชน์ที่สอง คือ เงินทดแทนกรณีว่างงาน หรือบางคนกำลังรองานที่ใหม่ ก็สามารถที่จะขอเงินทดแทนในส่วนนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าว่างงานปุ๊บ เงินจะเข้าบัญชีเลย เพราะเราจะได้สิทธินี้ก็ต่อเมื่อ การออกจากงานครั้งนั้นต้องไม่ผิดต่อกฎหมาย โดยต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วันนับแต่วันที่ว่างงาน และต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง โดยเงินทดแทนการว่างงานจะได้รับไม่เกิน 180 วันในแต่ละปี
สิทธิประโยชน์ที่สาม คือ การรักษาพยาบาล แม้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมค่อนข้างจะครอบคลุมโรคต่างๆ มากมาย แต่ก็ยังมีบางโรคและบริการที่ไม่มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ เช่น โรคหรือการประสบอันตรายอันเนื่องจากการใช้สารเสพเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด หรือ การรักษาภาวะมีบุตรยาก ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
สิทธิประโยชน์ที่สี่ คือ การตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมอย่างเราๆ จะได้รับสิทธิในการตรวจสุขภาพประจำปีฟรี แต่ไม่สามารถตรวจได้ทุกโรคนะ การตรวจจะแบ่งแยกตามช่วงอายุ และมีความถี่ในการตรวจ เช่น สำหรับผู้หญิงอายุ 30-54 ปี สามารถเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุก 3 ปี แต่ถ้าอายุ 55 ปีขึ้นไป จะสามารถเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้สิทธิต่างๆ สามารถสอบถามจากโรงพยาบาลที่เราได้เลือกสิทธิไว้ได้เลย
สิทธิประโยชน์ที่ห้า คือ เงินคืนหลังเกษียณ เงินที่เราจ่ายทุกเดือนนี้ไม่ใช่การจ่ายทิ้งนะ เพราะเงินส่วนหนึ่งจะถูกสมทบไว้ในกองทุนประกันสังคม โดยจะจ่ายคืนเมื่อครบอายุ 55 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้เงินดังกล่าวจะมี 2 รูปแบบ คือ การจ่ายคืนเพียงครั้งเดียว หรือเงินบำเหน็จ ถ้าหากเราจ่ายเงินสมทบเข้าไปน้อยกว่า 180 เดือน แต่ถ้าหากผู้ประกันตนจ่ายสมทบเกินกว่า 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพทุกเดือนไปตลอดชีพ และหากยิ่งเราจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือนไปมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งได้เงินในส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเวลาที่สมทบเข้าไปอีกด้วย
สำหรับใครที่เข้าเงื่อนไขในสิทธิดังกล่าวก็อย่าลืมไปใช้สิทธิกันด้วยนะครับ ส่วนใครที่ยังสงสัยเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของประกันสังคม สามารถสอบถามเข้ามาได้ หรือใครคิดว่า มีสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอื่นๆ ที่คิดว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็มาร่วมแชร์กันได้เลยครับ
สิทธิประกันสังคม ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !
ประกันสังคม กับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ เชื่อว่าแทบทุกคนต้องรู้จักกันแน่ๆ เพราะทุกคนที่อยู่ในระบบจะต้องโดนหักเงินออกจากเงินเดือนเพื่อเข้าประกันสังคมกันทุกเดือน แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบกันว่ามันคืออะไร ระบบประกันสังคม คือระบบที่ประเทศต่างๆ สร้างขึ้น เพื่อคุ้มครองคนทำงานจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การว่างงาน การคลอดบุตร ชราภาพ ฯลฯ
และด้วยสิทธิประโยชน์ที่มีหลากหลายนั่นเอง จึงทำให้บางคนอาจจะละเลย หรือเข้าใจบางสิทธิประโยชน์ผิดพลาดไป วันนี้ K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำ เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมกันมากขึ้น
สิทธิประโยชน์แรก คือ สิทธิประโยชน์จากการคลอดบุตร 13,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งผู้ชายอย่างเราๆ ก็สามารถเบิกเงินดังกล่าวได้ แต่สิทธินี้จะเฉพาะกรณีที่ภรรยาไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม รวมถึงเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือนซึ่งจะได้รับเดือนละ 400 บาท โดยได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงครบอายุ 6 ปี บริบูรณ์
สิทธิประโยชน์ที่สอง คือ เงินทดแทนกรณีว่างงาน หรือบางคนกำลังรองานที่ใหม่ ก็สามารถที่จะขอเงินทดแทนในส่วนนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าว่างงานปุ๊บ เงินจะเข้าบัญชีเลย เพราะเราจะได้สิทธินี้ก็ต่อเมื่อ การออกจากงานครั้งนั้นต้องไม่ผิดต่อกฎหมาย โดยต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วันนับแต่วันที่ว่างงาน และต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง โดยเงินทดแทนการว่างงานจะได้รับไม่เกิน 180 วันในแต่ละปี
สิทธิประโยชน์ที่สาม คือ การรักษาพยาบาล แม้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมค่อนข้างจะครอบคลุมโรคต่างๆ มากมาย แต่ก็ยังมีบางโรคและบริการที่ไม่มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ เช่น โรคหรือการประสบอันตรายอันเนื่องจากการใช้สารเสพเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด หรือ การรักษาภาวะมีบุตรยาก ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
สิทธิประโยชน์ที่สี่ คือ การตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมอย่างเราๆ จะได้รับสิทธิในการตรวจสุขภาพประจำปีฟรี แต่ไม่สามารถตรวจได้ทุกโรคนะ การตรวจจะแบ่งแยกตามช่วงอายุ และมีความถี่ในการตรวจ เช่น สำหรับผู้หญิงอายุ 30-54 ปี สามารถเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุก 3 ปี แต่ถ้าอายุ 55 ปีขึ้นไป จะสามารถเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้สิทธิต่างๆ สามารถสอบถามจากโรงพยาบาลที่เราได้เลือกสิทธิไว้ได้เลย
สิทธิประโยชน์ที่ห้า คือ เงินคืนหลังเกษียณ เงินที่เราจ่ายทุกเดือนนี้ไม่ใช่การจ่ายทิ้งนะ เพราะเงินส่วนหนึ่งจะถูกสมทบไว้ในกองทุนประกันสังคม โดยจะจ่ายคืนเมื่อครบอายุ 55 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้เงินดังกล่าวจะมี 2 รูปแบบ คือ การจ่ายคืนเพียงครั้งเดียว หรือเงินบำเหน็จ ถ้าหากเราจ่ายเงินสมทบเข้าไปน้อยกว่า 180 เดือน แต่ถ้าหากผู้ประกันตนจ่ายสมทบเกินกว่า 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพทุกเดือนไปตลอดชีพ และหากยิ่งเราจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือนไปมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งได้เงินในส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเวลาที่สมทบเข้าไปอีกด้วย
สำหรับใครที่เข้าเงื่อนไขในสิทธิดังกล่าวก็อย่าลืมไปใช้สิทธิกันด้วยนะครับ ส่วนใครที่ยังสงสัยเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของประกันสังคม สามารถสอบถามเข้ามาได้ หรือใครคิดว่า มีสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอื่นๆ ที่คิดว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็มาร่วมแชร์กันได้เลยครับ