จุดหมายของการเดินทางครั้งนี้มุ่งหน้าสู่บุโรพุทโธ (ฺBOROBUDAR) และปรัมบานัน (PRAMBANAN) ด้วยเหตุนี้ แผนการเดินทางจึงต้องรัดกุม 555 เพราะเรายังคงเดินทางคนเดียวตามเคย
เพื่อน ๆ อาจคิดว่าการเดินทางไปอินโดนีเชียนั้นจะยากลำบากหรือไม่ บอกเลยว่าเดินทางง่ายมาก เอาเข้าจริง ๆ ง่ายกว่าบ้านเราอีก ดังนั้น ขจัดความกังวลแล้วออกเดินทางได้เลย
เริ่มต้นการเดินทางในช่วงค่ำคืนเพื่อให้ได้ไฟล์ที่เหมาะสมกับเราที่เบี้ยน้อยหอยน้อย 555 ตั๋วไปกลับโดยสายการบินราคาประหยัดที่นำพาเราไปในทุก ๆ ที่ดั่งใจฝัน ในราคาสามพันปลายๆ รวมประกันการเดินทาง เลือกที่นั่ง และสั่งอาหารเพิ่มไปหนึ่งมื้อ เราเดินตัวปลิวๆ เข้าไปเช็คอินที่ตู้ เดินผ่านตม. เรียบร้อยนั่งรอออกเดินทางราวๆ สามทุ่มกว่า ๆ
เดินทางถึงจาการ์ต้า เที่ยงคืนครึ่ง ณ สนามบินซูกาโน ฮัตต้า เทอร์มินอล 3 ผ่านตม. ก็มาเจอลู่วิ่งเลย คือเตรียมวิ่ง พอดีที่อินโดนีเชียจะเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในเดือนกรกฏาคม 2561 เลยมีกลิ่นไอของการจัดงานทั่วไปหมด
เดินผ่านช่องศุลลากรเรียบร้อย ผ่านเครื่องตรวจ ที่อินโดนั้น ตรวจบ่อยมาก เป็นการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ออกมานอกอาหาร ในเวลาราวๆ ตีหนึ่ง มันต้องมีชัตเตอร์บัสไปเทอร์มินิล 1 สิ เราก็มุ่งตรงขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุด หน้าเกต 4 มีคนรออยู่รอดตายละ ไม่ถึงสิบนาทีรถก็มา
ผมเดินทางต่อในเวลา 4.50 น. เพื่อไปถึงยอร์ยาด้วยไลอ้อนแอร์ราคาแปดร้อยนิดๆ ไฟล์เช้าสุด หลังจากเช็คอินก็เดินเข้ามานอนรอที่เกตซึ่งดีงามแม้เทอร์มินอล 1จะเป็นอาคารเก่า แต่ดูปลอยภัย อาหารมี แอร์เย็นสบาย ที่ชาร์ตแบตเยอะ
ขึ้นปุ๊บลงเลย 555 กับตันจะรีบไปไหน ถึงก่อนหกโมงเช้าอีก
สนามบินที่ยอร์ยาไม่ใหญ่ครับเดินออกมาก็จะมีร้านอาหาร แท๊กซี่ รถต่าง ๆ มากมาย จากข้อมูลที่ได้มีหลาย ๆ ท่านรีวิวไว้ว่ามีรถบัสของเมืองไปได้ เราก็เดินตรงเลี้ยวซ้ายลงอุโมงค์ครับ ย้ำว่าลอดอุโมงค์ก็จะมาโผล่ที่ทางขึ้นสำหรับต่อรถบัส หรือรถไฟเข้าเมือง
เราก็มาเจอมาสคอตของกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ต้อนรับเราอยู่
ที่อินโดนีเชียป้ายนำทางเยอะไม่ต้องกลัวหลง อันนี้คือตู้ขายตั๋วครับเดินเข้าไปซื้อได้เลยลงที่สถานียอร์ยาการ์ต้า ราคา 8,000 รูเปีย ก็ประมาณ 19 บาท
ประมาณห้านาทีรถไฟก็มาถึงเป็นรถแอร์นะ ร้อนไฟแล๊บแบบรถไฟบ้านเราไม่มีแล้วละ
หลังจากถึงที่สถานี yogyakarta ก็เดินมาที่โรงแรมฝากกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา แล้วเดินทางต่อ ผมนอนที่โรงแรม WHIZ PRIME MALIOBORO YOGYAKARTA มีห้องเก็บกระเป๋าให้ทั้งก่อนและหลังเช็คเอ้า วิวดีด้วย ซึ่งต้องได้ห้องฝั่งด้านหน้านะ ห้อง 812 วิวสวยงามเดี๋ยวตามไปดูกัน
เดินออกจากโรงแรมมานิดเดียวก็ถึงป้ายรถเมล์ถนน MALIOBORO ป้ายแรกขึ้นไปเลยครับจ่ายตั้ง 3500 รูเปีย ก็นั่งรถเมล์สาย 2Aยาวไปจดสุดสายที่ท่ารถ jombor แล้วขึ้นรถบัสไปบุโรพุธโธได้เลย
ท่ารถ jombor สุดสายรถเมล์สาย 2A
เดินมาขึ้นรถต่อ จ่ายตั้งไป 20000 ทำหน้านิ่ง ๆ พูดคำว่า บูโรบูดา สำเนียงอินโดให้ชัด ๆ จะได้ถูก ๆ คนอินโดหน้าเหมือนคนไทยมาก มีแต่คนพูดอินโดกับผมตลอด ๆ
สักพักก็มาถึงที่ท่ารถ ใครที่อยากเดินเพลิน ๆประมาณโลนิด ๆ เดินไปหาของกินที่ตลาดได้ มีซุปเปอร์มาเก็ต เราจนถึงทางเข้าจะมีช่องชาวต่างชาติ และชาวอินโดนีเชีย แน่นอนว่าต่างชาติแพงกว่า
ผมซื้อตั๋วรวม บุโรพุทโธ (ฺBOROBUDAR) และปรัมบานัน (PRAMBANAN) ในราคา 540,000 รูเปีย ราวๆ 1,200 บาท อยากให้เมืองไทยเก็บแพงๆ แบบนี้บ้าง ค่าเข้าชมโบราณสถานสำหรับชาวต่างชาติบ้านเราถูกมาก งบประมาณดูแลเลยน้อยนิด ตั๋วรวมสองที่ต้องเก็บไว้ใช้ภายในสองวันนะครับห้ามทำหายไม่งั้นต้องซื้อใหม่ อย่าลืมน้ำชา กาแฟ น้ำเปล่าฟรีก่อนเข้าชม
ขนาดมาวันศุกร์คนยังมากมาย
ลงมาหาอะไรกิน และซื้อของที่ระลึก มาอินโดก็อย่าทำตัวดูมีฐานะมากนัก เดี๋ยวอาจเจอมิจฉาชีพ 555 อย่าว่าแต่อินโดเลย ที่ไทยก็เถอะ คนที่นี้ก็น่ารัก มีน้ำใจช่วยเหลือดีนะครับ ที่ถนนมาลิโอโบโรคนแน่นมาก ของฝากเหมือนกันทุกร้าน แต่ที่ต้องกินคือสะเต๊ะอยัม ป้าๆ ก็ปิ้งย่างกันข้างถนน อันนี้อร่อยลองกินเถอะ อีกข้อถ้ามีนักดนตรีมาร้องเพลงให้ฟังก็เตรียมเหรียญ แบงค์เล็กๆ ไว้ด้วยนะครับ ที่นี่นักดนตรีเยอะ
ของกินเยอะแต่จะให่กินทุกอย่างมันก็ไม่ไหวขอแค่บัวลอยสักถ้วยก่อนกลับไปนอนก็พอ 555
เช้าวันต่อมาก็เขี่ยตัวเองจากเตียง วิวตรงหน้า งามลืม ใครมาหลาย ๆ คนแนะนำให้ซื้อทัวร์หนึ่งวันไปภูเขาไฟเมราปี เห็นพี่ ๆ ที่รีวิวไว้ แต่เราไม่ไหว ร่างกายไม่พร้อม
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยก็เตรียมเก็บของแล้วฝากไว้ที่โรงแรมก่อนออกไปต่อที่ปรัมบานัน โดยนั่งรถเมล์สาย 1A ยาวไปจนสุดสาย เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะมีทางเข้า อย่าลืมตั๋วเดิมนะครับ
ถึงที่หมายทานน้ำดื่มฟรีแล้วก็ลุย ที่นี่ก็ใหญ่โต มีปราสาทในกลุ่มประมาณ 4 ปราสาท
ใครฟิต หรืองก 555 ให้เดินต่อไปปราสาทหลังอื่น ไม่ต้องเช่าจักรยานหรือนั่งรถราง
candi sewu ถ้าฟ้าไม่ครึ้มผมคงอยู่ที่นี่นาน เพราะมันก็ใหญ่โต และวิวด้านหลัวเป็นภูเขาไฟ
และแล้วเราก็นั่งติดฝนเพียงลำพังอยู่ที่ Candi Bubrah
นั่งรถเมล์สาย 1A กลับมาท่ี่มาลิโอโบโร แล้วรีบไปกินข้าว ที่ร้าน Gudeg Yu Djum ที่ยอร์คยาจะเค้าน่าจะเรียกว่า Gudeg ผมชอบตั้งแต่กินที่โรงแรมตอนเช้าประมาณข้าว กินกับไก่ ไข่ ยำหนังอะไรสักอย่างวัวคือควายมั้ง มีน้ำราดหวานๆ เหมือนน้ำจิ้มสะเต๊ะ ละก็ผักอะไรไม่รู้ คืออร่อย กินเถอะ
อิ่มแล้วก็เตรียมตัวขึ้นรถไฟ นอนกันบนรถไฟนี้ประหยัดค่าโรงแรม 555 สถานีรถไฟที่อินโอเรียกว่าระบบรักษาความปลอดภัยดี ใครไม่มีตั๋วไม่ให้เข้า แล้วจะเข้าได้ก่อนเวลารถไฟออกสักหนึ่งชั่วโมง ขึ้นตั๋วที่ตู้อัตโนมัติแล้วเข้าก่อนสองชั่วโมงเจ้าหน้าที่ให้รอด้านนอกวะ งงไปอีก
สำหรับใครที่อยากนั่งรถไฟที่อินโดนีเชียจองง่ายแค่ปลายนิ้ว จ่ายตังผ่านบัตรเครดิต
ที่แอพ Tiket.com ร รถไฟเค้ามีแต่รถแอร์อะนะ ที่นั่งก็ดี ดูสะอาด คนใช้บริการเยอะ แต่ห้องน้ำก็พอๆ กับบ้านเรานั้นละ
ผมจองรถไฟไปลงที่บันดุง เพื่อที่จะต่อรถไฟไปจาร์กาต้า ซึ่งเหตุผลคืออยากดูวิว ถ้าใครจะนั่งยาวไปเช้าที่จาร์กาต้าร์เลยก็ได้ครับ
ถึงบันดุงหกโมงเช้ารอเปลี่ยนขบวนเจ็ดโมงครึ่งดื่มกาแฟที่สถานีตาสว่างกันเลย ขำน้องบาริสต้ามาก ถามว่าชื่ออะไร พอบอกชื่อก็ตาค้างแล้วถามว่ามาจากไหน
รถไฟที่เรารอคอยก็มาถึงฉันจะได้เห็นวิวสวย ๆ แล้วสิ
ห้องโดยสารก็ดูดีเชี่ยวละ
มาแล้ววิวที่รอคอย
[/cent
แล้วเราก็เดินทางมาถึงจาการ์ต้าเกือบๆ เที่ยง ร่างกายเริ่มเน่าละ 555
yogyakarta ทริปอดหลับอดนอน แล้วไปยืนตากแดดตากฝนที่ยอร์คยาการ์ต้า
เดินผ่านช่องศุลลากรเรียบร้อย ผ่านเครื่องตรวจ ที่อินโดนั้น ตรวจบ่อยมาก เป็นการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ออกมานอกอาหาร ในเวลาราวๆ ตีหนึ่ง มันต้องมีชัตเตอร์บัสไปเทอร์มินิล 1 สิ เราก็มุ่งตรงขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุด หน้าเกต 4 มีคนรออยู่รอดตายละ ไม่ถึงสิบนาทีรถก็มา
สนามบินที่ยอร์ยาไม่ใหญ่ครับเดินออกมาก็จะมีร้านอาหาร แท๊กซี่ รถต่าง ๆ มากมาย จากข้อมูลที่ได้มีหลาย ๆ ท่านรีวิวไว้ว่ามีรถบัสของเมืองไปได้ เราก็เดินตรงเลี้ยวซ้ายลงอุโมงค์ครับ ย้ำว่าลอดอุโมงค์ก็จะมาโผล่ที่ทางขึ้นสำหรับต่อรถบัส หรือรถไฟเข้าเมือง
หลังจากถึงที่สถานี yogyakarta ก็เดินมาที่โรงแรมฝากกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา แล้วเดินทางต่อ ผมนอนที่โรงแรม WHIZ PRIME MALIOBORO YOGYAKARTA มีห้องเก็บกระเป๋าให้ทั้งก่อนและหลังเช็คเอ้า วิวดีด้วย ซึ่งต้องได้ห้องฝั่งด้านหน้านะ ห้อง 812 วิวสวยงามเดี๋ยวตามไปดูกัน
เดินออกจากโรงแรมมานิดเดียวก็ถึงป้ายรถเมล์ถนน MALIOBORO ป้ายแรกขึ้นไปเลยครับจ่ายตั้ง 3500 รูเปีย ก็นั่งรถเมล์สาย 2Aยาวไปจดสุดสายที่ท่ารถ jombor แล้วขึ้นรถบัสไปบุโรพุธโธได้เลย
ผมซื้อตั๋วรวม บุโรพุทโธ (ฺBOROBUDAR) และปรัมบานัน (PRAMBANAN) ในราคา 540,000 รูเปีย ราวๆ 1,200 บาท อยากให้เมืองไทยเก็บแพงๆ แบบนี้บ้าง ค่าเข้าชมโบราณสถานสำหรับชาวต่างชาติบ้านเราถูกมาก งบประมาณดูแลเลยน้อยนิด ตั๋วรวมสองที่ต้องเก็บไว้ใช้ภายในสองวันนะครับห้ามทำหายไม่งั้นต้องซื้อใหม่ อย่าลืมน้ำชา กาแฟ น้ำเปล่าฟรีก่อนเข้าชม
บนยอดสูงสุดที่องค์ประธานก็จะงดงามตามที่เห็น คนก็เยอะพอๆ กับยอดของเจดีย์โดยรอบ 555
เดินอยู่ที่บุโรพุธโธราว ๆ สามชั่วโมง ก็นั่งรถคันเดิม ขึ้นที่เดิม กลับเข้าตัวเมืองยอร์ยา มาถึงโรงแรมก็ฝนตกจ๊ากเลย
เช้าวันต่อมาก็เขี่ยตัวเองจากเตียง วิวตรงหน้า งามลืม ใครมาหลาย ๆ คนแนะนำให้ซื้อทัวร์หนึ่งวันไปภูเขาไฟเมราปี เห็นพี่ ๆ ที่รีวิวไว้ แต่เราไม่ไหว ร่างกายไม่พร้อม
candi sewu ถ้าฟ้าไม่ครึ้มผมคงอยู่ที่นี่นาน เพราะมันก็ใหญ่โต และวิวด้านหลัวเป็นภูเขาไฟ
และแล้วเราก็นั่งติดฝนเพียงลำพังอยู่ที่ Candi Bubrah
นั่งรถเมล์สาย 1A กลับมาท่ี่มาลิโอโบโร แล้วรีบไปกินข้าว ที่ร้าน Gudeg Yu Djum ที่ยอร์คยาจะเค้าน่าจะเรียกว่า Gudeg ผมชอบตั้งแต่กินที่โรงแรมตอนเช้าประมาณข้าว กินกับไก่ ไข่ ยำหนังอะไรสักอย่างวัวคือควายมั้ง มีน้ำราดหวานๆ เหมือนน้ำจิ้มสะเต๊ะ ละก็ผักอะไรไม่รู้ คืออร่อย กินเถอะ
สำหรับใครที่อยากนั่งรถไฟที่อินโดนีเชียจองง่ายแค่ปลายนิ้ว จ่ายตังผ่านบัตรเครดิต ที่แอพ Tiket.com ร รถไฟเค้ามีแต่รถแอร์อะนะ ที่นั่งก็ดี ดูสะอาด คนใช้บริการเยอะ แต่ห้องน้ำก็พอๆ กับบ้านเรานั้นละ
ผมจองรถไฟไปลงที่บันดุง เพื่อที่จะต่อรถไฟไปจาร์กาต้า ซึ่งเหตุผลคืออยากดูวิว ถ้าใครจะนั่งยาวไปเช้าที่จาร์กาต้าร์เลยก็ได้ครับ
รถไฟที่เรารอคอยก็มาถึงฉันจะได้เห็นวิวสวย ๆ แล้วสิ
ห้องโดยสารก็ดูดีเชี่ยวละ
มาแล้ววิวที่รอคอย
[/cent