เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยนะคะ
มันมีหลายครั้งที่ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าสิ่งที่คนในบ้านเตือน
แล้วเราเชื่อมันดีหรือไม่ดี
คือที่บ้านมักจะห้ามนู้นห้ามนี่ ห้ามจนบางทีเราเองก็อึดอัด ทั้งห้ามมีแฟน ห้ามกลับบ้านดึก ห้ามไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน
เวลาจะออกไปทำรายงานทีก็ต้องรีบทำ รีบกลับ เรียนเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้าน จะออกไปไหนทีก็ต้องรีบกลับ บางทีออกไปหาข้อมูลทำรายงานกลับบ้านดึกๆก็โดนดุ บางทีที่บ้านก็บ่นโดยไม่ถามอะไรสักคำ ชอบหาว่าโกหกบ้าง แอบเที่ยวบ้าง ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยโกหกเค้าเลย จะไปไหนทำอะไรก็บอกตลอด แต่ก็ไม่เคยเชื่อใจ จนบางทีก็อึดอัด หลังๆมา จะไปไหนทีเลยจำเป็นต้องหาข้ออ้างไปเรื่อย
ตอนอยู่มัธยม เราว่าการที่ ที่บ้านห้ามมันไม่ได้ส่งผลต่อเราเท่าไหร่ แต่พอเราโตขึ้น เริ่มเรียนมหาลัย เราว่าการโดนห้ามแบบนี้มันไม่ส่งผลดีเลย เค้าลืมอะไรไม่รึเปล่า มหาลัยไม่ใช่การนั่งทำรายงานแบบมัธยม ที่ก๊อปวางก็เสร็จ แต่มัยต้องออกไปหาข้อมูลตามพื้นที่จริงบ้าง ต้องรวมกลุ่มกันทำงานบ้าง อีกอย่าง เค้าลืมไปรึเปล่าว่าสุดท้ายแล้ววันนึงเราก็ต้องออกจากกรอบที่เค้าวางไว้เพื่อไปเจอกับโลกในชีวิตจริง
เข้าใจว่าเค้าห่วงอะไร กลัวอะไร สังคมปัจจุบันมันก็น่ากลัวจริงๆแหละ แต่สุดท้ายเราก็หลีกหนีมันไม่พ้นอยู่ดี ตอนนี้เราเรียนเราอาจจะหนีได้ แต่วันนึงที่เราทำงาน ออกไปเจอโลกที่มันกว้างกว่านี้ เราก็ต้องเจอมันอยู่ดีไม่ใช่หรอ
บางทีเราก็แอบกลัวนะว่าเราถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ถ้าวันนึงเราเจอสถานการณ์จริงๆเราจะแก้ปัญหายังไง บางทีคนที่บ้านก็มักจะพูดว่า ถ้าเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาแบบเจอเจ้าถิ่นเจออะไรแล้วมีเรื่องกัน เราจะเป็นคนที่หนีช้าที่สุดเพราะเค้าเลี้ยงเรามาแบบบอกให้เห็น แต่ไม่ให้เผชิญ เค้าเลยห่วงจนกลัวไปหมด
เราก็รู้สึกโชคดีนะที่มีคนคอยห่วง แต่เราอึดอัดที่เราไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย มันเหมือนโดนขีดกรอบไว้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่รู้จะคุยหรือจะบอกยังไงดี จะพูดยังไงให้ที่บ้านเข้าใจเราบ้าง แบบพบกันครึ่งทางก็ได้
โดนห้ามนู้น ห้ามนี่ จนบางทีก็เฟลตัวเอง
มันมีหลายครั้งที่ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าสิ่งที่คนในบ้านเตือน
แล้วเราเชื่อมันดีหรือไม่ดี
คือที่บ้านมักจะห้ามนู้นห้ามนี่ ห้ามจนบางทีเราเองก็อึดอัด ทั้งห้ามมีแฟน ห้ามกลับบ้านดึก ห้ามไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน
เวลาจะออกไปทำรายงานทีก็ต้องรีบทำ รีบกลับ เรียนเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้าน จะออกไปไหนทีก็ต้องรีบกลับ บางทีออกไปหาข้อมูลทำรายงานกลับบ้านดึกๆก็โดนดุ บางทีที่บ้านก็บ่นโดยไม่ถามอะไรสักคำ ชอบหาว่าโกหกบ้าง แอบเที่ยวบ้าง ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยโกหกเค้าเลย จะไปไหนทำอะไรก็บอกตลอด แต่ก็ไม่เคยเชื่อใจ จนบางทีก็อึดอัด หลังๆมา จะไปไหนทีเลยจำเป็นต้องหาข้ออ้างไปเรื่อย
ตอนอยู่มัธยม เราว่าการที่ ที่บ้านห้ามมันไม่ได้ส่งผลต่อเราเท่าไหร่ แต่พอเราโตขึ้น เริ่มเรียนมหาลัย เราว่าการโดนห้ามแบบนี้มันไม่ส่งผลดีเลย เค้าลืมอะไรไม่รึเปล่า มหาลัยไม่ใช่การนั่งทำรายงานแบบมัธยม ที่ก๊อปวางก็เสร็จ แต่มัยต้องออกไปหาข้อมูลตามพื้นที่จริงบ้าง ต้องรวมกลุ่มกันทำงานบ้าง อีกอย่าง เค้าลืมไปรึเปล่าว่าสุดท้ายแล้ววันนึงเราก็ต้องออกจากกรอบที่เค้าวางไว้เพื่อไปเจอกับโลกในชีวิตจริง
เข้าใจว่าเค้าห่วงอะไร กลัวอะไร สังคมปัจจุบันมันก็น่ากลัวจริงๆแหละ แต่สุดท้ายเราก็หลีกหนีมันไม่พ้นอยู่ดี ตอนนี้เราเรียนเราอาจจะหนีได้ แต่วันนึงที่เราทำงาน ออกไปเจอโลกที่มันกว้างกว่านี้ เราก็ต้องเจอมันอยู่ดีไม่ใช่หรอ
บางทีเราก็แอบกลัวนะว่าเราถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ถ้าวันนึงเราเจอสถานการณ์จริงๆเราจะแก้ปัญหายังไง บางทีคนที่บ้านก็มักจะพูดว่า ถ้าเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาแบบเจอเจ้าถิ่นเจออะไรแล้วมีเรื่องกัน เราจะเป็นคนที่หนีช้าที่สุดเพราะเค้าเลี้ยงเรามาแบบบอกให้เห็น แต่ไม่ให้เผชิญ เค้าเลยห่วงจนกลัวไปหมด
เราก็รู้สึกโชคดีนะที่มีคนคอยห่วง แต่เราอึดอัดที่เราไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย มันเหมือนโดนขีดกรอบไว้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่รู้จะคุยหรือจะบอกยังไงดี จะพูดยังไงให้ที่บ้านเข้าใจเราบ้าง แบบพบกันครึ่งทางก็ได้