ในขณะที่ตอนนี้กระแส BNK กำลังมาแรง ทำให้หลายๆคนหันมาสนใจไอดอล 48 กันมากขึ้น วันนี้เราก็อยากจะเชิญชวนแฟนๆหน้าใหม่ (รวมถึงหน้าเก่าที่อาจจะไม่ค่อยได้ตามวงนี้เท่าไหร่หรือเคยตามแต่อาจจะห่างๆไปแล้วด้วยนะคะ) มาทำความรู้จักกับวงใน 48 กรุ๊ปอีกวง ไอดอลสู้ชีวิตจากนาโกย่าวงนี้ค่ะ... SKE48
ที่อยากเขียนกระทู้นี้เพราะปีนี้เป็นปีครบรอบปีที่ 10 ของวงพอดี ในฐานะที่แฟนคนนึงที่หลงรักวงๆนี้ก็อยากแบ่งปันความเป็นมาของวงให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น อีกอย่างคือ เราอยากให้กระทู้นี้ถือเป็นภาค 2 ของกระทู้ที่เปลี่ยนชีวิตเราไปโดยสิ้นเชิง กระทู้ที่ทำให้เราหันมาชอบ SKE48 และตามมาจนถึงทุกวันนี้
-- SKE48 กลุ่ม "น้องสาว" จากนาโงย่า ที่กำลังไล่ตามพี่สาวมาติดๆ --
https://ppantip.com/topic/30602806
จะมาเล่าเรื่องของ SKE เท่าที่เราพอรู้ ต่อจากกระทู้นั้นค่ะ
อาจจะยาวไป(ไม่)นิด แต่ก็อยากให้อ่านกันค่ะ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยล่วงหน้า
-----------------------------------------------------
การชัฟเฟิลภายใน "กำเนิดทีมที่แข็งแกร่ง"
http://m.youku.com/video/id_XNTQzNjQ2Njgw.html
ในปี 2013 เมื่อเมมเบอร์ 9 คนจบการศึกษาไปพร้อมกัน SKE ก็ต้องจัดทีมกันใหม่ โดยเฉพาะทีม S ที่เสียเมมเบอร์ไปพร้อมกันถึง 4 คน แถม 1 คนในนั้นเป็นเบอร์สามของวง (ยางามิ คูมิ) และอีก 1 ที่เป็นเสาหลักของ SKE (คุวาบาระ มิซึกิ) การจัดทีมใหม่ครั้งนี้ ส่งผลดีมากกับวง ทำให้แต่ละทีมมีบาลานซ์มากขึ้นและมีทีมเวิร์คมากขึ้นด้วย
ทีม S - เกิดเป็นทีมรวม ace มีทั้งจูรินะ ยูริอะซึ่งอยู่ S อยู่แล้ว ก็ได้มานัตสึและอันนะจาก KII มาเสริม รวมถึงได้มากิโกะมาจากทีม E ด้วย
ทีม KII - ก่อกำเนิดทีม C ที่ตั้งชื่อตามลีดเดอร์ Churi ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในสามโลก ว่ากันว่าทีม C เปรียบเสมือนครอบครัว ทุกคนสนิทกันจนกลายเป็นทีมเวิร์คที่ยากจะเลียนแบบ เมมเบอร์เด่นๆอย่างสุดะ อาคาริและชิบาตะ อายะแจ้งเกิดกันที่นี่
ทีม E - เรนะได้ไปรับหน้าที่เป็นลีดเดอร์ทีม E ที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ทั้งทีม E เดิมและเคงคิวเซย์หลายคนที่เลื่อนขึ้นทีมมา ซึ่งในภายหลังทีม E ก็สร้างเด็กขึ้นมาเป็นตัวหลักของวงขึ้นมามากมาย เช่น ฟุรุฮาตะ นาโอะ, อาซุม่า ริอง, มิยามาเอะ อามิ เป็นต้น
งานขาว-แดงครั้งที่ 2 Sansei Kawaii
หลังจาก SKE ได้ขึ้นขาว-แดงในนามวงตัวเองเป็นครั้งแรกเมื่อปีก่อน (2012) ก็สร้างความฮือฮาด้วยโชว์อลังการทั้งสะบัดผ้าไล่สี ทั้งตีลังกา 3 ตลบกับเพลง Pareo wa emerald จะเรียกว่ายุคทองของ SKE ได้เริ่มขึ้นแล้วก็ว่าได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โชว์ของปี 2012
http://alive.in.th/watch_video.php?v=UDSNW14Y6XKB
เบื้องหลังการซ้อม
http://alive.in.th/watch_video.php?v=KS1A1BGS2G74
ปีต่อมา (2013) แม้จะมีเหตุการณ์ประกาศจบการศึกษาพร้อมกันทีเดียว 9 คน แต่ซิงเกิ้ลที่ออกในปีนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ทั้ง Choco no dorei ที่ยังคงเป็นเพลงสำหรับวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ Utsukushii Inazuma ที่ฉีกแนวจากปกติร่าเริงสดใสมาเป็นเซ็กซี่ และ Sansei Kawaii ที่ได้มาถ่ายทำ PV กันที่พัทยา ในที่สุด SKE ก็ได้กลับมาที่งานใหญ่สิ้นปีงานนี้อีกครั้ง และเช่นเดิมโชว์ของ SKE ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เป็นโชว์ทำออกมาโดยไม่ลืมที่จะใส่กิมมิคเจ๋งๆเอาไว้ คราวนี้ SKE ใส่การเต้นแบบพื้นบ้าน (Yosakoi) ต่อด้วยปอมปอมเชียร์พร้อมการโยนตัวแบบ cheerleading โชว์จบลงอย่างงดงาม เป็นอีกครั้งที่ SKE ได้พิสูจน์ตัวเองกับเวทีใหญ่ระดับประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โชว์ของปี 2013
https://docs.google.com/file/d/0B-_bjAaq78koTmhIWHRfam9FbUk/edit
เบื้องหลังการซ้อม
https://www.bilibili.com/video/av2203031/index_2.html#page=2
Arena Tour และ Nagoya Dome "ความยิ่งใหญ่ที่อยากกลับไปแก้แค้น"
ในระหว่างที่ AKB เล่นโดมทัวร์มาจนถึงที่นาโกย่า ก็ได้มีประกาศสำคัญว่า SKE จะได้จัดคอนเดี่ยวที่ Kobe world hall, Yokohama Arena และปิดท้ายที่
เป้าหมายสูงสุดของ SKE ในตอนนั้นคือ Nagoya Dome
ทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SKE (ในตอนนั้น)เลย กราฟของวงพุ่งขึ้นไม่หยุด ฉุดก็ไม่อยู่ ในตอนนั้นทั้งแฟนๆและเมมเบอร์ต่างก็ดีใจกันมาก ต้นปี 2014 คอนเสิร์ตที่ Nagoya Dome ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ 2 วันเต็ม มีแขกรับเชิญเช่น World order มาร่วมด้วย ผู้ชมเข้าชมเต็มความจุของโดม รวมไปถึงการถ่ายทำ PV เพลงใหม่ Mirai to wa ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ SKE เริ่มขึ้นด้วยภาพทะเลเพลิงสีส้มจากแท่งไฟ ภาพที่ทุกคนไม่มีวันลืม...
ถึงกระนั้น มัตสึอิ เรนะได้ให้สัมภาษณ์ในแพมเล็ตคอนเสิร์ตจบการศึกษาตัวเองว่าอันที่จริงแล้ว ตอนที่ประกาศว่าจะได้ไปเล่นที่ Nagoya Dome แม้จะดีใจมากแต่ก็มีความหวั่นใจผสมอยู่ด้วย ก่อนหน้านั้น ลีดเดอร์ทั้ง 3 คน(นากานิชิ ยูกะ / ทาคายานางิ อากาเนะ / มัตสึอิ เรนะ) พยายามขอกับสตาฟฟ์ตลอดว่าอยากจัดคอนเสิร์ต แต่ขออยู่ครึ่งปีก็ยังไม่ได้จัด แล้วอยู่ดีๆก็มาประกาศคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ระดับโดม มันทำให้เรนะหวั่นใจ เมื่อถึงวันจริงก็เป็นอย่างที่เรนะคิดถึงคอนเสิร์ตจะออกมาประสบความสำเร็จ แต่จริงๆแล้วแทบไม่มีอะไรพร้อมเลย ทุกอย่างถูกเตรียมอย่างเร่งรีบ เรนะบอกว่า "เราควรจะทำได้ดีกว่านี้" "ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ SKE ได้กลับไปแก้แค้นที่นั่นอีกครั้ง แม้จะไม่มีฉันแล้วก็ตาม"
การชัฟเฟิลครั้งใหญ่ ส่งยูริอะไปโตเกียว "ถูกทำลาย...สร้างใหม่"
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 หลังจากคอนเสิร์ตที่ Nagoya Dome จบลงไม่ทันไร กราฟที่กำลังพุ่งของ SKE ก็ต้องชะงัก
เมื่อในเดือนเดียวกันนั้นการชัฟเฟิลครั้งใหญ่ของ 48 กรุ๊ปถูกจัดขึ้น มีการควบทีมไปจนถึงย้ายวงเกิดขึ้นมากมาย แม้กระทั่งอิโคมะจาก Nogizaka46 เองก็ยังถูกส่งมาควบ AKB แลกกับเรนะซึ่งถูกส่งไปควบกับ Nogizaka
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการชัฟเฟิลคือ SKE ต้องเสียคิซากิ ยูริอะไปให้ AKB
ยูริอะในตอนนั้นเรียกว่าความนิยมเป็นระดับเบอร์สามของวง (รองจากเบิ้ลอิ) แฟนๆคาดกันว่าอนาคตยูริอะอาจจะได้เป็นถึงกัปตันวงถ้าไม่โดนย้ายไปซะก่อน ต้องยอมรับว่าการชัฟเฟิลครั้งนั้นทำให้ SKE เสียศูนย์ไปไม่น้อย เพราะก่อนการชัฟเฟิลทีมทั้ง 3 ทีมของ SKE อยู่ในจุดที่สมดุลมาก (คือทีมที่เกิดจากการชัฟเฟิลภายในเมื่อปี2013 นั่นเอง) SKE ต้องเสียฐานแฟนทั้งในส่วนของยูริอะและในส่วนของคนที่รับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้
ในคอนเสิร์ต Haru con ที่ Saitama Super Arena SKE ก็ได้จัดพิธีส่งยูริอะด้วยน้ำตา เพลง Tooku ni itemo (แม้เราจะอยู่ไกลกัน) ช่างเหมาะกับช่วงเวลา
นี้จริงๆ
เมื่อความสมดุลของวงถูกทำลาย สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ ต้อง "สร้างใหม่" อย่างไรก็ตาม การชัฟเฟิลครั้งนั้นทำให้เราได้เมมเบอร์ที่มาสร้างสีสันเพิ่มหลายคนทั้งมิยาซาว่า ซาเอะ(รายนี้ควบก็เหมือนย้าย) ทานิ มาริกะ ยามาอุจิ สุซุรัน ซาโต้ สุมิเระ รวมถึงเมมเบอร์ควบทีมอย่างทานากะ นัตสึมิจาก HKT วาตานาเบะ มิยูกิและยามาดะ นานะจาก NMB ด้วย นอกจากนี้เด็กเราเองหลายคนก็ได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการควบวงอื่น อย่างเช่น ชูริที่ได้ไปควบทีม BII และคาน่อนที่ได้ไปควบทีม KIV
ทีมทั้ง 3 ค่อยๆเริ่มสร้างทีมกันใหม่ เมมเบอร์ที่ย้ายมาปรับตัวเข้ากับวงได้ดีเกินคาด หนำซ้ำยังกลายมาเป็น SKE เต็มตัวในเวลาไม่นาน (ทั้งสกิลการเต้น แนวคิด ทัศนคติ ฯลฯ) ความโกลาหลวุ่นวายจากการชัฟเฟิลใหญ่จางลง และหลังจากนั้นประมาณปีกว่าการควบวงทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการชัฟเฟิลครั้งนั้นก็ถูกยกเลิก
new Team S
new Team KII
new Team E
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพิ่มเติม ชูริไปสนิทกับเด็ก BII จนตอนที่ยกเลิกควบทีม มีสเตจอำลาชูริ เด็ก BII ร้องไห้กันเป็นแถบๆ ใครสนใจลองอ่านกระทู้นี้ดูค่ะ
[SKE48/NMB48] สเตจอำลาชูริจัง Takayanagi Akane BII
https://ppantip.com/topic/33689820
สำหรับเรื่องของยูริอะที่ย้ายไป AKB ลองอ่านเพิ่มได้ค่ะ
[AKB/SKE] เรื่องราวเบื้องหลังการตัดสินใจย้ายวงของ คิซากิ ยูริอะ
https://ppantip.com/topic/32487429
[แปล]บทสัมภาษณ์สุดะxยูริอะ "ทางเดียวเท่านั้นที่จะก้าวข้ามตัวเองในอดีตไปได้"
https://ppantip.com/topic/36930900
[ต่อ]
~~ 10 ปี SKE48: อนาคตคือวินาทีนี้ ~~
ที่อยากเขียนกระทู้นี้เพราะปีนี้เป็นปีครบรอบปีที่ 10 ของวงพอดี ในฐานะที่แฟนคนนึงที่หลงรักวงๆนี้ก็อยากแบ่งปันความเป็นมาของวงให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น อีกอย่างคือ เราอยากให้กระทู้นี้ถือเป็นภาค 2 ของกระทู้ที่เปลี่ยนชีวิตเราไปโดยสิ้นเชิง กระทู้ที่ทำให้เราหันมาชอบ SKE48 และตามมาจนถึงทุกวันนี้
-- SKE48 กลุ่ม "น้องสาว" จากนาโงย่า ที่กำลังไล่ตามพี่สาวมาติดๆ --
https://ppantip.com/topic/30602806
จะมาเล่าเรื่องของ SKE เท่าที่เราพอรู้ ต่อจากกระทู้นั้นค่ะ
อาจจะยาวไป(ไม่)นิด แต่ก็อยากให้อ่านกันค่ะ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยล่วงหน้า
-----------------------------------------------------
การชัฟเฟิลภายใน "กำเนิดทีมที่แข็งแกร่ง"
http://m.youku.com/video/id_XNTQzNjQ2Njgw.html
ในปี 2013 เมื่อเมมเบอร์ 9 คนจบการศึกษาไปพร้อมกัน SKE ก็ต้องจัดทีมกันใหม่ โดยเฉพาะทีม S ที่เสียเมมเบอร์ไปพร้อมกันถึง 4 คน แถม 1 คนในนั้นเป็นเบอร์สามของวง (ยางามิ คูมิ) และอีก 1 ที่เป็นเสาหลักของ SKE (คุวาบาระ มิซึกิ) การจัดทีมใหม่ครั้งนี้ ส่งผลดีมากกับวง ทำให้แต่ละทีมมีบาลานซ์มากขึ้นและมีทีมเวิร์คมากขึ้นด้วย
ทีม S - เกิดเป็นทีมรวม ace มีทั้งจูรินะ ยูริอะซึ่งอยู่ S อยู่แล้ว ก็ได้มานัตสึและอันนะจาก KII มาเสริม รวมถึงได้มากิโกะมาจากทีม E ด้วย
ทีม KII - ก่อกำเนิดทีม C ที่ตั้งชื่อตามลีดเดอร์ Churi ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในสามโลก ว่ากันว่าทีม C เปรียบเสมือนครอบครัว ทุกคนสนิทกันจนกลายเป็นทีมเวิร์คที่ยากจะเลียนแบบ เมมเบอร์เด่นๆอย่างสุดะ อาคาริและชิบาตะ อายะแจ้งเกิดกันที่นี่
ทีม E - เรนะได้ไปรับหน้าที่เป็นลีดเดอร์ทีม E ที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ทั้งทีม E เดิมและเคงคิวเซย์หลายคนที่เลื่อนขึ้นทีมมา ซึ่งในภายหลังทีม E ก็สร้างเด็กขึ้นมาเป็นตัวหลักของวงขึ้นมามากมาย เช่น ฟุรุฮาตะ นาโอะ, อาซุม่า ริอง, มิยามาเอะ อามิ เป็นต้น
งานขาว-แดงครั้งที่ 2 Sansei Kawaii
หลังจาก SKE ได้ขึ้นขาว-แดงในนามวงตัวเองเป็นครั้งแรกเมื่อปีก่อน (2012) ก็สร้างความฮือฮาด้วยโชว์อลังการทั้งสะบัดผ้าไล่สี ทั้งตีลังกา 3 ตลบกับเพลง Pareo wa emerald จะเรียกว่ายุคทองของ SKE ได้เริ่มขึ้นแล้วก็ว่าได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปีต่อมา (2013) แม้จะมีเหตุการณ์ประกาศจบการศึกษาพร้อมกันทีเดียว 9 คน แต่ซิงเกิ้ลที่ออกในปีนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ทั้ง Choco no dorei ที่ยังคงเป็นเพลงสำหรับวาเลนไทน์มาจนถึงทุกวันนี้ Utsukushii Inazuma ที่ฉีกแนวจากปกติร่าเริงสดใสมาเป็นเซ็กซี่ และ Sansei Kawaii ที่ได้มาถ่ายทำ PV กันที่พัทยา ในที่สุด SKE ก็ได้กลับมาที่งานใหญ่สิ้นปีงานนี้อีกครั้ง และเช่นเดิมโชว์ของ SKE ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เป็นโชว์ทำออกมาโดยไม่ลืมที่จะใส่กิมมิคเจ๋งๆเอาไว้ คราวนี้ SKE ใส่การเต้นแบบพื้นบ้าน (Yosakoi) ต่อด้วยปอมปอมเชียร์พร้อมการโยนตัวแบบ cheerleading โชว์จบลงอย่างงดงาม เป็นอีกครั้งที่ SKE ได้พิสูจน์ตัวเองกับเวทีใหญ่ระดับประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Arena Tour และ Nagoya Dome "ความยิ่งใหญ่ที่อยากกลับไปแก้แค้น"
ในระหว่างที่ AKB เล่นโดมทัวร์มาจนถึงที่นาโกย่า ก็ได้มีประกาศสำคัญว่า SKE จะได้จัดคอนเดี่ยวที่ Kobe world hall, Yokohama Arena และปิดท้ายที่
เป้าหมายสูงสุดของ SKE ในตอนนั้นคือ Nagoya Dome
ทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SKE (ในตอนนั้น)เลย กราฟของวงพุ่งขึ้นไม่หยุด ฉุดก็ไม่อยู่ ในตอนนั้นทั้งแฟนๆและเมมเบอร์ต่างก็ดีใจกันมาก ต้นปี 2014 คอนเสิร์ตที่ Nagoya Dome ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ 2 วันเต็ม มีแขกรับเชิญเช่น World order มาร่วมด้วย ผู้ชมเข้าชมเต็มความจุของโดม รวมไปถึงการถ่ายทำ PV เพลงใหม่ Mirai to wa ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ SKE เริ่มขึ้นด้วยภาพทะเลเพลิงสีส้มจากแท่งไฟ ภาพที่ทุกคนไม่มีวันลืม...
ถึงกระนั้น มัตสึอิ เรนะได้ให้สัมภาษณ์ในแพมเล็ตคอนเสิร์ตจบการศึกษาตัวเองว่าอันที่จริงแล้ว ตอนที่ประกาศว่าจะได้ไปเล่นที่ Nagoya Dome แม้จะดีใจมากแต่ก็มีความหวั่นใจผสมอยู่ด้วย ก่อนหน้านั้น ลีดเดอร์ทั้ง 3 คน(นากานิชิ ยูกะ / ทาคายานางิ อากาเนะ / มัตสึอิ เรนะ) พยายามขอกับสตาฟฟ์ตลอดว่าอยากจัดคอนเสิร์ต แต่ขออยู่ครึ่งปีก็ยังไม่ได้จัด แล้วอยู่ดีๆก็มาประกาศคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ระดับโดม มันทำให้เรนะหวั่นใจ เมื่อถึงวันจริงก็เป็นอย่างที่เรนะคิดถึงคอนเสิร์ตจะออกมาประสบความสำเร็จ แต่จริงๆแล้วแทบไม่มีอะไรพร้อมเลย ทุกอย่างถูกเตรียมอย่างเร่งรีบ เรนะบอกว่า "เราควรจะทำได้ดีกว่านี้" "ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ SKE ได้กลับไปแก้แค้นที่นั่นอีกครั้ง แม้จะไม่มีฉันแล้วก็ตาม"
การชัฟเฟิลครั้งใหญ่ ส่งยูริอะไปโตเกียว "ถูกทำลาย...สร้างใหม่"
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 หลังจากคอนเสิร์ตที่ Nagoya Dome จบลงไม่ทันไร กราฟที่กำลังพุ่งของ SKE ก็ต้องชะงัก
เมื่อในเดือนเดียวกันนั้นการชัฟเฟิลครั้งใหญ่ของ 48 กรุ๊ปถูกจัดขึ้น มีการควบทีมไปจนถึงย้ายวงเกิดขึ้นมากมาย แม้กระทั่งอิโคมะจาก Nogizaka46 เองก็ยังถูกส่งมาควบ AKB แลกกับเรนะซึ่งถูกส่งไปควบกับ Nogizaka
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการชัฟเฟิลคือ SKE ต้องเสียคิซากิ ยูริอะไปให้ AKB
ยูริอะในตอนนั้นเรียกว่าความนิยมเป็นระดับเบอร์สามของวง (รองจากเบิ้ลอิ) แฟนๆคาดกันว่าอนาคตยูริอะอาจจะได้เป็นถึงกัปตันวงถ้าไม่โดนย้ายไปซะก่อน ต้องยอมรับว่าการชัฟเฟิลครั้งนั้นทำให้ SKE เสียศูนย์ไปไม่น้อย เพราะก่อนการชัฟเฟิลทีมทั้ง 3 ทีมของ SKE อยู่ในจุดที่สมดุลมาก (คือทีมที่เกิดจากการชัฟเฟิลภายในเมื่อปี2013 นั่นเอง) SKE ต้องเสียฐานแฟนทั้งในส่วนของยูริอะและในส่วนของคนที่รับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้
ในคอนเสิร์ต Haru con ที่ Saitama Super Arena SKE ก็ได้จัดพิธีส่งยูริอะด้วยน้ำตา เพลง Tooku ni itemo (แม้เราจะอยู่ไกลกัน) ช่างเหมาะกับช่วงเวลา
นี้จริงๆ
เมื่อความสมดุลของวงถูกทำลาย สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ ต้อง "สร้างใหม่" อย่างไรก็ตาม การชัฟเฟิลครั้งนั้นทำให้เราได้เมมเบอร์ที่มาสร้างสีสันเพิ่มหลายคนทั้งมิยาซาว่า ซาเอะ(รายนี้ควบก็เหมือนย้าย) ทานิ มาริกะ ยามาอุจิ สุซุรัน ซาโต้ สุมิเระ รวมถึงเมมเบอร์ควบทีมอย่างทานากะ นัตสึมิจาก HKT วาตานาเบะ มิยูกิและยามาดะ นานะจาก NMB ด้วย นอกจากนี้เด็กเราเองหลายคนก็ได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการควบวงอื่น อย่างเช่น ชูริที่ได้ไปควบทีม BII และคาน่อนที่ได้ไปควบทีม KIV
ทีมทั้ง 3 ค่อยๆเริ่มสร้างทีมกันใหม่ เมมเบอร์ที่ย้ายมาปรับตัวเข้ากับวงได้ดีเกินคาด หนำซ้ำยังกลายมาเป็น SKE เต็มตัวในเวลาไม่นาน (ทั้งสกิลการเต้น แนวคิด ทัศนคติ ฯลฯ) ความโกลาหลวุ่นวายจากการชัฟเฟิลใหญ่จางลง และหลังจากนั้นประมาณปีกว่าการควบวงทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการชัฟเฟิลครั้งนั้นก็ถูกยกเลิก
new Team S
new Team KII
new Team E
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ต่อ]