สวัสดีค่า กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยค่ะ
เชื่อว่า “มัลดีฟส์” เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคน รวมถึงพวกเราด้วยเช่นกันค่ะ จริงๆแล้วก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ไปเร็วขนาดนี้เหมือนกัน มันเป็น “เกาะสวรรค์” จริงๆค่ะ
ต้องบอกไว้ก่อนว่าเราไม่ได้มารีวิวเพราะทริปที่พวกเราไปมันถูกหรือมีอะไรเป็นพิเศษ แต่การรีวิว
ครั้งนี้เราอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์+ความผิดพลาดหลายๆอย่างในทริปนี้ เพื่อที่เพื่อนๆคนไหนอยากไป จะได้นำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจค่ะ เพราะไปมาแล้วบอกได้เลยว่า เพื่อนๆไปได้ถูกกว่านี้อีกเยอะ!! เรารีวิวในฉบับของคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ท่องเที่ยวบ่อยอะไรมากมายนักจนมีแต้มสะสมเพื่อลดราคาตั๋วเครื่องบิน เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะเต็มราคาทั้งนั้นค่ะ อาจจะมากไปสักหน่อยแต่เราได้แนวทางที่ไปถูกกว่านี้เยอะเลยค่ะ จะพยายามลงรายละเอียดให้เยอะมากที่สุดนะคะ
พูดมาซะยาว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ทริปนี้มันเริ่มต้นจาก การที่แอร์เอเชียประกาศบินตรงค่ะ เราก็เลยกดเข้าไปดูในทันที จองแบบข้ามปีกันไปเลย ใจนึงก็อยากไปแบบถูกๆแต่ก็จะต้องเป็นช่วงโลว์ ใจนึงก็อยากไปช่วงไฮแต่ราคาก็แพงหน่อย หลังจากตกลงกับเพื่อนได้ก็เลยคิดว่า เอาวะ ไม่ได้จะไปได้ง่ายๆแล้วก็บ่อยๆ เราจึงเลือกช่วงเดือนกุมภาค่ะ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ คนละ 8,605 บาทถ้วน ( ถ้าเลือกวันดีๆและช่วงโลว์ จะได้ใจราคาไป-กลับ 6 พันนิดๆเท่านั้นค่ะ )
เอาล่ะพอเราได้ตั๋วเครื่องบินกันแล้วก็ถึงเวลามาเลือกที่พักกันค่ะ ตอนแรกก็ดูๆอยู่ว่าจะซื้อทัวร์ดีมั้ย เพราะบางทัวร์ก็ราคาน่าสนใจมาก แต่ทัวร์เขาจะใช้คำว่าราคา “เริ่มต้น” ค่ะ นั่นหมายถึง ที่พักแบบ garden หรือ beach bungalow ค่ะ และแน่นอน ไปถึงมัลดีฟส์ทั้งที่เราก็อยากพักแบบ water villa ค่ะ เราจึงช่วยๆกันหาที่พักหลายๆที่ใน agoda และ booking ก็มาเจอที่นี่ค่ะ Paradise Island Resort & Spa เป็นที่ๆไม่ค่อยมีคนไทยไปมากนัก แต่ดูราคาแล้วเราว่าโอเคและห้องสวยมากกกก กว่าทุกที่ค่ะ เลยตัดสินใจพัก 2 คืน คือ water villa และ Beach bungalow อย่างละคืนค่ะ เราเลือกจองผ่าน agoda เพราะรวมภาษีเรียบร้อยแล้ว ส่วน booking ยังไม่รวมภาษีค่ะ บวกๆแล้วแพงกว่า ที่ต้องไปจ่ายเพิ่มคือแค่ค่าเรือ speed boat เท่านั้น ค่าเสียหายที่พักสองคืน 9,481 + 5,649 = 15,130 บาท/คนค่ะ ( ถ้าเป็นช่วงโลว์ ที่พัก water villa ที่นี่เหลือแค่ประมาณ 12,000 นิดๆ ตกคนละ 6,000 กว่าบาท/คืน ค่ะ )
ได้ตั๋วเครื่องบิน+ที่พักแล้ว แลกเงินไปเผื่อคนละ 350$ จากนั้นก็ ลุยค่ะ!!
เราบิน Air Asia ไฟล์ท 09.30 น. ต้องไปถึงสนามบินมาเล่ประมาณ 11.50 น. ค่ะ ( เวลาที่มาเล่ช้ากว่าเรา 2 ชั่วโมง ) แต่โชคร้ายวันนั้นเลื่อนไฟล์ทเราเป็น 10.50 น.ค่ะ แต่เอาเข้าจริงดีเลย์ไปอีก 1 ชม. กว่าจะบินได้ประมาณเกือบเที่ยงค่ะ ถึงสนามบินที่มาเล่ก็เกือบๆบ่ายสอง
สภาพก่อนขึ้นเครื่อง พวกเราพร้อมเดินทางมากค่า!!!!
ระหว่างอยู่บนเครื่อง เราก็มองหาแผ่นดินประเทศมัลดีฟส์ มันก็จะไกลๆหน่อยค่า
ว้าววว!!! เหยียบแผ่นดินมัลดีฟส์ แล้วค่า สนามบินที่มาเล่ไม่ใหญ่นักค่ะ ลงจากเครื่องเดินเข้าสนามบินกันเลย
ทางเข้าสนามบินมาเล่พวกเราก็แวะถ่ายรูปก่อนเลยค่า 555+
จากนั้น พวกเราก็มากรอกใบ ตม. เพื่อเข้าประเทศมัลดีฟส์กันค่า
หน้าตาใบ ตม. เข้าประเทศมัลดีฟส์ ก็จะหน้าตาประมาณนี้นะคะ
((จริงๆบนเครื่อง แอร์เอเชียก็แจกให้เขียนค่า แต่มันไม่ค่อยชัด พวกเราเลยกรอกข้อมูลกันใหม่อีกครั้ง อิอิ!!))
พรีเซนเตอร์หน้าตาน่ารักใสใสค่า 555+
พอผ่านด่านตม.กันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง เคาน์เตอร์ 16
เพื่อติดต่อเรือ speed boat ข้ามไปเกาะที่พัก “Paradise island resort Maldives” ที่เราจองไว้ค่ะ
สภาพคนนั่งรอเรือออกค่า.....
ระหว่างรอเรือออก พวกเราก็ไปหาซื้อ Sim card ไว้สำหรับเล่นเน็ตเวลาอยู่บนเกาะตอนที่ไม่ได้อยู่ในห้องพักค่า
( ในห้องพักมี wifi อยู่นะคะ ใช้ได้ดีระดับนึงค่า ^__^)
เราเลือก sim 3 GB ระยะเวลาใช้ 7 วันราคา16$ แล้วก็มาแชร์ hotspot กันค่ะ (ถ่ายรูปเบี้ยวๆนิดนึง ><)
ปล.ถ้าเป็นเครื่อง iphone ใส่ sim card แล้วตั้งค่าเปลี่ยน 4G เป็น 3G สามารถใช้ได้เลยนะคะ
แต่ถ้าเป็น android ตั้งทำตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนใช้งานค่า
จากนั้นพวกเราก็ไปขึ้นเรือกันค่ะ เดินออกจากสนามบินก็เจอท่าเรือเลย น้ำทะเลตรงทางขึ้นเรือ
ใสมากกก ใสปิ๊งๆๆ 555+
สามหนุ่มสามมุม ขับเรือซิ่งมากกค่า แนะนำควรหาที่เกาะแน่นๆ 555+
ระหว่างนั่งบนเรือ หันกลับไปมองน้ำทะเล ก็ใสแจ๋วอย่างที่เห็นค่าคุณ!!!
มีเรือจอดมากมาย รอรับนักท่องเที่ยวค่า
เมื่อเรามาถึงที่พัก “Paradise island resort Maldives”
Wowwww!!!!! โอ้ยยย..ยย..ย มันฟินนมากกกกกค่า
โอ้ทะเล แสนงามมมม น้ำทะเลใสมว๊ากกกค่า ^o^
ถึงจ้า.... ถึงแล้วจ้า....
เมื่อมาถึงรีสอร์ต จะมีพนักงานเดินมาต้อนรับเรา มีผ้าเย็นมาให้ พร้อมเสริ์ฟเครื่องดื่มต้อนรับ
จ้า!! สดชื่น และกันเองมากๆค่า
พนักงานก็จะให้เรากรอกรายละเอียดข้อมูลในการเข้าพัก และเราก็ยื่นหลักฐานการจองที่พักผ่าน agoda ให้ จ่ายค่า speed boat คนละ 104$
และก็คุยเรื่องการอัพเกรดที่พักที่จองวันที่สองเป็น all inclusive ค่ะ ( 120.75$/คน ค่ะ )
ปล.คืนแรกจองที่พักกลางน้ำพร้อมอาหารเช้า // คืนที่สองจองที่พักริมหาดพร้อมอาหารเช้าค่า
หลังจากเคลียร์เรื่องห้องพักเรียบร้อย ไปคะ...พี่สุชาติ!!เราไปที่พักกลางน้ำกันค่า555+
ถึงหน้าห้องพักของพวกเราแล้วค่า 2 ห้องติดกัน// ก่อนจะชื่นชมความงามของห้อง อย่าลืมให้ทิปคนขับรถนะคะ
ไม่งั้นพี่เค้าจะยืนรอไม่ไปไหนกันเลยทีเดียว 555+ เราให้ไป 1$ ค่า
ภายในห้องของเรามีประตูเชื่อมต่อกันตรงกลางเปิดหากันไว้ได้ตลอดเลยค่ะ
ห้องนอนสวยมาก มีความประทับใจ
พนักงานจะแนะนำเราว่าเราสามารถทานอะไรได้บ้าง และอะไรที่ต้องจ่ายเพิ่ม
เรียกว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนี่ครบทุกอย่างแทบจะไม่ต้องเอาอะไรมาเลยที่เดียวนอกจากเสื้อผ้าและพร๊อพ 555
คือมีตั้งแต่ของทั่วไปเช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู ไดร์เป่าผม หมวกคลุมอาบน้ำ cotton bud ไปจนถึง หวี มีดโกน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
พีคสุดคือเตารีดและโต๊ะรีดผ้า ที่เราไม่คิดว่าจะมี
บรรยากาศหลังห้องพักเรา มีบันไดเดินลงไปเล่นน้ำได้ด้วยจ้า... เตรียมใส่ผ้าถุงตีโป่งพร้อมโดดจ้า!!
นางแบบมาเองนะคะ ^O^
วิวหลังห้องพักเราจ้า มองเห็นทะเลน้ำใสๆ ก็เย็นตาค่า
[CR] กาลครั้งหนึ่ง ณ มัลดีฟส์ At "Paradise Island Resort & Spa"
สวัสดีค่า กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยค่ะ
เชื่อว่า “มัลดีฟส์” เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคน รวมถึงพวกเราด้วยเช่นกันค่ะ จริงๆแล้วก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ไปเร็วขนาดนี้เหมือนกัน มันเป็น “เกาะสวรรค์” จริงๆค่ะ
ต้องบอกไว้ก่อนว่าเราไม่ได้มารีวิวเพราะทริปที่พวกเราไปมันถูกหรือมีอะไรเป็นพิเศษ แต่การรีวิว
ครั้งนี้เราอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์+ความผิดพลาดหลายๆอย่างในทริปนี้ เพื่อที่เพื่อนๆคนไหนอยากไป จะได้นำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจค่ะ เพราะไปมาแล้วบอกได้เลยว่า เพื่อนๆไปได้ถูกกว่านี้อีกเยอะ!! เรารีวิวในฉบับของคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ท่องเที่ยวบ่อยอะไรมากมายนักจนมีแต้มสะสมเพื่อลดราคาตั๋วเครื่องบิน เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะเต็มราคาทั้งนั้นค่ะ อาจจะมากไปสักหน่อยแต่เราได้แนวทางที่ไปถูกกว่านี้เยอะเลยค่ะ จะพยายามลงรายละเอียดให้เยอะมากที่สุดนะคะ
พูดมาซะยาว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ทริปนี้มันเริ่มต้นจาก การที่แอร์เอเชียประกาศบินตรงค่ะ เราก็เลยกดเข้าไปดูในทันที จองแบบข้ามปีกันไปเลย ใจนึงก็อยากไปแบบถูกๆแต่ก็จะต้องเป็นช่วงโลว์ ใจนึงก็อยากไปช่วงไฮแต่ราคาก็แพงหน่อย หลังจากตกลงกับเพื่อนได้ก็เลยคิดว่า เอาวะ ไม่ได้จะไปได้ง่ายๆแล้วก็บ่อยๆ เราจึงเลือกช่วงเดือนกุมภาค่ะ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ คนละ 8,605 บาทถ้วน ( ถ้าเลือกวันดีๆและช่วงโลว์ จะได้ใจราคาไป-กลับ 6 พันนิดๆเท่านั้นค่ะ )
เอาล่ะพอเราได้ตั๋วเครื่องบินกันแล้วก็ถึงเวลามาเลือกที่พักกันค่ะ ตอนแรกก็ดูๆอยู่ว่าจะซื้อทัวร์ดีมั้ย เพราะบางทัวร์ก็ราคาน่าสนใจมาก แต่ทัวร์เขาจะใช้คำว่าราคา “เริ่มต้น” ค่ะ นั่นหมายถึง ที่พักแบบ garden หรือ beach bungalow ค่ะ และแน่นอน ไปถึงมัลดีฟส์ทั้งที่เราก็อยากพักแบบ water villa ค่ะ เราจึงช่วยๆกันหาที่พักหลายๆที่ใน agoda และ booking ก็มาเจอที่นี่ค่ะ Paradise Island Resort & Spa เป็นที่ๆไม่ค่อยมีคนไทยไปมากนัก แต่ดูราคาแล้วเราว่าโอเคและห้องสวยมากกกก กว่าทุกที่ค่ะ เลยตัดสินใจพัก 2 คืน คือ water villa และ Beach bungalow อย่างละคืนค่ะ เราเลือกจองผ่าน agoda เพราะรวมภาษีเรียบร้อยแล้ว ส่วน booking ยังไม่รวมภาษีค่ะ บวกๆแล้วแพงกว่า ที่ต้องไปจ่ายเพิ่มคือแค่ค่าเรือ speed boat เท่านั้น ค่าเสียหายที่พักสองคืน 9,481 + 5,649 = 15,130 บาท/คนค่ะ ( ถ้าเป็นช่วงโลว์ ที่พัก water villa ที่นี่เหลือแค่ประมาณ 12,000 นิดๆ ตกคนละ 6,000 กว่าบาท/คืน ค่ะ )
ได้ตั๋วเครื่องบิน+ที่พักแล้ว แลกเงินไปเผื่อคนละ 350$ จากนั้นก็ ลุยค่ะ!!
เราบิน Air Asia ไฟล์ท 09.30 น. ต้องไปถึงสนามบินมาเล่ประมาณ 11.50 น. ค่ะ ( เวลาที่มาเล่ช้ากว่าเรา 2 ชั่วโมง ) แต่โชคร้ายวันนั้นเลื่อนไฟล์ทเราเป็น 10.50 น.ค่ะ แต่เอาเข้าจริงดีเลย์ไปอีก 1 ชม. กว่าจะบินได้ประมาณเกือบเที่ยงค่ะ ถึงสนามบินที่มาเล่ก็เกือบๆบ่ายสอง
สภาพก่อนขึ้นเครื่อง พวกเราพร้อมเดินทางมากค่า!!!!
ระหว่างอยู่บนเครื่อง เราก็มองหาแผ่นดินประเทศมัลดีฟส์ มันก็จะไกลๆหน่อยค่า
ว้าววว!!! เหยียบแผ่นดินมัลดีฟส์ แล้วค่า สนามบินที่มาเล่ไม่ใหญ่นักค่ะ ลงจากเครื่องเดินเข้าสนามบินกันเลย
ทางเข้าสนามบินมาเล่พวกเราก็แวะถ่ายรูปก่อนเลยค่า 555+
จากนั้น พวกเราก็มากรอกใบ ตม. เพื่อเข้าประเทศมัลดีฟส์กันค่า
หน้าตาใบ ตม. เข้าประเทศมัลดีฟส์ ก็จะหน้าตาประมาณนี้นะคะ
((จริงๆบนเครื่อง แอร์เอเชียก็แจกให้เขียนค่า แต่มันไม่ค่อยชัด พวกเราเลยกรอกข้อมูลกันใหม่อีกครั้ง อิอิ!!))
พรีเซนเตอร์หน้าตาน่ารักใสใสค่า 555+
พอผ่านด่านตม.กันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง เคาน์เตอร์ 16
เพื่อติดต่อเรือ speed boat ข้ามไปเกาะที่พัก “Paradise island resort Maldives” ที่เราจองไว้ค่ะ
สภาพคนนั่งรอเรือออกค่า.....
ระหว่างรอเรือออก พวกเราก็ไปหาซื้อ Sim card ไว้สำหรับเล่นเน็ตเวลาอยู่บนเกาะตอนที่ไม่ได้อยู่ในห้องพักค่า
( ในห้องพักมี wifi อยู่นะคะ ใช้ได้ดีระดับนึงค่า ^__^)
เราเลือก sim 3 GB ระยะเวลาใช้ 7 วันราคา16$ แล้วก็มาแชร์ hotspot กันค่ะ (ถ่ายรูปเบี้ยวๆนิดนึง ><)
ปล.ถ้าเป็นเครื่อง iphone ใส่ sim card แล้วตั้งค่าเปลี่ยน 4G เป็น 3G สามารถใช้ได้เลยนะคะ
แต่ถ้าเป็น android ตั้งทำตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนใช้งานค่า
จากนั้นพวกเราก็ไปขึ้นเรือกันค่ะ เดินออกจากสนามบินก็เจอท่าเรือเลย น้ำทะเลตรงทางขึ้นเรือ
ใสมากกก ใสปิ๊งๆๆ 555+
สามหนุ่มสามมุม ขับเรือซิ่งมากกค่า แนะนำควรหาที่เกาะแน่นๆ 555+
ระหว่างนั่งบนเรือ หันกลับไปมองน้ำทะเล ก็ใสแจ๋วอย่างที่เห็นค่าคุณ!!!
มีเรือจอดมากมาย รอรับนักท่องเที่ยวค่า
เมื่อเรามาถึงที่พัก “Paradise island resort Maldives”
Wowwww!!!!! โอ้ยยย..ยย..ย มันฟินนมากกกกกค่า
โอ้ทะเล แสนงามมมม น้ำทะเลใสมว๊ากกกค่า ^o^
ถึงจ้า.... ถึงแล้วจ้า....
เมื่อมาถึงรีสอร์ต จะมีพนักงานเดินมาต้อนรับเรา มีผ้าเย็นมาให้ พร้อมเสริ์ฟเครื่องดื่มต้อนรับ
จ้า!! สดชื่น และกันเองมากๆค่า
พนักงานก็จะให้เรากรอกรายละเอียดข้อมูลในการเข้าพัก และเราก็ยื่นหลักฐานการจองที่พักผ่าน agoda ให้ จ่ายค่า speed boat คนละ 104$
และก็คุยเรื่องการอัพเกรดที่พักที่จองวันที่สองเป็น all inclusive ค่ะ ( 120.75$/คน ค่ะ )
ปล.คืนแรกจองที่พักกลางน้ำพร้อมอาหารเช้า // คืนที่สองจองที่พักริมหาดพร้อมอาหารเช้าค่า
หลังจากเคลียร์เรื่องห้องพักเรียบร้อย ไปคะ...พี่สุชาติ!!เราไปที่พักกลางน้ำกันค่า555+
ถึงหน้าห้องพักของพวกเราแล้วค่า 2 ห้องติดกัน// ก่อนจะชื่นชมความงามของห้อง อย่าลืมให้ทิปคนขับรถนะคะ
ไม่งั้นพี่เค้าจะยืนรอไม่ไปไหนกันเลยทีเดียว 555+ เราให้ไป 1$ ค่า
ภายในห้องของเรามีประตูเชื่อมต่อกันตรงกลางเปิดหากันไว้ได้ตลอดเลยค่ะ
ห้องนอนสวยมาก มีความประทับใจ
พนักงานจะแนะนำเราว่าเราสามารถทานอะไรได้บ้าง และอะไรที่ต้องจ่ายเพิ่ม
เรียกว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนี่ครบทุกอย่างแทบจะไม่ต้องเอาอะไรมาเลยที่เดียวนอกจากเสื้อผ้าและพร๊อพ 555
คือมีตั้งแต่ของทั่วไปเช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู ไดร์เป่าผม หมวกคลุมอาบน้ำ cotton bud ไปจนถึง หวี มีดโกน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
พีคสุดคือเตารีดและโต๊ะรีดผ้า ที่เราไม่คิดว่าจะมี
บรรยากาศหลังห้องพักเรา มีบันไดเดินลงไปเล่นน้ำได้ด้วยจ้า... เตรียมใส่ผ้าถุงตีโป่งพร้อมโดดจ้า!!
นางแบบมาเองนะคะ ^O^
วิวหลังห้องพักเราจ้า มองเห็นทะเลน้ำใสๆ ก็เย็นตาค่า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น