หลายคนอยากเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เราเองก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวมาโดยตลอด ก็เลยเก็บภาพพร้อมข้อมูลการเดินทางที่สะดวกที่และ Pass ต่างๆที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่มาฝากเพื่อนๆ และการเดินทางในทริปนี้ก็มาถึง
และทริปนี่เราอยากแนะนำ 3 ที่ยอดอิตที่สามารถสัมผัสกับหิมะได้ ง่ายจากลงสนามบินโอซาก้า หรือแวะเที่ยวคันไซ แล้วเดินทางง่ายๆภายในไม่กีชั่วโมงไปดูหิมะกันต่อที่ TAKAYAMA KANAZAWA ชิราคาวาโก โดยใช้ Pass JR Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass
เส้นทางการเดินทาง
เป็น pass5วัน พาสนี้ราคา14000เยน ก็ประมาณ4200บาท (เรทตอนที่ไปอยู่ราวๆ30บาท/100เยน) ซื้อได้จากเอเยนซี่บริษัททัวร์หลายแห่งในไทยนะคะ ใครที่เดินมาลงสนามบินคันไซ ใช้ถ้าไม่มาเที่ยวบินหลัง 21.00 น. ก็สามารถใช้นั่งรถด่วนของ JR ( ฮารุกะ รอบสุดท้ายประมาน 22.00 มาที่โอซาก้าได้เลย ลงสถานีชินโอซาก้า หรือเท็นโนจิ สะดวกและคุ้มสุดๆ เส้นทางการเดินทางติดตามดูได้ตั้งแต่ DAY 1 ได้ค่ะ
หน้าตาบัตรโดยสาร เมื่อนำมาแลกที่ญี่ปุ่นแล้วเป็นปบบนี้นะคะ แลกที่ไหนก็ได้ของจุดขายตั๋วของ JR ( สังเกตุจะมีป้ายสีเขียวๆค่ะ )
DAY 1 เที่ยวนาโกย่า รถไฟด่วนHIDA」 ชมไลท์อับเมืองเก่าทาคายาม่า「FUYUNO HIDA TAKAYAMA LIGHT UP」 พักเรียวกังท่ามกลางหิมะ HOSHOKAKU HOTE ได้ที่นี่นะคะ
https://ppantip.com/topic/37380222
DAY 2 TAKAYAMA-ASAICHI(ตลาดนัดต้อนเช้า ทากายาม่า) ตลุยหิมะที่หมู่บ้านมรดก ชิราคาวาโกะ OUMICHOU-ICHIBA(ตลาดOUMICHOU) พักโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองหิมะ KANAZAWA TOKYU HOTEL
https://www.tokyuhotelsjapan.com/en/https://ppantip.com/topic/37410527
Day3 เมืองคานาซาว่า SAMURAI ที่ 『BUKEYASHIKI』 และเดินทางไปท่องเที่ยวต่อที่โอซาก้า ป้ายกูลิโกะ DOTONBORI
เช้าของวันที่ 3 ของเมืองแห่งหิมะ พร้อมกับอาหารเช้าสุดหรูของทางโรงแรมนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่จะได้ทานอาหารเช้าแบบจัดเต็มในประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าก่อนเดินทางมาเที่ยว เจอข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไทยบอกว่า “อาหารเช้าที่คานาซาว่าติดหนึ่งใน 5 ของอาหาร
เช้าที่อร่อยที่สุด” เลยตื่นเต้นที่จะได้กินอาหารเช้าของที่นี่ และหลังจากที่รับประทานอาหารอร่อยๆแล้ว ก็ไปเดินเล่นที่『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
เช้านี้มาดูอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของทางโรงแรม『KANAZAWA TOKYU HOTEL』และบรรยากาศโรงแรมกันบ้างนะคะ รายละเอียดเพิ่มเติมก็ตามลิ้งเลยนะคะ
https://www.tokyuhotelsjapan.com/en/
ตอนมาก็ขาวโพลนกันไปเลยค่ะ แต่ลงไปทานอาหารเช้ากันกว่า
จากห้องอาหารสุดหรู วันนี้กลายเป็นที่ทานอาหารเช้าชั้นเลิศของเรา
มุมสำหรับครอบครัว น่ารัก น่านั่ง
เดินเข้ามาถึงบาร์ เป็นมันน่าทานทั้งนั้น
มองไปที่หน้าต่าง เห็นหิมะตกหนักกว่าเมื่อวาน
ต้องขอเติมพลังก่อนออกไปสู้กับหิมะที่คานาซาว่า
โรงแรม『KANAZAWA TOKYU HOTEL』มีห้องอาหารที่ขึ้นชื่อเช่น ห้องอาหารญี่ปุ่น “คินชะเรียว” และ
ห้องอาหาร “มาระโดล” ห้องอาหารญี่ปุ่นผสมอาหารตะวันตก ที่ชั้น 2 เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ห์
(ทั้งสองที่ราคา 2,732 เยน) ลำดับต่อไปจะขอแนะนำอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ห์ที่คนไทยชื่นชอบ
ภายในร้านบรรยากาศดี ตกแต่งสวยงามสบายตา มีทั้งโต๊ะนั่งแบบทั่วไป และมีเก้าอี้โซฟาด้วย ท่าจะนั่งสบาย
มุมนี้เป็นไงค่ะ ของโปรดของทุกคน ดูน้อยจัง แต่เดี๋ยวพนักงานเข้าก็จะมาเติมเรื่อยๆทานกันไปเลย
บุฟเฟ่ห์มีให้เลือกทั้งอาหารตะวันตก และอาหารญี่ปุ่น
อาหารหลากหลายมาก เลือกไม่ถูกเลยจริงๆมีทั้ง “ซะซะซูชิ” ซูชิปลาซัลมอนรมควันที่คนไทยโปรดปราน และอื่นๆอีกมากมาย
รวมทั้งคามาโบะโคสไตน์ญี่ปุ่น ดูคุ้นตา เพราะคล้ายๆกับลูกชิ้นของไทยเราชอบมาก ๆ
เมนูอาหารแนะนำก็คือเมนู Nanbanzuke อาหารท้องถิ่นใช้ “ปลาฮาตะฮาตะ” เป็นที่นิยมในคานาซาว่า และฝั่งทะเลญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้นึ่งอุ่นๆ สลัดและผลไม้หลากสี พร้อมเสริฟทุกท่าน
ญี่ปุ่นเขาก็จะขึ้นชื่อในเรื่องของเต้าหู้ ไปไหนก็ต้องมีตลอดในอาหารเช้า
ผักสลัดผลไม้ก็มากันแบบจัดเต็มเช่นกัน
อีกเมนูที่พลาดไม่ได้ก็คืออาหารจานไข่ มีเชฟฝีมือเยี่ยมของทางโรงแรมพร้อมปรุงบริการท่านทันที
ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ออมเล็ทหรือเมนูไข่กวน สะแคมเบิ้ล ท่านสามารถสั่งกับเชฟได้ตามใจชอบไข่เจียว ออมเล็ท เนื้อฟูนุ่ม
ข้างในสุกปานกลาง ข้างนอกออกจะเยิ้มๆ หน่อย ดูนุ่ม น่าดูน่ารับประทานมาก
กำลังไดเอ็ทอยู่ วันนี้กินแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
・・・เยอะขนาดนี้ เช้านี้เราก็อิ่มมากเป็นพิเศษกับอาหารเช้าแสนอร่อย
ได้เวลาออกไปเดินเล่นที่ 『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』อยู่ทางด้านหลังของทางโรงแรม
จากโรงแรม 『KANAZAWA TOKYU HOTEL』นอกจาก「Nagamachi-bukeyashiki」ที่แนะนำไปแล้ว ยังมี
สถานที่มีชื่อเสียงที่สามารถไปเดินเล่นใกล้ๆอีกหลายแห่ง เช่น 『KENROKUEN』 หรือ 『KANAZAWA-
CASTLE』เป็นโลเคชั่นที่เหมาะมากในการเดินท่องเที่ยวที่คานาซาว่า
ลองถามพนักงานที่โรงแรมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ 『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』พนักงานบอกว่า
ที่นั่นเปิดให้เข้าชมบ้านของซามุไรในสมัยก่อนชื่อบ้าน “Nomurake”
ต้องไปชมให้ได้ ‼
เมื่อวานนี้มาถึงมึดแล้วเลยมองไม่ค่อยเห็นบรรยากาศในโรงแรมเท่าไร ชั้นบนตกแต่งออกแนวตะวันตก ส่วนที่
ชั้นหนึ่งตกแต่งด้วยไม้ สวยงามมาก เข้ากับบรรยากาศที่คานาซาว่า
ว่าแต่ วันนี้หิมะตกหนักมากๆ! ออกจากโรงแรมแล้วเดินไปทางซ้ายมือตามทางลาด
สุดทางลาดแล้ว จะมีทางแยกให้เลี้ยวไปทางขวา หลังจากนั้นเดินตรงไปอีกประมาณ 2 บล็อคก็จะเห็นทางเข้าของ
『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของคานาซาว่า ในสมัยเอโดะมีบ้าน
ของซามูไรและขุนนางชั้นสูงอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น “คะกะบัง”บรรยากาศตอนนี้ก็ยังคงมีกลิ่นอายของสมัยนั้นอยู่ ราวกับจะได้เจอซามุไรจริงๆ
ตอนนี้ก็มีคนอาศัยอยู่ในย่านนี้ ได้ยินว่าประธานของโรงแรมชื่อดังที่ญี่ปุ่นก็อาศัยอยู่ในเขตนี้
สามารถเข้าไปชมด้านในของ “Bukeyashiki และ Nomurake” ได้ด้วย ดูจากด้านนอกใหญ่โต สวยงามมากลองเข้าไปชมข้างในกันเลยดีกว่า
『BUKEYASHIKIATO-NOMURAKE』ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 550 เยน
ช่วงเช้าเปิดเวลา 8.30 น. เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ปิดเวลา 17.30 น.
เดือนตุลาคมถึงมีนาคม ปิดเวลา 16.30 น.
ที่นี่ได้รับเลือกจากมิชลินให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 2 ดาว เหมือนกับที่ 「KENROKUEN-GARDEN」
ของคานาซาว่า สมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่น “ฮิตาชิโนะมิยะ” ที่มีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ไทยก็เคยเสด็จมาเยี่ยมชมที่นี่ สวยสง่างามมาก
พอเข้าไปด้านในจะพบกับชุดเกราะของญี่ปุ่นแขวนโชว์อยู่ เป็นชุดเกราะที่เจ้าของบ้าน NOMURA-DENBEI
เคยสวมใส่ เป็นชุดซามุไรแท้ๆของญี่ปุ่น ใส่แล้วคงเคลื่อนไหวลำบากมาก
ในสมัยก่อนเวลามีการสู้รบกัน ซามูไรผู้น้อยจะออกไปสู้รบ แต่สำหรับซามุไรตำแหน่งสูง มักจะเก็บชุดเกราะเหล่านี้
ไว้เป็นของประดับมากกว่าใส่เพื่อป้องกันตัว
อันนี้คืออะไร ??
คำตอบคือ หัวหมุดซ่อนตะปู ที่เคยแนะนำที่ “ทาคายะมะจินยะ”ใช้ประดับเพื่อความเรียบร้อยสวยงามไม่ให้เห็นหัวตะปู ที่บ้าน “Nomurake” มีหัวหมุดหลากหลายรูปทรงเวลาท่านไปเยี่ยมชม ลองสำรวจดูว่ามีรูปทรงอะไรบ้าง บ้านพักอาศัยหลังใหญ่โต แต่ทางเดินแคบมาก ระยะแค่พอเดินผ่านได้เท่านั้น เพราะอะไรถึงต้องทำทางเดินแคบๆ?คำตอบก็คือ เวลาเกิดสงครามหรือการสู้รบกัน คนที่บุกเข้ามาจะได้ใช้ดาบฟันไม่ได้
สวนของบ้าน “Nomurake” เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้รางวัล 2 ดาวจากมิชลิน
หิมะที่ตกลงมาทับถมกันดูสวยงามมาก
ให้สังเกตจากตรงกลางภาพ มีเชือกตรึงอยู่ที่ต้นไผ่ รูปทรงคล้ายๆกับต้นคริสต์มาส อันนั้นคืออะไร??
คำตอบก็คือ “Yukizuri” ในเขตที่มีหิมะตกเยอะอย่างเช่นที่คานาซาว่า ต้องตรึงต้นไม้ไว้ด้วยเชือก
ลักษณะนี้เพื่อยึดไม่ให้ต้นไม้ล้มตายสามารถพบเห็นทั่วไปในเขตตอนเหนือของญี่ปุ่น
วิวของสวนหย่อมที่มองจากฝั่งระเบียงชั้นหนึ่ง อากาศหนาวมาก มีปลาคาร์ปว่ายไปมา ดูน่าพิศวง ・・・・
สวนในฤดูหนาวก็สวย แต่ฤดูร้อนก็สวยไปอีกแบบสวนของญี่ปุ่นปกติจะมีระยะห่างเล็กน้อยระหว่างชานบ้านด้านนอกกับพุ่มไม้ที่ปลูกไว้
แต่สวนของที่บ้าน “Nomurake” พุ่มไม้ยื่นออกมาติดชานบ้าน ดูแปลกตา สวยงามมาก
สนุกมาก ได้เที่ยวชมบ้านของซามูไรญี่ปุ่นราวกับได้นั่งเครื่องย้อนเวลาไปสมัยเมื่อร้อยปีก่อนบ้าน “Nomurake” มองจากด้านนอกก็ดูสวย สง่างามราวกับปราสาทเลยทีเดียว สนุกมากที่ได้ไปเดินเล่นที่『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』หิมะตก ตัวเย็นมาก แต่ก็ได้กลับมาพักแช่ตัวในน้ำอุ่นร้อนๆ รู้สึกสบายตัวมากการเดินทางแถวนี้สะดวก ปลอดภัยอยากจะพักต่ออีกสักหน่อย แต่ก็ได้เวลาต้องเช็คเอ้าท์เสียแล้ว
ประทับใจพนักงานทุกคนที่นี่ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส『KANAZAWA TOKYU HOTEL』เป็นโรงแรมในเครือใหญ่แต่ให้การต้อนรับที่อบอุ่นมาก
ลำดับต่อไป ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของคานาซาว่า อีกสองแห่ง คือ “Kenrokuen” และ
[CR] พาเที่ยว 3 เมืองแห่งหิมะ ทาคายาม่า ชิราคาวาโกะ คานาซาว่า แวะโอซาก้า
และทริปนี่เราอยากแนะนำ 3 ที่ยอดอิตที่สามารถสัมผัสกับหิมะได้ ง่ายจากลงสนามบินโอซาก้า หรือแวะเที่ยวคันไซ แล้วเดินทางง่ายๆภายในไม่กีชั่วโมงไปดูหิมะกันต่อที่ TAKAYAMA KANAZAWA ชิราคาวาโก โดยใช้ Pass JR Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass
เป็น pass5วัน พาสนี้ราคา14000เยน ก็ประมาณ4200บาท (เรทตอนที่ไปอยู่ราวๆ30บาท/100เยน) ซื้อได้จากเอเยนซี่บริษัททัวร์หลายแห่งในไทยนะคะ ใครที่เดินมาลงสนามบินคันไซ ใช้ถ้าไม่มาเที่ยวบินหลัง 21.00 น. ก็สามารถใช้นั่งรถด่วนของ JR ( ฮารุกะ รอบสุดท้ายประมาน 22.00 มาที่โอซาก้าได้เลย ลงสถานีชินโอซาก้า หรือเท็นโนจิ สะดวกและคุ้มสุดๆ เส้นทางการเดินทางติดตามดูได้ตั้งแต่ DAY 1 ได้ค่ะ
หน้าตาบัตรโดยสาร เมื่อนำมาแลกที่ญี่ปุ่นแล้วเป็นปบบนี้นะคะ แลกที่ไหนก็ได้ของจุดขายตั๋วของ JR ( สังเกตุจะมีป้ายสีเขียวๆค่ะ )
DAY 1 เที่ยวนาโกย่า รถไฟด่วนHIDA」 ชมไลท์อับเมืองเก่าทาคายาม่า「FUYUNO HIDA TAKAYAMA LIGHT UP」 พักเรียวกังท่ามกลางหิมะ HOSHOKAKU HOTE ได้ที่นี่นะคะ https://ppantip.com/topic/37380222
DAY 2 TAKAYAMA-ASAICHI(ตลาดนัดต้อนเช้า ทากายาม่า) ตลุยหิมะที่หมู่บ้านมรดก ชิราคาวาโกะ OUMICHOU-ICHIBA(ตลาดOUMICHOU) พักโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองหิมะ KANAZAWA TOKYU HOTEL https://www.tokyuhotelsjapan.com/en/https://ppantip.com/topic/37410527
เช้าของวันที่ 3 ของเมืองแห่งหิมะ พร้อมกับอาหารเช้าสุดหรูของทางโรงแรมนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่จะได้ทานอาหารเช้าแบบจัดเต็มในประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าก่อนเดินทางมาเที่ยว เจอข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไทยบอกว่า “อาหารเช้าที่คานาซาว่าติดหนึ่งใน 5 ของอาหาร
เช้าที่อร่อยที่สุด” เลยตื่นเต้นที่จะได้กินอาหารเช้าของที่นี่ และหลังจากที่รับประทานอาหารอร่อยๆแล้ว ก็ไปเดินเล่นที่『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
เช้านี้มาดูอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของทางโรงแรม『KANAZAWA TOKYU HOTEL』และบรรยากาศโรงแรมกันบ้างนะคะ รายละเอียดเพิ่มเติมก็ตามลิ้งเลยนะคะ https://www.tokyuhotelsjapan.com/en/
มองไปที่หน้าต่าง เห็นหิมะตกหนักกว่าเมื่อวาน
ต้องขอเติมพลังก่อนออกไปสู้กับหิมะที่คานาซาว่า
โรงแรม『KANAZAWA TOKYU HOTEL』มีห้องอาหารที่ขึ้นชื่อเช่น ห้องอาหารญี่ปุ่น “คินชะเรียว” และ
ห้องอาหาร “มาระโดล” ห้องอาหารญี่ปุ่นผสมอาหารตะวันตก ที่ชั้น 2 เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ห์
(ทั้งสองที่ราคา 2,732 เยน) ลำดับต่อไปจะขอแนะนำอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ห์ที่คนไทยชื่นชอบ
ภายในร้านบรรยากาศดี ตกแต่งสวยงามสบายตา มีทั้งโต๊ะนั่งแบบทั่วไป และมีเก้าอี้โซฟาด้วย ท่าจะนั่งสบาย
มุมนี้เป็นไงค่ะ ของโปรดของทุกคน ดูน้อยจัง แต่เดี๋ยวพนักงานเข้าก็จะมาเติมเรื่อยๆทานกันไปเลย
บุฟเฟ่ห์มีให้เลือกทั้งอาหารตะวันตก และอาหารญี่ปุ่น
อาหารหลากหลายมาก เลือกไม่ถูกเลยจริงๆมีทั้ง “ซะซะซูชิ” ซูชิปลาซัลมอนรมควันที่คนไทยโปรดปราน และอื่นๆอีกมากมาย
รวมทั้งคามาโบะโคสไตน์ญี่ปุ่น ดูคุ้นตา เพราะคล้ายๆกับลูกชิ้นของไทยเราชอบมาก ๆ
เมนูอาหารแนะนำก็คือเมนู Nanbanzuke อาหารท้องถิ่นใช้ “ปลาฮาตะฮาตะ” เป็นที่นิยมในคานาซาว่า และฝั่งทะเลญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้นึ่งอุ่นๆ สลัดและผลไม้หลากสี พร้อมเสริฟทุกท่าน
อีกเมนูที่พลาดไม่ได้ก็คืออาหารจานไข่ มีเชฟฝีมือเยี่ยมของทางโรงแรมพร้อมปรุงบริการท่านทันที
ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ออมเล็ทหรือเมนูไข่กวน สะแคมเบิ้ล ท่านสามารถสั่งกับเชฟได้ตามใจชอบไข่เจียว ออมเล็ท เนื้อฟูนุ่ม
ข้างในสุกปานกลาง ข้างนอกออกจะเยิ้มๆ หน่อย ดูนุ่ม น่าดูน่ารับประทานมาก
กำลังไดเอ็ทอยู่ วันนี้กินแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
・・・เยอะขนาดนี้ เช้านี้เราก็อิ่มมากเป็นพิเศษกับอาหารเช้าแสนอร่อย
ได้เวลาออกไปเดินเล่นที่ 『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』อยู่ทางด้านหลังของทางโรงแรม
จากโรงแรม 『KANAZAWA TOKYU HOTEL』นอกจาก「Nagamachi-bukeyashiki」ที่แนะนำไปแล้ว ยังมี
สถานที่มีชื่อเสียงที่สามารถไปเดินเล่นใกล้ๆอีกหลายแห่ง เช่น 『KENROKUEN』 หรือ 『KANAZAWA-
CASTLE』เป็นโลเคชั่นที่เหมาะมากในการเดินท่องเที่ยวที่คานาซาว่า
ลองถามพนักงานที่โรงแรมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ 『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』พนักงานบอกว่า
ที่นั่นเปิดให้เข้าชมบ้านของซามุไรในสมัยก่อนชื่อบ้าน “Nomurake”
ต้องไปชมให้ได้ ‼
เมื่อวานนี้มาถึงมึดแล้วเลยมองไม่ค่อยเห็นบรรยากาศในโรงแรมเท่าไร ชั้นบนตกแต่งออกแนวตะวันตก ส่วนที่
ชั้นหนึ่งตกแต่งด้วยไม้ สวยงามมาก เข้ากับบรรยากาศที่คานาซาว่า
ว่าแต่ วันนี้หิมะตกหนักมากๆ! ออกจากโรงแรมแล้วเดินไปทางซ้ายมือตามทางลาด
สุดทางลาดแล้ว จะมีทางแยกให้เลี้ยวไปทางขวา หลังจากนั้นเดินตรงไปอีกประมาณ 2 บล็อคก็จะเห็นทางเข้าของ
『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของคานาซาว่า ในสมัยเอโดะมีบ้าน
ของซามูไรและขุนนางชั้นสูงอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น “คะกะบัง”บรรยากาศตอนนี้ก็ยังคงมีกลิ่นอายของสมัยนั้นอยู่ ราวกับจะได้เจอซามุไรจริงๆ
ตอนนี้ก็มีคนอาศัยอยู่ในย่านนี้ ได้ยินว่าประธานของโรงแรมชื่อดังที่ญี่ปุ่นก็อาศัยอยู่ในเขตนี้
สามารถเข้าไปชมด้านในของ “Bukeyashiki และ Nomurake” ได้ด้วย ดูจากด้านนอกใหญ่โต สวยงามมากลองเข้าไปชมข้างในกันเลยดีกว่า
『BUKEYASHIKIATO-NOMURAKE』ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 550 เยน
ช่วงเช้าเปิดเวลา 8.30 น. เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ปิดเวลา 17.30 น.
เดือนตุลาคมถึงมีนาคม ปิดเวลา 16.30 น.
ที่นี่ได้รับเลือกจากมิชลินให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 2 ดาว เหมือนกับที่ 「KENROKUEN-GARDEN」
ของคานาซาว่า สมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่น “ฮิตาชิโนะมิยะ” ที่มีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ไทยก็เคยเสด็จมาเยี่ยมชมที่นี่ สวยสง่างามมาก
พอเข้าไปด้านในจะพบกับชุดเกราะของญี่ปุ่นแขวนโชว์อยู่ เป็นชุดเกราะที่เจ้าของบ้าน NOMURA-DENBEI
เคยสวมใส่ เป็นชุดซามุไรแท้ๆของญี่ปุ่น ใส่แล้วคงเคลื่อนไหวลำบากมาก
ในสมัยก่อนเวลามีการสู้รบกัน ซามูไรผู้น้อยจะออกไปสู้รบ แต่สำหรับซามุไรตำแหน่งสูง มักจะเก็บชุดเกราะเหล่านี้
ไว้เป็นของประดับมากกว่าใส่เพื่อป้องกันตัว
อันนี้คืออะไร ??
คำตอบคือ หัวหมุดซ่อนตะปู ที่เคยแนะนำที่ “ทาคายะมะจินยะ”ใช้ประดับเพื่อความเรียบร้อยสวยงามไม่ให้เห็นหัวตะปู ที่บ้าน “Nomurake” มีหัวหมุดหลากหลายรูปทรงเวลาท่านไปเยี่ยมชม ลองสำรวจดูว่ามีรูปทรงอะไรบ้าง บ้านพักอาศัยหลังใหญ่โต แต่ทางเดินแคบมาก ระยะแค่พอเดินผ่านได้เท่านั้น เพราะอะไรถึงต้องทำทางเดินแคบๆ?คำตอบก็คือ เวลาเกิดสงครามหรือการสู้รบกัน คนที่บุกเข้ามาจะได้ใช้ดาบฟันไม่ได้
สวนของบ้าน “Nomurake” เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้รางวัล 2 ดาวจากมิชลิน
หิมะที่ตกลงมาทับถมกันดูสวยงามมาก
ให้สังเกตจากตรงกลางภาพ มีเชือกตรึงอยู่ที่ต้นไผ่ รูปทรงคล้ายๆกับต้นคริสต์มาส อันนั้นคืออะไร??
คำตอบก็คือ “Yukizuri” ในเขตที่มีหิมะตกเยอะอย่างเช่นที่คานาซาว่า ต้องตรึงต้นไม้ไว้ด้วยเชือก
ลักษณะนี้เพื่อยึดไม่ให้ต้นไม้ล้มตายสามารถพบเห็นทั่วไปในเขตตอนเหนือของญี่ปุ่น
วิวของสวนหย่อมที่มองจากฝั่งระเบียงชั้นหนึ่ง อากาศหนาวมาก มีปลาคาร์ปว่ายไปมา ดูน่าพิศวง ・・・・
สวนในฤดูหนาวก็สวย แต่ฤดูร้อนก็สวยไปอีกแบบสวนของญี่ปุ่นปกติจะมีระยะห่างเล็กน้อยระหว่างชานบ้านด้านนอกกับพุ่มไม้ที่ปลูกไว้
แต่สวนของที่บ้าน “Nomurake” พุ่มไม้ยื่นออกมาติดชานบ้าน ดูแปลกตา สวยงามมาก
สนุกมาก ได้เที่ยวชมบ้านของซามูไรญี่ปุ่นราวกับได้นั่งเครื่องย้อนเวลาไปสมัยเมื่อร้อยปีก่อนบ้าน “Nomurake” มองจากด้านนอกก็ดูสวย สง่างามราวกับปราสาทเลยทีเดียว สนุกมากที่ได้ไปเดินเล่นที่『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI-ATO』หิมะตก ตัวเย็นมาก แต่ก็ได้กลับมาพักแช่ตัวในน้ำอุ่นร้อนๆ รู้สึกสบายตัวมากการเดินทางแถวนี้สะดวก ปลอดภัยอยากจะพักต่ออีกสักหน่อย แต่ก็ได้เวลาต้องเช็คเอ้าท์เสียแล้ว
ประทับใจพนักงานทุกคนที่นี่ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส『KANAZAWA TOKYU HOTEL』เป็นโรงแรมในเครือใหญ่แต่ให้การต้อนรับที่อบอุ่นมาก
ลำดับต่อไป ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของคานาซาว่า อีกสองแห่ง คือ “Kenrokuen” และ