เส้นทางขับมอเตอร์ไซค์ลุยๆ สนุกๆใน จ.เชียงใหม่ มีเยอะแยะมากมาย แต่เรามีอีกหนึ่งเส้นทางที่อยากแบ่งปันพี่น้องชาว Enduro ที่อยากให้ไปลอง!
ทริปนี้เรามีสมาชิกก๊วนมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 5 คัน 1.ภูริ 2.เต้ ปิติศักดิ์ 3.พี่ต้น หว่อง 4.จิ๊กโก๋ 5.ป๊อก และทีมเซอร์วิสบนรถ ISUZU อีก 4 ชีวิต ที่จะมาผจญภัยด้วยกันตลอด 5 วันเต็ม กับจุดท่องเที่ยวสวยๆและเรื่องราวมากมายที่ไม่คาดคิด
Day1 เชียงใหม่-แม่แจ่ม-สะเมิง-กัลยานิวัฒนา
ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ เรามุ่งหน้าสู่ม่อนแจ่ม เพราะเราอยากขับชมวิวชิลๆ เจอจุดไหนสวยก็แวะและที่สำคัญเราอยากขับบนที่ชาวบ้านใช้กันจริงๆ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเข้าไป ทำให้เราพบกับ "อ่างเก็บน้ำคลองตอง" ที่ห่างจากม่อนแจ่มเพียง10กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมทางหลวงชนบทหมายเลข 4017 เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมาสัมผัสกับวิวสวยๆและอากาศเย็นสบายได้แบบฟินสุดๆ เห็นแบบนี้ใครจะอดใจไหวก็ต้องขอไปถ่ายรูปสักแชะ สองแชะ ยืนมองวิวเขียวๆของต้นไม้ เอาหน้าปะทะลมเย็นๆของฤดูหนาว นี่แหละ "วิถีไบค์เกอร์เจอตรงไหนสวยก็จอด อยากจอดตรงไหนก็จอด"
พิกัด : 18.955203, 98.772192
แล้วเราก็ออกเดินทางบนถนนดำที่คดเคี้ยวของอำเภอสะเมิงจนเข้าเขตอำเภอกัลยานิวัฒนา และอุปสรรคหลักๆของเราในทริปนี้คือ สภาพอากาศที่หนาวจัด เพราะเราไปในช่วง ต้นเดือนธันวาคม ที่โคตรหนาว!!!! ขนาดกรุงเทพฯยังหนาวถึง 15 องศา แล้วเราอยู่บนดอยจะเหลืออะไรละทีนี้...ทำได้แค่อดทนและขับไปให้ถึงที่พักเท่านั้น แต่กว่าจะถึงที่พักเราก็สะดุดตากับเนินดิน ใช่คุณอ่านไม่ผิด มันคือ "เนินดิน" ธรรมดาๆ ที่อยู่ริมถนนก่อนเข้าบ้านแม่แดดน้อย
เราไม่รอช้ารีบขึ้นไปสำรวจทันทีแล้วก็ได้พบกับ...วิวดีๆแบบนี้
จุดชมวิวใหม่ที่มองเห็นวิวได้ถึง 360 องศา แล้วยังมองเห็นไกลถึงยอดดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ในเมื่อมาถึงบ้านแม่แดดน้อย อำเภอกัลยานิวัฒนาทั้งทีก็ต้องมาพักที่ "Budecha บูเดอช่า บ้านใกล้ชิดดวงดาว" เป็นโฮมสเตย์เล็กๆที่เราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ทำให้เรามีความทรงจำสุดประทับใจ เพราะที่นี่จะอบอวลไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะและความเป็นกันเองเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังจากเข้าห้องพักเก็บของเสร็จ..ถึงเวลาอาหารเย็นทีมมอเตอร์ไซค์ของเราที่เดินเก็บของวนไป วนมา ไม่มากินข้าวสักที! แต่เราแอบเห็นเจ้าของบ้านและแขกที่เข้าพักในวันเดียวกัน ยืนเก้ๆ กังๆ มองมาที่พวกเรา จริงๆแล้วเราก็แอบสงสัยนะว่าทำไมเขาไม่นั่งกินข้าวกัน?? ยืนรออะไร?? แต่สุดท้ายก็ถึงบางอ้อ! ว่าทุกคนรอกินข้าวพร้อมๆกันกับเรา พอรู้ตัวเท่านั้นแหละ..พวกเราทุกคนก็รีบจัดแจงปูเสื่อนั่งล้อมวงกินข้าวกันทันที เพราะคนอื่นๆเขารอนานแล้ว 55555+ มื้อเย็นของที่นี่มีกับข้าวประมาณ 4-5 อย่าง ทุกคนก้มหน้า ก้มตากินไม่มีใครคุยกันเพราะอาหารอร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัว! บรรยากาศเหมือนเรานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านกับครอบครัวอย่างไงอย่างั้นเลย อื้ม..อบอุ่นจัง ☺️😍 กินมื้อเย็นจนพุงกาง ก็จะมีธรรมเนียมอีกหนึ่งอย่างที่มาบูเดอช่าแล้วพลาดไม่ได้ คือ การนั่งผิงไฟดูดาวที่ออกมาทักทายก๊วนไบค์เกอร์กันเต็มท้องฟ้า แถมมีทางช้างเผือกมาให้ตื่นเต้นกันด้วย เป็นบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุข ที่ทำให้เราเผลอยิ้มแบบไม่รู้ตัว เพราะเสียงหัวเราะจากเพื่อนที่นั่งข้างๆและเสียงเพลงคลอเคล้าเบาๆ จากพี่โอม เจ้าของบ้าน ช่างเป็นค่ำคืนสุดหนาวเย็นแต่อบอุ่นด้วยมิตรภาพแห่งการเดินทางที่ควรจะมาลองด้วยตัวเองสักครั้ง
คลุกฝุ่นที่ "เชียงใหม่" [รูปเยอะมาก]
ทริปนี้เรามีสมาชิกก๊วนมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 5 คัน 1.ภูริ 2.เต้ ปิติศักดิ์ 3.พี่ต้น หว่อง 4.จิ๊กโก๋ 5.ป๊อก และทีมเซอร์วิสบนรถ ISUZU อีก 4 ชีวิต ที่จะมาผจญภัยด้วยกันตลอด 5 วันเต็ม กับจุดท่องเที่ยวสวยๆและเรื่องราวมากมายที่ไม่คาดคิด
Day1 เชียงใหม่-แม่แจ่ม-สะเมิง-กัลยานิวัฒนา
ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ เรามุ่งหน้าสู่ม่อนแจ่ม เพราะเราอยากขับชมวิวชิลๆ เจอจุดไหนสวยก็แวะและที่สำคัญเราอยากขับบนที่ชาวบ้านใช้กันจริงๆ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเข้าไป ทำให้เราพบกับ "อ่างเก็บน้ำคลองตอง" ที่ห่างจากม่อนแจ่มเพียง10กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมทางหลวงชนบทหมายเลข 4017 เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมาสัมผัสกับวิวสวยๆและอากาศเย็นสบายได้แบบฟินสุดๆ เห็นแบบนี้ใครจะอดใจไหวก็ต้องขอไปถ่ายรูปสักแชะ สองแชะ ยืนมองวิวเขียวๆของต้นไม้ เอาหน้าปะทะลมเย็นๆของฤดูหนาว นี่แหละ "วิถีไบค์เกอร์เจอตรงไหนสวยก็จอด อยากจอดตรงไหนก็จอด"
พิกัด : 18.955203, 98.772192
แล้วเราก็ออกเดินทางบนถนนดำที่คดเคี้ยวของอำเภอสะเมิงจนเข้าเขตอำเภอกัลยานิวัฒนา และอุปสรรคหลักๆของเราในทริปนี้คือ สภาพอากาศที่หนาวจัด เพราะเราไปในช่วง ต้นเดือนธันวาคม ที่โคตรหนาว!!!! ขนาดกรุงเทพฯยังหนาวถึง 15 องศา แล้วเราอยู่บนดอยจะเหลืออะไรละทีนี้...ทำได้แค่อดทนและขับไปให้ถึงที่พักเท่านั้น แต่กว่าจะถึงที่พักเราก็สะดุดตากับเนินดิน ใช่คุณอ่านไม่ผิด มันคือ "เนินดิน" ธรรมดาๆ ที่อยู่ริมถนนก่อนเข้าบ้านแม่แดดน้อย
เราไม่รอช้ารีบขึ้นไปสำรวจทันทีแล้วก็ได้พบกับ...วิวดีๆแบบนี้
จุดชมวิวใหม่ที่มองเห็นวิวได้ถึง 360 องศา แล้วยังมองเห็นไกลถึงยอดดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ในเมื่อมาถึงบ้านแม่แดดน้อย อำเภอกัลยานิวัฒนาทั้งทีก็ต้องมาพักที่ "Budecha บูเดอช่า บ้านใกล้ชิดดวงดาว" เป็นโฮมสเตย์เล็กๆที่เราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ทำให้เรามีความทรงจำสุดประทับใจ เพราะที่นี่จะอบอวลไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะและความเป็นกันเองเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังจากเข้าห้องพักเก็บของเสร็จ..ถึงเวลาอาหารเย็นทีมมอเตอร์ไซค์ของเราที่เดินเก็บของวนไป วนมา ไม่มากินข้าวสักที! แต่เราแอบเห็นเจ้าของบ้านและแขกที่เข้าพักในวันเดียวกัน ยืนเก้ๆ กังๆ มองมาที่พวกเรา จริงๆแล้วเราก็แอบสงสัยนะว่าทำไมเขาไม่นั่งกินข้าวกัน?? ยืนรออะไร?? แต่สุดท้ายก็ถึงบางอ้อ! ว่าทุกคนรอกินข้าวพร้อมๆกันกับเรา พอรู้ตัวเท่านั้นแหละ..พวกเราทุกคนก็รีบจัดแจงปูเสื่อนั่งล้อมวงกินข้าวกันทันที เพราะคนอื่นๆเขารอนานแล้ว 55555+ มื้อเย็นของที่นี่มีกับข้าวประมาณ 4-5 อย่าง ทุกคนก้มหน้า ก้มตากินไม่มีใครคุยกันเพราะอาหารอร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัว! บรรยากาศเหมือนเรานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านกับครอบครัวอย่างไงอย่างั้นเลย อื้ม..อบอุ่นจัง ☺️😍 กินมื้อเย็นจนพุงกาง ก็จะมีธรรมเนียมอีกหนึ่งอย่างที่มาบูเดอช่าแล้วพลาดไม่ได้ คือ การนั่งผิงไฟดูดาวที่ออกมาทักทายก๊วนไบค์เกอร์กันเต็มท้องฟ้า แถมมีทางช้างเผือกมาให้ตื่นเต้นกันด้วย เป็นบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุข ที่ทำให้เราเผลอยิ้มแบบไม่รู้ตัว เพราะเสียงหัวเราะจากเพื่อนที่นั่งข้างๆและเสียงเพลงคลอเคล้าเบาๆ จากพี่โอม เจ้าของบ้าน ช่างเป็นค่ำคืนสุดหนาวเย็นแต่อบอุ่นด้วยมิตรภาพแห่งการเดินทางที่ควรจะมาลองด้วยตัวเองสักครั้ง