เรื่องเล่าจากหอใน

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเราเรียนอยู่ปี1 ซึ่งก็คือปีที่แล้วนั่นเอง เราพักอยู่หอในหอหนึ่งของมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ
เนื่องจากคณะเราเป็นคณะที่มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คณะเรากำลังจะมีการจัดกิจกรรมดาวเดือน
โดยที่แต่ละเมเจอร์ต้องทำการแสดงเพื่อโชว์ความสามารถของดาวเดือน ทำให้ต้องเข้าหอดึกแต่ก็จะไม่เกินสี่ทุ่มเพราะหอในส่วนใหญ่จะปิดสี่ทุ่มค่ะ
ด้วยความที่หอเราเป็นหอหญิงเข้าออกได้ตลอด เราเลยขับรถไปเที่ยวเล่นแถวๆหน้ามอกับเพื่อนก่อนค่ะ จนเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าๆเราถึงแยกย้ายกับเพื่อนเข้าหอ โดยปกติแล้วเวลานี้ก็ยังมีคนเข้าออกอยู่บ้างนะคะ แต่วันนั้นนี่แทบไม่มีคนเลย หอเราจะมีสองฝั่งค่ะ สามารถเข้าได้ทั้งสองฝั่งเลย แต่ถ้าเข้าหลังสี่ทุ่มประตูจะปิดหมดต้องเข้าประตูกลาง ซึ่งจะมีป้ายามตรวจชื่ออยู่ว่าเราอยู่หอนี้จริงๆไหม จากนั้นจะมีทางเดินแยกไปแต่ละฝั่ง และจะมีประตูของแต่ละฝั่งอีกชั้นที่ต้องสแกนชิพเพื่อไปขึ้นบันไดหรือขึ้นลิฟต์ในฝั่งนั้นๆต่อ ระหว่างที่เรากำลังสแกนชิฟเพื่อผ่านประตูฝั่งเราอยู่ เราเห็นผู้หญิงใส่เสื้อสีแดงเข้มกำลังยืนรออยู่ตรงลิฟต์ เราดีใจมากที่จะมีเพื่อนขึ้นลิฟต์ด้วย เพราะบรรยากาศวันนั้นมันเงียบมากๆ เราก็ไม่ได้มองมาก พอสแกนเสร็จเราก็งงว่าเขาหายไปไหน แล้วทำไมเขาไม่กดเรียกลิฟต์ ตอนแรกเราคิดว่าหรือเขาจะไปซักผ้า เพราะเดินไปทางซ้ายอีกนิดนึงจะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ค่ะ เราเลยเดินไปดูปรากฏว่าไม่มีคน ซึ่งถ้าเขาขึ้นบันไดเราก็ต้องเห็นผ่านประตู แต่เราไม่คิดว่าเราตาฝาดนะเพราะวันนั้นเราก็ใส่แว่น สุดท้ายแล้วเราก็ขึ้นลิฟต์ไปคนเดียวด้วยความงงว่าเขาหายไปไหน ยังไม่ได้กลัวนะคะกำลังงงอยู่ เพราะเวลามันแปปเดียวจริงๆ สุดท้ายอยากจะสอบถามถึงคนที่อยู่หอเดียวกันค่ะว่าใครพอมีประสบการณ์แบบเราบ้างไหม หรือเราอาจจะคิดกลัวไปเอง ปล.ตอนนี้เราไม่ได้อยู่หอนี้แล้วนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่