สวัสดีค่ะ เราเพิ่งโดนแฟนทิ้งมา ตอนนี้ยอมรับตามตรงว่ายังทำใจไม่ได้เลย ยังโหยหาและคิดถึงเขาตลอดเวลา ถึงแม้เขาจะบอกเลิกเราและมีใหม่ไปแล้ว... จขกท อาจจะเล่าเรื่องยาวซักหน่อยนะคะ เราแค่อยากระบาย และอยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆ
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ ชีวิตของ จขกท เป็นผู้หญิงกลางคืนค่ะ ทำงานเป็น PR ร้านเหล้าในต่างจังหวัด และทำงานส่งตัวเองเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไปด้วย พบรักกับแฟนคนนี้ที่ร้านเหล้า เพราะเขาเป็นนักดนตรีที่เล่นตามร้านเหล้าเช่นกัน แฟนเราแก่กว่าเรา 5 ปีค่ะ เขาเข้ามาจีบเรา และเราได้ตกลงคบกัน แฟนเราพาเราเปิดตัวกับเพื่อนๆทุกกลุ่ม เพื่อนๆเขามีแต่คนบอกว่าเขาคงจริงจังกับเรา เพราะไม่เคยเห็นเขาพาใครมาเปิดตัวแบบนี้ได้ 2 ปีกว่าแล้ว ตั้งแต่เขาเลิกกับแฟนเก่า อาจจะมีคนคบแแก้เหงา แต่ก็ไม่เคยพามาออกสังคมแบบนี้ คบกันได้ประมาณ 3 เดือน แฟนเราก็พาเราไปเปิดตัวกับทุกคนที่บ้านเขา เราไปๆมาๆบ้านเขาอยู่บ่อย บางครั้งก็มาค้างบ้านแฟน บางทีแฟนก็มาค้างที่หอเรา จนแฟนเอ่ยปากบอกให้เราย้ายเข้ามาอยู่บ้านเขา เขาพูดอยู่หลายรอบแต่เราก็ไม่ยอม จนแม่แฟนเป็นคนเอ่ยปากบอกให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อผู้ใหญ่เป็นคนเอ่ยปากพูด เราจึงยอมย้ายเข้ามาอยู่...
เราย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟน แต่เราไม่เคยนิ่งดูดาย ทำทุกอย่างที่ช่วยทำได้ งานบ้านแทบทุกอย่างเราช่วยเขาทำหมดจนแม่แฟนแทบไม่ต้องหยิบจับอะไร จนแม่แฟนเอ่ยปากชมกับเพื่อนบ้านและใครต่อใครว่าเราขยันและเป็นผู้หญิงที่สะอาดมาก บ้านแฟนมีอาชีพค้าขายค่ะ เขาช่วยกันทั้งบ้าน เราเองก็ช่วยขายตลอด ช่วยขายจนแม่และแฟนเราแทบไม่ต้องมายืนขายด้วยซ้ำ แม่แฟน พ่อแฟน พี่ชายแฟน ดีกับเรามาก เราช่วยขายเขาก็ไม่ให้ช่วยเปล่า ยังมีให้เงินเราไว้ใช้บ้างเป็นค่าตอบแทน ครั้งละ 2-3 ร้อย แม่แฟนเขาก็พูดกับเราตรงๆว่าไม่ชอบให้เราทำอาชีพ PR ร้านเหล้าแบบนี้ เพราะอายเวลาที่คนอื่นถามว่าเราทำงานอะไร เขาก็บอกให้เราช่วยขายของ แม่กับพ่อแก่แล้วจะวางมือแล้ว แม่แฟนพูดถึงเรื่องแต่งงาน ว่าถ้าจะให้แต่งตอนนี้ก็พร้อม พี่ชายก็บอกว่าถ้าแต่งเลยพี่จะช่วยออกค่าจัดงานให้ด้วย ทุกคนเชียร์อยากให้เรามีลูกกับแฟนมากๆ เพราะแฟนเราอายุ 30 แล้ว ส่วนเราก็อายุ 25 ปีนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูลงตัว ดูโอเคและเฟอร์เฟคไปหมด ตอนนั้นเรามีความสุขมากๆ วันนึง... เจ้าของกระทู้ตัดสินใจลองไปทำงานที่สิงคโปร์ 1 เดือน ด้วยความอยากโกยเงินกลับมาเยอะๆเหมือนที่ใครๆก็พูดกัน และอยากจะกลับไปเรียนให้จบ เพราะทำงานแล้วดรอปไว้เยอะ ถึงแม้ความจริงเราจะได้กลับมาแค่หมื่นกว่าบาทก็ตาม แต่ชีวิตเราก็ยังแฮปปี้มากๆ เพราะมีแฟนและครอบครัวแฟนที่น่ารัก จนกระทั่ง... กลับมาไทย...
เรากลับมาไทยได้ 2-3 วัน แม่แฟนก็อ้างว่าเจอซินแสร่างทรงทักว่าพาเราเข้ามาอยู่ในบ้านได้ยังไง พี่ชายยังไม่ได้แต่ง น้องชายจะพาแฟนเข้ามาอยู่ไม่ได้ ไม่งั้นแม่จะป่วยหนัก วิธีแก้คือต้องใให้เราย้ายออกมาอยู่หอ เราก็เสียใจแต่ก็ต้องยอมย้ายออกแต่โดยดี แต่เราก็ไปๆมาๆ แต่ไม่ได้นอนค้างที่นั่นแล้ว ส่วนทุกคนในบ้านยกเว้นแฟนเรา ก็มีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป คือไม่เอ็นดูเราเหมือนที่เคย ทำอะไรก็ดูผิดในสายตาพวกเขาไปซะหมด วันนึงแม่แฟนเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อหน้าทุกคนว่า
"เลือกเอาแล้วกันนะ ถ้าอยากสบายก็เลือกทางนู้น แต่ถ้าอยากลำบากก็เลือกทางนี้"
เราไม่เข้าใจจึงถามกลับว่าแม่พูดถึงอะไรคะ แม่แฟนก็บอกว่า
"แม่พูดถึงแฟนพี่เขา พี่เขามีผู้หญิงคนนึงมาชอบ ผู้หญิงคนนี้เขามีตังค์ ตอนนี้เขายื่นคำขาดมาแล้วว่าให้เลือก ถ้าพี่เขาสบาย พ่อแม่ก็สบายไปด้วยนะ"
ตอนนั้นเราร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตาย ร้องไห้เหมือนคนบ้า ส่วนแฟนเราก็ไม่พูดอะไรนอกจากปลอบใจ
เรามารู้อีกว่า ความจริงเขาเริ่มรู้จักและคบกันตั้งแต่ก่อนเรากลับจากสิงคโปร์ เราถามแฟนว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเรา แฟนบอกว่าสาเหตุที่ไม่อยากบอกเพราะกลัวเสียเราไป เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น แต่ที่คบเพราะหวังแค่เรื่องเงินและหวังให้เขาลงทุนทำธุรกิจให้ เขาอยากให้เราสบาย ถ้าผู้หญิงคนนั้นลงทุนทำธุรกิจให้แล้ว เขาก็จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น เขาบอกว่ายังรักเราเหมือนเดิมและสัญญาว่าจะไม่นอกกายเราไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด เราตกลงยังคบกันเหมือนเดิม แต่แค่หลอกผู้หญิงคนนั้นว่าเราเลิกกันแล้ว แต่สุดท้าย... แฟนเราก็บอกเลิกเราอยู่ดี และมีเหตุผลใหม่ให้กับเราว่า คุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วสบายใจกว่า เขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่จู้จี้จุกจิกและไม่งี่เง่า ไม่ขี้งอนเหมือนเรา เราอ้อนวอนร้องไห้ฟูมฟายขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาก็บอกว่าพอเถอะ... มันไม่เหมือนเดิมแล้ว... แต่ก็ยังบอกว่าวันนึงพี่อาจจะรู้ตัวว่าคิดผิดก็ได้ที่ทิ้งหนู แต่กว่าจะถึงวันนั้นมันก็อาจจะสายไปแล้วพี่ก็อาจจะทำได้แค่เสียดาย ถึงแม้เขาจะบอกเลิกเรา แต่แฟนเราก็ไม่เคยหายไปไหน ยังคอยโทรหา ทักไลน์หา และมาหาเราที่หออยู่เรื่อยๆ และซื้ออะไรมาให้กินบ่อยๆ ตกลงส่งเงินให้เราใช้เดือนละ 3 พันจนกว่าเราจะมีแฟนใหม่ และเขาก็ยังขอมีอะไรด้วย เขาก็บอกว่าถึงเลิกกันเขาก็ไม่เคยนอกกายเราไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลย แต่เราก็ไม่ให้ เวลาเขามาหาที่หอเราก็ให้เจอกันแค่ข้างหน้าหอ ไม่ยอมให้เข้ามาในห้อง
ผู้หญิงคนนั้นแก่กว่าแฟนเรา 9 ปีค่ะ ทำธุรกิจส่งออก รวยระดับหลักหลายล้าน ให้เงินแฟนเราใช้รายเดือน แต่เราไม่รู้ว่าให้เท่าไหร่ และยังให้บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินมาให้แฟนเราไว้รูดใช้อีกด้วย พาไปกินอาหารดีๆ ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมให้ใช้ ซื้อแหวนทองให้ใส่ วันเกิดของแฟนเราที่ผ่านมา เขาก็ซื้อเลสข้อมือทองเป็นของขวัญให้ 3 บาท พาแฟนเราไปเที่ยว 4 ประเทศ คือ ลาว เกาหลี ฮ่องกง และดูไบ แต่เขาไม่ได้ไปกัน 2 ต่อ 2 มีเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นไปด้วยกันอีกหลายคน ตอนนี้แฟนเราดูมีความสุขและแฮปปี้กับชีวิตมาก แต่เขาก็ยังไม่ยอมหายไปจากชีวิตเรา แต่ก็ห่างกันไปพอสมควร เขาบอกว่าก็จะอยู่ดูแลเราไปเรื่อยๆแบบนี้
เราทำใจไม่ได้จริงๆ จากแฟนตัวจริงที่วางแผนอนาคตที่จะแต่งงานและมีลูกด้วยกัน ต้องกลายมาเป็นเหมือนแฟนเก็บแบบนี้ เราเองก็ยังตัดใจจากแฟนเราไม่ได้ เรารู้ตัวว่าเรายังรักเขามาก ความรู้สึกเราก็เหมือนมีอะไรบางอย่างบอกให้เรายังเชื่อว่าเขายังรักเราและให้เรารอเขา แต่อีกความรู้สึกก็เหมือว่าเขาหมดรักเราแล้วจริงๆ ครอบครัวเขาพอรู้ว่าเรายังติดต่อกัน ก็บอกให้เราเลิกยุ่งกับเขา เราควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์ครั้งนี้ดีคะ .....เจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน
เมื่อแฟนทิ้งเรา... ไปหาคนใหม่ที่รวยกว่าเรามาก
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ ชีวิตของ จขกท เป็นผู้หญิงกลางคืนค่ะ ทำงานเป็น PR ร้านเหล้าในต่างจังหวัด และทำงานส่งตัวเองเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไปด้วย พบรักกับแฟนคนนี้ที่ร้านเหล้า เพราะเขาเป็นนักดนตรีที่เล่นตามร้านเหล้าเช่นกัน แฟนเราแก่กว่าเรา 5 ปีค่ะ เขาเข้ามาจีบเรา และเราได้ตกลงคบกัน แฟนเราพาเราเปิดตัวกับเพื่อนๆทุกกลุ่ม เพื่อนๆเขามีแต่คนบอกว่าเขาคงจริงจังกับเรา เพราะไม่เคยเห็นเขาพาใครมาเปิดตัวแบบนี้ได้ 2 ปีกว่าแล้ว ตั้งแต่เขาเลิกกับแฟนเก่า อาจจะมีคนคบแแก้เหงา แต่ก็ไม่เคยพามาออกสังคมแบบนี้ คบกันได้ประมาณ 3 เดือน แฟนเราก็พาเราไปเปิดตัวกับทุกคนที่บ้านเขา เราไปๆมาๆบ้านเขาอยู่บ่อย บางครั้งก็มาค้างบ้านแฟน บางทีแฟนก็มาค้างที่หอเรา จนแฟนเอ่ยปากบอกให้เราย้ายเข้ามาอยู่บ้านเขา เขาพูดอยู่หลายรอบแต่เราก็ไม่ยอม จนแม่แฟนเป็นคนเอ่ยปากบอกให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อผู้ใหญ่เป็นคนเอ่ยปากพูด เราจึงยอมย้ายเข้ามาอยู่...
เราย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟน แต่เราไม่เคยนิ่งดูดาย ทำทุกอย่างที่ช่วยทำได้ งานบ้านแทบทุกอย่างเราช่วยเขาทำหมดจนแม่แฟนแทบไม่ต้องหยิบจับอะไร จนแม่แฟนเอ่ยปากชมกับเพื่อนบ้านและใครต่อใครว่าเราขยันและเป็นผู้หญิงที่สะอาดมาก บ้านแฟนมีอาชีพค้าขายค่ะ เขาช่วยกันทั้งบ้าน เราเองก็ช่วยขายตลอด ช่วยขายจนแม่และแฟนเราแทบไม่ต้องมายืนขายด้วยซ้ำ แม่แฟน พ่อแฟน พี่ชายแฟน ดีกับเรามาก เราช่วยขายเขาก็ไม่ให้ช่วยเปล่า ยังมีให้เงินเราไว้ใช้บ้างเป็นค่าตอบแทน ครั้งละ 2-3 ร้อย แม่แฟนเขาก็พูดกับเราตรงๆว่าไม่ชอบให้เราทำอาชีพ PR ร้านเหล้าแบบนี้ เพราะอายเวลาที่คนอื่นถามว่าเราทำงานอะไร เขาก็บอกให้เราช่วยขายของ แม่กับพ่อแก่แล้วจะวางมือแล้ว แม่แฟนพูดถึงเรื่องแต่งงาน ว่าถ้าจะให้แต่งตอนนี้ก็พร้อม พี่ชายก็บอกว่าถ้าแต่งเลยพี่จะช่วยออกค่าจัดงานให้ด้วย ทุกคนเชียร์อยากให้เรามีลูกกับแฟนมากๆ เพราะแฟนเราอายุ 30 แล้ว ส่วนเราก็อายุ 25 ปีนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูลงตัว ดูโอเคและเฟอร์เฟคไปหมด ตอนนั้นเรามีความสุขมากๆ วันนึง... เจ้าของกระทู้ตัดสินใจลองไปทำงานที่สิงคโปร์ 1 เดือน ด้วยความอยากโกยเงินกลับมาเยอะๆเหมือนที่ใครๆก็พูดกัน และอยากจะกลับไปเรียนให้จบ เพราะทำงานแล้วดรอปไว้เยอะ ถึงแม้ความจริงเราจะได้กลับมาแค่หมื่นกว่าบาทก็ตาม แต่ชีวิตเราก็ยังแฮปปี้มากๆ เพราะมีแฟนและครอบครัวแฟนที่น่ารัก จนกระทั่ง... กลับมาไทย...
เรากลับมาไทยได้ 2-3 วัน แม่แฟนก็อ้างว่าเจอซินแสร่างทรงทักว่าพาเราเข้ามาอยู่ในบ้านได้ยังไง พี่ชายยังไม่ได้แต่ง น้องชายจะพาแฟนเข้ามาอยู่ไม่ได้ ไม่งั้นแม่จะป่วยหนัก วิธีแก้คือต้องใให้เราย้ายออกมาอยู่หอ เราก็เสียใจแต่ก็ต้องยอมย้ายออกแต่โดยดี แต่เราก็ไปๆมาๆ แต่ไม่ได้นอนค้างที่นั่นแล้ว ส่วนทุกคนในบ้านยกเว้นแฟนเรา ก็มีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป คือไม่เอ็นดูเราเหมือนที่เคย ทำอะไรก็ดูผิดในสายตาพวกเขาไปซะหมด วันนึงแม่แฟนเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อหน้าทุกคนว่า
"เลือกเอาแล้วกันนะ ถ้าอยากสบายก็เลือกทางนู้น แต่ถ้าอยากลำบากก็เลือกทางนี้"
เราไม่เข้าใจจึงถามกลับว่าแม่พูดถึงอะไรคะ แม่แฟนก็บอกว่า
"แม่พูดถึงแฟนพี่เขา พี่เขามีผู้หญิงคนนึงมาชอบ ผู้หญิงคนนี้เขามีตังค์ ตอนนี้เขายื่นคำขาดมาแล้วว่าให้เลือก ถ้าพี่เขาสบาย พ่อแม่ก็สบายไปด้วยนะ"
ตอนนั้นเราร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตาย ร้องไห้เหมือนคนบ้า ส่วนแฟนเราก็ไม่พูดอะไรนอกจากปลอบใจ
เรามารู้อีกว่า ความจริงเขาเริ่มรู้จักและคบกันตั้งแต่ก่อนเรากลับจากสิงคโปร์ เราถามแฟนว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเรา แฟนบอกว่าสาเหตุที่ไม่อยากบอกเพราะกลัวเสียเราไป เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น แต่ที่คบเพราะหวังแค่เรื่องเงินและหวังให้เขาลงทุนทำธุรกิจให้ เขาอยากให้เราสบาย ถ้าผู้หญิงคนนั้นลงทุนทำธุรกิจให้แล้ว เขาก็จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น เขาบอกว่ายังรักเราเหมือนเดิมและสัญญาว่าจะไม่นอกกายเราไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด เราตกลงยังคบกันเหมือนเดิม แต่แค่หลอกผู้หญิงคนนั้นว่าเราเลิกกันแล้ว แต่สุดท้าย... แฟนเราก็บอกเลิกเราอยู่ดี และมีเหตุผลใหม่ให้กับเราว่า คุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วสบายใจกว่า เขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่จู้จี้จุกจิกและไม่งี่เง่า ไม่ขี้งอนเหมือนเรา เราอ้อนวอนร้องไห้ฟูมฟายขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาก็บอกว่าพอเถอะ... มันไม่เหมือนเดิมแล้ว... แต่ก็ยังบอกว่าวันนึงพี่อาจจะรู้ตัวว่าคิดผิดก็ได้ที่ทิ้งหนู แต่กว่าจะถึงวันนั้นมันก็อาจจะสายไปแล้วพี่ก็อาจจะทำได้แค่เสียดาย ถึงแม้เขาจะบอกเลิกเรา แต่แฟนเราก็ไม่เคยหายไปไหน ยังคอยโทรหา ทักไลน์หา และมาหาเราที่หออยู่เรื่อยๆ และซื้ออะไรมาให้กินบ่อยๆ ตกลงส่งเงินให้เราใช้เดือนละ 3 พันจนกว่าเราจะมีแฟนใหม่ และเขาก็ยังขอมีอะไรด้วย เขาก็บอกว่าถึงเลิกกันเขาก็ไม่เคยนอกกายเราไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลย แต่เราก็ไม่ให้ เวลาเขามาหาที่หอเราก็ให้เจอกันแค่ข้างหน้าหอ ไม่ยอมให้เข้ามาในห้อง
ผู้หญิงคนนั้นแก่กว่าแฟนเรา 9 ปีค่ะ ทำธุรกิจส่งออก รวยระดับหลักหลายล้าน ให้เงินแฟนเราใช้รายเดือน แต่เราไม่รู้ว่าให้เท่าไหร่ และยังให้บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินมาให้แฟนเราไว้รูดใช้อีกด้วย พาไปกินอาหารดีๆ ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมให้ใช้ ซื้อแหวนทองให้ใส่ วันเกิดของแฟนเราที่ผ่านมา เขาก็ซื้อเลสข้อมือทองเป็นของขวัญให้ 3 บาท พาแฟนเราไปเที่ยว 4 ประเทศ คือ ลาว เกาหลี ฮ่องกง และดูไบ แต่เขาไม่ได้ไปกัน 2 ต่อ 2 มีเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นไปด้วยกันอีกหลายคน ตอนนี้แฟนเราดูมีความสุขและแฮปปี้กับชีวิตมาก แต่เขาก็ยังไม่ยอมหายไปจากชีวิตเรา แต่ก็ห่างกันไปพอสมควร เขาบอกว่าก็จะอยู่ดูแลเราไปเรื่อยๆแบบนี้
เราทำใจไม่ได้จริงๆ จากแฟนตัวจริงที่วางแผนอนาคตที่จะแต่งงานและมีลูกด้วยกัน ต้องกลายมาเป็นเหมือนแฟนเก็บแบบนี้ เราเองก็ยังตัดใจจากแฟนเราไม่ได้ เรารู้ตัวว่าเรายังรักเขามาก ความรู้สึกเราก็เหมือนมีอะไรบางอย่างบอกให้เรายังเชื่อว่าเขายังรักเราและให้เรารอเขา แต่อีกความรู้สึกก็เหมือว่าเขาหมดรักเราแล้วจริงๆ ครอบครัวเขาพอรู้ว่าเรายังติดต่อกัน ก็บอกให้เราเลิกยุ่งกับเขา เราควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์ครั้งนี้ดีคะ .....เจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน