ผมขับรถยนต์ ถูกรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณีชนข้าง เรียกจนท.เคลมมาที่เกิดเหตุ สรุปรถผมเป็นฝ่ายถูก!

หลังจากนั้นผมนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ หลังจากตรวจเช็คของช่างศูนย์ จนท.ศูนย์ได้ประสานงานกับประกันประมาณว่ามีรายการอะไรบ้างที่ต้องซ่อม หลังจากนั้นจนท.ศูนย์แจ้งผมว่า บริเวณที่รถผมถูกชนจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ จนท.ศูนย์แจ้งผมต่อว่าทางประกันของผมแจ้งว่า ทางลูกค้า(หมายถึงตัวผม)ต้องเสียค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนใหม่ครึ่งนึง บวกกับค่าแรงของช่างทั้งหมด เนื่องจากรถลูกค้าใช้มาแล้ว5ปี อะไหล่ดังกล่าวมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน สรุป ต้องเสียค่าอะไหล่เองครึ่งนึง + ค่าแรงช่างทั้งหมด รวมเป็นเงิน X,XXX บาท(หลายพันบาท) ลูกค้าจะให้ซ่อมเลยหรือไม่? ผมไม่ตอบรับ ขอเวลากลับไปศึกษากรมธรรม์เงื่อนไขการรับประกันแล้วขับรถกลับทันที (รถยังพอขับได้แต่ตัวถังบุบและช่วงล่างมีเสียงดัง)

ผมกลับไปศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์และพันทิปที่เป็นเคสใกล้เคียง สุดท้ายผมได้ไปที่ คปภ. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาและร้องเรียน

จนท.คปภ.ได้ให้คำปรึกษาเป็น 2 ประเด็น คือ

ประเด็นแรก : อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนใหม่ทางประกันสามารถไม่จ่ายเต็มได้ แต่ผมก็แย้งกลับไปว่า ผมได้นำรถไปตรวจและปรึกษากับช่างใหญ่อู่นอก(ที่รู้จักกัน) ช่างใหญ่บอกว่าชิ้นส่วนอะไหล่ดังกล่าวถ้าขับตามปกติก็สามารถใช้งานได้เป็นสิบปี แล้วทำไมผมต้องมาเสียเงินก่อนเพื่อเปลี่ยนก่อนเวลาที่ถึงกำหนด

ประเด็นที่สอง : ทำไมผมต้องมาเสียค่าแรงช่างในการซ่อม100%เต็ม? แล้วผมจะมีประกันชั้น1ไปทำไม? (ผมทำประกันรถชั้น1ซ่อมห้างกับประกันจ้าวนี้ติดต่อกันมา4ปี)

ผลการเจรจาระหว่างจนท.คปภ.กับบ.ประกัน(ใช้การโทร) ตอนแรกทางประกันต่อรองให้ผมจ่าย20%แต่ผมปฏิเสธ ต่อมาต่อรองว่าจะขอเปลี่ยนอะไหล่มือสองและให้ผมเอารถไปซ่อมอู่ ผมยอมรับอะไหล่มือสองแต่ไม่ยอมรับการซ่อมอู่ เพราะผมทำประกันซ่อมห้างต้องซ่อมที่ศูนย์เท่านั้น

การเจรจาผ่านจนท.คปภ.ผ่านไป สุดท้ายประกันยอมจ่ายค่าอะไหล่ใหม่ทั้งหมด ค่าแรงทั้งหมด และซ่อมศูนย์ สรุปผมไม่ต้องจ่ายอะไรเลย

จึงนำประสบการณ์ดังกล่าวมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านครับ ต่อประกันปีหน้าผมไม่ทำกับประกันจ้าวนี้อีกแล้วครับ นี่ยังมีเรื่องเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากคู่กรณีอีกนะครับ ทางคู่กรณีไม่มีประกันซะด้วย ตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินการ ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ