เรื่องแมวกับม้า
ณ บ้านหลังเล็กๆในชานเมืองแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เลี้ยงแมวและม้าไว้ แมวนั้นมีนิสัยขี้ประจบมาก เมื่อแมวเห็นชายหนุ่มกลับมาบ้านมันมักจะคลอเคลียอยู่ใกล้ๆกับชายหนุ่มตลอดเวลา จึงทำให้ชายหนุ่มชอบแมวตัวนี้เป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าม้าเห็นก็อิจฉาอยากให้ชายหนุ่มรักและชอบมันเหมือนกับเจ้าแมว วันหนึ่งขณะที่เจ้าแมวออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้าน เจ้าม้าจึงใช้โอกาสนี้เข้าไปคลอเคลียกับชายหนุ่ม แต่ทว่าตัวของเจ้าม้านั้นตัวใหญ่มากซึ่งต่างจากเจ้าแมวที่ตัวเล็ก เลยกลายเป็นว่าเจ้าม้าทำให้ชายหนุ่มล้มลงหน้ากระแทกที่พื้นอย่างจัง ทำให้ชายหนุ่มโกรธและโมโหมันเป็นอย่างมาก เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงหยิบไม้ไล่ตีเจ้าม้าอย่างรุนแรงและไม่ยอมให้เจ้าม้านั้นเข้าใกล้ตัวเขาอีกตั้งแต่นั้นมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนที่จะเลียนแบบใครควรคิดให้ดีเสียก่อนว่าเหมาะสมกับตนหรือไม่
ด.ช.ปฐมพร สุนทรเวช ชั้น ม.๓
เรื่อง หนูกับมด
ณ ที่แห่งหนึ่งมีหนูกับมดสร้างรังซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ต่อมาไม่นานเกิดฝนตกอย่างหนักจึงทำให้รังหนูและรังมดที่อยู่ใต้ดินนั้นถูกน้ำท่วม ทำให้ฝูงมดจมน้ำตายเป็นจำนวนมากผิดกับพวกหนูที่ไม่เป็นอะไรหรือได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด พวกมดสงสัยจึงถามหนูว่า “เจ้าหนู ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดจึงทำให้พวกเจ้าถึงรอดจากน้ำท่วมรังมาได้ล่ะ ทั้งๆที่รังของข้าและรังของเจ้าก็อยู่ใกล้กัน ซึ่งมันผิดกับพวกข้าที่จมน้ำตายอยู่ในรัง” หนูจึงตอบมดไปว่า “ เหตุที่พวกข้ารอดมาจากน้ำท่วมรังได้ คือพวกข้าได้ทำทางเข้ารังไว้สองทางเมื่อมีน้ำท่วมทางใด ข้าและพวกของข้าหนีไปอยู่อาศัยในรังที่ไม่ท่วมได้ทันยังไงละ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อทำการสิ่งใดควรคิดไตร่ตรองและคิดให้รอบคอบก่อนเสีย
ควรเตรียมทางหนีทีไล่เผื่อไว้สำหรับในทุกๆ เรื่อง
ด.ช.ปฐมพร สุนทรเวช ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความพยายามของลิง
กาลครั้งหนึ่งมีครอบครัวลิงครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ ด้วยความที่ครอบครัวนี้มีลูกมากจึงทำให้ขาดแคลนอาหารและผลไม้ แม่ลิงจึงให้พ่อลิงไปหาอาหารมาให้ลูกๆกินเพื่อประทังชีวิต พ่อลิงไม่รอช้ารีบลงจากต้นไม้และเข้าไปในป่าเพื่ออาหารให้ลูก ในระหว่างที่พ่อลิงกำลังเดินทางหาอาหารอยู่ พ่อลิงก็ได้เหลือบไปเห็นต้นกล้วย ต้นกล้วยต้นนี้มีผลมากพอที่มันจะเอาไปให้ครอบครัวของมันกินได้ พ่อลิงรีบปีนขึ้นไปที่ต้นกล้วย ด้วยความสูงและความลื่นของลำต้นของต้นกล้วย จึงทำให้พ่อลิงล่วงตกลงมา แต่พ่อลิงก็ไม่ละความพยายาม พ่อลิงทำครั้งต่อหลายครั้งจนพอลิงนั้นหมดปัญญาที่จะปีน พ่อลิงจึงลองกระโดด พ่อลิงสามารถนำผลของกล้วยมาให้ลูกๆได้ พ่อลิงดีใจเป็นอย่างมาก พ่อลิงแบกกล้วยไว้ที่บ่าและรีบเดินกลับไปที่ต้นไม้อย่างมีความสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ครอบครัว
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีครอบครัวหนึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน สมาชิกในบ้านมี พ่อ แม่ และลูกอีก ๒ คน ซึ่งพ่อและแม่ของเขาติดเหล้าเมายาเป็นอย่างมาก ทำให้ลูกทั้งสองคนต้องหาเงินมาซื้อเหล้าให้พ่อและแม่ และหาเงินไปเรียนหนังสือเอง หากวันใดวันหนึ่งที่เด็กน้อยหาเงินมาซื้อเหล้าให้พ่อกับแม่ไม่ได้ ก็จะถูกพ่อแม่ทุบตี ทำร้ายอย่างหนัก เวลาที่เด็กน้อยไปโรงเรียนมักจะโดนเพื่อนๆล้อตลอดเวลา จนทำให้เด็กน้อยทั้งสองเป็นเด็กเก็บกด ต้องคอยอดทนอดกลั้นเพื่อผ่านความทุกข์นั้นไป ๑๗ ปีผ่านไป เด็กน้อยทั้งสองเติบโตขึ้น ก็เริ่มเหนื่อยล้ากับการที่ตนนั้นต้องทำงานหาเงินมาซื้อเหล้ามาให้พ่อกับแม่ และต้องโดนทำร้ายร่างกายทั้งสองจึงคิดหนีออกจากบ้านไปอยู่กับตา พ่อและแม่ของเด็กเริ่มคิดถึงเริ่มสำนึกผิดจึงได้ไปหาลูกที่บ้านตา แต่โดนตาไล่ออกจากบ้านเหตุผลนั้นเพราะกลัวเด็กน้อยจะโดนบิดามารดาของตนทำร้าย พ่อแม่ต่างเศร้าเสียใจและสัญญากับตาว่าต่อไปนี้จะไม่ทำอีก และจะเลิกจากการดื่มเหล้า หลังจากนั้นครอบครัวก็เริ่มมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การใช้กำลังกับเด็กจะทำให้เด็กกลายเป็นเด็กที่ก้าวร้าวมีนิสัยที่ไม่ดี หากครอบครัวมีสุขมีแต่รอยยิ้มก็จะทำให้เด็กมีสภาวะที่ไม่เครียดเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความโชคดีของเด็กน้อย
ถนนเส้นหนึ่งมุ่งหน้าไปทางปราสาทสีทอง ถนนเส้นนั้นมีก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งผู้คนที่เดินผ่านมักเดินข้ามเดินผ่านไป แต่เมื่อม้านั้นมาเดิน เท้าของมันได้ไปเหยียบหินก้อนนี้ทำให้เท้าของมันเจ็บเป็นอย่างมาก ทำให้เด็กน้อยที่อยู่บนหลังม้าตกลงมาได้รับความบาดเจ็บ เมื่อเด็กน้อยลุกขึ้นมาได้ก็ได้สังเกตเห็นก้อนหินก้อนนั้นเด็กน้อยจึงใช้มือขุดเอาหินออก จนมือนั้นเต็มไปด้วยเลือด แต่เด็กน้อยไม่ละความพยายาม แม้เลือดจะออกเพียงใดก็ขุดจนหินนั้นออกไปได้ เมื่อเด็กมองลงไปรูที่เขาขุดหินลงไปก็กลับพบทองคำเป็นจำนวนมาก เด็กน้อยคนนั้นดีใจมาก ละทำให้ครอบครัวของเด็กน้อยมีฐานะที่ดีขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เป็นการกระทำที่ควรปฏิบัติ
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความคิดของหงส์
มีหงส์อยู่ตัวหนึ่งมีสีขาวสะอาด เมื่อว่ายไปที่ใดต่างเป็นที่น่าจับตาของทุกสายตา แต่แล้ววันหนึ่งหงส์ได้ไปทำกระทำความผิดอย่างร้ายแรง ทำให้ไม่กล้ากลับไปสู้หน้ากับครอบครัวของตน เพราะจะทำให้ครอบครัวของตนนั้นเสื่อมเสีย อับอาย ขายหน้าคนอื่นจึงได้หนีไปอยู่ที่แม่น้ำสายหนึ่ง ชื่อแม่น้ำอโนมา หงส์ได้เจอกับนางฟ้า หงส์จึงระบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้นางฟ้าได้ฟัง นางฟ้าจึงพูดกับหงส์ว่า “เจ้าจงกลับไปหาครอบครัวเสียเถิด ไม่ว่าเจ้าจะทำการสิ่งใดผิดหรือร้ายแรงแค่ไหน ครอบครัวก็พร้อมที่จะยืนมือเข้ามาช่วยเจ้าเสมอ ถึงแม้เจ้าจะทำเรื่องเสื่อมเสียถึงแม้จะอับอาย แต่เจ้าคือลูก เจ้าคือคนในครอบครัว พวกเค้าไม่เคยทิ้งเจ้าไปไหนหรอกนะ” เมื่อหงส์ได้ฟังนางฟ้าพูดก็คิดได้รีบกลับไปหาครอบครัว ครอบครัวของหงส์ดีใจเป็นอย่างมากและไม่ได้ถามเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับพูดปลอบใจหงส์แทน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะดีจะเลว จะมีปัญหาหนักหนาแค่ไหน ครอบครัวก็พร้อมที่จะช่วยเสมอ
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง เด็กชายกับเด็กชายมิตร
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีเด็กชายสองคนชื่อพลและมิตร ซึ่งพลและมิตรนั้นไม่ถูกกัน เมื่อใดหรือเวลาใดที่เจอหน้ามักจะมีปัญหากันเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อแม่ของพลและมิตรได้นั่งจับเข่าปรึกษาหารือกัน เพราะอยากให้พลกับมิตรนั้นรักใคร่เป็นมิตรที่ดีต่อกัน พ่อของพลจึงออกกลอุบายหลอกล่อให้พลและมิตรมาอยู่ในห้องเดียวกัน และล็อคประตูไว้ พลและมิตรต่างพยายามที่จะหนีออกแต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ ทั้งสองได้แต่เงียบใส่กัน จนพลเริ่มชวนมิตรคุยถึงเรื่องต่างๆนานาน และสาเหตุที่ทำให้ตนไม่ชอบเด็กสองต่างขอโทษที่ทำไม่ดีใส่กัน และเด็กทั้งสองก็สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมีไรจะหันหน้าคุยกัยเสมอ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การให้อภัยซึ่งกันและกันเป็นคุณธรรมที่ดีที่สุด
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความผิดของนก
ณ ป่าแห่งหนึ่งมีนกตัวหนึ่งกำลังบินอยู่ท้องฟ้าเพื่อหาอาหาร ไม่นานนักระหว่างที่มันบินมันได้ไปเห็นแม่หนูตัวหนึ่งกำลังวิ่งกลับรัง นกจึงรีบบินไปโฉบแม่หนูขึ้นมาแล้วบินกลับรังนกอย่างรวดเร็ว เมื่อมันไปถึงรังมันปล่อยแม่หนูลงอย่างแรง แต่แม่หนูก็ลุกขึ้นมาได้ ละได้ขอร้องและอ้อนวอนให้นกนั้นปล่อยแม่หนูไปเพราะตนมีลูกน้อยที่กำลังหิวโซ ด้วยความหิวของนก นกไม่สนใจคำพูดของแม่หนู มันจับแม่หนูกิน และไม่นานมันก็ได้ยินเสียงลูกหนูร้อง นกตกใจเป็นอย่างมาก จะปลุกแม่หนูเสียก็ไม่ทันเพราะแม่หนู่นั้นตายแล้ว นกสำนึกผิดจึงไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกหนูฟัง และขอรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำไปโดยการเลี้ยงดูลูกหนูนั้นแทนแม่หนู
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การสำนึกผิดกับความผิดที่ตนทำลงไปเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่อทำการกระทำนั้นๆ
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ลาภหายเพราะความโลภ
มีนายพรานคนหนึ่งมีอาชีพล่าสัตว์ไปให้แม่ค้าพ่อค้าในตลาดขาย ซึ่งในทุกๆวันเขาจะไปล่าสัตว์ แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งฝนเกิดตกจนไม่สามารถไปล่าสัตว์ได้ นายพรานจึงนอนหลบฝนอยู่ในบ้าน ทันใดนั้นก็มีเทพปรากฎตัวขึ้น นายพรานตกใจอย่างมากที่ได้พบเทพ นายพรานจึงถามเทพว่า “เพราะเหตุใดหรือ ท่านถึงมาอยู่ในที่นี้” เทพจึงตอบไปว่า “ ข้าอยากให้เจ้าเปลี่ยนอาชีพน่ะซี้ ข้าเห็นเจ้าฆ่าสัตว์ มันจะไปเป็นบาปแกตัวเจ้านะ ถ้าเจ้าเลิกฆ่าสัตว์ได้ ข้าจะให้ทองเจ้า เจ้าสนใจไหม” ด้วยความโลภของนายพราน เขาจึงตอบไปว่า “ ข้าน่ะเลิกฆ่าสัตว์ให้ท่านได้ หากท่านเพิ่มเพชร พลอย นิล ให้กับข้า” เทพได้ยินก็โกรธเป็นอย่างมากจึงหายไปทันที เป็นเหตุทำให้นายพรานต้องทำงานล่าสัตว์เหมือนเดิม
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โลภมากลาภหาย
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง น้ำตาล
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อน้ำตาล น้ำตาลเป็นเด็กเรียบร้อย เรียนดี ตั้งใจเรียน เป็นอย่างมาก ทุกๆวันเมื่อคุณครูให้การบ้านไปทำ น้ำตาลมักจะมีมาส่งก่อนเพื่อนๆเสมอ วันหนึ่งคุณครูสมใจได้ให้เด็กๆในห้องของน้ำตาลสอบวิชาภาษาไทยจำนวน๒๐ข้อ วุ้นเส้นและน้อยหน่าทุจริตในการสอบโดยการลอกข้อสอบกันจึงทำให้โดนกาหัวข้อสอบ เมื่อผลคะแนนออกมาปรกฎว่า น้ำตาลสอบได้ที่หนึ่งของห้อง น้ำตาลให้คติเตือนตนเองเสมอว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดตนจะซื่อสัตย์กับสิ่งนั้นตลอด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความซื่อสัตย์เป็นสัตย์ให้แก่ตนเอง
นิทานเรื่อง ชายหนุ่มกับความประมาท
ชายหนุ่มคนหนึ่งมุ่งมั่นทำงาน ตั้งใจเก็บเงินอย่างมากจนเขานั้นมีเงินเก็บจำนวนมาก เขานำเงินไปสร้างบ้านหลังใหญ่โต มโหราฬ และจ้างคนจำนวนมากมาคอยดูแล เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงิน ใช้เงินฟุ่มเฟื่อย เที่ยวไปวันๆ ในทื่สุดเงินก็ค่อยๆ หมดไปบริวารก็หนีหาย จนต้องนำบ้านและรถไปขายเพื่อไปใช้หนี้ เขาได้แต่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแต่มันก็สายไปแล้วชีวิตที่เหลืออยู่จึงทำให้เขาอยู่อย่างลำบาก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
นิทานเรื่อง ฝูงกระต่ายกับสิงโต
วันหนึ่งสัตว์ทั้งหลายออกมาประชุมกันในป่า กระต่ายฝูงหนึ่งจึงเสนอในที่ประชุมว่า “สัตว์ทุกตัวในป่าควรได้รับความเสมอภาค ไม่ควรมีใครใหญ่กว่าใครหรือมีอำนาจเหนือคนอื่น” เมื่อสิงโตได้ยินฝูงกระต่ายพูดเช่นนั้น ก็พูดกลับมาว่า “ข้าก็เห็นด้วยกับเจ้านะ แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่มีกรงเล็บและเขี้ยวที่แหลมคมเหมือนกับพวกข้ามี”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่อ่อนแอกว่ามักเสียเปรียบเสมอ
นิทานเรื่อง อีกากับความซุ่มซ่าม
นายพรานจับกาได้ตัวหนึ่ง เข้าจึงใช้เชือกผูกขาของมันไว้แล้วหิ้วมันกลับไปฝากลูกๆ กาฉวยโอกาสตอนที่ลูกนายพรานเผลอแอบบินหนีไป เมื่อมันบินมาจนใกล้จะถึงรังเชือกที่นายพรานผูกขามันไว้ไปพันเข้ากับกิ่งไม้ มันดิ้นเท่าไหร่เชือกก็ไม่หลุด ขณะที่มันกำลังจะตายมันได้แต่บ่นกับตัวเองว่า “ข้ามันโง่เสียจริง หนีจากการเป็นอาหารของมนุษย์มาได้แล้ว แต่กลับต้องมาตายเพราะความซุ่มซ่ามของตัวเอง”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรใช้สติในการแก้ปัญหา
นิทานเรื่อง ชายหนุ่มกับเด็กน้อย
เด็กน้อยคนหนึ่งกระโดดลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำอย่างสนุกสนาน พอเล่นไปสักพักกระแสน้ำไหลแรงไหลเชี่ยว เด็กน้อยว่ายน้ำต้านแรงน้ำไม่ไหวจึงร้องขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นก็ชายแก่คนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี เข้ามาต่อว่าเด็กน้อยว่า “ไอเด็กบ้า กระแสน้ำแรงขนาดนั้น จะลงไปว่ายน้ำคนเดียวทำไมกัน” เด็กน้อยจึงตะโดนกับมาว่า “ก่อนที่ลุงจะว่าผม ลุงช่วยผมขึ้นจากน้ำก่อนได้ไหม ผมจะจมน้ำตายอยู่แล้ว”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อผู้อื่นเดือดร้อนอย่าเอาแต่ตำหนิอย่างเดียว แต่จงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
นิทานที่เราแต่งเราแต่งโอเคไหม เราต้องทำโครงงานส่งครู #แนะนำติชมได้น้า
ณ บ้านหลังเล็กๆในชานเมืองแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เลี้ยงแมวและม้าไว้ แมวนั้นมีนิสัยขี้ประจบมาก เมื่อแมวเห็นชายหนุ่มกลับมาบ้านมันมักจะคลอเคลียอยู่ใกล้ๆกับชายหนุ่มตลอดเวลา จึงทำให้ชายหนุ่มชอบแมวตัวนี้เป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าม้าเห็นก็อิจฉาอยากให้ชายหนุ่มรักและชอบมันเหมือนกับเจ้าแมว วันหนึ่งขณะที่เจ้าแมวออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้าน เจ้าม้าจึงใช้โอกาสนี้เข้าไปคลอเคลียกับชายหนุ่ม แต่ทว่าตัวของเจ้าม้านั้นตัวใหญ่มากซึ่งต่างจากเจ้าแมวที่ตัวเล็ก เลยกลายเป็นว่าเจ้าม้าทำให้ชายหนุ่มล้มลงหน้ากระแทกที่พื้นอย่างจัง ทำให้ชายหนุ่มโกรธและโมโหมันเป็นอย่างมาก เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงหยิบไม้ไล่ตีเจ้าม้าอย่างรุนแรงและไม่ยอมให้เจ้าม้านั้นเข้าใกล้ตัวเขาอีกตั้งแต่นั้นมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนที่จะเลียนแบบใครควรคิดให้ดีเสียก่อนว่าเหมาะสมกับตนหรือไม่
ด.ช.ปฐมพร สุนทรเวช ชั้น ม.๓
เรื่อง หนูกับมด
ณ ที่แห่งหนึ่งมีหนูกับมดสร้างรังซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ต่อมาไม่นานเกิดฝนตกอย่างหนักจึงทำให้รังหนูและรังมดที่อยู่ใต้ดินนั้นถูกน้ำท่วม ทำให้ฝูงมดจมน้ำตายเป็นจำนวนมากผิดกับพวกหนูที่ไม่เป็นอะไรหรือได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด พวกมดสงสัยจึงถามหนูว่า “เจ้าหนู ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดจึงทำให้พวกเจ้าถึงรอดจากน้ำท่วมรังมาได้ล่ะ ทั้งๆที่รังของข้าและรังของเจ้าก็อยู่ใกล้กัน ซึ่งมันผิดกับพวกข้าที่จมน้ำตายอยู่ในรัง” หนูจึงตอบมดไปว่า “ เหตุที่พวกข้ารอดมาจากน้ำท่วมรังได้ คือพวกข้าได้ทำทางเข้ารังไว้สองทางเมื่อมีน้ำท่วมทางใด ข้าและพวกของข้าหนีไปอยู่อาศัยในรังที่ไม่ท่วมได้ทันยังไงละ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อทำการสิ่งใดควรคิดไตร่ตรองและคิดให้รอบคอบก่อนเสีย
ควรเตรียมทางหนีทีไล่เผื่อไว้สำหรับในทุกๆ เรื่อง
ด.ช.ปฐมพร สุนทรเวช ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความพยายามของลิง
กาลครั้งหนึ่งมีครอบครัวลิงครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ ด้วยความที่ครอบครัวนี้มีลูกมากจึงทำให้ขาดแคลนอาหารและผลไม้ แม่ลิงจึงให้พ่อลิงไปหาอาหารมาให้ลูกๆกินเพื่อประทังชีวิต พ่อลิงไม่รอช้ารีบลงจากต้นไม้และเข้าไปในป่าเพื่ออาหารให้ลูก ในระหว่างที่พ่อลิงกำลังเดินทางหาอาหารอยู่ พ่อลิงก็ได้เหลือบไปเห็นต้นกล้วย ต้นกล้วยต้นนี้มีผลมากพอที่มันจะเอาไปให้ครอบครัวของมันกินได้ พ่อลิงรีบปีนขึ้นไปที่ต้นกล้วย ด้วยความสูงและความลื่นของลำต้นของต้นกล้วย จึงทำให้พ่อลิงล่วงตกลงมา แต่พ่อลิงก็ไม่ละความพยายาม พ่อลิงทำครั้งต่อหลายครั้งจนพอลิงนั้นหมดปัญญาที่จะปีน พ่อลิงจึงลองกระโดด พ่อลิงสามารถนำผลของกล้วยมาให้ลูกๆได้ พ่อลิงดีใจเป็นอย่างมาก พ่อลิงแบกกล้วยไว้ที่บ่าและรีบเดินกลับไปที่ต้นไม้อย่างมีความสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ครอบครัว
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีครอบครัวหนึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน สมาชิกในบ้านมี พ่อ แม่ และลูกอีก ๒ คน ซึ่งพ่อและแม่ของเขาติดเหล้าเมายาเป็นอย่างมาก ทำให้ลูกทั้งสองคนต้องหาเงินมาซื้อเหล้าให้พ่อและแม่ และหาเงินไปเรียนหนังสือเอง หากวันใดวันหนึ่งที่เด็กน้อยหาเงินมาซื้อเหล้าให้พ่อกับแม่ไม่ได้ ก็จะถูกพ่อแม่ทุบตี ทำร้ายอย่างหนัก เวลาที่เด็กน้อยไปโรงเรียนมักจะโดนเพื่อนๆล้อตลอดเวลา จนทำให้เด็กน้อยทั้งสองเป็นเด็กเก็บกด ต้องคอยอดทนอดกลั้นเพื่อผ่านความทุกข์นั้นไป ๑๗ ปีผ่านไป เด็กน้อยทั้งสองเติบโตขึ้น ก็เริ่มเหนื่อยล้ากับการที่ตนนั้นต้องทำงานหาเงินมาซื้อเหล้ามาให้พ่อกับแม่ และต้องโดนทำร้ายร่างกายทั้งสองจึงคิดหนีออกจากบ้านไปอยู่กับตา พ่อและแม่ของเด็กเริ่มคิดถึงเริ่มสำนึกผิดจึงได้ไปหาลูกที่บ้านตา แต่โดนตาไล่ออกจากบ้านเหตุผลนั้นเพราะกลัวเด็กน้อยจะโดนบิดามารดาของตนทำร้าย พ่อแม่ต่างเศร้าเสียใจและสัญญากับตาว่าต่อไปนี้จะไม่ทำอีก และจะเลิกจากการดื่มเหล้า หลังจากนั้นครอบครัวก็เริ่มมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การใช้กำลังกับเด็กจะทำให้เด็กกลายเป็นเด็กที่ก้าวร้าวมีนิสัยที่ไม่ดี หากครอบครัวมีสุขมีแต่รอยยิ้มก็จะทำให้เด็กมีสภาวะที่ไม่เครียดเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความโชคดีของเด็กน้อย
ถนนเส้นหนึ่งมุ่งหน้าไปทางปราสาทสีทอง ถนนเส้นนั้นมีก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งผู้คนที่เดินผ่านมักเดินข้ามเดินผ่านไป แต่เมื่อม้านั้นมาเดิน เท้าของมันได้ไปเหยียบหินก้อนนี้ทำให้เท้าของมันเจ็บเป็นอย่างมาก ทำให้เด็กน้อยที่อยู่บนหลังม้าตกลงมาได้รับความบาดเจ็บ เมื่อเด็กน้อยลุกขึ้นมาได้ก็ได้สังเกตเห็นก้อนหินก้อนนั้นเด็กน้อยจึงใช้มือขุดเอาหินออก จนมือนั้นเต็มไปด้วยเลือด แต่เด็กน้อยไม่ละความพยายาม แม้เลือดจะออกเพียงใดก็ขุดจนหินนั้นออกไปได้ เมื่อเด็กมองลงไปรูที่เขาขุดหินลงไปก็กลับพบทองคำเป็นจำนวนมาก เด็กน้อยคนนั้นดีใจมาก ละทำให้ครอบครัวของเด็กน้อยมีฐานะที่ดีขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เป็นการกระทำที่ควรปฏิบัติ
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความคิดของหงส์
มีหงส์อยู่ตัวหนึ่งมีสีขาวสะอาด เมื่อว่ายไปที่ใดต่างเป็นที่น่าจับตาของทุกสายตา แต่แล้ววันหนึ่งหงส์ได้ไปทำกระทำความผิดอย่างร้ายแรง ทำให้ไม่กล้ากลับไปสู้หน้ากับครอบครัวของตน เพราะจะทำให้ครอบครัวของตนนั้นเสื่อมเสีย อับอาย ขายหน้าคนอื่นจึงได้หนีไปอยู่ที่แม่น้ำสายหนึ่ง ชื่อแม่น้ำอโนมา หงส์ได้เจอกับนางฟ้า หงส์จึงระบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้นางฟ้าได้ฟัง นางฟ้าจึงพูดกับหงส์ว่า “เจ้าจงกลับไปหาครอบครัวเสียเถิด ไม่ว่าเจ้าจะทำการสิ่งใดผิดหรือร้ายแรงแค่ไหน ครอบครัวก็พร้อมที่จะยืนมือเข้ามาช่วยเจ้าเสมอ ถึงแม้เจ้าจะทำเรื่องเสื่อมเสียถึงแม้จะอับอาย แต่เจ้าคือลูก เจ้าคือคนในครอบครัว พวกเค้าไม่เคยทิ้งเจ้าไปไหนหรอกนะ” เมื่อหงส์ได้ฟังนางฟ้าพูดก็คิดได้รีบกลับไปหาครอบครัว ครอบครัวของหงส์ดีใจเป็นอย่างมากและไม่ได้ถามเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับพูดปลอบใจหงส์แทน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะดีจะเลว จะมีปัญหาหนักหนาแค่ไหน ครอบครัวก็พร้อมที่จะช่วยเสมอ
ด.ช.ธีรวัฒน์ สารธร ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง เด็กชายกับเด็กชายมิตร
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีเด็กชายสองคนชื่อพลและมิตร ซึ่งพลและมิตรนั้นไม่ถูกกัน เมื่อใดหรือเวลาใดที่เจอหน้ามักจะมีปัญหากันเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อแม่ของพลและมิตรได้นั่งจับเข่าปรึกษาหารือกัน เพราะอยากให้พลกับมิตรนั้นรักใคร่เป็นมิตรที่ดีต่อกัน พ่อของพลจึงออกกลอุบายหลอกล่อให้พลและมิตรมาอยู่ในห้องเดียวกัน และล็อคประตูไว้ พลและมิตรต่างพยายามที่จะหนีออกแต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ ทั้งสองได้แต่เงียบใส่กัน จนพลเริ่มชวนมิตรคุยถึงเรื่องต่างๆนานาน และสาเหตุที่ทำให้ตนไม่ชอบเด็กสองต่างขอโทษที่ทำไม่ดีใส่กัน และเด็กทั้งสองก็สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมีไรจะหันหน้าคุยกัยเสมอ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การให้อภัยซึ่งกันและกันเป็นคุณธรรมที่ดีที่สุด
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ความผิดของนก
ณ ป่าแห่งหนึ่งมีนกตัวหนึ่งกำลังบินอยู่ท้องฟ้าเพื่อหาอาหาร ไม่นานนักระหว่างที่มันบินมันได้ไปเห็นแม่หนูตัวหนึ่งกำลังวิ่งกลับรัง นกจึงรีบบินไปโฉบแม่หนูขึ้นมาแล้วบินกลับรังนกอย่างรวดเร็ว เมื่อมันไปถึงรังมันปล่อยแม่หนูลงอย่างแรง แต่แม่หนูก็ลุกขึ้นมาได้ ละได้ขอร้องและอ้อนวอนให้นกนั้นปล่อยแม่หนูไปเพราะตนมีลูกน้อยที่กำลังหิวโซ ด้วยความหิวของนก นกไม่สนใจคำพูดของแม่หนู มันจับแม่หนูกิน และไม่นานมันก็ได้ยินเสียงลูกหนูร้อง นกตกใจเป็นอย่างมาก จะปลุกแม่หนูเสียก็ไม่ทันเพราะแม่หนู่นั้นตายแล้ว นกสำนึกผิดจึงไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกหนูฟัง และขอรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำไปโดยการเลี้ยงดูลูกหนูนั้นแทนแม่หนู
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การสำนึกผิดกับความผิดที่ตนทำลงไปเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่อทำการกระทำนั้นๆ
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง ลาภหายเพราะความโลภ
มีนายพรานคนหนึ่งมีอาชีพล่าสัตว์ไปให้แม่ค้าพ่อค้าในตลาดขาย ซึ่งในทุกๆวันเขาจะไปล่าสัตว์ แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งฝนเกิดตกจนไม่สามารถไปล่าสัตว์ได้ นายพรานจึงนอนหลบฝนอยู่ในบ้าน ทันใดนั้นก็มีเทพปรากฎตัวขึ้น นายพรานตกใจอย่างมากที่ได้พบเทพ นายพรานจึงถามเทพว่า “เพราะเหตุใดหรือ ท่านถึงมาอยู่ในที่นี้” เทพจึงตอบไปว่า “ ข้าอยากให้เจ้าเปลี่ยนอาชีพน่ะซี้ ข้าเห็นเจ้าฆ่าสัตว์ มันจะไปเป็นบาปแกตัวเจ้านะ ถ้าเจ้าเลิกฆ่าสัตว์ได้ ข้าจะให้ทองเจ้า เจ้าสนใจไหม” ด้วยความโลภของนายพราน เขาจึงตอบไปว่า “ ข้าน่ะเลิกฆ่าสัตว์ให้ท่านได้ หากท่านเพิ่มเพชร พลอย นิล ให้กับข้า” เทพได้ยินก็โกรธเป็นอย่างมากจึงหายไปทันที เป็นเหตุทำให้นายพรานต้องทำงานล่าสัตว์เหมือนเดิม
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โลภมากลาภหาย
ด.ญ.นฤมล สำเร็จผล ชั้น ม.๓
นิทานเรื่อง น้ำตาล
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อน้ำตาล น้ำตาลเป็นเด็กเรียบร้อย เรียนดี ตั้งใจเรียน เป็นอย่างมาก ทุกๆวันเมื่อคุณครูให้การบ้านไปทำ น้ำตาลมักจะมีมาส่งก่อนเพื่อนๆเสมอ วันหนึ่งคุณครูสมใจได้ให้เด็กๆในห้องของน้ำตาลสอบวิชาภาษาไทยจำนวน๒๐ข้อ วุ้นเส้นและน้อยหน่าทุจริตในการสอบโดยการลอกข้อสอบกันจึงทำให้โดนกาหัวข้อสอบ เมื่อผลคะแนนออกมาปรกฎว่า น้ำตาลสอบได้ที่หนึ่งของห้อง น้ำตาลให้คติเตือนตนเองเสมอว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดตนจะซื่อสัตย์กับสิ่งนั้นตลอด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความซื่อสัตย์เป็นสัตย์ให้แก่ตนเอง
นิทานเรื่อง ชายหนุ่มกับความประมาท
ชายหนุ่มคนหนึ่งมุ่งมั่นทำงาน ตั้งใจเก็บเงินอย่างมากจนเขานั้นมีเงินเก็บจำนวนมาก เขานำเงินไปสร้างบ้านหลังใหญ่โต มโหราฬ และจ้างคนจำนวนมากมาคอยดูแล เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงิน ใช้เงินฟุ่มเฟื่อย เที่ยวไปวันๆ ในทื่สุดเงินก็ค่อยๆ หมดไปบริวารก็หนีหาย จนต้องนำบ้านและรถไปขายเพื่อไปใช้หนี้ เขาได้แต่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแต่มันก็สายไปแล้วชีวิตที่เหลืออยู่จึงทำให้เขาอยู่อย่างลำบาก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
นิทานเรื่อง ฝูงกระต่ายกับสิงโต
วันหนึ่งสัตว์ทั้งหลายออกมาประชุมกันในป่า กระต่ายฝูงหนึ่งจึงเสนอในที่ประชุมว่า “สัตว์ทุกตัวในป่าควรได้รับความเสมอภาค ไม่ควรมีใครใหญ่กว่าใครหรือมีอำนาจเหนือคนอื่น” เมื่อสิงโตได้ยินฝูงกระต่ายพูดเช่นนั้น ก็พูดกลับมาว่า “ข้าก็เห็นด้วยกับเจ้านะ แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่มีกรงเล็บและเขี้ยวที่แหลมคมเหมือนกับพวกข้ามี”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่อ่อนแอกว่ามักเสียเปรียบเสมอ
นิทานเรื่อง อีกากับความซุ่มซ่าม
นายพรานจับกาได้ตัวหนึ่ง เข้าจึงใช้เชือกผูกขาของมันไว้แล้วหิ้วมันกลับไปฝากลูกๆ กาฉวยโอกาสตอนที่ลูกนายพรานเผลอแอบบินหนีไป เมื่อมันบินมาจนใกล้จะถึงรังเชือกที่นายพรานผูกขามันไว้ไปพันเข้ากับกิ่งไม้ มันดิ้นเท่าไหร่เชือกก็ไม่หลุด ขณะที่มันกำลังจะตายมันได้แต่บ่นกับตัวเองว่า “ข้ามันโง่เสียจริง หนีจากการเป็นอาหารของมนุษย์มาได้แล้ว แต่กลับต้องมาตายเพราะความซุ่มซ่ามของตัวเอง”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรใช้สติในการแก้ปัญหา
นิทานเรื่อง ชายหนุ่มกับเด็กน้อย
เด็กน้อยคนหนึ่งกระโดดลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำอย่างสนุกสนาน พอเล่นไปสักพักกระแสน้ำไหลแรงไหลเชี่ยว เด็กน้อยว่ายน้ำต้านแรงน้ำไม่ไหวจึงร้องขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นก็ชายแก่คนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี เข้ามาต่อว่าเด็กน้อยว่า “ไอเด็กบ้า กระแสน้ำแรงขนาดนั้น จะลงไปว่ายน้ำคนเดียวทำไมกัน” เด็กน้อยจึงตะโดนกับมาว่า “ก่อนที่ลุงจะว่าผม ลุงช่วยผมขึ้นจากน้ำก่อนได้ไหม ผมจะจมน้ำตายอยู่แล้ว”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อผู้อื่นเดือดร้อนอย่าเอาแต่ตำหนิอย่างเดียว แต่จงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ