หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Slowlife อุทัยธานี 2วัน1คืน ฉบับ สว.Travel
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
หลาย ๆ คนคงจะเหมือนเราที่อุทัยธานีอาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางในการเดินทางท่องเที่ยว แต่ทริปนี้ได้มีโอกาสพาเพื่อนรักซึ่งเดินทางมาจากทางภาคใต้เที่ยว เราจึงมีระยะเวลาสั้น ๆ และไม่ไกลกรุงเทพฯนัก กาญจนบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี เราไปมาหมดแล้วยกเว้น อุทัยธานี ตอนนั้นมองว่าเมืองนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เหมือนเมืองผ่านซะมากกว่า แต่เอาเข้าจริง ๆ ทำเอาอยากไปอีกซะด้วยซ้ำ
ต้องบอกก่อนว่า lifestyle การเที่ยวของเรา ไม่ว่าจะเป็นเมืองไทย เมืองนอก เราเน้นความสะดวกสบาย ทั้งการกิน และการเดินทาง ไม่ต้องรีบเร่งทำกิจกรรม หรือเที่ยว ไปได้แค่ไหนแค่นั้น (เพราะจขกท.สูงวัยแล้วจ้า)
Day 1
เราใช้รถส่วนตัวออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 07.00 น. มุ่งหน้านครสวรรค์ โดยใช้ถนนสายเอเซีย (หมายเลข32) ผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท จนถึงทางแยกมีป้ายบอกทางเข้าจังหวัดอุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข333)
จุดหมายแรกที่เราไปคือวัดท่าซุง ชมวิหารแก้วที่โดดเด่นและสวยงามภายในสร้างด้วยโมเสก สีขาว ใสเหมือนแก้วงามระยิบระยับ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาสังขาร่างของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว วิหารแก้วจะเปิดให้ชมเป็นช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 9.00-11.45 น .และช่วงบ่าย 14.00-16.00 น.
ออกจากวัดท่าซุง แวะร้านอาหารริมแม่น้ำสะแกกรัง ชมวิว-ชิมปลาแรด หลากหลายเมนู ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอุทัยธานี ที่มาเยือนแล้วต้องลองชิมซักครั้ง แต่บังเอิญว่า ร้านที่เราไปเอาปลาแรดที่ทอดค้างไว้มาทอดให้เรากิน หนังเหนียวและเหม็นคาวมาก เป็นอันว่าไม่ประทับใจเท่าไหร่ แนะนำให้หาร้านที่รีวิวดี ๆ เพราะความหิวเราเลยไม่ได้เลือกร้านอร่อย ๆ (แอบเสียดาย)
อิ่มแล้วเราเข้าเช็คอินที่โรงแรมพิบูลย์สุข ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะตั้งอยู่ในเมือง ห่างตลาดเช้า และถนนคนเดิน ประมาณ 200 เมตร มีร้าน 7-11 อยู่ใกล้ ๆ มีรถจักรยานให้เช่า 20 บาท มีที่จอดรถด้านหลังโรงแรม แต่บอกไว้ก่อนว่าโรงแรมนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบที่นอนแข็ง ๆ นะ 555 แต่พนักงานบริการดีมากจ้า
เช็คอินเสร็จแล้ว ข้ามถนนหน้าโรงแรมไปจิบกาแฟ กินขนมปังเย็น ถ่ายรูปชิลล์ ๆ ที่ร้านจงรัก (ร้านนี้อยู่ตรงข้ามโรงแรมพิบูลย์สุข) ชั้น 2 ของร้านมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าให้ชมฟรี ๆ เจ้าของร้านใจดีรวบรวมของเก่าตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมาให้เราชม พร้อมเป็นไกด์แนะนำข้อมูลให้อีก
อิ่มเอมกับของเก่าแล้วไปเที่ยววัดสังกัสรัตนคีรี วัดที่อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง เราสามารถเดินผ่านบันได 449 ขั้น ขึ้นสู่ยอดเขาชมวิวเมืองอุทัยกันได้ที่นี่ แนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ แต่เราขอชมบันไดวัดละกันขึ้นไม่ไหวจริง ๆ เพราะสังขารไม่อำนวย 555
ภาพถ่ายจากวัดอุโปสถารามสามารถมองเห็นวัดสังกัสรัตนคีรีที่อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง
ช่วงเย็นนำรถกลับมาจอดไว้ที่โรงแรม เพื่อหาอาหารเย็นรับประทานที่ถนนคนเดินตรอกโรงยา แต่ระหว่างทางเจอร้านนี้ซะก่อน ก็เลยสั่งไอติมรับประทานเรียกน้ำย่อยกันคนละถ้วย
ชิมไอติมเสร็จ เราเดินต่อไปที่ถนนคนเดินตรอกโรงยา ตลาดถนนคนเดินที่นี่มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็น ของกินเยอะมาก จบวันที่ 1 ของทริปคนสูงวัยแบบเรา ด้วยบรรยากาศถนนคนเดิน
Day 2
เราตื่นกันแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไปตักบาตรที่ตลาดเช้า และปล่อยปลาดุกลงแม่น้ำสะแกกรัง (หาซื้อปลาจากแม่ค้าที่เค้านำมาขายในตลาด เป็นการช่วยชีวิตสัตว์, อาหารใส่บาตร+ดอกไม้ถวายพระมีขายที่ตลาดทั้งหมด เตรียมแต่เงินไปก็พอจ้า) ตลาดเช้าอยู่ใกล้ ๆ ถนนคนเดินตรอกโรงยานั่นแหละเดินประมาณ 200 เมตรจากโรงแรม
หลังทำบุญเสร็จ นั่งจิบกาแฟร้านภูผากาแฟ ชมตลาดเช้า ข้ามสะพานไปชมวัดอุโปสถาราม ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดเช้า หรือใครจะปั่นจักรยานชมวิวเลียบแม่น้ำสะแกกรังก็ไม่ว่ากัน ได้ออกกำลังกายพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ (ขอแผนที่เส้นทางปั่นจักรยานได้ที่โรงแรมเลยจ้า)
ได้เวลากลับกรุงเทพฯแล้ว เช็คเอ้าท์โรงแรม ขับรถมุ่งหน้ากรุงเทพฯ แวะกินมื้อเที่ยงและซื้อของฝากที่ร้านสปัจน์ ริมถนนสายเอเซีย
สายช๊อป ต้องแวะ Flynow outlet สิงห์บุรี ก่อนเข้ากรุงเทพฯ
จบทริป Slowlife ฉบับ สว. Travel แล้ว ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะจ้ะ
ชื่อสินค้า:
อุทัยธานี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อุทัยธานี ... มีที่ไหนประทับใจบ้าง?
บ้านเกิดของผู้เขียนอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี แต่ไปใช้ชีวิตช่วงมหาลัยนานเสียจน รู้สึกว่าอุทัยจะสโลวไลฟ์ไปหน่อย และเหมือนจะตรงกับประโยคที่พูดกันเล่นๆสมัยเด็กว่า "อุทัยบ้านเรา ไม่มีอะไรเลยว่ะ"
สมาชิกหมายเลข 886329
ทริปอุทัยธานี 3 วัน 2 คืน เมืองรองที่มีเสน่ห์เกินคาด ขับรถทางไกลครั้งแรกกับฝีมือระดับแชมป์ปีนฟุตบาท...
เป็นการเขียนกระทู้เกี่ยวกับท่องเที่ยวครั้งแรก เกิดจากคุณพ่อ พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่าอยากไปจังหวัดนึง นั่นคือ จ.อุทัยธานี เพราะประมาณ 10-20 ปีก่อน พ่อ
มดตัวน้อยตัวนิด มดมีฤทธิ์น่าดู
เขาสะแกกรัง วัดสังกัสรัตนคีรี
ในวันว่าง ก้อเลือกเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ ก้อเลือกไปกับ ขสมก. เขต 1 อู่บางเขน ทริปนี้อยากไป ไหว้รอยพระพุทธบาทบนเทือกเขาสะแกกรัง ครับ ก้อเลือกเส้นทางอุทัยธานีครับ
สมาชิกหมายเลข 1974215
"วีออสลุยเดี่ยวเที่ยว...งานตักบาตรเทโวโรหณะ ณ.วัดสังกัสรัตนคีรี อุทัยธานี" [CR]
เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาท้องฟ้าในกรุงเทพฯ มืดครึ้มด้วยเมฆฝน ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาพอดี นึกในใจมีโปรแกรมจะไปตะลอนไหนหรือเปล่าหนอ นึกได้ว่าเราเคยไปที่วัดเขาสะแกกรังเมืองอุทัยธานี ที่นั่นถัดวันออกพรรษามีประเ
"ดับ"
3 วัน 2 คืน "อุทัยธานี" 🧡 ปิดสวิตช์ 📱แล้วออกมารีชาร์ตพลัง 🏞️ สูดอากาศให้ชุ่มปอด ⛅ เติมความสดชื่น ในวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง
💋 เที่ยวอุทัยยังไงให้เฟี้ยว คนเฟี้ยวต้องเที่ยวอุทัย 🎀 ฮัลโหลเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนจร้า 💋 ทริปนี้เริ่มจากแฟนอยากไปกางเต๊นท์แบบลุยๆ เนื่องจากหยุดยาวตั้ง 4 วัน 🏕️ จริงๆไม่ได้ตั้งใจไปอุทัยธานี ก่อนหน้านี้อ
บันทึกรักฟลามิงโก้
ริมฝั่งสะแกกรังที่อุทัยธานี
วันเสาร์ที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดอุทัยธานีซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเคยมาเที่ยวที่นี่ หลังจากที่หาข้อมูลการท่องเที่ยวมาพอสมควร จังหวัดอุทัยธานีอยู่ห่างจากกรุงเทพแค่สองร้อยกิโลเมตรเศษๆ ขับรถราวๆสามชั่
bigsolution
ขับรถเที่ยว อุทัยธานี 2 วัน 1 คืน
อุทัยธานี เป็นอีก 1 จังหวัดที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ดูจะเซอร์ไพรส์กว่าที่คิดเพราะ ก่อนไปไม่ได้คาดไว้มาก แต่อยากไปเพราะยังไม่เคยไปอุทัยธานีเลยสักครั้ง ทริปนี้เลยเป็นครั้งแรกที
YhakTiewKorTiew
ตลาดเช้าอุทัยธานีย้ายกลับมาริมแม่น้ำสะแกกรังหรือยังครับ
ไปตั้งแต่ต้นปีก่อน ยังไม่ย้ายกลับมา... 1 ปีผ่านไป ตอนนี้ไม่ทราบตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังย้ายกลัยมาหรือยัง ถ้ายังไม่ย้ายมา จะย้ายมาเมื่อไหร่ครับ ขอบคุณครับ
สมาชิกหมายเลข 919547
วิถีสงบ ลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี หมุดโลกที่ 2 ของเอเชีย อาหารอร่อย🤤😋พักริมนา ชมบึงพระชนก✌️😃😄
วิถีสงบ ลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี มื้ออร่อยริมแม่น้ำสะแกกรัง หมุดโลกที่ 2 ของเอเชีย ชมฝนพักริมนา มื
กานต์(วีระพัฒน์)
ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีตักบาตรเทโว จังหวัดอุทัยธานี ปี2562
"ประเพณีตักบาตรเทโว" จ.อุทัยธานี วันที่ 13-14 ตุลาคม 2562 ณ วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง ร่วมตักบาตรเทโว บริเวณลานวัดด้านหน้าเชิงเขา จำลองสถานการณ์พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกชั้นดาวดึงส์ โดยมีพ
สมาชิกหมายเลข 5523204
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 16
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Slowlife อุทัยธานี 2วัน1คืน ฉบับ สว.Travel
ต้องบอกก่อนว่า lifestyle การเที่ยวของเรา ไม่ว่าจะเป็นเมืองไทย เมืองนอก เราเน้นความสะดวกสบาย ทั้งการกิน และการเดินทาง ไม่ต้องรีบเร่งทำกิจกรรม หรือเที่ยว ไปได้แค่ไหนแค่นั้น (เพราะจขกท.สูงวัยแล้วจ้า)
Day 1
เราใช้รถส่วนตัวออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 07.00 น. มุ่งหน้านครสวรรค์ โดยใช้ถนนสายเอเซีย (หมายเลข32) ผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท จนถึงทางแยกมีป้ายบอกทางเข้าจังหวัดอุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข333)
จุดหมายแรกที่เราไปคือวัดท่าซุง ชมวิหารแก้วที่โดดเด่นและสวยงามภายในสร้างด้วยโมเสก สีขาว ใสเหมือนแก้วงามระยิบระยับ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาสังขาร่างของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว วิหารแก้วจะเปิดให้ชมเป็นช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 9.00-11.45 น .และช่วงบ่าย 14.00-16.00 น.
ออกจากวัดท่าซุง แวะร้านอาหารริมแม่น้ำสะแกกรัง ชมวิว-ชิมปลาแรด หลากหลายเมนู ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอุทัยธานี ที่มาเยือนแล้วต้องลองชิมซักครั้ง แต่บังเอิญว่า ร้านที่เราไปเอาปลาแรดที่ทอดค้างไว้มาทอดให้เรากิน หนังเหนียวและเหม็นคาวมาก เป็นอันว่าไม่ประทับใจเท่าไหร่ แนะนำให้หาร้านที่รีวิวดี ๆ เพราะความหิวเราเลยไม่ได้เลือกร้านอร่อย ๆ (แอบเสียดาย)
อิ่มแล้วเราเข้าเช็คอินที่โรงแรมพิบูลย์สุข ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะตั้งอยู่ในเมือง ห่างตลาดเช้า และถนนคนเดิน ประมาณ 200 เมตร มีร้าน 7-11 อยู่ใกล้ ๆ มีรถจักรยานให้เช่า 20 บาท มีที่จอดรถด้านหลังโรงแรม แต่บอกไว้ก่อนว่าโรงแรมนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบที่นอนแข็ง ๆ นะ 555 แต่พนักงานบริการดีมากจ้า
เช็คอินเสร็จแล้ว ข้ามถนนหน้าโรงแรมไปจิบกาแฟ กินขนมปังเย็น ถ่ายรูปชิลล์ ๆ ที่ร้านจงรัก (ร้านนี้อยู่ตรงข้ามโรงแรมพิบูลย์สุข) ชั้น 2 ของร้านมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าให้ชมฟรี ๆ เจ้าของร้านใจดีรวบรวมของเก่าตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมาให้เราชม พร้อมเป็นไกด์แนะนำข้อมูลให้อีก
อิ่มเอมกับของเก่าแล้วไปเที่ยววัดสังกัสรัตนคีรี วัดที่อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง เราสามารถเดินผ่านบันได 449 ขั้น ขึ้นสู่ยอดเขาชมวิวเมืองอุทัยกันได้ที่นี่ แนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ แต่เราขอชมบันไดวัดละกันขึ้นไม่ไหวจริง ๆ เพราะสังขารไม่อำนวย 555
ภาพถ่ายจากวัดอุโปสถารามสามารถมองเห็นวัดสังกัสรัตนคีรีที่อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง
ช่วงเย็นนำรถกลับมาจอดไว้ที่โรงแรม เพื่อหาอาหารเย็นรับประทานที่ถนนคนเดินตรอกโรงยา แต่ระหว่างทางเจอร้านนี้ซะก่อน ก็เลยสั่งไอติมรับประทานเรียกน้ำย่อยกันคนละถ้วย
ชิมไอติมเสร็จ เราเดินต่อไปที่ถนนคนเดินตรอกโรงยา ตลาดถนนคนเดินที่นี่มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็น ของกินเยอะมาก จบวันที่ 1 ของทริปคนสูงวัยแบบเรา ด้วยบรรยากาศถนนคนเดิน
Day 2
เราตื่นกันแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไปตักบาตรที่ตลาดเช้า และปล่อยปลาดุกลงแม่น้ำสะแกกรัง (หาซื้อปลาจากแม่ค้าที่เค้านำมาขายในตลาด เป็นการช่วยชีวิตสัตว์, อาหารใส่บาตร+ดอกไม้ถวายพระมีขายที่ตลาดทั้งหมด เตรียมแต่เงินไปก็พอจ้า) ตลาดเช้าอยู่ใกล้ ๆ ถนนคนเดินตรอกโรงยานั่นแหละเดินประมาณ 200 เมตรจากโรงแรม
หลังทำบุญเสร็จ นั่งจิบกาแฟร้านภูผากาแฟ ชมตลาดเช้า ข้ามสะพานไปชมวัดอุโปสถาราม ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดเช้า หรือใครจะปั่นจักรยานชมวิวเลียบแม่น้ำสะแกกรังก็ไม่ว่ากัน ได้ออกกำลังกายพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ (ขอแผนที่เส้นทางปั่นจักรยานได้ที่โรงแรมเลยจ้า)
ได้เวลากลับกรุงเทพฯแล้ว เช็คเอ้าท์โรงแรม ขับรถมุ่งหน้ากรุงเทพฯ แวะกินมื้อเที่ยงและซื้อของฝากที่ร้านสปัจน์ ริมถนนสายเอเซีย
สายช๊อป ต้องแวะ Flynow outlet สิงห์บุรี ก่อนเข้ากรุงเทพฯ
จบทริป Slowlife ฉบับ สว. Travel แล้ว ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะจ้ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น