…..มิตรภาพ ความขัดแย้ง และทางออก...../วัชรานนท์

กระทู้คำถาม
เดินทางสิบสองชั่วโมงข้ามเส้นลองละติจูดของกาลเวลา  ถึงกทม.ตอนเช้า  คณะของคุณลุงโอลด์อุตส่าห์มีน้ำใจไปรับที่สนามบินเข้ากทม.   จากนั้นก็ยาวเลย    กว่าจะเช็คอินที่โรงแรมได้ก็สองทุ่มกว่าๆ   อาบน้ำเสร็จนึกว่าจะเหนื่อย  กะจะทิ้งตัวโครมลงนอนให้หลับสนิท   ทีไหนได้...ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาสัมผัสบรรยากาสแบบไทยๆ เริ่ม kick in เข้ามากระตุ้นเตือน    เท่านั้นแหละ...เริ่มรู้สึกตื่นเต้นว่าตอนนี้ผมอยู่เมืองไทยจริงๆ จนนอนไม่หลับ   คงอาจจะเป็นเพราะนับตั้งแต่เดินทางมาถึง   ก็ได้สรวนเสเฮฮากับเพื่อนๆ จนลืมความตื่นเต้นไป   และขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่กว่าๆ    และพรุ่งนี้ผมก็ต้องเข้าอบรมทั้งวัน!  ตั้งแต่เช้ายันเย็น   นึกภาพออกเลยว่าคงไปนั่งหัวสัปหงกแน่ๆ


การได้พบปะเพื่อนฝูง(ผมไม่อยากเรียกว่ามีตติ้งอะไรหรอก มันดูเป็นทางการมากเกินไป) ก็พูดคุยและอัพเดทกันหลากหลายเรื่อง   เรื่องราวมาม่าในรดน. ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นและเป็นไฮไลต์ของการสนทนาด้วย   แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปในท่วงทำนองที่เอ่อๆ ออๆ เห็นพร้องต้องกันไปหมดอย่างที่หลายๆ ท่านอาจจะเข้าใจ    เพราะไม่ได้มีการแท็คทีมอะไรกันเข้มแข็งอย่างที่หลายคนหรือโดยเฉพาะอย่างที่คุณชบาเหลืองเข้าใจ   จริงอยู่ผมสนับสนุนจุดยืนตกข.เสมอ แต่ผมก็ไม่ได้ไปกำหนดทิศทางการบรรลุเป้าหมายของเขา  


การได้รับการอัพเดทและได้เห็นเอกสารข้อมูลบางอย่าง   ทำให้เกิดความรู้สึกหลายๆ อย่างว่าเราหรือสถานการณ์ในห้องรดน.มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร??    ลองถามย้ำไปย้ำมาดูว่า เราหรือสถานการณ์ในห้องรดน.มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร??   ใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่ และอย่างไร? น่าจะเป็นเครื่องมือที่ดีในการที่จะสาวไปหาคำตอบ   แต่...ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้วเพราะว่าหากเมื่อไหร่ก็ตามที่คนส่วนใหญ่ในห้องรดนนำเครื่องมือ ใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่และอย่างไร? มาใช้ในการสาวสาเหตุเราก็จะเห็น “ความเอนเอียง” พร้อมที่จะเข้าข้าง “ฝ่าย” ที่ตัวเองถือหาง  ที่พูดตรงนี้หมายถึงผมด้วย


ณ ตอนนี้ความเป็นกลางต่อเหตุการณ์คือสิ่งที่ต้องการและหายากมาก   แต่ที่เกลื่อนกลาดอยู่ตอนนี้เห็นจะลมปากว่า “เป็นกลาง” หรือพยายามจะเป็นกลางมากกว่า   บางทีนะ....ผมคิดว่าการฟ้องร้องน่าจะเป็นธรรมหรือทางออกสำหรับทั้งสองฝ่าย    แม้จะดูเหมือนว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกฟ้อง   แต่ก้อในเมื่อมีแต่การด่ากันไปด่ากันมา   อวยกันไปอวยกันมมาบนบอร์ดอย่างไม่มีสิ้นสุดอยู่อย่างนี้    ซึ่งแม้จะมีการพยายามที่จะไกล่เกลี่ยอมาอย่างน้อยๆ แล้วสามครั้งแต่ก็ต้องพับฐานไป   จึงเห็นได้ชัดพอสมควรว่า  ต่างฝ่ายต่างก็กำลังเดินผละออกมาจากการปรองดอง   กระทู้ที่ปรากฏบนห้องรดน. ในแต่ละวันจึงกลายเป็นการแสดงออกของมานะและแรงผลักของทิฐิ    ตัวผมผมรู้ตัวดีว่าได้เลือกที่จะเดินเข้าวังวนตรงนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว  เรื่องถอนตัวออกไปเห็นจะไม่มี   ที่มีอยู่ตอนนี้ก็คือพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้แม้จะมีโอกาสและเห็นช่องทางก็ตาม   อีกทางหนึ่งผมก็พร้อมที่จะใกล่เกลี่ยหากอีกฝ่ายต้องการ   ใครๆ ที่ไม่เข้าใจตัวตนผมอาจจะมองว่ากำลังอยากจะทำตัวเป็นพระเอกก็ตาม      แต่ผมก็เป็นของผมอยู่อย่างนี้เสมอมาในชีวิตจริงและบนบอร์ด  


รู้สึกใจหายกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าตอนนี้มันเริ่มจะเลยจุดปรองดองไปไกลทีละนิดๆ แล้ว   แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็เริ่มที่จะริบหรี่ๆ ลง   ก็คงได้แต่คาดหวังว่า   แสงสว่างแห่งปัญญาจะช่วยพวกเราหาทางออกเจอ    ผมยังยืนยันในมุมมองตั้งแต่ต้นของผมต่อเหตุการณ์นี้ว่าปัญหาและรากเง้าจริงๆ มันมีอยู่ไม่กี่คน    ไม่กี่คนจริงๆ หากตัดตัวละครและนักแสดงประกอบออกไป      

ปล.  ถ้าน้องเจ้ยเข้ามาอ่านกระทู้นี้   อยากจะบอกว่า  เมื่อคืนนี้ผมได้กินขนมชั้นอย่างเอร็ดอร่อยซื้อมาจากมินิมาร์ตข้างๆ โรงแรมแล้ว   ของโปรดที่เหลือที่กำลังตระเวณล่าอยู่ตอนนี้ “ข้าวเหนียวมะม่วง”  ตอนนี้ยังต้องยุ่งธุระอยู่สามสี่วัน.....เสร็จธุระแล้วก็จะตระเวณล่าหาทานข้าวเหนียวมะม่วงให้หายอยาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มุมมองของคนนอกกลุ่มแดง อ่านจากหน้าบอร์ด

รากเหง้าของปัญหา มีไม่กี่คน จากจุดเรื่มต้นที่ทำให้มาถึงวันนี้ พูดในเคสแดงสองกลุ่มเท่านั้น

เรื่อง เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่น คนมองแค่ระยะเวลาสั้นๆ พวกตรู เพื่อนตรูโดนกระทำ แต่ไม่มองว่าสาเหตุคืออะไร  ถามว่า ผิดไหม ผิดทังคู่ แต่ทำไมบางคนถึงมองเห็นได้ฝ่ายเดียว   เพราะตัวปัญหาออกมาเปิดประเด็นแล้วหาย  ทำให้คนลืม แล้วมีบริวารออกมาประสานเสียงซ้ำๆ จนทำให้คนลืมว่า ใครกันแน่ก่อไฟ

ส่ิงที่ทำให้มาถึงวันนี้ เพราะคนที่ใช้คำว่า เพื่อน แต่เป็นเพื่อนกันจริงไหม เริ่มตั้งแต่เอาเรื่องส่ว่นตัวของเพื่อนไปเล่าให้ตัวปัญหาฟัง ตัวปัญหาเอามาเล่น เพื่อนหน้าไมค์ แทนที่คนเป็นเพื่อนจะห้ามปราม เห้ย ไม่เหมาะสมนะ แต่จริงๆ ไม่เห็นว่ามีการทำอะไร ไม่มีปฏิกริยาตอบสนองกับคนเหล่านั้น แถมยังพากันเฮโลประณามหยามเหยียดเพื่อนยืมเงินเพื่อนกันใหญ่    มันใช่เหรอ???  ไม่พอ???  วันดี คืนดี กลัวคนลืม ตั้งกระทู้บรรยายเหตุการณ์ เพื่อนยืมเงินเพื่อน ให้พรรคพวกประณามเพือนเข้าไปอีก หนำซ้ำ เพื่อนบางคนยังแสดงอาการ ถูกใจ หลงรัก ตัวแปลงกายหรือเวลามีคนมาด่าเพื่อนตัวเองกันตรึม  ไม่เข้าใจ เป็นเพื่อนกันแบบไหน นั่นแหระคือสิ่งที่กระตุ้นให้คนเกลียดกัน มีปัญหากันยิ่งขึ้น  

ตัวปัญหาจุดประเด็นใหม่แล้วหาย  คือ สาวพันทิป เพื่อจะกลบเรื่องของตัวเองหาเรื่องจะดำเนินคดี ได้หรือไม่ได้ไม่รู้  


ใครกันแน่ ตัวปัญหา  ถามว่า ตัวปัญหาอยู่เงียบๆ ไหม สำนึกไหม

ไม่ได้อยู่เงียบๆ นะ มีตัวแปลงกายอย่างตุ๊กตา แร็พ ออกมาเถียงแทนบ้าง ตัวเองแปลงกายออกมาด่าซ้ำ อย่างนี้ยังมีพวกพ้องออกมาแก้ตัวแทนว่า อยู่ระหว่างปรับปรุงตัว ใช่เหรอ ความผิดตัวเองไม่พูดถึง พูดถึงแต่ความผิดคนอื่น แล้วพวกที่ใช้คำว่า เพื่อนๆๆๆๆ ก็ทำเป็นหูหนวก ตาบอดกันไป ไม่รู้โดนอะไรกล่อม ถึงได้มองไม่เห็นอะไรเลย


รู้ซึ้งถึงคำว่า  เพื่อน ของคนบางกลุ่มจริงๆๆๆๆ สยอง

สุดท้าย สนับสนุนให้ดำเนินคดี ถ้าสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ นั่นแหระยุติธรรมที่สุด
ความคิดเห็นที่ 6
เหยื่อ แบบไหน ที่คอยแซะคนอื่นไปเรื่อยครับพี่สาว

ผมเห็นแต่ คณะประสานเสียง ที่เรียงหน้ากันมากล่าวหาหรือตีกินฝ่ายตรงข้าม และเข้าแทบทุกกะทู้

พี่สาวนี้ เป็นเหยื่อที่ประหลาดดีจังนะครับ
ความคิดเห็นที่ 5
ทั้งคุณวัชรานนท์และพีสาว   ดูจะเป็นเหยื่อของความขัดแย้งนี้ไปแล้ว  ....
อ่านคคห.ของคุณพระรอง ...  แล้วก็ สยอง  ใช่ค่ะ  วันนี้มันมีสงคราม
ตัวแทนด้วย   แสดงออกเองไม่ได้   ก็มีตัวแทนออกมาช่วย ....
....  เกี๊ยก ...  ถ้าถึงศาล แล้วไม่ยอมจบ   ก็ต้องแล้วแต่ ลูกคู่  นะ  เขาจะ
ยอมจบไหม   หรือ  แล้วแต่  ลูกพี่  อมยิ้ม04

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่