วันนี้มีเรื่องอยากแชร์เพื่อนๆ ให้ระวังตัวกับพวก call center มิจฉาชีพให้มากขึ้นนะคะ ไม่อยากให้ทุกคนโดนเหมือนเรา อาจยาวหน่อยนะ

วันนี้มีเบอร์โทรศัพท์เบอร์แปลกโทรมา เบอร์ขึ้นต้น 00546579465 โดยคนโทรมาเป็นผู้หญิง ชื่อ คุณเอ (นามสมมติ) โทรมาบอกว่า นั่นคือคุณ.........(ชื่อเราเอง) ใช่ไหม เค้าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จากจังหวัดลำปาง ขอแจ้งว่า ที่คุณส่งพัสดุจากจังหวัดลำปาง ไป ถึงคุณ บี (นามสมมติ) ที่กรุงเทพ พัสดุไม่มีคนรับนะค่ะ มันเลยถูกตีกลับมาที่ ไปรษณีย์ที่ลำปาง

เราก็งงค่ะ เราบอกว่าไม่เคยส่ง ไม่รู้จักคุณบีด้วย

ประเด็นคือ เค้าถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อยืนยันข้อมูล
โดยถามชื่อและนามสกุล เลขที่บัตรประชาชน (แล้วเราก็โง่บอกให้ไปด้วยสิ)

เค้าบอกว่าถ้าเราไม่ได้ส่งพัสดุนั้น เค้าสงสัยว่าจะมีคนแอบอ้างเอาชื่อเราไปส่งพัสดุ ช่วงนี้ทำธุรกรรมทางการเงินหรือเปล่าที่ต้องใช้บัตรประชาชน และเซ็นต์ชื่อกำกับไหม

เราก็ตอบเค้าไป

ตอนนี้พัสดุกลับมาที่ลำปาง ทางไปรษณีย์แล้ว ทางไปรษณีย์จำเป็นต้องไปสถานีตำรวจเพื่อทำการเปิดพัสดุ และพบว่าในกล่องมีของผิดกม. เป็นยาเสพติด จึงตามหาผู้ส่งพบว่าเป็นเรา

ทางคุณเอ แลดูเป็นคนดี เข้าอกเข้าใจเรา บอกรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดที่จะใช้ในการแจ้งความ เช่น ชื่อนามสกุลของเค้า เลขพัสดุ ชื่อ ที่อยู่ผู้ส่งและผู้รับ เค้าบอกว่า ไม่ต้องตกใจถ้าเรายืนยันว่าไม่ได้ทำให้แจ้งกับทางตำรวจนะ ยืนยันความบริสุทธิ์ เดี่ยวโอนสายให้ ก่อนโอนสายเราขอชื่อ คุณเอ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ และเบอร์โทรศัพท์ไว้เผื่อติดต่อกลับ

จากนั้นคุณเอ โอนสายเราไปคุยกับตำรวจผู้ชาย ชื่อ ร.ต.อ. ดี (นามสมมติ) จากสถานีตำรวจภูธร ลำปาง คุณตำรวจก็สอบสวนเบื้องต้นทางโทรศัพท์ แนวดุๆ และพยายามจะจับผิดเราทุกคำพูด ทำให้เรารู้สึกว่า เค้าสงสัยว่าเราเป็นคนร้าย และส่งพัสดุอันนั้น ตำรวจแจ้งว่า ถึงแม้เราจะปฏิเสธ เค้าก็ยังไม่ปักใจเชื่อ และให้เราไปให้ปากคำพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงที่ลำปาง เพราะจะปิดสำนวน

ตอนนั้นเครียดมากเพราะสถานการณ์มันดูจริงจังมาก ตอนนั้นก็รับคำไปว่าจะไปเพราะไม่มีทางเลือก และก่อนวางสายก็ถาม ชื่อนามสกุลเต็มๆของคุณตำรวจ ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ เรียบร้อยก่อนวางสาย

จากนั้นก็โทรศัพท์หาหัวหน้า กะว่าอาจต้องลาหยุดไปดำเนินการ (แบบว่ายังคิดไม่ได้) หัวหน้าบอกว่ามันดูแปลกๆให้ลองเช็คข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด

จากนั้นก็เริ่มเปิดอากู๋ทันที เช็คเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดที่ได้มา สรุปว่าข้อมูลที่ได้มาทุกอย่างเป็นของจริง (เราคิดหรือนี่มันเรื่องจริงเนี่ย) จึงลองโทรหาไปรษณีย์ แต่ไม่มีคนรับ เพราะมันคงจะเย็นแล้ว และว่าจะโทรไปสถานีตำรวจ ลำปาง (แต่ยังไม่โทร แบบว่าทำใจแพลบนึง)

จึงเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนร่วมงานฟัง จึงรู้ว่าควรแจ้งความก่อนอย่างแรก

ตอนนั้น นั่งมอไซด์อย่างด่วน ไปแจ้งความที่ใกล้ที่สุด เราเล่าเหตุการณ์ให้คุณตำรวจฟัง และบอกว่าจะขอโทรไปสถานีตำรวจที่ลำปางต่อหน้าคุณตำรวจ นะค่ะเพื่อเช็คข้อมูล

เมื่อโทรไปขอสาย ร.ต.อ. ดี คุณตำรวจนายนึงรับสายบอกว่าไม่อยู่ไปราชการ แล้วบอกว่าช่วงนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อนี้ เรื่องส่งพัสดุนี่แหละ โดยใช้เบอร์โทรศัพท์จากเมืองนอกโทรมา มันเป็นมิจฉาชีพ call center กำลังดำเนินการจับอยู่

ตอนนั้นก็โล่งอกนะ แต่เดี่ยวก่อนนะ...........ชื่อและเลขบัตรประชาชนฉันละ มันไปกับแก๊ง call center แล้ว ทำยังไงดี

คิดๆๆๆ พอแจ้งความเสร็จ ก็ไปติดต่อธนาคารทันที และเล่าเหตุการณ์ให้ธนาคารฟัง ธนาคารแจ้งว่าแค่เลขบัตรประชาชน จะยังไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ไม่ต้องกังวล

แต่ก็กังวลอยู่ดี กลัวเงินในบัญชีหาย อุตสาห์เก็บมาทั้งชีวิต ตอนนีว่างเมื่อไหร่ก็เข้า banking เพื่อเช็คเงินเป็นระยะ เพื่อความสบายใจของตัวเอง

จึงอยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนๆ ระวังตัว แก็งค์นี้กำลังระบาด

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าบอกข้อมูลส่วนตัวใครง่ายๆ และอย่าเชื่ออะไรง่ายๆด้วย