[CR] หนาวนี้กอดใคร หนาวไหมมากอดกัน Korea winter love : รีวิว เที่ยวเกาหลีหิมะแรกในชีวิต + พาสปอร์ตหน้าขาวสะอาด

สวัสดีครับ หลังจากมีการรีวิว ตม.เกาหลีอันเลื่องชื่อลือชาของผมไปแล้วนั้น
ตามกระทู้นี้ครับ : https://ppantip.com/topic/37311334
ครั้งนี้ผมจะมารีวิว การท่องเที่ยงเกาหลีของผมครั้งแรกในชีวิตครับ กับประสบการณ์ใหม่ๆที่สัมผัสมาครับ
กระทู้นี้จัดทำเพื่อให้ผู้ที่สนใจอยากไปเที่ยวเกาหลีครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ

เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาผมตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศสักประเทศครับ ปรึกษากับคุณสามีอยู่ตั้งนาน
สรุปสุดท้ายไปเกาหลีครับ และจบโดยการไปทัวร์ครับเพราะจะได้ไปเที่ยวที่แปลกใหม่ครับ
เราไปกันวันที่ 13 - 17 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา รวม 5 วัน
ค่าทัวร์ 16,900 บาท + ค่าทิปไกด์อีก 40000 วอน
การเดินทาง เราเดินทางโดยสานการบิน Jin air (สายการบินนี้ทั้งแอร์และสจ๊วตแอบน่าตาดีมากๆครับ) สายการบินสีเขียวๆของเกาหลีครับ ขึ้นเครื่องที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ออกเดินทาง คืนวันที่ 12/1/2018 เวลา 23.00 น.โดยประมาณ ถึงสนามอินชอนประมาณเกือบ 6 โมงเช้าครับ
หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เราจะเดินทางไปเมือง Hwachoen city โดยรถบัสครับ

Day 1 : Hwachoen ice fishing and ice festival
วันแรกเราเดินทางไปเมือง Hwacheon (ฮวาชอน) กับกิจกรรมตกปลาน้ำแข็งและเที่ยวเทศกาลน้ำแข็ง
เราออกเดินทางจากสนามบินอินชอนก็ราวๆเกือบ 8 โมงครึ่ง และนั่งรถไปเมืองฮวาชอน เป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ อยู่ทางภาคเหนือของประเทศเกาหลี ถึงฮวาชอนก็ประมาณเกือบเที่ยงวัน ก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดี อาหารเที่ยงวันนี้เป็นชาบูแบบเกาหลีครับ อร่อยแบบแปลกๆ


เครื่องเคียงแบบแน่นมาก เติมได้ตลอดผมกับสามีพากันจัดชุดใหญ่ครับ 5555+

หลังจากเติมพลังเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางโดยการไปเทศกาลน้ำแข็งของเมืองฮวาชอนครับ
โดยระหว่างทางก็ได้เก็บรรยากาศเมืองฮวาชอนมาให้ดูครับ

สังเกตุดูน่ะครับว่าแถวประเทศเกาหลีนั้นไม่นิยมใช้รถยนต์ญี่ปุ่นและไม่มีมอเตอร์ไซค์เลย เพราะเนื่องจากบ้านเค้าราคารถยนต์ถูกมากครับ

ระหว่างทางเจอมาสคอต กีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวซึ่งปีนี้เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ
สังเกตุนะครับว่าทำไมต้องเป็นหมีกับเสือ คนเกาหลีบอกว่าหมีคือบรรพบุรุษของคนเกาหลีครับ ส่วนเสือนั้นคือแผนที่ประเทศเกาหลีใต้จะเหมือนกับกระดูกสันหลังของเสือครับ (ถ่ายแต่หมีมาอย่างเดียวเพราะชอบหมีครับ)

และแล้วเราก็มาถึงเทศกาลน้ำแข็งของเมืองฮวาชอนครับ ลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ครับ
การแกะสลักน้ำแข็งครับ อุณหภูมิไม่ต้องพูดถึงครับ -2 องศาครับ

ผมทนดูนานไม่ไหวครับ เพราะหนาวเกินครับจึงต้องขอตัวออกไปรอด้านนอก ซึ่งคุณสามีก็ยังไม่พออยากเดินต่อจึงเก็บรูปภาพมาได้ไม่เยอะครับ

เสร็จแล้วจากการดูเทศกาลน้ำแข็งเรามาต่อเทศกาลตกปลาน้ำแข็งของเมืองฮวาชอนครับ เป็นเทศกาลทียิ่งใหญ่มากครับ คนเยอะมากกกก เพราะตรงกับวันหยุดและวันปิดเทอมของเด็กนักเรียนครับ โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นทุกปีครับ โดยจะจัดบนแม่น้ำอะไรสักอย่างผมจำชื่อไม่ได้ครับ แหะๆ- -"

รูปอาจจะไม่ได้สวยมากนะครับ เพราะใช้ Iphone 6S ถ่ายครับ
โดยเทศกาลตกปลาน้ำแข็งนั้นนอกเหนือจากการตกปลาแล้วนั้นยังมีการทำกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายครับ ทั้งโชว์คอนเสิร์ต กิจกรรมกลางแจ้งต่างๆครับ

หลังจากเถียงกับคุณสามีอยู่นานว่าเราจะตกปลาหรือไม่เพราะผมกลัวเรื่องทำบาปครับ - -" สุดท้ายจึงทำใจและตกปลาครับ ตกอยู่นานมากครับเป็นชั่วโมงสามีผมไม่ได้สักตัวแต่ผมกลับได้ (กะจะให้ผมทำบาปซะงั้นT^T)

ปลาที่ได้คือปลาเทรา ตระกูลเดียวกับแซลมอนครับ
ผมกะจะปล่อยไปแต่ไกด์บอกว่าเมื่อตกได้ก็ต้องเอาไปทานครับไม่งั้นถ้าปล่อยไปมันก็ตายอยู่ดี

และสุดท้ายเจ้าปลาน้อยก็มาเป็นอาหารว่างให้คุณสามีครับ อันนี้ผมไม่ทานเลยครับเพราะรู้สึกสงสารเพราะสมัยเด็กผมชอบเลี้ยงปลาสวยงามมากๆครับ
เลยไม่กล้าที่จะทานสักเท่าไหร่


หลังจากกิจกรรมตกปลาเสร็จแล้วคุณสามีอยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งโบราณครับผมเลยต้องตามใจคนออกเงินครับ
น่าตามันก็จะคล้ายๆ เก้าอี้เล็กๆเหมือนไว้นั่งผิงไฟบ้านเราและมีไม้ที่มีปลายเหล็กแหลม 2 อันครับ

และแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรตามนัดหมายของหัวหน้าทัวร์และไกด์ว่าให้มาเจอกันที่จอดรถบัสเวลา 5 โมงตรง เพื่อเดินทางไปทานอาหารเย็นและที่พัก ณเมืองเคียงกิโดครับ นั่งรถบัสจากเมืองฮวาชอนมาก็ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ

ถึงเวลาอาหารเย็นของเราครับ มันคือ ทัคคาลบีครับ เหมือนเอาไก่มาผัดกิมจิ และใส่ข้าวลงไปครับ รสชาติไม่ต้องพูดถึงครับ เค็มอย่างเดียว - -

แต่ให้ผ่านครับเพราะมีสตรอเบอรี่เป็นของหวานแถมฟรี ลูกใหญ่มากกก หวานอร่อยมากกกครับ

แต่ยังไม่พอครับที่ร้านมีสาลี่และแอปเปิ้ลขายราคาถูกครับ ลูกละ 5000 วอน ลูกใหญ่มากกกก

ได้เวลาเข้าที่พักแล้วครับ เมืองเคียงกิโด ประมาณ 3 ทุ่มพอดี แต่ผมยังไม่อยากนอนอยากเดินเล่นในเมืองจึงพากันสองคนเดินเล่นในเมืองเคียงกิโดครับ
บ้านเมืองเจริญหูเจริญตามากครับ

รูปแรกแอบติดสามี - -"

ร้านเสื้อผ้าและ Accessory ที่นี่ราคาไม่แพงครับ แถมสวยมากครับ

สุดท้ายก่อนจะกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมหาอะไรทานเล่นครับ
อันแรกเป็นเกาลัดครับเผาใหม่ๆร้อนๆทานแก้หนาวได้เป้นอย่างดีครับ


ร้านนี้สงสัยอร่อยครับเพราะคนแอบเยอะ วิธีขายบ้านเค้าจะเอาใส่รถบรรทุกคันเล็กๆมาครับ
และจอดข้างทางขายครับ
แต่ยังไม่พอครับ มาจัดขนมคล้ายๆไทยากิของญี่ปุ่นครับ
ไว้ถั่วแดงอร่อยมากๆครับ 10 ชิ้น 3000 วอนไม่แพงครับ

สำหรับวันที่ 1 มีเท่านี้ครับ มาดูวันที่ 2 กันต่อครับ

Day 2 : Ski resort  + Green house strawberry
วันนี้เราเดินทางไปเล่นสกีครับ กับไปสวนสตรอเบอรี่  อันนี้เป็นการเล่นหิมะแบบจริงๆจังๆของผมครับ
มื้อเช้าของเราเป็นอาหารที่โรงแรมครับแต่ไม่อร่อยเลยครับ
และก่อนการจะไปเล่นสกีนั้นต้องเช่าชุดสกีและอุปกรณ์ครับ ราคาค่าเช่าคนละ 50000 วอนครับ

มาถึงสกีรีสอร์ตก็ประมาณราวๆ 10 โมงครับ ไม่มีแดดเลย ชอบมากครับ บรรยากาศแบบดีมากกกกก

ลานสกีครับ คนเยอะพอสมควรเพราะช่วงเด็กปิดเทอมเด็กเกาหลีมักจะมาเรียนสกีกันครับ

และแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรประมาณ บ่าย 3 ครับ จึงได้เดินทางออกจากสกีรีสอร์ตเพื่อไปรับประทานอาหารเที่ยงครับ
มื้อนี้เป็นหมูย่างคาลบีครับ ลืมบอกทุกมื้อเป็นบุฟเฟต์หมดครับ ผมกับสามีเป็นสายบุฟเฟ่ต์เลยไม่มีปัญหาครับ มื้อนี้หมูดีมากครับ ผักสดมากครับ
แต่น้ำจิ้มเป็นน้ำจิ้มกิมจิกับเต้าเจี้ยว ไม่อร่อยครับ โชคดีที่หัวหน้าทัวร์เอาน้ำจิ้มแจ่วมาครับจึงได้ทานอร่อยๆ ผมกับสามีลุกคนสุกท้ายของกรุ๊ปทัวร์ครับ 555

หน้าร้านมีหมาเกาหลีด้วยครับ ชื่ออะไรไม่รู้แต่ที่รู้อ้วนมากกก น่ารักมากครับ เหมือนจะดุแต่เข้าไปเล่นได้ อยากได้กลับไทยเลยครับ แหะๆ

พออิ่มจากบุฟเฟ่ต์หมูย่างคาลบี เราก็มาต่อกันที่ Green house strawberry ครับ เป็นสวนตรอเบอรี่ครับ ให้เราเก็บเองได้ตามใจชอบครับ
แถมเจ้าของสวนใจดีให้กลับบ้านด้วยครับ 1 กล่องไปฟรีๆ^___^

ยังไม่เสร็จเพียงเท่านี้ครับ ยังมีการพาไปเรียนทำคิมบับ(ข้าวห่อสาหร่ายกับแต่งชุดฮันบกครับ)

รูปชุดฮันบกขออนุญาตไม่เอาลงนะครับเพราะมีแต่รูปคู่ทั้งนั้น - -"

เสร็จจากภาระกิจทำคิมบับและแต่งฮันบก เวลาก็เกือบๆ 1 ทุ่มครับ เราเดินทางไปยังกรุงโซลครับ
คืนนี้พักโรงแรมที่กรุงโซล พร้อมรับประทานอาหารมื้อค่ำเป็นไก่ตุ๋นโสม ยกมาแบบทั้งตัวครับ
ที่เกาหลีเค้าจะขายไก่ตุ๋นทั้งตัวแบบนี้ครับ

แต่เสียดายทานไม่หมดครับเพราะเหมือนไก่ต้มน้ำเปล่าไม่อร่อยเลยครับ ต้องมาหาตัวช่วยครับ
เป็นนมยี่ห้อ Hey roo ราคา 2500 วอนครับ ไม่แพงเลยกล่องเบ้อเร่อ

เสร็จแล้วก็เดินทางเข้าสู่โรงแรมประมาณ เกือบ 3 ทุ่มครับ
แต่ยังไม่พอใจชวนสามีเดินออกไปเดินเล่นแถวในเมืองโซลใกล้ๆโรงแรมครับ

รอบนี้ให้สิทธิ์สามีเดินนำครับเพราะผมเดินนำมาหลายรอบแล้ว

สุดท้ายมาเจอร้านนี้ครับ
Paris Baguette อ่านว่า ปารีสบักเก็ต ขนมเยอะมากครับ อร่อยทั้งนั้นเลยย ร้านนี้ในเกาหลีมีหลายร้านมากครับ
อร่อยเหมือนกันทุกร้านประมาณ S&P บ้านเรา แต่อร่อยกว่าหลายขุมมากครับ
ผมจัดเค้กมา 2 ชิ้นกับชูครีมครับ
อร่อยลืมมม ทางร้านทีWifi ฟรีแถมมีที่นั่งให้ครับ

พอทานเสร็จผมก็เดินเล่นนิดๆหน่อยๆใกล้ๆโรงแรมมาเจออันนี้ครับ ยังสงสัยและเถียงกับสามีอยู่ว่ามันคืออะไร - -"
ท่านไหนรู้รบกวนบอกด้วยนะครับ ผมทายว่าคือร้านหนังผู้ใหญ่ครับ

เด๋ยวมาต่อใหม่อีก 3 วันหลังนะครับ ^++++^
ชื่อสินค้า:   ทัวร์เกาหลีใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่