ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร10 ในราชการสนาม.....//////

เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์นี้ เปิดเผยโดยพันเอกสมจริง สิงหเสนี นายทหารนอกราชการ อดีตผู้สื่อข่าวและช่างภาพ กองทัพภาคที่ ๓ ที่ได้เล่าว่าเขามีความประทับใจกับสมรภูมิรบที่มีชื่อว่า "ยุทธการภูขวาง" ซึ่งต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าฯ ให้ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งดำรงพระอิสริยยศในขณะนั้นเป็น "ร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และราษฎรในพื้นที่ เนื่องจากถูกผู้ก่อการร้ายพรรคคอมมิวนิสต์โจมตี

เริ่มต้นด้วยพระองค์รัชกาลที่ ๑๐ เสด็จถึงพื้นที่บ้านห้วยมุ่นด้วยเฮลิคอปเตอร์ ทันทีที่พระองค์ทรงฟังการบรรยายสถานการณ์ทั้งหมด พระองค์ก็ทรงมีรับสั่งกับแม่ทัพภาคที่ ๓ ขณะนั้นด้วยพระสุรเสียงอันหนักแน่นว่า "จะต้องไปแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นให้ได้" และแม้ว่าแม่ทัพภาคที่ ๓ จะกราบบังคมทูลทัดทาน ห้ามพระองค์ไม่ให้เสด็จไปเพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจและอันตรายเกินไป แต่พระองค์ก็ยังทรงยืนยันหนักแน่นว่า "ชักช้าไม่ได้ ต้องไปแก้ไขให้ได้ในวันนี้ และเดี๋ยวนี้"...
จากนั้นเวลา ๑๕.๓๐ น. ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังพื้นที่ประสบภัย ยังไม่ทันที่เฮลิคอปเตอร์จะจอดดี พระองค์ก็กระโดดลงในความสูงประมาณ ๑๒ เมตร แล้ววิ่งหลบ "ฝ่ากระสุน" ที่ปลิวว่อนไปมาอย่างกล้าหาญ ขณะที่ผู้ก่อการร้ายได้ใช้ "อาวุธปืนเล็ก' ระดมยิงเข้ามายังฐานบ้านหมากแข้งอย่างหนัก
พระองค์ได้ทรงออกคำสั่งให้ทหารตามเสด็จฯมาด้วยทุกคน แยกย้ายกันนำทหารยิงโต้ตอบผู้ก่อการร้ายและมีคำสั่งให้ปืนใหญ่จาก "ฐานบ้านห้วยมุ่น" ยิงถล่มผู้ก่อการร้ายทันที พร้อมกันนั้นพระองค์ได้เสด็จฯไปยัง "หลุมบุคคล" รอบฐานปฏิบัติการ ทรงให้คำแนะนำแก่ทหารถึงวิธีวางกำลัง การจัดฐานและวางระบบป้องกันตนเอง รวมทั้งทรงแนะนำเรื่องการกำหนดมุมยิงของปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดด้วย

จนเวลา ๑๖.๐๐ น. ผู้ก่อการร้ายยังระดมยิงก่อกวนอยู่ไม่ขาดช่วง ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ จึงทรงบัญชาการให้ทหารยิงโต้ตอบ พร้อมสั่งการชุดปฏิบัติให้ออกลาดตระเวน โดยพระองค์ก็ยังทรงไม่ฟังคำทัดทานจากแม่ทัพภาคที่ ๓ ที่เกรงพระองค์จะทรงได้รับอันตราย ทรงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งรับสั่งว่า.."ฉันต้องไปเพราะว่าเป็นหน้าที่ของทหาร"....
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.....
กระทู้นี้ถูกปิด ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่