เรื่องสั้น
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๒)
เพทาย
วันหนึ่งที่วงเวียนใหญ่ฝั่งธนบุรี ผมพบชายร่างสูงคนหนึ่ง อายุคงจะไม่เกิน ๔๐ ปี แต่หน้าแก่เพราะหนวดเครายาวรกระเกะระกะ
และผมฟูเป็นกระเซิงเหมือนไม่ได้เคยหวีมาตลอดชีวิต
เขานุ่งกางเกงขาสั้นกระดำกระด่าง ดูมอมแมม เหมือนกับไปนอนอยู่ตามทางเท้ามา เพราะเสื้อก็มีความสกปรกพอกัน
จนแทบจะไม่รู้ว่าเดิมเคยเป็นสีอะไร
เขาถือถุงน้ำแข็งใส่น้ำชา เดินเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้สะพานลอย เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแรกใกล้ประตูร้าน และหาที่แขวนถุงน้ำแข็งได้แล้ว
ก็หันไปหาเด็กผู้บริการของร้าน ที่เข้ามายืนเมียงมองอยู่ใกล้ ๆ แล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำด้วยเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
เมื่อเห็นเด็กคนนั้นยังไม่ถอยออกไปจัดการตามสั่ง ก็ควักกระเป๋ากางเกงหยิบเงินซึ่งเป็นเหรียญทั้งหมดออกมาให้
เด็กจึงเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยว
เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้ว เขาก็ลงมือกินอย่างละเมียดละไม ไม่ได้รีบร้อน
ผมมองเห็นเหตุการณ์นั้นตั้งแต่ต้น เมื่อเสร็จธุระในการกินก๋วยเตี๋ยวของผม และชำระเงินแล้ว
ขณะที่จะเดินผ่านชายผู้นั้นก่อนออกจากร้าน ผมก็ก้มหน้าลงไปกระซิบว่า
ผมขอออกเงินค่าก๋วยเตี๋ยวชามนี้จะได้ไหมครับ
ชายขะมุกขะมอมผู้นั้นสั่นศรีษะ
ผมจึงถามย้ำอีกว่าไม่ต้องหรือครับ คราวนี้เขาพยักหน้า
ผมจึงเดินออกจากร้านไปด้วยความผิดหวัง
เขาคงจะเลิกงานแล้ว .
ผู้มีแต่น้ำใจ (๒) ๖ ก.พ.๖๑
ผู้มี(แต่)น้ำใจ (๒)
เพทาย
วันหนึ่งที่วงเวียนใหญ่ฝั่งธนบุรี ผมพบชายร่างสูงคนหนึ่ง อายุคงจะไม่เกิน ๔๐ ปี แต่หน้าแก่เพราะหนวดเครายาวรกระเกะระกะ
และผมฟูเป็นกระเซิงเหมือนไม่ได้เคยหวีมาตลอดชีวิต
เขานุ่งกางเกงขาสั้นกระดำกระด่าง ดูมอมแมม เหมือนกับไปนอนอยู่ตามทางเท้ามา เพราะเสื้อก็มีความสกปรกพอกัน
จนแทบจะไม่รู้ว่าเดิมเคยเป็นสีอะไร
เขาถือถุงน้ำแข็งใส่น้ำชา เดินเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้สะพานลอย เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแรกใกล้ประตูร้าน และหาที่แขวนถุงน้ำแข็งได้แล้ว
ก็หันไปหาเด็กผู้บริการของร้าน ที่เข้ามายืนเมียงมองอยู่ใกล้ ๆ แล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำด้วยเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
เมื่อเห็นเด็กคนนั้นยังไม่ถอยออกไปจัดการตามสั่ง ก็ควักกระเป๋ากางเกงหยิบเงินซึ่งเป็นเหรียญทั้งหมดออกมาให้
เด็กจึงเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยว
เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้ว เขาก็ลงมือกินอย่างละเมียดละไม ไม่ได้รีบร้อน
ผมมองเห็นเหตุการณ์นั้นตั้งแต่ต้น เมื่อเสร็จธุระในการกินก๋วยเตี๋ยวของผม และชำระเงินแล้ว
ขณะที่จะเดินผ่านชายผู้นั้นก่อนออกจากร้าน ผมก็ก้มหน้าลงไปกระซิบว่า
ผมขอออกเงินค่าก๋วยเตี๋ยวชามนี้จะได้ไหมครับ
ชายขะมุกขะมอมผู้นั้นสั่นศรีษะ
ผมจึงถามย้ำอีกว่าไม่ต้องหรือครับ คราวนี้เขาพยักหน้า
ผมจึงเดินออกจากร้านไปด้วยความผิดหวัง
เขาคงจะเลิกงานแล้ว .