สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นรีวิวกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ  

ทริปนี้ เดินทางไป 28 มค.61- กลับ 2 กพ. 61  มีผู้ร่วมทริป 9 คน
         วันแรกลุย....เริ่มออกเดินทางจากไทย 7.00 น.ถึงสนามบิน Noi Bai International Airport ประมาณ 8.45 น. เมื่อถึงสนามบินเรียบร้อยก็จัดการหา Sim cardได้เป็นของเครือข่าย vinaphone ราคาอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ ใช้งาน4Gแชร์สัณณาญได้ลื่นไหลดีตลอดทริป  เมื่อได้รับsimเรียบร้อย ก็นั่งรอน้องที่มาจากสิงคโปร์จะลงเครื่องตอน 11.30 น. ที่สนามบินมีชาวเวียดนามเยอะมาก แต่งชุดสีแดงมีอุปกรณ์เชียร์บอลเข้าใจว่ามารอรับนักเตะชุด U-23ของเวียดนาม อากาศเย็นประมาณ14-16 ํ พอถึงเวลา 11.40 น.น้องที่มาจากสิงคโปร์ก็มาถึง ก็ไปรอขึ้นรถเมล์สาย 86 ที่ป้ายมีคนยืนรอต่อแถวยาวมาก รอรถประมาณ40นาทีไม่มีรถเมล์สาย 86มาเลย
         คนที่รอรถเมล์ก็ทยอยเรียกแท๊กซี่เข้าเมืองแทนจึงเปลี่ยนมาเช่าเหมารถเข้าเมืองแทนได้ราคามาที่ 670,000 ดอง เป็นการเดินทางเข้าเมืองฮานอยที่ใช้เวลานานมาก ขึ้นรถตอนประมาณ 12.30 น. รถออกจากหน้าอาคารผู้โดยสารมาได้สักพักก็เจอกับรถติดมหาศาล เป็นรถที่จอดรอรับนักฟุตบอลและตามข้างทางก็มีคนรอกันเยอะมาก  
  ติดอยู่บนถนนประมาณ1ชั่วโมงกว่า คิดถึงแพลนที่เตรียมไว้วันนี้น่าจะผิดแผนที่วางไว้แน่ๆ จนถึงจังหวะที่นักฟุตบอลน่าจะออกมาจากสนามบินก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติเวียดนามชุด U-23 และพี่คนขับที่ได้มีโอกาสได้ต้อนรับนักเตะด้วยครับ
ประมาณเกือบบ่าย3โมงถึงหลุดจากหน้าสนามบิน นั่งรถเข้าไปในเมืองครั้งนี้ใช้เวลาร่วม 5 ชม. พี่คนขับก็มาส่งเราลงที่หน้าที่พักเพื่อเก็บของอาบน้ำที่พักระหว่างรอรถเดินทางตอนกลางคืนไปซาปาเลือกพักที่ Pillow Backpacker Hostel ค่าที่พักตกเตียงล่ะ81บาท รวมอาหารเช้า

หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ออกไปรับตั๋วรถนอนที่จะเดินทางไปซาปาในคืนนี้และแวะหาอะไรกินกันเพราะนั่งรถกัน5 ชม.ไม่ได้กินอะไรเลย เมื่อเราไปรับตั๋วเสร็จก็ไปกิน Bun Cha ที่ร้าน Bún Chả Đắc Kim

เซทนี้ราคาอยู่ที่ 90000 ดอง สั่งมา4ชุด อิ่มมาก อร่อยดีหมูย่างหอมๆ
ทานมื้อแรกในฮานอยเสร็จก็ออกเดินเล่นดูร้านค้าดูคนดูถนนไปรอเวลาขึ้นรถไปซาปา
เดินเล่นจนถึงเวลา เกือบ3ทุ่มก็ไปเก็บของ เตรียมขึ้นรถนอนไปซาปา  ค่ารถไปกลับซาปา อยู่ที่ 26 ดอลลาร์ต่อคน  เป็นรถของบริษัท INTER BUS LINE SAPA

          วันที่สอง เดินทางไปถึงซาปาประมาณตี 4 นอนต่อบนรถจนถึง6โมงเช้าก็ลงจากรถหารถต่อไปที่พัก  ที่ซาปาจองที่พักชื่อ Phuong Nam Hotel ลงจากรถก็เหมารถไปส่งที่พัก ค่ารถประมาณ 150000ดอง(ไม่แน่ใจราคา)  อากาศที่ซาปาหนาวมาก พื้นแฉะ หมอกหนา มีละอองน้ำตลอด เข้าเช็คอินที่พักเจ้าหน้าที่โรงแรมเปิดห้องให้เช็คอินก่อน1ห้อง จากที่จองไว้4ห้องเนื่องจากยังไม่มีห้องว่างเช็คอินเสร็จก็ขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องพัก
วิวจากชั้น3ของที่พัก
ค่าที่พักห้องประมาณ700-900จองผ่านทางเว็บ booking.com หลังจากเก็บของเรียบร้อยออกไปหาอาหารมื้อแรกที่ซาปากินกัน  ออกจากที่พักเลี้ยวขวามานิดหน่อยเจอร้านขาย Bahn mi กลิ่นหอมมากเลยจัดมาคนล่ะอัน
อันล่ะ15000ดองไข่เจียวอย่างเดียว 20000ดองเพิ่มไส้กรอก กินตอนร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาวประมาณ 5-8 ํ ฟินมากก
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยก็เดินดูบรรยากาศรอบๆเมืองซาปาซึ่งมีแต่หมอก
เดินเล่นอยู่สักพักประมาณ 10โมงเข้ามาที่พักอีกครั้งเพื่อเช่ามอเตอร์ไซด์ ค่าเช่าอยู่ที่คันล่ะ 100000ดอง เช่าทั้งหมด 5คัน และที่พักก็เปิดห้องเพิ่มให้ เก็บของเข้าห้องเรียบร้อยก็ออกเดินทางไป หมู่บ้าน cat cat ซึ่งเป็นการขี่มอเตอร์ไซด์ ลุย เละ หมอกหนา อากาศที่เย็นลงมาอีก
ค่าเข้าหมู่บ้านคนล่ะ 70000ดอง อากาศหนาวมาก หมู่บ้านเงียบๆดีครับ เดินไปไม่ถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้านเพราะแวะตลอดทางครับวิวสวย
ระหว่างทางเดินไปเจอร้านขาย พิซซ่าเวียดนามก็เลยหลบหนาวไปกินรองท้อง พิซซ่าเวียดนามอันล่ะ 40000 ดอง ปิ้งย่าง 15000-25000ดองต่อไม้กินอะไรร้อนๆตอนอากาศหนาวๆนี้สุขจริงๆ

หลังจากออกจากหมู่บ้าน cat cat ก็ขี่รถต่อกันไปกินชาบูแซลมอลร้านใกล้กับน้ำตก silver waterfall หนทางประมาณ 13กม. อากาศตอนนั้นอยู่ประมาณ2-3 ํ หนาวมากขี่รถไปมองทางแทบไม่เห็น

หนาวมาก

สภาพคนขับมอเตอร์ไซด์  สุดยอดทุกคน
เมื่อไปถึงร้าน Thac Bac Restaurant  โคตรพีค!!! ร้านปิดครับ   ทั้งหิวทั้งหนาวเลยขี่รถย้อนกลับมาเจอร้านระหว่างทางร้านไหนเปิดก็แวะเลยเพราะหิวและหนาวมากร้านชื่อ  Mộng Mơ SAPA

สั่งเป็นชุดชาบูแซลมอน หมูย่าง ข้าวผัด รวมๆแล้วราคามื้อนี้อยู่ที่ 1055000 ดอง  หลังจากกินเรียบร้อยก็ขี่รถกลับเข้าที่พัก ตั้งใจจะไปเดินเล่นในเมืองซาปาต่อแต่ด้วยสภาพอากาศ และหมอกรวมทั้งมีแต่ละอองน้ำแฉะไปหมด จึงได้แค่ออกมาซื้อของกินเล่นนิดหน่อยแล้วเข้าพักผ่อน
มีร้านขายพวกอัลมอนด์ หลายร้านอยู่ราคาอยู่ประมาณถุงล่ะ 60000-75000ดอง ถุงประมาณ4-5ขีด

          เช้าวันที่สาม.. ตื่นมากินบุฟเฟต์ของโรงแรม  มีทั้งเฝอ กาแฟ ชา ขนมปัง สลัด ข้าวผัด ให้เลือกอยู่เยอะพอสมควร

หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จประมาณ 10 โมงเช้า ก็เรียกแทกซี่ไปขึ้นกระเช้าไปยอดเขาฟรานซิปัน วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าขอไม่ขี่มอเตอร์ไซด์เนื่องจากสภาพเมื่อวานโหดมาก  ตกลงกับรถแท็กซี่ได้ราคาไปกลับ 200000 ดองต่อคัน  วันนี้ยังคงมีหมอกหนาเหมือนเดิมคิดอยู่ว่าขึ้นไปยอดเขาจะได้เห้นอะไรไหมแต่ในเมื่อมาแล้วก็ลองขึ้นไปดู

มีร้านของผลไม้เล็กๆเปิดอยู่ระหว่างทางเดินไปที่ซื้อตั๋ว
ราคาค่าตั๋วขึ้นกระเช้า
เมื่อขึ้นกระเช้าแล้วเป็นไปตามคาดครับ หมอกหนามองอะไรไม่เห็นเลย



::: รูปภาพถ่ายจากกล้องมือถือหลายๆคนในทริปมาแชร์ๆกัน  รูปอาจจะไม่สวยนะครับ :::