☁
เวียดนามเหนือ 5 วัน 4 คืน ☁ กับงบ
9,000 บาทไทย รวมทุกอย่างแล้ว (ถ้าไม่ใจแตกที่duty free
)
ท้ายรีวิวจะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะคะ
ซินจ่าวววว
ประเทศเวียดนาม เมืองฮานอย เมืองซาปา คงจะเห็นรีวิวและกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับเมืองนี้กันมาเยอะแล้วนะคะ
วันนี้ก็อยากจะมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 3 คนค่ะ ( เหตุเกิดจากตัวเราเองช่วงนั้นอยากพักสมองอยากเที่ยวแล้วมีพี่ที่รู้จักกันบังเอิญที่จะไปเวียดนามเหนือพอดี เราเลยขออาศัยติดสอยห้อยตามเค้าไปด้วย อิอิ) บ่นเยอะไปละ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
เราเดินทางเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา กะว่าไปรับอากาศหนาวๆ ที่นั่นสักหน่อย ซึ่งมันก้หนาวสมใจจริงๆค่ะ 555
ทริปนี้เราไปกับเวียดนามแอร์ไลน์ จองตั๋วกับเอเจนซี่ ในงานไทยเที่ยวไทยไปทั่วโลก ที่ศูนย์สิริกิตฯ ค่ะ *หลังไมค์มาได้นะคะไม่มีค่านายหน้าไม่ขายตั๋วผีแต่อย่างใด* ซึ่งอันนี้พี่ที่ไปด้วยเป็นคนจัดการให้หมดเลยนะคะ สนนราคาอยู่ที่ 4,0xx บาทไทย (ที่ราคาสูงอาจจะเป็นเพราะไปช่วงวันหยุดยาวของบ้านเราทำให้ขาไปแพงหน่อยๆค่ะ) เราเลือกบินไปลงลงฮานอย ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ12.30น. ถึงฮานอย ประมาณบ่าย3นิดๆค่ะ เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เราวางแผนบินถึงบ่ายๆเพื่อที่จะได้มีเวลาเดินในเมืองฮานอยแบบไม่น่าเบื่อเท่าไร เพราะคืนแรกเราไปซาปาโดยนอนไนท์บัสค่ะ
_____________________________________________________________________________________
--ตัดภาพมาที่ลงเครื่องเลยนะคะ--
DAY 1
พอลงที่สนามบินฮานอย, Noi Bai International Airport แล้ว เราได้เดินหาซื้อซิมการ์ดตรงบริเวณก่อนทางออกสนามบิน เดินถามตามร้านและดูเรทราคาเงินดอง (ซึ่งไปครั้งนี้เราเอาเงินสกุล USD ไปค่ะเพราะได้เรทสูงกว่าเงินบาท) เดินหาร้านที่ขายซิมจนเจอร้านที่ถูกใจมาเจอร้านที่ราคาถูกใจ ราคาอยู่ที่ 9USD ประมาณ 295 บาทไทยค่ะ มีอินเตอร์เนทใช้ได้ 7 GB ซึ่งอันนี้เป็นซิมเน็ทโดยเฉพาะไม่ได้ซื้อแบบโปรโทรฯ เพราะไม่รู้จะติดต่อใครใช้ เฟส ไลน์ วอทแอพดีกว่าค่ะ แถมสัญญาณเน็ทแรงมากกว่า ตามยอดเขา ตามหมู่บ้านอะไรก็แล้วแต่ แอบดีกว่าบ้านเราเยอะเลยค่ะ
เนื่องจากวันแรกเราขอเปิดทริปด้วยการเข้าตัวเมืองโดยบัสค่ะ บัสบ้านเค้าจะคล้ายๆมินิบัสบ้านเราค่ะ จุคนไม่เยอะไม่แออัด ประมาณ 20-30 คนได้ค่ะ เราจะนั่งบัสกันไปเพื่อเข้าตัวเมืองฮานอย ได้ชมบรรยากาศรอบๆ และเซฟมันนี่ของเราไว้ด้วยค่ะ
เราจะไปที่บัสจอดก็คือ เดินออกจากประตูทางออกก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ เดินไปตรงสุดทาง จะเป็นที่ให้จอดบัส ซึ่งบัสจะมีรอเราอยู่แล้วพอครบ30นาทีบัสก็จะออกจากสนามบิน (ค่าโดยสาร 30.000 ดอง)
พอลงจากรถได้ ก็ถึงเวลาค่ะ เปิดแมพเพื่อจะไปที่เอเจนซี่ที่เราติดต่อไว้เพื่อที่จะนอนไนท์บัสและไปซาปา ซึ่งเราต้องเดิน เดิน เดิน แล้วก็เดินค่ะ ที่บ้านเค้าเวลาข้ามถนนที่นี่ เดินมุ่งหน้าข้ามไปเลย แต่ขอให้ดูไฟแดงนิดนึงนะ และพอก้าวลงถนนบ้านเค้าแล้วละก็ขอแค่ให้มุ่ง มุ่ง แล้วก็มุ่งไปเลยค่ะ ท่านผู้อ่านเพราะว่ามอเตอร์ไซต์บ้านเค้าเยอะมาก และทั้งหมดพร้อมใจกันบีบแตร ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บบบบบ เป็นจังหวะบ้าง ขัดจังหวะบ้าง เสียงดังไพเราะ เสนาะหู ขอแค่เดินไปโดยไม่ลังเล แนนเชื่อว่าทุกท่านจะปลอดภัยค่ะ และไม่มีอุบัติเหตุแน่นอนค่ะ
ที่เราดิวทัวร์กับเอเจนซี่ซื้อทัวร์กับ Ms. Huong มิสเฮือง ค่ะ **FACEBOOK :
Huong Nguyen (viet express travel)**
ราคาและบริการประทับใจค่ะ มีที่ให้อาบน้ำและพักผ่อน ชาจแบต ระหว่างรอ จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ประมาณหกโมงเย็นเราก็ออกไปหาอะไรกิน และทัวร์ในเมืองฮานอยกันค่ะ ซึ่งที่เราจะนอนไนท์บัสไปซาปาต้องรออีกทีตอนสามทุ่มครึ่ง เลยออกมาเดินเล่นดูรอบๆ เมืองฮานอย และวันที่เราไปตรงกับช่วงวันเสาร์-อาทิตย์พอดี เค้าจะมีตลาดกลางคืน คล้ายๆตลาดนัดบ้านเราแหละค่ะ แต่จะมียาววววสุดลูกหูลูกตา และมีโซนร้านเหล้า อารมณ์คล้ายๆข้าวสารบ้านเรา แต่ที่นี้จะมีแต่เกาหลี เหล่าอปป้าที่มานั่งทั้งนั้นค่ะ
และหลังจากเดินมานานท้องเริ่มหิวหน่อยๆ เราจึงหาร้านเด็ดตามพันทิป และดูร้านประกอบเนื่องจากแต่ละร้านคนเยอะเข้าคิวต่อกันเกือบทุกร้านค่ะ และเราก้ได้มาที่ร้านนี้ ซึ่งเข้าคิวเหมือนกันแต่รอไม่นานค่ะ เราก็สั่งมาคนละแบบกัน อ่านไม่ออกหรอกแต่จิ้มๆตามรูปเอา55555 และก่อนไปเราศึกษากันมาแล้วว่าภาษาเวียดนามนั้นนน น้องหมา เค้าอ่านยังไง เขียนแบบไหน เราเลยรอดที่จะจิ้มเมนูนั้นไป (รึป่าว ก็ยังสงสัยกับเนื้อบางประเภทที่เรากินกันเข้าไปบ้าง5555)
เป็นผู้ร่วมทริป และเป็นผู้จัดการทุกสิ่งอย่างให้น้องๆค่ะ
พอเพิ่มพลังงานเสร็จเราก็ไปเดินรอบๆตัวฮานอยเพื่อฆ่าเวลารอขึ้นไนท์บัสกันค่ะ
“Hoan Kiem Lake” ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม เสาร์ อาทิตย์ ถนนโดยรอบทะเลสาบนั้นจะปิด เพื่อให้ผู้คนมาพักผ่อน เดินเล่นกันค่ะ บรรยากาศดีมาก และมีถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วยนะคะ มีความโรแมนติกนิดนึง
ระหว่างที่เดินเล่นรอบๆ นั้น ก็ได้ไปเจอกับร้านชาไข่มุก เลบลองสั่มาชิมกัน ที่นี้สั่งแบบหวาน 50% แต่คือที่นี้เค้าน่าจะไม่ทานหวานกัน คืออารมณ์แบบกินนมจืดเลย แต่มีความหอมของชาอยู่นะคะ แถมพ่อค้าใจดีไม่คิดเงินเราด้วย
“St. Joseph Cathedral” โบสถ์เซนต์โจเซฟ
หลังจากนั้นก็เดินเรื่อยๆกับอากาศเลขตัวเดียวค่ะ เดินคลายหนาวในตลาดเรื่อยๆจนได้เวลาเดินกลับไปเตรียมตัว อาบน้ำและรอบัสนอน เพื่อจะไปซาปาแล้วค่ะ
รถบัสออกประมาณ สี่ทุ่มครึ่ง ถึงซาปา ตอนตีสี่ได้ค่ะ คนขับรถเค้าจะจอดให้ผู้โดยสารนอนอยู่บนรถก่อนเนื่องจากฟ้ายังมึดอยู่ ประมาณ 6 โมงครึ่ง คนขับรถก็จะปลุกให้ลงจากรถแล้วค่ะ
DAY 2
ซาปาเป็นเมืองที่เล็ก เดินถึงกันหมด เราได้เดินไปโรงแรมที่จองไว้ ตามแมพมันบอกว่าประมาณ 15 นาที แต่ด้วยความทุลักทุเลจากหมอก และอากาศหนาวๆ มันทำให้ดูไกลมาก และนานมาก5555 แต่ก็คุ้มกับวิวอยู่ค่ะ โรงแรมที่อยู่ชื่อ Sapa summit Hotel วิวดีมากเลยค่ะ อากาศหนาวมากกกกกก
ตอนไปถึงช่วงเช้าประมาณ 3 องศาในช่วงกลางคืน และประมาณ 12-15 องศาในช่วงกลางวันหมอกลงหนามาก
เสร็จแล้วทำการติดต่อกับรีเซปชั่นของโรงแรม ก้คุยกันเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เราเลือกเช่ารถมอเตอไซต์ค่ะ 2คัน 2 วัน 14 USD ไม่รวมน้ำมันนะ เราต้องไปเติมน้ำมันอีก เติมน้ำมันก็ประมาณ 60,000VNDเต็มถัง (วันนึงใช้เงินเป็นล้าน มันก็จะคลูๆหน่อยค่ะ555)
หลังจากนั้น เราก็ไปรอบๆในตัวซาปา
เริ่มจากที่แรก หมู่บ้าน กั๊ตกั๊ต Cat Cat village พอมาถึงหมู่บ้าน เดินลงไปจากที่จอดรถ จะเจอที่ขายตั๋วเข้าหมู่บ้านค่ะ ราคาคนละ
15,000 VND
เป็นนาขั้นบันได หน้าหนาวแบบนี้ ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้วค่ะ ไว้รอหน้าฝนก็จะเริ่มมีการปลูกข้าวอีกที
จะมีชาวบ้าน เด็กๆมาขายของที่ระลึก ส่วนมากของจะคล้ายๆทางเหนือบ้านเราค่ะ ทางเชียงใหม่ เชียงราย เลยไม่รู้จะซื้ออะไรกลับมา555
พอเดินมาเรื่อยๆ จากอากาศเย็นๆ ตอนนี้เริ่มร้อนหน่อยๆละค่ะ เพราะเดินมาไกล จนถึงน้ำตก(หมู่บ้านที่นี้จะเดินวนเป็นวงกลมค่ะแล้วจะกลับมาที่จอดรถเราเหมือนเดิม) น้ำตกที่นี้เล่นไม่ได้นะคะ เค้าสร้างลานเอาไว้ให้ชมวิวน้ำตกแทน เราจะเดินกลับอีกทางโดยเดินไปตามบันไดเลียบน้ำตก เราเดินวนจนถึงที่จอดรถราวๆ 3กิโลได้ค่ะ แต่ความรู้สึกเหมือนมากกว่านั้น อากาศหายหนาวชั่วคราวไปเลยยยย
หลังจากออกจากหมู่บ้านเราก็ขับกันไปเรื่อยๆ เพื่อหาของกินกันค่ะ ขับรถในเมืองนี้ไม่ต้องระวังรถกันเองนะคะ ระวังแค่หลุม กับแอ่งน้ำที่แอบเราอยู่แค่นั้นเองค่ะ
มาถึงร้านเราก็จิ้มๆ อะไรก็ได้ที่ไม่เข้าข่ายเนื้อน้องหมา555
อันนี้เป็นเฝอค่ะ ที่ซาปาเค้าจะไม่ค่อยกินพริกป่นกัน เค้าจะเป็นพริกสดหั่นซอยแทน กระเทียมดอง แล้วก็เป็นเกลือป่นปรุงแทนค่ะ
ส่วนอันนี้
ติดใจเมนูนี้
Bun cha อ่านบุ๋น-จ๋า หรือป่าวอันนี้ไม่แน่ใจนะคะ จะเป็นแนวซุปๆ รสชาติจะเปรี้ยวๆหวานๆ มีเนื้อไก่ที่ย่างเกรียมๆในซุปด้วยค่ะ กินคู่กับเส้น คล้ายๆเส้นใหญ่บ้านเราแต่เส้นไม่มันนะคะ มีผักกินแกล้มนิดหน่อยแก้เลี่ยน ชอบเมนูนี้ อร่อยค่ะ
ปล.ทริปนี้กินเฝอเกือบทุกมื้อ มี15มื้อ เฝอ12มื้อได้ค่ะ5555
หลังจากที่เราอิ่มหนังท้องตึง เราก็ขับรถเล่นกันค่ะ หมอกลงหนามาก อากาศเย็นขับมอเตอไซต์ไปคือทั้งคิ้ว แล้วขนตามีแต่เกร็ดของน้ำค้าง อารมณ์แม่คะนิ้งเกาะใบไม้หน้าหนาวภาคเหนือค่ะ 55555
เราขับรถฆ่าเวลากันไปเรื่อยๆค่ะ เตรียมตัวไปเชคอินท์พักผ่อน อาบน้ำกันค่ะ
พอเราได้เช็คอิน อาบน้ำเสร็จเตรียมตัวที่จะแว้นต่อ แต่ว่าอากาศเย็นๆมันเริ่มลดลงเรื่อยๆ เราเลยเลือกที่จะนอนคลุมโปงกันอยู่ในห้องค่ะ
พอเริ่มเย็นหน่อยๆ ท้องเริ่มร้อง เราเลยขับรถออกไปหาที่อุ่นๆกันหน่อย
หลังจากนั้นก็อิ่มหลับสบาย รอตื่นเช้าอีกวันเราจะไปยอดเขาฟานซิปันกันค่ะ
DAY 3 5 : ความคิดเห็นที่ 1
BUDJET : ความคิดเห็นที่ 2 นะคะ
**แก้ไข ต่อรีวิวจบค่า*
[CR] ลุยเวียดนามเหนือ 5 วัน 4 คืน หลงรักเมืองซาปา
ท้ายรีวิวจะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะคะ
ประเทศเวียดนาม เมืองฮานอย เมืองซาปา คงจะเห็นรีวิวและกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับเมืองนี้กันมาเยอะแล้วนะคะ
วันนี้ก็อยากจะมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 3 คนค่ะ ( เหตุเกิดจากตัวเราเองช่วงนั้นอยากพักสมองอยากเที่ยวแล้วมีพี่ที่รู้จักกันบังเอิญที่จะไปเวียดนามเหนือพอดี เราเลยขออาศัยติดสอยห้อยตามเค้าไปด้วย อิอิ) บ่นเยอะไปละ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
เราเดินทางเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา กะว่าไปรับอากาศหนาวๆ ที่นั่นสักหน่อย ซึ่งมันก้หนาวสมใจจริงๆค่ะ 555
ทริปนี้เราไปกับเวียดนามแอร์ไลน์ จองตั๋วกับเอเจนซี่ ในงานไทยเที่ยวไทยไปทั่วโลก ที่ศูนย์สิริกิตฯ ค่ะ *หลังไมค์มาได้นะคะไม่มีค่านายหน้าไม่ขายตั๋วผีแต่อย่างใด* ซึ่งอันนี้พี่ที่ไปด้วยเป็นคนจัดการให้หมดเลยนะคะ สนนราคาอยู่ที่ 4,0xx บาทไทย (ที่ราคาสูงอาจจะเป็นเพราะไปช่วงวันหยุดยาวของบ้านเราทำให้ขาไปแพงหน่อยๆค่ะ) เราเลือกบินไปลงลงฮานอย ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ12.30น. ถึงฮานอย ประมาณบ่าย3นิดๆค่ะ เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เราวางแผนบินถึงบ่ายๆเพื่อที่จะได้มีเวลาเดินในเมืองฮานอยแบบไม่น่าเบื่อเท่าไร เพราะคืนแรกเราไปซาปาโดยนอนไนท์บัสค่ะ
_____________________________________________________________________________________
--ตัดภาพมาที่ลงเครื่องเลยนะคะ--
DAY 1
พอลงที่สนามบินฮานอย, Noi Bai International Airport แล้ว เราได้เดินหาซื้อซิมการ์ดตรงบริเวณก่อนทางออกสนามบิน เดินถามตามร้านและดูเรทราคาเงินดอง (ซึ่งไปครั้งนี้เราเอาเงินสกุล USD ไปค่ะเพราะได้เรทสูงกว่าเงินบาท) เดินหาร้านที่ขายซิมจนเจอร้านที่ถูกใจมาเจอร้านที่ราคาถูกใจ ราคาอยู่ที่ 9USD ประมาณ 295 บาทไทยค่ะ มีอินเตอร์เนทใช้ได้ 7 GB ซึ่งอันนี้เป็นซิมเน็ทโดยเฉพาะไม่ได้ซื้อแบบโปรโทรฯ เพราะไม่รู้จะติดต่อใครใช้ เฟส ไลน์ วอทแอพดีกว่าค่ะ แถมสัญญาณเน็ทแรงมากกว่า ตามยอดเขา ตามหมู่บ้านอะไรก็แล้วแต่ แอบดีกว่าบ้านเราเยอะเลยค่ะ
เนื่องจากวันแรกเราขอเปิดทริปด้วยการเข้าตัวเมืองโดยบัสค่ะ บัสบ้านเค้าจะคล้ายๆมินิบัสบ้านเราค่ะ จุคนไม่เยอะไม่แออัด ประมาณ 20-30 คนได้ค่ะ เราจะนั่งบัสกันไปเพื่อเข้าตัวเมืองฮานอย ได้ชมบรรยากาศรอบๆ และเซฟมันนี่ของเราไว้ด้วยค่ะ
เราจะไปที่บัสจอดก็คือ เดินออกจากประตูทางออกก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ เดินไปตรงสุดทาง จะเป็นที่ให้จอดบัส ซึ่งบัสจะมีรอเราอยู่แล้วพอครบ30นาทีบัสก็จะออกจากสนามบิน (ค่าโดยสาร 30.000 ดอง)
พอลงจากรถได้ ก็ถึงเวลาค่ะ เปิดแมพเพื่อจะไปที่เอเจนซี่ที่เราติดต่อไว้เพื่อที่จะนอนไนท์บัสและไปซาปา ซึ่งเราต้องเดิน เดิน เดิน แล้วก็เดินค่ะ ที่บ้านเค้าเวลาข้ามถนนที่นี่ เดินมุ่งหน้าข้ามไปเลย แต่ขอให้ดูไฟแดงนิดนึงนะ และพอก้าวลงถนนบ้านเค้าแล้วละก็ขอแค่ให้มุ่ง มุ่ง แล้วก็มุ่งไปเลยค่ะ ท่านผู้อ่านเพราะว่ามอเตอร์ไซต์บ้านเค้าเยอะมาก และทั้งหมดพร้อมใจกันบีบแตร ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บบบบบ เป็นจังหวะบ้าง ขัดจังหวะบ้าง เสียงดังไพเราะ เสนาะหู ขอแค่เดินไปโดยไม่ลังเล แนนเชื่อว่าทุกท่านจะปลอดภัยค่ะ และไม่มีอุบัติเหตุแน่นอนค่ะ
ที่เราดิวทัวร์กับเอเจนซี่ซื้อทัวร์กับ Ms. Huong มิสเฮือง ค่ะ **FACEBOOK :
Huong Nguyen (viet express travel)**
ราคาและบริการประทับใจค่ะ มีที่ให้อาบน้ำและพักผ่อน ชาจแบต ระหว่างรอ จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ประมาณหกโมงเย็นเราก็ออกไปหาอะไรกิน และทัวร์ในเมืองฮานอยกันค่ะ ซึ่งที่เราจะนอนไนท์บัสไปซาปาต้องรออีกทีตอนสามทุ่มครึ่ง เลยออกมาเดินเล่นดูรอบๆ เมืองฮานอย และวันที่เราไปตรงกับช่วงวันเสาร์-อาทิตย์พอดี เค้าจะมีตลาดกลางคืน คล้ายๆตลาดนัดบ้านเราแหละค่ะ แต่จะมียาววววสุดลูกหูลูกตา และมีโซนร้านเหล้า อารมณ์คล้ายๆข้าวสารบ้านเรา แต่ที่นี้จะมีแต่เกาหลี เหล่าอปป้าที่มานั่งทั้งนั้นค่ะ
และหลังจากเดินมานานท้องเริ่มหิวหน่อยๆ เราจึงหาร้านเด็ดตามพันทิป และดูร้านประกอบเนื่องจากแต่ละร้านคนเยอะเข้าคิวต่อกันเกือบทุกร้านค่ะ และเราก้ได้มาที่ร้านนี้ ซึ่งเข้าคิวเหมือนกันแต่รอไม่นานค่ะ เราก็สั่งมาคนละแบบกัน อ่านไม่ออกหรอกแต่จิ้มๆตามรูปเอา55555 และก่อนไปเราศึกษากันมาแล้วว่าภาษาเวียดนามนั้นนน น้องหมา เค้าอ่านยังไง เขียนแบบไหน เราเลยรอดที่จะจิ้มเมนูนั้นไป (รึป่าว ก็ยังสงสัยกับเนื้อบางประเภทที่เรากินกันเข้าไปบ้าง5555)
เป็นผู้ร่วมทริป และเป็นผู้จัดการทุกสิ่งอย่างให้น้องๆค่ะ
พอเพิ่มพลังงานเสร็จเราก็ไปเดินรอบๆตัวฮานอยเพื่อฆ่าเวลารอขึ้นไนท์บัสกันค่ะ
“Hoan Kiem Lake” ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม เสาร์ อาทิตย์ ถนนโดยรอบทะเลสาบนั้นจะปิด เพื่อให้ผู้คนมาพักผ่อน เดินเล่นกันค่ะ บรรยากาศดีมาก และมีถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วยนะคะ มีความโรแมนติกนิดนึง
ระหว่างที่เดินเล่นรอบๆ นั้น ก็ได้ไปเจอกับร้านชาไข่มุก เลบลองสั่มาชิมกัน ที่นี้สั่งแบบหวาน 50% แต่คือที่นี้เค้าน่าจะไม่ทานหวานกัน คืออารมณ์แบบกินนมจืดเลย แต่มีความหอมของชาอยู่นะคะ แถมพ่อค้าใจดีไม่คิดเงินเราด้วย
“St. Joseph Cathedral” โบสถ์เซนต์โจเซฟ
หลังจากนั้นก็เดินเรื่อยๆกับอากาศเลขตัวเดียวค่ะ เดินคลายหนาวในตลาดเรื่อยๆจนได้เวลาเดินกลับไปเตรียมตัว อาบน้ำและรอบัสนอน เพื่อจะไปซาปาแล้วค่ะ
รถบัสออกประมาณ สี่ทุ่มครึ่ง ถึงซาปา ตอนตีสี่ได้ค่ะ คนขับรถเค้าจะจอดให้ผู้โดยสารนอนอยู่บนรถก่อนเนื่องจากฟ้ายังมึดอยู่ ประมาณ 6 โมงครึ่ง คนขับรถก็จะปลุกให้ลงจากรถแล้วค่ะ
DAY 2
ซาปาเป็นเมืองที่เล็ก เดินถึงกันหมด เราได้เดินไปโรงแรมที่จองไว้ ตามแมพมันบอกว่าประมาณ 15 นาที แต่ด้วยความทุลักทุเลจากหมอก และอากาศหนาวๆ มันทำให้ดูไกลมาก และนานมาก5555 แต่ก็คุ้มกับวิวอยู่ค่ะ โรงแรมที่อยู่ชื่อ Sapa summit Hotel วิวดีมากเลยค่ะ อากาศหนาวมากกกกกก ตอนไปถึงช่วงเช้าประมาณ 3 องศาในช่วงกลางคืน และประมาณ 12-15 องศาในช่วงกลางวันหมอกลงหนามาก
เสร็จแล้วทำการติดต่อกับรีเซปชั่นของโรงแรม ก้คุยกันเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เราเลือกเช่ารถมอเตอไซต์ค่ะ 2คัน 2 วัน 14 USD ไม่รวมน้ำมันนะ เราต้องไปเติมน้ำมันอีก เติมน้ำมันก็ประมาณ 60,000VNDเต็มถัง (วันนึงใช้เงินเป็นล้าน มันก็จะคลูๆหน่อยค่ะ555)
หลังจากนั้น เราก็ไปรอบๆในตัวซาปา
เริ่มจากที่แรก หมู่บ้าน กั๊ตกั๊ต Cat Cat village พอมาถึงหมู่บ้าน เดินลงไปจากที่จอดรถ จะเจอที่ขายตั๋วเข้าหมู่บ้านค่ะ ราคาคนละ 15,000 VND
จะมีชาวบ้าน เด็กๆมาขายของที่ระลึก ส่วนมากของจะคล้ายๆทางเหนือบ้านเราค่ะ ทางเชียงใหม่ เชียงราย เลยไม่รู้จะซื้ออะไรกลับมา555
พอเดินมาเรื่อยๆ จากอากาศเย็นๆ ตอนนี้เริ่มร้อนหน่อยๆละค่ะ เพราะเดินมาไกล จนถึงน้ำตก(หมู่บ้านที่นี้จะเดินวนเป็นวงกลมค่ะแล้วจะกลับมาที่จอดรถเราเหมือนเดิม) น้ำตกที่นี้เล่นไม่ได้นะคะ เค้าสร้างลานเอาไว้ให้ชมวิวน้ำตกแทน เราจะเดินกลับอีกทางโดยเดินไปตามบันไดเลียบน้ำตก เราเดินวนจนถึงที่จอดรถราวๆ 3กิโลได้ค่ะ แต่ความรู้สึกเหมือนมากกว่านั้น อากาศหายหนาวชั่วคราวไปเลยยยย
หลังจากออกจากหมู่บ้านเราก็ขับกันไปเรื่อยๆ เพื่อหาของกินกันค่ะ ขับรถในเมืองนี้ไม่ต้องระวังรถกันเองนะคะ ระวังแค่หลุม กับแอ่งน้ำที่แอบเราอยู่แค่นั้นเองค่ะ
มาถึงร้านเราก็จิ้มๆ อะไรก็ได้ที่ไม่เข้าข่ายเนื้อน้องหมา555
อันนี้เป็นเฝอค่ะ ที่ซาปาเค้าจะไม่ค่อยกินพริกป่นกัน เค้าจะเป็นพริกสดหั่นซอยแทน กระเทียมดอง แล้วก็เป็นเกลือป่นปรุงแทนค่ะ
ส่วนอันนี้
ติดใจเมนูนี้ Bun cha อ่านบุ๋น-จ๋า หรือป่าวอันนี้ไม่แน่ใจนะคะ จะเป็นแนวซุปๆ รสชาติจะเปรี้ยวๆหวานๆ มีเนื้อไก่ที่ย่างเกรียมๆในซุปด้วยค่ะ กินคู่กับเส้น คล้ายๆเส้นใหญ่บ้านเราแต่เส้นไม่มันนะคะ มีผักกินแกล้มนิดหน่อยแก้เลี่ยน ชอบเมนูนี้ อร่อยค่ะ
ปล.ทริปนี้กินเฝอเกือบทุกมื้อ มี15มื้อ เฝอ12มื้อได้ค่ะ5555
หลังจากที่เราอิ่มหนังท้องตึง เราก็ขับรถเล่นกันค่ะ หมอกลงหนามาก อากาศเย็นขับมอเตอไซต์ไปคือทั้งคิ้ว แล้วขนตามีแต่เกร็ดของน้ำค้าง อารมณ์แม่คะนิ้งเกาะใบไม้หน้าหนาวภาคเหนือค่ะ 55555
เราขับรถฆ่าเวลากันไปเรื่อยๆค่ะ เตรียมตัวไปเชคอินท์พักผ่อน อาบน้ำกันค่ะ
พอเราได้เช็คอิน อาบน้ำเสร็จเตรียมตัวที่จะแว้นต่อ แต่ว่าอากาศเย็นๆมันเริ่มลดลงเรื่อยๆ เราเลยเลือกที่จะนอนคลุมโปงกันอยู่ในห้องค่ะ
พอเริ่มเย็นหน่อยๆ ท้องเริ่มร้อง เราเลยขับรถออกไปหาที่อุ่นๆกันหน่อย
หลังจากนั้นก็อิ่มหลับสบาย รอตื่นเช้าอีกวันเราจะไปยอดเขาฟานซิปันกันค่ะ
DAY 3 5 : ความคิดเห็นที่ 1
BUDJET : ความคิดเห็นที่ 2 นะคะ
**แก้ไข ต่อรีวิวจบค่า*