สำหรับผมมองว่า สมาคมปัจจุบัน อยากเน้นถึงรากฐานการพัฒนาจริงๆ เพื่อผลที่ยั่งยืน

เพราะเขารู้อยู่แล้วว่านักเตะไทย ได้แค่นี้

ถึงแม้เข้ามาในระบบอะคาเดมี่ในสโมสร ถึงจะสโมสรใหญ่ก็เถอะ แต่ด้วยงบประมาณของแต่ละสโมสรมันจำกัด จะมาสร้างเด็กที่โตมาทุกชุด U ต่างๆ ให้ดีหมดคงไม่ได้

เพราะเด็กที่เขาเลือกมาแต่ละ U มันก็ไม่น่าจะมาเป็น 100 คน เขาก็ต้องจำกัด จำนวนนักเตะ

แต่เด็กพวกนี้ พอตอนเล็กเล่นเก่ง พอโตมาอีโก้สูง เล่นไม่ดี สโมสรก็พลาดไป ก็ต้องเข็นลง ไม่ว่าทีมพี่ หรือทีมน้องก็ตาม เพราะตัวเลือกมันน้อย

พอพลาดแล้วทำไง ก็ต้องไปดึงเด็กจากที่อื่นมาพัฒนาต่อ ถ้าเงินถึงในสโมสรใหญ่ แล้วถ้าสโมสรเล็กละ โดนดึงเด็กไป ก็ต้องเอาเด็กอีโก้จากทีมใหญ่ไปใช้งาน

ซึ่งจริงๆ แล้วอาจมองเหมือนสโมสรในยุโรปทำกัน

แต่ระบบอะคาเดมี่ในไทยยังเอาแค่ให้ครบ 11 ตัวจริงที่เก่งๆ สุดๆ ยังลำบากเลย

ของยุโรป เขาตัวเหลือๆ เพียบ

พอเป็นแบบนี้ เด็กไทยรุ่นใหม่ พอติดชุดใหญ่ หรือสำรองชุดใหญ่มาหน่อย เลยไม่สู้ละ เพราะมีตังใช้อย่างน้อย หลักหลายหมื่นต่อเดือน อยู่สบายๆ

สมาคมเลยเล็งเห็นในจุดนิ้ เลยต้องรีบจ้างเอคโคโน่เข้ามา เพื่อช่วยปั้นเด็กอะคาเดมี่สมาคมมาช่วยเสริม เพื่อให้เกิดการแข่งขันในตัวเด็ก และ ก็เอาเอคโคโน่ ไปอบรมโค๊ชท้องถิ่นต่างๆ ด้วย ซึ่งจุดนี้ นับเป็นแนวคิดดี แต่พลาดตรง ให้เขาไปเป็นเฮดโค๊ชชุด u ต่างๆ นี่แหละ เราเลยมาด่ากัน

ซึ่งจริงๆ ผมมองว่า พอสมาคมให้เอคโคโน่ฝึกให้กับโค๊ชท้องถิ่นแล้ว ใครพอมีแวว สมาคมก็จะดึงมาปั้น โดยให้อบรมไลน์เซนต์ต่างๆ ต่อเนื่องเองแหละครับ ตามที่เริ่มทำตอนนี้

ถ้าทำแบบนี้ได้ครบวงจร อีกหน่อย นักเตะเราจะมีคุณภาพดี และได้ฝึกสอนอย่างมีคุณภาพ จนทำให้เกิดช้างเผือกโผล่ขึ้นทุกที่ทั่วประเทศมากมาย มหาศาลแน่นอน จนให้เกิดการแข่งขันในแต่ละรุ่น เรียกว่าใครมาอีโก้ ก็เตรียมลงไปเล่นลีกล่างๆ ซะ

ปล. สำหรับผม แค่ถามใจแฟนบอลแหละครับ จะรอ หรือจะโล๊ะ แค่นั้นเอง รอได้หรือเปล่า??

ท่านอื่นๆ ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ ^_^