ทำงานที่โรงเรียนเอกชน เป็นแบบนี้กันไหมเอ่ย...

ก่อนอื่นก็ สวัสดีก่อนนะคะ (เพิ่งเคยเขียนกระทู้นี้เป็นครั้งแรก เพราะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่คาใจเป็นอย่างมาก หากขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ)

เริ่มเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ...

คือ เราเพิ่งเรียนจบ หางานทำ หาเงินเพื่อที่จะใช้หนี้ กยศ. ในวันข้างหน้า และเลี้ยงส่งครอบครัว และจ่ายค่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายต่างๆ
เราจบ ป.ตรี ไม่ได้จบสายครูมา
เราไปสมัครทำงาน เป็นคุณครูที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง (ชอบค่ะ อยากเป็นคุณครู)

ช่วงแรก...
เริ่มทำงานได้วันละ 300 บาท (ไปวันพิเศษไม่ได้นะคะ เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่ได้ค่ะ ไม่ว่าจะซ้อมดนตรี หรือเข้าค่าย) อยู่แบบนี้ ประมาณ 90 วัน ถึงจะผ่านโปร และช่วงนี้ยังได้ไม่เป็นครูประจำชั้น เป็นครูลอย ช่วงเลิกเรียนก็จะต้องดูแลเด็กๆ ที่ไม่ได้เรียนพิเศษ ผอ. ก็จะไปหักเงินที่คุณครูประจำชั้นที่ได้สอนพิเศษเด็กๆ มาคนละ 100 บาทมาให้ครูที่ดูแลเด็กๆตรงนี้ (ซึ่งช่วงนี้เราก็ดู แต่เราไม่เห็นได้??) เด็กที่ไม่เรียนพิเศษก็จะมีตั้งแต่เด็กเล็กอนุบาล-ประถม ซึ่งเด็กที่ไม่เรียนพิเศษจะเป็นเด็กที่ดื้อมากๆ ก็ว่าได้ แล้วเราก็คอยส่งเด็กที่ไม่ได้เรียนพิเศษให้กับผู้ปกครองที่มารับด้วย..

ช่วงต่อมา... (ยังอยู่ในช่วงทดลองงาน 90 วัน)
มีคุณครูประจำชั้นลาออก ลาออกตอนช่วงปิดเทอมใหญ่พอดี เราก็เลยได้รับภาระต่อตรงนั้น แบบงงๆ ไปไม่ถูก ทั้งทะเบียนต่างๆ เอกสารนักเรียนต่างๆ คะแนนต่างๆ โครงการต่างๆ และงานวิจัย ซึ่งเราก็พยายามที่จะเรียนรู้ และทำมันให้ดีที่สุด แล้วก็ทำสำเร็จ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอม ครูก็จะไม่ได้หยุดเหมือนที่นักเรียนหยุดกัน ไม่ได้เหมือนที่ผู้ปกครองเขาคิด ว่าโรงเรียนหยุด คุณครูก็ได้หยุดกันสบายเลย ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คุณครูก็ต้องมาทำกันตามปกติ บางวัน ผอ. ก็ใจดีเลี้ยงข้าวกล่องอาหารตามสั่ง มื้อกลางวัน ช่วงปิดเทอมใหญ่ก็จะมีอากาศที่ร้อนมาก ก็จะไม่ได้ทำงานในห้องเรียน (ไม่มีห้องพักครู) คุณครูทุกคนต้องออกมาทำงานที่โรงอาหาร (ทำในห้องเรียนรวมๆ กันไม่ได้ ผอ. บอกเปลืองค่าไฟ) ทุกคนก็นั่งทนร้อนกันที่โรงอาหารไปค่ะ พัดลมก็เปิดไม่ได้ ถ้าเปิดไอร้อนจากหลังคาโรงอาหารก็จะลงมา วันไหนหามุมตั้งพัดลมใหม่ เปิด ก็จะโดน ผอ. แซว ประมาณว่าสบายกันจัง เปลืองค่าไฟเพิ่มอีก ประมาณนี้ เป็นแบบนี้จนกว่าจะเปิดเทอมค่ะ แล้วก็แบ่งเวรผลัดกันมาเฝ้าโรงเรียน ช่วงใกล้เปิดเทอมค่ะ ให้คุณครูได้หยุดพักผ่อนผลัดกันค่ะ ช่วงอยู่เวรเฝ้าโรงเรียน บางวันก็ไม่มีน้ำใช้ ต้องออกไปทำธุระที่บ้าน ไม่ก็ละแวกใกล้ๆค่ะ (บอกเลยค่ะ ว่าโรงเรียนไม่ได้อยู่ในถิ่นทุรกันดารนะคะ คือ ผอ. ไม่อยู่ ก็ไม่ได้เปิดน้ำค่ะ ผอ.จะเป็นคนเปิด-ปิด วาวล์น้ำเอง) ถ้ามาโรงเรียนตอนเช้าๆ วันเปิดเทอม อย่าได้ท้องเสียเชียวววว...

ช่วงเปิดเทอม...
เป็นช่วงที่ลุ้นว่าจะได้ผ่านโปรมั้ย จะได้เงินเดือนเท่าไหร่กัน จะได้ประจำชั้นมั้ย และแล้วก็ได้เป็นครูประจำชั้น จากทำงานได้ 300 บาท/วัน (ทำงานเดือนนึงประมาณ 20 วัน) ผ่านโปรได้เพิ่ม 1,000 (ดีใจเหลือเกิน...อมยิ้ม08) พอได้ประจำชั้นก็ได้รายได้เพิ่มจากการสอนพิเศษเด็กหลังเลิกเรียน 1 ชม. เด็กที่เรียนก็เป็นเด็กที่ได้ประจำชั้นอยู่ บางคนไม่เรียนก็กลับบ้านผู้ปกครองมารับไว บางคนก็ไปอยู่โรงอาหาร เราก็สั่งการบ้านให้นั่งทำไป ทำเสร็จก็แวะมาให้เราตรวจ เราก็สอนพิเศษเต็มที่ สอนมาทั้งวันก็เต็มที่ เด็กเรียนพิเศษก็จะตกคนละ 300 บาท/เดือน เด็กคนไหนขาดเรียนบ่อย เราก็คิดแค่ครึ่งนึง (เด็กในห้องหนึ่งตกไม่ถึง 25 คน/ชั้น) พอสิ้นเดือนก็จะถูก ผอ.หักเงินเดือนเป็นค่าใช้พื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ในการสอนพิเศษ 100 บาท/เด็กเรียนพิเศษ 1 คน พอสิ้นเดือน เราได้เงินเดือนมาก็ต้องแกะซอง (รับเป็นเงินสด) แล้วจ่ายให้ ผอ.ไป (บอกตรงๆ ถ้าที่บ้านเราไม่มีรายได้อย่างอื่นๆ อาชีพอื่น เราอยู่ไม่ได้จริงๆ แต่รายได้ที่บ้านก็ไม่แน่ไม่นอนค่ะ) อดทนมาจนเกือบปี จนมีครูประจำชั้นหลายท่านลาออก หนึ่งในนั้นก็เป็นครูที่บรรจุแล้ว เราก็เลยต้องบรรจุเข้าไปแทน ไม่งั้น โรงเรียนจะถูกปิด อะไรประมาณแบบนี้ พอบรรจุ ส่งเอกสารยื่นเรื่องคุรุสภาผ่าน ผอ. ก็พาไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร สั่งให้เราเปิดแบบไม่เอาบัตรกด ไม่สมัครพร้อมเพย์ อะไรใดๆทั้งสิ้น ตอนที่พนักงานธนาคารถามว่าจะมียอดเงินเดือนเข้าประมาณเท่าไหร่ ผอ. ก็บอกว่า 15,000 (เราก็ดีใจว่าจะได้เพิ่มเงินเดือนแล้ว) ผอ. ให้มา 500 เพื่อเปิดบัญชี พอเปิดบัญชีเสร็จ ผอ. ก็จะเก็บสมุดบัญชีเราไป (หายไปกับตา) โดยที่ไม่ให้เรารู้เลขที่บัญชีเลย... ร้องไห้ พอกลับมาที่โรงเรียน ผอ. ก็นำใบเบิกเงินมาให้เราเซ็น แต่ไม่ได้ใส่จำนวนเงิน เราก็เซ็นไป พอสิ้นเดือน เราก็ได้เงินเท่าเดิม เหมือนตอนที่ยังไม่ได้บรรจุ (ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องได้เงินเดือนเท่าไหร่) พอได้บรรจุ ก็จะโดนหักอีก ผอ. บอกค่า สช. ประมาณ 420 บาท ค่าธนาคาร 10 บาท บางเดือนก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ฟอร์มของโรงเรียน และอื่นๆ ซึ่งเดือนๆหนึ่ง เราก็ไม่เหลือไรอะไรเลย เพราะสื่อการสอน อุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน อุปกรณ์ห้องเรียน เราออกเอง เพราะขอเบิกที่ ผอ. ยากมากๆ และช้าไม่ทันใช้งาน พอขึ้นปีใหม่ เราก็ยังได้เงินเดือนเท่าเดิม (เราเลยรู้สึกว่า เราไม่ไหวแล้วกับเงินแค่นี้ เราไม่พอจ่ายค่าบ้าน ค่าบ้านจากที่ไม่เคยติดค้างก็ต้องขอผ่อนจ่าย ค่าเน็ตก็ไม่เคยค้างก็ต้องค้างไว้ก่อน เงินที่เคยส่งให้แม่กับน้องๆก็ไม่มีให้แล้ว แล้วปีนี้ไหนจะรับปริญญา เราก็ไม่มีเงินเก็บเลย ไหนจะปีนี้ต้องจ่ายค่า กยศ.อีก เราเลยคิดว่าจะสู้ต่อไปก็ไม่ได้แล้ว คงต้องเปลี่ยนงานสักที) ยิ่งทำที่นี่มีแต่จะจนลงทุกวันเลย (ความรู้สึกส่วนตัวนะ) อมยิ้ม20

และยังมีอีกหลายเรื่องที่โรงเรียนนี้เขาทำ เราก็งง ว่าอย่างนี้ก็ได้หรอ?...
เช่น...
*ให้คุณครูไปหาเด็กมาเรียนเพิ่ม ที่เด็กมาเรียนน้อย เป็นเพราะครูที่สอน
*ตอนอาหารกลางวัน ข้าวจานหนึ่ง 10 บาท ซึ่งเราดูแล้วว่า น้อยมากจริงๆ แค่ประมาณ  5 คำก็หมดแล้ว โภชนาการก็ไม่ตรงตามที่เราได้ศึกษามา บางวันก็มาม่า กับน้ำซุบกระดูกหมู บางวันก็ต้มจับฉ่ายที่ ผอ. ไหว้เสร็จก็มาขาย (เราสงสารเด็กมาก)
*น้ำอัดลมที่เอามาขาย ก็ได้ฟรีจากวันเด็ก ที่รถขายส่งน้ำเอามาให้ น้ำแก้วนึงก็เล็กมากค่ะ (ความรู้สึกเรานะ) น้ำแข็งก็ขาย 2 แก้ว 5 บาท (ความรู้สึกเรา ว่าแพงมาก) เราไปซื้อร้านข้างนอก กระสอบขนาดเดียวกับที่ร้านน้ำแข็งมาส่ง แค่ ไม่ถึง 50 บาทเลย
((อะไรๆ ก็ดูแพงมากในโรงเรียนนี้ ต่างจากที่โรงเรียนอื่น ที่เราเคยไปสอนมาเลย)) ยกเว้นค่าเทอมนะ ถูกอยู่นะ ค้างก็ผ่อนจ่ายได้ (ผู้ปกครองบางคนก็ไม่มาจ่ายเลย ก็โทษครูประจำชั้นไป)
*ตอนวันเด็ก ผอ. ก็จะให้เราก็ไปหาผู้สนับสนุนงานวันเด็กมา ผู้สนับสนุนเขาให้มาเป็นเงินสดบ้าง ของรางวัลบ้าง เราเอาไปให้ ผอ.ๆ ก็จะเก็บไว้ ไม่นำมาแจกเด็ก บ้างก็เอามาแจก (เราก็ไม่เข้าใจ เขาเอาไปทำอะไร ไม่เห็นแจ้ง หรือเขาลืม) เงินสดที่ได้มา บางซองก็เขียนว่าเป็นทุนการศึกษา เขาก็จะเก็บ (แต่โชคดี เราทักท้วงไป ให้ครูคนอื่นช่วยทักท้วงไปด้วย) ซองนั้นก็เลยถึงมือเด็กไป และวันเด็ก ผอ. ก็ไม่เห็นมีอะไรเลี้ยงเด็ก มีแต่ผู้ปกครองที่นำอาหารมาเลี้ยงเด็กเท่านั้น (หรือจะเอางบไปจัดสถานที่ เราก็ว่าไม่น่าใช่ เพราะว่าของที่เอามาจัดนั้นล้วนเป็นแต่ของเก่า ที่มีอยู่แล้วมาจัดทั้งนั้น)
*สภาพห้องเรียนก็เก่า เราว่า โรงเรียนวัดยังดูใหม่ สะอาดกว่าเลย
*สภาพรถโรงเรียนที่ไปรับ-ส่งนักเรียนที่บ้าน ก็เป็นรถเมย์เก่า รถโรงเรียนบ้าง สภาพน่าอันตรายมาก เรารู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเลยนะ แต่คนขับโอเค
((ยังมีตั้งหลายอย่างที่ไม่ได้เล่า)) พอแค่นี้ดีกว่า... หดหูมาก...อมยิ้ม35

เราไม่รู้จะต้องทำยังไง...??
ใครเจอแบบนี้บ้าง...??
มีวิธีอย่างไรบ้าง...??

ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เข้ามาอ่านกระทู้แรกของเรา อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จังหวัดอะไรคะ บอกได้มั่ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่