การขอวีซ่าแต่งงานของเกาหลีใต้
ต้องขอบอกว่ามีคำแนะนำและวิธีการมากมายหลายหลากในอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว
แต่โมจะขอนำประสบการณ์ตรงของปี 2561 ที่ได้ไปเดินเรื่องมาเล่าให้ฟัง
เผื่อเพื่อนๆท่านไหนกำลังมีแพลนยื่นขอวีซ่าจะได้เตรียมตัวได้ง่ายขึ้นนะค่ะ
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นวีซ่า
คนไทย
1.แบบฟอร์มขอวีซ่า F6 (Visa application form)
2.แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติไทย
:: แบบฟอร์ม 2 ใบนี้โหลดได้ที่เว็บของสถานฑูตค่ะ ::
http://overseas.mofa.go.kr/th-th/brd/m_3135/view.do?seq=700030&srchFr=&srchTo=&srchWord=&srchTp=&multi_itm_seq=0&itm_seq_1=0&itm_seq_2=0&company_cd=&company_nm=&page=1
3.รูปถ่าย 1 รูป (พื้นหลังสีขาวเท่านั้น ขนาด 3.5x4.5 cm)
4.พาสปอร์ต และ สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ
5.เอกสารประวัติการขอหนังสือเดินทางของคนไทย (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
6.ใบตรวจสุขภาพ ต้อง
ออกให้โดยโรงพยาบาลเท่านั้น ออกโดยคลินิกใช้ไม่ได้นะค่ะ, ต้องระบุโรคทั่วไป โรคเอดส์ กามโรค และสุขภาพจิต (
ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบตรวจสุขภาพสามารถใช้แนบได้หลังจากตรวจสุขภาพ
ไม่เกิน 180 วันเท่านั้น ::
7.ใบรับรองความประพฤติ (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบรับรองความประพฤติสามารถใช้แนบได้หลังจากราชการออกให้
ไม่เกิน 90 วันเท่านั้น ::
8.ใบหลักฐานยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาเกาหลี
:: เลือกเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อยื่นแนบค่ะ ::
-ผลสอบ TOPIK ผ่านระดับที่ 1
-ประกาศนียบัตรจบหลักสูตรภาษาเกาหลี 120 ชั่วโมงขึ้นไป
-จบการศึกษามหาวิทยาลัยในเกาหลี
-ปริญญาตรี-เอกด้านการใช้ภาษาเกาหลี
9.เอกสารเพิ่มเติม ถ้ามี
:: เช่น ใบสำคัญการหย่า , ใบเปลี่ยนชื่อสกุล เป็นต้น ( ต้องนำไปแ
ปลเป็นภาษาอังกฤษ และรับรองที่กรมการกงศุลด้วยนะค่ะ )
คนเกาหลี
1.แบบฟอร์ม ที่คนเกาหลีต้องกรอก ชื่อ แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติเกาหลี 1 และ แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติเกาหลี 2
:: แบบฟอร์มใบนี้โหลดได้ที่เว็บของสถานฑูตค่ะ ::
http://overseas.mofa.go.kr/th-th/brd/m_3135/view.do?seq=700030&srchFr=&srchTo=&srchWord=&srchTp=&multi_itm_seq=0&itm_seq_1=0&itm_seq_2=0&company_cd=&company_nm=&page=1
2.สำเนาพาสปอร์ต
3.ใบแสดงความสัมพันธ์การสมรส ก็คือใบทะเบียนสมรถของเกาหลี
4.ใบแสดงความสัมพันธ์ครอบครัว ก็คือใบคาจกกวานคเยซอ
:: เอกสารต้องไม่เกิน 90 ววันหลังวันที่ออกเอกสาร ::
5.เอกสารแสดงรายการทรัพย์สินส่วนตัว
:: เช่น สำเนาสัญญาเช่าบ้าน , สำเนาทะเบียนบ้าน ถ้ามีครอบครอง เป็นต้น ::
6.ใบรับรองการทำงาน
7.สำเนาใบจดทะเบียนบริษัท ที่ทำงานอยู่ หรือ ที่เป็นเจ้าของ
8.ใบรับรองฐานะทางการเงิน
9.ใบประวัติอาชญากรรม
10.ใบรับรองการเข้าอบรมโปรแกรมการแต่งงานระหว่าประเทศ
11.ใบตรวจสุขภาพต้องออกให้โดยโรงพยาบาลเท่านั้น ออกโดยคลินิกใช้ไม่ได้นะค่ะ, ต้องระบุโรคทั่วไป โรคเอดส์ กามโรค และสุขภาพจิต (
ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบตรวจสุขภาพสามารถใช้แนบได้หลังจากตรวจสุขภาพ
ไม่เกิน 180 วันเท่านั้น ::
นี่คือเอกสารที่ต้องมี และเงื่อนไขคร่าวๆของเอกสารแต่ละใบนะค่ะ
ตอนยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตควรมีเอกสารเหล่านี้ให้ครบ เพื่อที่จะได้มีการนัดสัมภาษณ์วีซ่า
เบื้องต้นหากเอกสารไม่ครบขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ว่าจะรับเอกสารที่มี แล้วที่ไม่ครบค่อยแนบวันนัดสัมภาษณ์ หรือไม่รับเอกสาร ให้นำมาให้ครบก่อนจึงจะนัดสัมภาษณ์อีกครั้งคะ
มาต่อกันที่การแนะนำลำดับการขอเอกสาร การยื่น และการเดินทางนะคะ
เบื้องต้นที่ควรต้องครบก่อนเลยก็คือเอกสารของคนเกาหลีข้างต้น เพราะต้องส่งทุกอย่างมาดำเนินการที่ไทย อันนี้ให้เค้าเตรียมตัวเอง
แต่เนื่องจากโมได้มีโอกาสเตรียมเอกสารร่วมกับโอปป้า ก็จะพอรู้รายละเอียดบ้าง เช่น เอกสาร Credit info ที่นำแนบเพิ่มในรายการแสดงทรัพย์สิน ใบรับรองฐานะทางการเงิน ขอได้จากเว็บไซด์, ใบประวัติอาชญากรรม โอปป้าต้องเอารูปไปด้วย 1 ใบ ตอนยื่นขอ , สำเนาใบจดทะเบียนบริษัทของคนเกาหลี โดยปกติ เมื่อโอปป้าขอใบรับรองการทำงาน เค้าก็จะแนบมาให้ด้วย สะดวกมากเลย , ใบรับรองการอบรมโปรแกรมแต่งงานระหว่างประเทศ ต้องเข้าอบรมจริงๆ ต้องจองคิวผ่านเน็ตนะค่ะ หลังจากจบอบรมก็จะได้ใบรับรองมาเลย 1 ใบ แนะนำถ่ายสำเนาไว้กันหาย กันขาดค่ะ ดังนี้เป็นต้น
พอโมกลับมาที่ไทย สิ่งที่โมทำคือ เตรียมเอกสารให้ครบ ( ความจริงแล้วเอกสารบางตัว เช่น ใบรับรองความประพฤติ และเอกสารประวัติการขอหนังสือเดินทาง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นทำแทนได้ เพียงแต่!! ต้องเตรียมเอกสาร -> ส่งเอกสารมาไทย -> ให้ใครทำแทน ...
ซึ่งโมมองว่าค่อนข้างที่จะลำบากกายและใจของคนทำให้
เว้นแต่ใครที่มีงบให้เอเจนซี่บริษัทต่างๆทำให้
ซึ่งถ้าหากมีเวลาทำเองดีกว่าค่ะ ยื่นไม่นาน ใช้เงินน้อย แต่ต้องอดทน เรื่องเดินทางไปยื่น และการรอเอกสาร
เรียงลำดับการขอเอกสารก่อน-หลัง ( สำหรับคนที่ยังไม่มีเอกสารใดๆ )
1. สอบภาษาให้ผ่านก่อนค่ะ เพราะหากเตรียมเอกสารทุกอย่าง แต่ภาษายังไม่ผ่าน แล้วเกิดรอสอบจนเอกสารอื่นหมดอายุ ก็ต้องทำใหม่หมดอยู่ดี ( หากใครมีเอกสารอื่นข้างต้น ก็ผ่านข้อนี้ได้เลยจ้า ) การสอบ TOPIK มี 2 ที่นะค่ะ สอบที่ไทย หรือที่เกาหลีก็ได้
โมเองสอบที่เกาหลีค่ะ เพราะว่าเวลามันพอดีกับช่วงที่ไป และที่เกาหลีจะมีการสอบ TOPIK ถี่กว่าที่ไทย และสถานที่สอบเยอะมากๆค่ะ หากใครได้มาก็แว๊บมาสอบได้ เงื่อนไขการสอบที่เกาจะต้องลงทะเบียนในเวลา ชำระเงิน ตามเงื่อนไขเวลาหน้าเว็บเท่านั้นนะค่ะ
ส่วนที่ไทย โมไม่แน่ใจเงื่อนไข รู้สึกว่าจะต้องโอนเงิน และลงทะเบียนผ่านศูนย์ที่รับรองเพื่อสอบ ตามสถานที่ต่างๆที่จัดไว้ค่ะ
2.เอกสารประวัติการขอหนังสือเดินทาง อันนี้แนะนำไปขอช่วงเช้า เพราะนั่งรอรับได้เลยค่ะ โมไป 11 โมง ได้ตอน 12.30 เค้าไม่พักเที่ยงด้วย สะดวกมากเลย (จริงๆเค้านัดรับ 13.00 แต่โมจะไปขอใบรับรองความประพฤติต่อที่แถวๆสยาม เลยนั่งรอไม่อยากไปๆมาๆรถติด ก็นั่งทำตาปริบๆคอยมองดู เค้าเห็นเรายังอยู่ก็เรียกชื่อมาเอาไม่ต้องรอเวลาเลยจ้า)
3.ขอใบรับรองความประพฤติ ถ้าใครรีบแนะนำขอพร้อมกับช่วงสอบไปเลย เพราะใช้งานได้ 90 วัน และระยะเวลาปกติในการขอยาวนานมากค่ะ เบื้องต้น คือ 45 วัน ( เฉพาะในกรณีที่ไม่มีประวัติใดๆ, หากมีประวัติอาจจะใช้เวลาเท่ากันหรือมากกว่านั้นนะค่ะ )
หรือ หากใครต้องการด่วน ประมาณ ไม่เกิน 10-15 วัน ขึ้นอยู่กับวันหยุดช่วงนั้นๆด้วย ก็มีค่าเร่งงานด่วน 1500.- + ค่าขอปกติ 100.- รวมเป็น 1,600.- อันนี้เป็นกรณีโม ต้องทำด่วน เพราะว่า ใบตรวจสุขภาพจะหมดอายุแล้ว รอไม่ได้จริงๆ
4.ขอใบตรวจสุขภาพ อันนี้ค่อยทำหลังได้ใบรับรองความประพฤติก็ได้ค่ะ เพระาใช้งานได้ 120 วัน และระยะเวลาปกติในการขอเอกสารนี้จากโรงพยาบาลก็แค่ 1 วัน คือทำวันนี้ได้ผลพรุ่งนี้ หรืออย่างดีก็ทำเช้าได้เย็นเลย
5. เอกสารอื่นๆ โน่นนี่นั่น วันที่ยื่นเอกสารเอาไปให้หมดบ้านเลยค่ะ อย่ากลัวว่าหนัก ถือเยอะ เมื่อย เพราะถ้าเค้าจะเอาแล้วเราไม่มีนี่มันจะเสียดายเวลา แล้วทำให้การเจอกันกับเจ้าหน้าที่ครั้งนั้นเราะดูไม่พร้อมสักเท่าไหร่
::: เนื่องด้วยตอนนี้โมยังรอเอกสาร 1 ตัวคือใบรับรองความประพฤติเพื่อยืนขอวีซ่า หลังจากได้มาจะนำไปยื่น และอัพเดทให้เพื่อนๆทราบอีกครั้งนะคะ่ :::
By Littlelove
รีวิว การเตรียมตัวขอวีซ่าแต่งงานเกาหลีใต้ ( F6 ) แนะนำทางลัด+เตรียมเอกสาร+การเดินทาง 2561 เบื้องต้นง่ายๆ By Littlelove
ต้องขอบอกว่ามีคำแนะนำและวิธีการมากมายหลายหลากในอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว
แต่โมจะขอนำประสบการณ์ตรงของปี 2561 ที่ได้ไปเดินเรื่องมาเล่าให้ฟัง
เผื่อเพื่อนๆท่านไหนกำลังมีแพลนยื่นขอวีซ่าจะได้เตรียมตัวได้ง่ายขึ้นนะค่ะ
คนไทย
1.แบบฟอร์มขอวีซ่า F6 (Visa application form)
2.แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติไทย
:: แบบฟอร์ม 2 ใบนี้โหลดได้ที่เว็บของสถานฑูตค่ะ ::
http://overseas.mofa.go.kr/th-th/brd/m_3135/view.do?seq=700030&srchFr=&srchTo=&srchWord=&srchTp=&multi_itm_seq=0&itm_seq_1=0&itm_seq_2=0&company_cd=&company_nm=&page=1
3.รูปถ่าย 1 รูป (พื้นหลังสีขาวเท่านั้น ขนาด 3.5x4.5 cm)
4.พาสปอร์ต และ สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ
5.เอกสารประวัติการขอหนังสือเดินทางของคนไทย (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
6.ใบตรวจสุขภาพ ต้องออกให้โดยโรงพยาบาลเท่านั้น ออกโดยคลินิกใช้ไม่ได้นะค่ะ, ต้องระบุโรคทั่วไป โรคเอดส์ กามโรค และสุขภาพจิต (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบตรวจสุขภาพสามารถใช้แนบได้หลังจากตรวจสุขภาพไม่เกิน 180 วันเท่านั้น ::
7.ใบรับรองความประพฤติ (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบรับรองความประพฤติสามารถใช้แนบได้หลังจากราชการออกให้ไม่เกิน 90 วันเท่านั้น ::
8.ใบหลักฐานยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาเกาหลี
:: เลือกเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อยื่นแนบค่ะ ::
-ผลสอบ TOPIK ผ่านระดับที่ 1
-ประกาศนียบัตรจบหลักสูตรภาษาเกาหลี 120 ชั่วโมงขึ้นไป
-จบการศึกษามหาวิทยาลัยในเกาหลี
-ปริญญาตรี-เอกด้านการใช้ภาษาเกาหลี
9.เอกสารเพิ่มเติม ถ้ามี
:: เช่น ใบสำคัญการหย่า , ใบเปลี่ยนชื่อสกุล เป็นต้น ( ต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ และรับรองที่กรมการกงศุลด้วยนะค่ะ )
คนเกาหลี
1.แบบฟอร์ม ที่คนเกาหลีต้องกรอก ชื่อ แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติเกาหลี 1 และ แบบฟอร์มสำหรับสัญชาติเกาหลี 2
:: แบบฟอร์มใบนี้โหลดได้ที่เว็บของสถานฑูตค่ะ ::
http://overseas.mofa.go.kr/th-th/brd/m_3135/view.do?seq=700030&srchFr=&srchTo=&srchWord=&srchTp=&multi_itm_seq=0&itm_seq_1=0&itm_seq_2=0&company_cd=&company_nm=&page=1
2.สำเนาพาสปอร์ต
3.ใบแสดงความสัมพันธ์การสมรส ก็คือใบทะเบียนสมรถของเกาหลี
4.ใบแสดงความสัมพันธ์ครอบครัว ก็คือใบคาจกกวานคเยซอ
:: เอกสารต้องไม่เกิน 90 ววันหลังวันที่ออกเอกสาร ::
5.เอกสารแสดงรายการทรัพย์สินส่วนตัว
:: เช่น สำเนาสัญญาเช่าบ้าน , สำเนาทะเบียนบ้าน ถ้ามีครอบครอง เป็นต้น ::
6.ใบรับรองการทำงาน
7.สำเนาใบจดทะเบียนบริษัท ที่ทำงานอยู่ หรือ ที่เป็นเจ้าของ
8.ใบรับรองฐานะทางการเงิน
9.ใบประวัติอาชญากรรม
10.ใบรับรองการเข้าอบรมโปรแกรมการแต่งงานระหว่าประเทศ
11.ใบตรวจสุขภาพต้องออกให้โดยโรงพยาบาลเท่านั้น ออกโดยคลินิกใช้ไม่ได้นะค่ะ, ต้องระบุโรคทั่วไป โรคเอดส์ กามโรค และสุขภาพจิต (ออกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
:: ใบตรวจสุขภาพสามารถใช้แนบได้หลังจากตรวจสุขภาพไม่เกิน 180 วันเท่านั้น ::
ตอนยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตควรมีเอกสารเหล่านี้ให้ครบ เพื่อที่จะได้มีการนัดสัมภาษณ์วีซ่า
เบื้องต้นหากเอกสารไม่ครบขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ว่าจะรับเอกสารที่มี แล้วที่ไม่ครบค่อยแนบวันนัดสัมภาษณ์ หรือไม่รับเอกสาร ให้นำมาให้ครบก่อนจึงจะนัดสัมภาษณ์อีกครั้งคะ
เบื้องต้นที่ควรต้องครบก่อนเลยก็คือเอกสารของคนเกาหลีข้างต้น เพราะต้องส่งทุกอย่างมาดำเนินการที่ไทย อันนี้ให้เค้าเตรียมตัวเอง
แต่เนื่องจากโมได้มีโอกาสเตรียมเอกสารร่วมกับโอปป้า ก็จะพอรู้รายละเอียดบ้าง เช่น เอกสาร Credit info ที่นำแนบเพิ่มในรายการแสดงทรัพย์สิน ใบรับรองฐานะทางการเงิน ขอได้จากเว็บไซด์, ใบประวัติอาชญากรรม โอปป้าต้องเอารูปไปด้วย 1 ใบ ตอนยื่นขอ , สำเนาใบจดทะเบียนบริษัทของคนเกาหลี โดยปกติ เมื่อโอปป้าขอใบรับรองการทำงาน เค้าก็จะแนบมาให้ด้วย สะดวกมากเลย , ใบรับรองการอบรมโปรแกรมแต่งงานระหว่างประเทศ ต้องเข้าอบรมจริงๆ ต้องจองคิวผ่านเน็ตนะค่ะ หลังจากจบอบรมก็จะได้ใบรับรองมาเลย 1 ใบ แนะนำถ่ายสำเนาไว้กันหาย กันขาดค่ะ ดังนี้เป็นต้น
ซึ่งโมมองว่าค่อนข้างที่จะลำบากกายและใจของคนทำให้
เว้นแต่ใครที่มีงบให้เอเจนซี่บริษัทต่างๆทำให้
ซึ่งถ้าหากมีเวลาทำเองดีกว่าค่ะ ยื่นไม่นาน ใช้เงินน้อย แต่ต้องอดทน เรื่องเดินทางไปยื่น และการรอเอกสาร
เรียงลำดับการขอเอกสารก่อน-หลัง ( สำหรับคนที่ยังไม่มีเอกสารใดๆ )
1. สอบภาษาให้ผ่านก่อนค่ะ เพราะหากเตรียมเอกสารทุกอย่าง แต่ภาษายังไม่ผ่าน แล้วเกิดรอสอบจนเอกสารอื่นหมดอายุ ก็ต้องทำใหม่หมดอยู่ดี ( หากใครมีเอกสารอื่นข้างต้น ก็ผ่านข้อนี้ได้เลยจ้า ) การสอบ TOPIK มี 2 ที่นะค่ะ สอบที่ไทย หรือที่เกาหลีก็ได้
โมเองสอบที่เกาหลีค่ะ เพราะว่าเวลามันพอดีกับช่วงที่ไป และที่เกาหลีจะมีการสอบ TOPIK ถี่กว่าที่ไทย และสถานที่สอบเยอะมากๆค่ะ หากใครได้มาก็แว๊บมาสอบได้ เงื่อนไขการสอบที่เกาจะต้องลงทะเบียนในเวลา ชำระเงิน ตามเงื่อนไขเวลาหน้าเว็บเท่านั้นนะค่ะ
ส่วนที่ไทย โมไม่แน่ใจเงื่อนไข รู้สึกว่าจะต้องโอนเงิน และลงทะเบียนผ่านศูนย์ที่รับรองเพื่อสอบ ตามสถานที่ต่างๆที่จัดไว้ค่ะ
2.เอกสารประวัติการขอหนังสือเดินทาง อันนี้แนะนำไปขอช่วงเช้า เพราะนั่งรอรับได้เลยค่ะ โมไป 11 โมง ได้ตอน 12.30 เค้าไม่พักเที่ยงด้วย สะดวกมากเลย (จริงๆเค้านัดรับ 13.00 แต่โมจะไปขอใบรับรองความประพฤติต่อที่แถวๆสยาม เลยนั่งรอไม่อยากไปๆมาๆรถติด ก็นั่งทำตาปริบๆคอยมองดู เค้าเห็นเรายังอยู่ก็เรียกชื่อมาเอาไม่ต้องรอเวลาเลยจ้า)
3.ขอใบรับรองความประพฤติ ถ้าใครรีบแนะนำขอพร้อมกับช่วงสอบไปเลย เพราะใช้งานได้ 90 วัน และระยะเวลาปกติในการขอยาวนานมากค่ะ เบื้องต้น คือ 45 วัน ( เฉพาะในกรณีที่ไม่มีประวัติใดๆ, หากมีประวัติอาจจะใช้เวลาเท่ากันหรือมากกว่านั้นนะค่ะ )
หรือ หากใครต้องการด่วน ประมาณ ไม่เกิน 10-15 วัน ขึ้นอยู่กับวันหยุดช่วงนั้นๆด้วย ก็มีค่าเร่งงานด่วน 1500.- + ค่าขอปกติ 100.- รวมเป็น 1,600.- อันนี้เป็นกรณีโม ต้องทำด่วน เพราะว่า ใบตรวจสุขภาพจะหมดอายุแล้ว รอไม่ได้จริงๆ
4.ขอใบตรวจสุขภาพ อันนี้ค่อยทำหลังได้ใบรับรองความประพฤติก็ได้ค่ะ เพระาใช้งานได้ 120 วัน และระยะเวลาปกติในการขอเอกสารนี้จากโรงพยาบาลก็แค่ 1 วัน คือทำวันนี้ได้ผลพรุ่งนี้ หรืออย่างดีก็ทำเช้าได้เย็นเลย
5. เอกสารอื่นๆ โน่นนี่นั่น วันที่ยื่นเอกสารเอาไปให้หมดบ้านเลยค่ะ อย่ากลัวว่าหนัก ถือเยอะ เมื่อย เพราะถ้าเค้าจะเอาแล้วเราไม่มีนี่มันจะเสียดายเวลา แล้วทำให้การเจอกันกับเจ้าหน้าที่ครั้งนั้นเราะดูไม่พร้อมสักเท่าไหร่
::: เนื่องด้วยตอนนี้โมยังรอเอกสาร 1 ตัวคือใบรับรองความประพฤติเพื่อยืนขอวีซ่า หลังจากได้มาจะนำไปยื่น และอัพเดทให้เพื่อนๆทราบอีกครั้งนะคะ่ :::