วันนี้ได้ไปบริจาค เกล็ดเลือดที่สภากาชาด ถ.อังรีดูนัง
ซึ่ง การบริจาคที่ผ่านๆ มานั้นก็ ปั่นแต่เกล็ดเลือดมาเรื่อยๆ จะเม็ดเลือดแดง หรือ พาสม่าก็แค่บางครั้ง แต่ก็ผ่านมาด้วยดี
ซึ่งการเตรียมตัวไปแต่ละครั้งก็จะ นอน และงดอาหารที่มีไขมันสูงประมาณ 2วันทุกครั้ง มาคราวนี้การตรวจเลือดเบื้องต้นผ่านด้วยดี
ไม่มีไขมันในเลือดมาก
ถึงเวลาขึ้นเตียงเพื่อบริจาค ช่วงแรกก็ปกติเพราะต้องดึงเลือดเพื่อเข้าเครื่องไปแยกส่วนประกอบเกล็ดเลือดไว้
และคืนเอาส่วนอื่นๆ คืนกลับมาร่างกายเรา ช่วงปั้มคืนกลับครั้งแรกของเครื่องเริ่มมีอาการแน่น แต่ยังไม่มากเราก็คิดว่าเป็นอาการชาปกติ
จากส่วนผสมของสารเพื่อไม่ให้เลือดเราแข็งตัวรวมมาด้วย (ปกติแล้วจะมีอาการชาตามปากและใบหน้าเล็กน้อย) แต่พอเครื่องเริ่มดึงเอา
เลือดเราครั้งที่สองไปเพื่อปั่นแยก และปั้มกลับมา ก็เริ่มมีอาการหนักขึ้น เริ่มรู้สึก กลืนน้ำลายไม่ลง แขนข้างที่บริจาคเริ่มแดง รู้สึกร้อนที่หน้า
และ จนท. ที่อยู่แถวนั้นเริ่มเห็นเราหน้าแดง ตาแดง เราเริ่มไม่โอเค จึงเรียก จนท. เพื่อดูความผิดปกติครับ
เบื้องต้น จนท. หยุดเครื่อง แต่เราก็ยังมีอาการ ชาที่หน้า และ กลืนน้ำลายไม่ลง พอสักพักก็เริ่มกลับภาวะปกติ แต่ระหว่างนั้น จนท. ก็เอาเครื่องวัดความดันมาวัดเรา ได้ประมาณ ตัวบน163 ส่วนตัวล่าง เราประมาณ 100 ซึ่ง ผ่านไป ประมาณ 5นาที เราก็เริ่มรู้สึกปกติ แต่การกลืนน้ำลายยังติดอยู่บ้าง
พอผ่านไปอีก 5นาที วัดซ้ำอีก ความดันเลือดก็เหลือแค่ 130/80 เหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจึงเริ่มลุกจากเตียงไป นั่งพักที่ห้องพัก
โดยส่วนตัวแล้ว เป็นผู้บริจาคอยู่เป็นประจำ ประมาณ 48ครั้ง แล้ว แต่มาคราวนี้ เกิดปัญหา ซึ่งสงสัยอยู่ว่า เป็นเพราะอะไร ครับ
ค่าความเข้มข้นเลือดวันนี้ 16.4 ความดันเลือดวัดตอนแรกระหว่างการกรอกประวัติอยู่ที่ 150/80
(เราใช้การเดินทางขี่มอเตอร์ไซด์จากบ้านที่หนองแขมไป สภากาชาด)
อาการแบบนี้ ใครเคยเป็นบ้างครับ แล้วคิดว่า เกิดจากสาเหตุอะไร บ้าง
ปล.ผมตอนนี้ มีทานยา ลดความดัน ชื่อAnapril 5 อยู่ วันละ 1เม็ดเช้า ซึ่งจะเพิ่งมาเริ่มทานยาช่วงปลายปีที่แล้ว
เมื่อ มค. มานี้ หมอกำลังจะปรับเปลี่ยนเป็นให้ ออกกำลังกาย โดยการงดให้ยา แล้ว เนื่องจากเริ่มมีภาวะปกติ
โดยช่วงนี้ผม หันมา วิ่งและปั่นจักรยาน มาสักพักแล้ว ครับ
บริจาคส่วนประกอบเลือดแล้วเกิดอาการแน่น และความดันขึ้นระหว่างบริจาค
ซึ่ง การบริจาคที่ผ่านๆ มานั้นก็ ปั่นแต่เกล็ดเลือดมาเรื่อยๆ จะเม็ดเลือดแดง หรือ พาสม่าก็แค่บางครั้ง แต่ก็ผ่านมาด้วยดี
ซึ่งการเตรียมตัวไปแต่ละครั้งก็จะ นอน และงดอาหารที่มีไขมันสูงประมาณ 2วันทุกครั้ง มาคราวนี้การตรวจเลือดเบื้องต้นผ่านด้วยดี
ไม่มีไขมันในเลือดมาก
ถึงเวลาขึ้นเตียงเพื่อบริจาค ช่วงแรกก็ปกติเพราะต้องดึงเลือดเพื่อเข้าเครื่องไปแยกส่วนประกอบเกล็ดเลือดไว้
และคืนเอาส่วนอื่นๆ คืนกลับมาร่างกายเรา ช่วงปั้มคืนกลับครั้งแรกของเครื่องเริ่มมีอาการแน่น แต่ยังไม่มากเราก็คิดว่าเป็นอาการชาปกติ
จากส่วนผสมของสารเพื่อไม่ให้เลือดเราแข็งตัวรวมมาด้วย (ปกติแล้วจะมีอาการชาตามปากและใบหน้าเล็กน้อย) แต่พอเครื่องเริ่มดึงเอา
เลือดเราครั้งที่สองไปเพื่อปั่นแยก และปั้มกลับมา ก็เริ่มมีอาการหนักขึ้น เริ่มรู้สึก กลืนน้ำลายไม่ลง แขนข้างที่บริจาคเริ่มแดง รู้สึกร้อนที่หน้า
และ จนท. ที่อยู่แถวนั้นเริ่มเห็นเราหน้าแดง ตาแดง เราเริ่มไม่โอเค จึงเรียก จนท. เพื่อดูความผิดปกติครับ
เบื้องต้น จนท. หยุดเครื่อง แต่เราก็ยังมีอาการ ชาที่หน้า และ กลืนน้ำลายไม่ลง พอสักพักก็เริ่มกลับภาวะปกติ แต่ระหว่างนั้น จนท. ก็เอาเครื่องวัดความดันมาวัดเรา ได้ประมาณ ตัวบน163 ส่วนตัวล่าง เราประมาณ 100 ซึ่ง ผ่านไป ประมาณ 5นาที เราก็เริ่มรู้สึกปกติ แต่การกลืนน้ำลายยังติดอยู่บ้าง
พอผ่านไปอีก 5นาที วัดซ้ำอีก ความดันเลือดก็เหลือแค่ 130/80 เหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจึงเริ่มลุกจากเตียงไป นั่งพักที่ห้องพัก
โดยส่วนตัวแล้ว เป็นผู้บริจาคอยู่เป็นประจำ ประมาณ 48ครั้ง แล้ว แต่มาคราวนี้ เกิดปัญหา ซึ่งสงสัยอยู่ว่า เป็นเพราะอะไร ครับ
ค่าความเข้มข้นเลือดวันนี้ 16.4 ความดันเลือดวัดตอนแรกระหว่างการกรอกประวัติอยู่ที่ 150/80
(เราใช้การเดินทางขี่มอเตอร์ไซด์จากบ้านที่หนองแขมไป สภากาชาด)
อาการแบบนี้ ใครเคยเป็นบ้างครับ แล้วคิดว่า เกิดจากสาเหตุอะไร บ้าง
ปล.ผมตอนนี้ มีทานยา ลดความดัน ชื่อAnapril 5 อยู่ วันละ 1เม็ดเช้า ซึ่งจะเพิ่งมาเริ่มทานยาช่วงปลายปีที่แล้ว
เมื่อ มค. มานี้ หมอกำลังจะปรับเปลี่ยนเป็นให้ ออกกำลังกาย โดยการงดให้ยา แล้ว เนื่องจากเริ่มมีภาวะปกติ
โดยช่วงนี้ผม หันมา วิ่งและปั่นจักรยาน มาสักพักแล้ว ครับ