รีวิว Samui Song : ไม่มีสมุยสำหรับเธอ (คะแนน 8/10)
หนังดูง่ายกว่าที่คิด แต่ยังคงความติสสไตล์ "เป็นเอก"
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]
ไปดูมาเรียบร้อยครับ กับภาพยนตร์ที่มีโปสเตอร์แสนจะสะดุดตาชวนเข้าใจผิด กับรูปชูนิ้วนางที่มีแหวนบนนิ้วในลักษณะท่าทางการชูที่ดูละม้ายคล้ายการชูนิ้วกลาง บ่งบอกถึงชีวิตแต่งงานของตัวละครที่ไม่มีความสุข
#แค่โปสเตอร์ก็กินขาดโดนใจจอร์จซะเหลือเกินนนน
เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกชอบ และรู้สึกเกลียดผู้กำกับในเวลาเดียวกัน 5555555 ที่ใช้คำว่าเกลียดนี่ไม่ได้หมายความหนังไม่ดีแต่อย่างใดนะครับ แต่เป็นเพราะในบางฉากนั้นทำได้ดี ทำให้รู้สึกกดดัน และเสียวสันหลังได้มากจริงๆ ชนิดที่ได้แต่กรี้ดในใจว่า
#ไม่น้าาาาาา #อย่าน้าาาา #อย่าทำอย่างน้านนนนนนนนน
ดูจบแล้วสิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวเลยคือ พลอยสวยมากกกกกกกกก
#เดี๋ยวๆๆ #รีวิวหนังๆ!! คือต้องขอพูดเลยจริงๆว่า พลอย เฌอมาลย์ กับบท "วิยะดา" เรื่องนี้สวยสะกดตาสะกดใจจริงๆครับ เข้าไปนั่งดูหน้านางเอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว
#จะพอได้ยัง.. (เข้าเรื่องหนังๆ 5555+)
สำหรับคนที่กังวลว่าหนังสไตล์ พี่ต้อม เป็นเอก จะดูยากไหม ผมก็ขอคอนเฟิร์มว่า หนังดูง่ายมากกว่าที่คิดเยอะครับ แต่ก็ยังมิวายทิ้งปมไว้ ทิ้งความติสเอาไว้ในภาพและเนื้อหาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เรียกว่าเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างหนัง Mass กับหนังสายติสเลยทีเดียวก็ว่าได้
โดยเรื่องราวของ Samui Song จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “วิยะดา” (รับบทโดย : พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) นักแสดงสาวที่กำลังมีปัญหาหนักอกหนักใจกับสามีต่างชาติของเธอ กำลังลุ่มหลงมัวเมากับลัทธิประหลาดๆที่มี "ท่าน" ผู้นำลัทธินอกกระแสที่ลุคดูน่านับถือ #ในสายตาผู้เข้าลัทธิ และดูน่าเกรงขาม (รับบทโดย : ปู วิทยา ปานศรีงาม) โดยสามีของเธอหลงหัวปรักหัวปรำอย่างถอนตัวไม่ขึ้น สร้างความทุกข์ ความลำบากใจให้เธอเป็นอย่างมาก ทำให้เธออยากจะกำจัดปัญหานี้ไปให้พ้นๆเสีย “ถ้าหากสามีของเธอหายไป ชีวิตเธอก็คงจะดีขึ้น..”
เป็นเหตุนำมาซึ่งการ “ฆาตกรรม” ด้วยการจ้างวานนักฆ่า “กาย” (รับบทโดย : เดวิด อัศวนนท์) ชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งรู้จักลงมือ แต่เมื่อแผนที่วางไว้กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด ทำให้เธอต้องกลับกลายเป็น “เหยื่อ” เสียเอง ต้องหลบหนีจากการไล่ล่าจาก "ใครบางคน" แทน ซึ่งนำมาสู่เรื่องราวสุดระทึกทั้งหมดในเรื่องนี้..
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้คือ พล็อทเรื่องและเนื้อหามีความ "Real" มากๆ คือดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ตัวละครที่สมมุติขึ้นมา แต่มันมีความเป็น "มนุษย์" จริงๆ หนังตีแผ่ด้านสว่าง และด้านมืดในใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ชอบเนื้อหาที่มีความ "เสียดสี" เสียดสีในทุกๆด้าน ทั้งสังคม ครอบครัว และศาสนา
เรื่องของงานภาพ มุมกล้องต่างๆ ไม่ผิดหวังครับ มันไม่ใช่ภาพที่ติสแตกเกินไปแบบจับต้องไม่ได้ ถ้าคุณสังเกตดีๆ มันจะมีเรื่องราวอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ในภาพนั้นๆด้วย รวมถึงการกระทำต่างๆของตัวละครแต่ละอย่าง ล้วนมีเหตุผล มีที่มาที่ไปทั้งสิ้น
และส่วนที่พีคที่สุดของหนังสำหรับผมคือตอนจบ.. ซึ่งแน่นอนว่าผมบอกในนี้ไม่ได้ เพราะว่ามันจะเป็นการสปอยล์เนื้อหา บอกได้แค่ว่าดูจบแล้วไม่งงมาก แต่ก็อาจมีงงเล็กน้อย เพราะหนังจบแบบให้เราคิดต่อได้เองว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง และตัวละครคิดอะไรกันแน่.. แนะนำว่าชวนเพื่อนไปดูกันหลายๆคน (แต่ต้องเป็นคนดูหนังแนวนี้ได้ด้วยนะ) พอดูจบแล้วออกมาถกกันน่าจะมันส์ที่สุด
#เข้าห้องน้ำถกกางเกงฉี่ #ไม่ใช่!! ออกมาถกมาเถียงกันว่า คิดเห็นอย่างไรกับปมที่หนังทิ้งไว้ ตรงไหนดูแล้วไม่เข้าใจ หรือบางคนอาจไม่เข้าใจเกือบหมดเลย 555555555
แต่มั่นใจว่า ไม่มีใครที่ดูแล้วคิดเห็นตรงกันทั้งเรื่องแน่นอนครับ ในแต่ละจุด แต่ละคนก็อาจจะมีมุมมองแตกต่างกันไป รวมถึงความ "เห็นด้วย" หรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำทั้งหลายของตัวละคร
ส่วนสไตล์หนังที่เหมือนจะ "ทริลเลอร์" ลุ้นระทึก ส่วนตัวให้น้ำหนักเอียงไปทาง "ดราม่า" เสียมากกว่า แต่ส่วนที่เป็นโหมดทริลเลอร์ แม้จะมีไม่เยอะมาก แต่ก็ทำออกมาได้ลุ้นระทึกเป็นอย่างดี คือเอาเล็บจิกเบาะ จิกแขนตัวเองได้เลย
#ไม่มีมือใครให้จับไง #เศร้าแปป
อีกจุดหนึ่งที่หนังทำให้ผู้ชมหลายๆคนชอบ คือ "มุกตลก" ที่ใส่ลงมาแบบพอดิบพอดี ไม่มากล้นจนเลยเถิดไปกินเนื้อหาหลัก แถมบางมุกนี่ก็คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะมาไม้นี้!! เอาเป็นว่าไม่ต้องคาดหวังกับมุกมาก แต่คุณจะได้เสียงหัวเราะเบาๆจากหนังเรื่องนี้ ให้หนังไม่รู้สึกหนักเกินไปบ้างครับ
จุดที่ไม่ค่อยชอบ.. คือพล็อทเรื่องดีมาก โอเคมากสำหรับผม แต่ในรายละเอียดการดำเนินเรื่องใน "บางจุด" นั้นส่วนตัวรู้สึกว่า ตัวละครตัดสินใจใช้วิธีที่ยาก ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากจนเป็นเรื่องเลยเถิดอยู่หลายครั้ง หรือบางจุดก็ทิ้งปมไว้ให้สงสัย แล้วก็ Time Skip ข้ามช่วงไปปล่อยให้เรานั่งงงในดงผู้ชมอยู่อย่างนั้นไป
สรุป.. ถือว่าชอบมากระดับหนึ่งเลยครับ โดยรวมเป็นหนังที่สะท้อนสังคม และชีวิตมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เป็นหนังที่เข้าถึงได้ง่าย แต่ยังคงสไตล์ มีกลิ่นความเป็น "พี่ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง" อยู่ในทุกๆจุดครับ
ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังที่ใช้อารมณ์ร่วม ใช้สมองคิดตามไม่มากก็น้อย หนังเรื่องนี้เหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าคุณจะดูโดยคิดว่าจะเป็นหนังลุ้นระทึก ฆาตกรโรคจิตไล่ล่า มีฉากสะดุ้งตุ้งแช่เยอะๆ อยากให้ตัดความคิดว่าเป็นหนังทริลเลอร์ออกไปครับ..
**คำเตือน หนังเรื่องนี้ทางโรงภาพยนตร์ให้เรท น 18+ ไม่เหมาะสำหรับเด็กนะครับ..
หนังเข้าฉายวันพรุ่งนี้ 1 กุมภาพันธ์ ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ยังไงก็ขอฝากหนังไทยดีๆเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคร้าบบบบบ ^________^
#ถึงเวลายกนิ้วนางให้ความรัก #SamuiSong #ไม่มีสมุยสำหรับเธอ
“รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองในโรงหนังดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^”
.
.
.
Facebook : ก็แค่คนชอบดูหนัง
[SR] [ก็แค่คนชอบดูหนัง] Samui Song : หนังดูง่ายกว่าที่คิด แต่ยังคงความติสสไตล์ "เป็นเอก" [**No Spoil]
รีวิว Samui Song : ไม่มีสมุยสำหรับเธอ (คะแนน 8/10)
หนังดูง่ายกว่าที่คิด แต่ยังคงความติสสไตล์ "เป็นเอก"
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]
ไปดูมาเรียบร้อยครับ กับภาพยนตร์ที่มีโปสเตอร์แสนจะสะดุดตาชวนเข้าใจผิด กับรูปชูนิ้วนางที่มีแหวนบนนิ้วในลักษณะท่าทางการชูที่ดูละม้ายคล้ายการชูนิ้วกลาง บ่งบอกถึงชีวิตแต่งงานของตัวละครที่ไม่มีความสุข #แค่โปสเตอร์ก็กินขาดโดนใจจอร์จซะเหลือเกินนนน
เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกชอบ และรู้สึกเกลียดผู้กำกับในเวลาเดียวกัน 5555555 ที่ใช้คำว่าเกลียดนี่ไม่ได้หมายความหนังไม่ดีแต่อย่างใดนะครับ แต่เป็นเพราะในบางฉากนั้นทำได้ดี ทำให้รู้สึกกดดัน และเสียวสันหลังได้มากจริงๆ ชนิดที่ได้แต่กรี้ดในใจว่า #ไม่น้าาาาาา #อย่าน้าาาา #อย่าทำอย่างน้านนนนนนนนน
ดูจบแล้วสิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวเลยคือ พลอยสวยมากกกกกกกกก #เดี๋ยวๆๆ #รีวิวหนังๆ!! คือต้องขอพูดเลยจริงๆว่า พลอย เฌอมาลย์ กับบท "วิยะดา" เรื่องนี้สวยสะกดตาสะกดใจจริงๆครับ เข้าไปนั่งดูหน้านางเอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว #จะพอได้ยัง.. (เข้าเรื่องหนังๆ 5555+)
สำหรับคนที่กังวลว่าหนังสไตล์ พี่ต้อม เป็นเอก จะดูยากไหม ผมก็ขอคอนเฟิร์มว่า หนังดูง่ายมากกว่าที่คิดเยอะครับ แต่ก็ยังมิวายทิ้งปมไว้ ทิ้งความติสเอาไว้ในภาพและเนื้อหาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เรียกว่าเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างหนัง Mass กับหนังสายติสเลยทีเดียวก็ว่าได้
โดยเรื่องราวของ Samui Song จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “วิยะดา” (รับบทโดย : พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) นักแสดงสาวที่กำลังมีปัญหาหนักอกหนักใจกับสามีต่างชาติของเธอ กำลังลุ่มหลงมัวเมากับลัทธิประหลาดๆที่มี "ท่าน" ผู้นำลัทธินอกกระแสที่ลุคดูน่านับถือ #ในสายตาผู้เข้าลัทธิ และดูน่าเกรงขาม (รับบทโดย : ปู วิทยา ปานศรีงาม) โดยสามีของเธอหลงหัวปรักหัวปรำอย่างถอนตัวไม่ขึ้น สร้างความทุกข์ ความลำบากใจให้เธอเป็นอย่างมาก ทำให้เธออยากจะกำจัดปัญหานี้ไปให้พ้นๆเสีย “ถ้าหากสามีของเธอหายไป ชีวิตเธอก็คงจะดีขึ้น..”
เป็นเหตุนำมาซึ่งการ “ฆาตกรรม” ด้วยการจ้างวานนักฆ่า “กาย” (รับบทโดย : เดวิด อัศวนนท์) ชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งรู้จักลงมือ แต่เมื่อแผนที่วางไว้กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด ทำให้เธอต้องกลับกลายเป็น “เหยื่อ” เสียเอง ต้องหลบหนีจากการไล่ล่าจาก "ใครบางคน" แทน ซึ่งนำมาสู่เรื่องราวสุดระทึกทั้งหมดในเรื่องนี้..
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้คือ พล็อทเรื่องและเนื้อหามีความ "Real" มากๆ คือดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ตัวละครที่สมมุติขึ้นมา แต่มันมีความเป็น "มนุษย์" จริงๆ หนังตีแผ่ด้านสว่าง และด้านมืดในใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ชอบเนื้อหาที่มีความ "เสียดสี" เสียดสีในทุกๆด้าน ทั้งสังคม ครอบครัว และศาสนา
เรื่องของงานภาพ มุมกล้องต่างๆ ไม่ผิดหวังครับ มันไม่ใช่ภาพที่ติสแตกเกินไปแบบจับต้องไม่ได้ ถ้าคุณสังเกตดีๆ มันจะมีเรื่องราวอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ในภาพนั้นๆด้วย รวมถึงการกระทำต่างๆของตัวละครแต่ละอย่าง ล้วนมีเหตุผล มีที่มาที่ไปทั้งสิ้น
และส่วนที่พีคที่สุดของหนังสำหรับผมคือตอนจบ.. ซึ่งแน่นอนว่าผมบอกในนี้ไม่ได้ เพราะว่ามันจะเป็นการสปอยล์เนื้อหา บอกได้แค่ว่าดูจบแล้วไม่งงมาก แต่ก็อาจมีงงเล็กน้อย เพราะหนังจบแบบให้เราคิดต่อได้เองว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง และตัวละครคิดอะไรกันแน่.. แนะนำว่าชวนเพื่อนไปดูกันหลายๆคน (แต่ต้องเป็นคนดูหนังแนวนี้ได้ด้วยนะ) พอดูจบแล้วออกมาถกกันน่าจะมันส์ที่สุด #เข้าห้องน้ำถกกางเกงฉี่ #ไม่ใช่!! ออกมาถกมาเถียงกันว่า คิดเห็นอย่างไรกับปมที่หนังทิ้งไว้ ตรงไหนดูแล้วไม่เข้าใจ หรือบางคนอาจไม่เข้าใจเกือบหมดเลย 555555555
แต่มั่นใจว่า ไม่มีใครที่ดูแล้วคิดเห็นตรงกันทั้งเรื่องแน่นอนครับ ในแต่ละจุด แต่ละคนก็อาจจะมีมุมมองแตกต่างกันไป รวมถึงความ "เห็นด้วย" หรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำทั้งหลายของตัวละคร
ส่วนสไตล์หนังที่เหมือนจะ "ทริลเลอร์" ลุ้นระทึก ส่วนตัวให้น้ำหนักเอียงไปทาง "ดราม่า" เสียมากกว่า แต่ส่วนที่เป็นโหมดทริลเลอร์ แม้จะมีไม่เยอะมาก แต่ก็ทำออกมาได้ลุ้นระทึกเป็นอย่างดี คือเอาเล็บจิกเบาะ จิกแขนตัวเองได้เลย #ไม่มีมือใครให้จับไง #เศร้าแปป
อีกจุดหนึ่งที่หนังทำให้ผู้ชมหลายๆคนชอบ คือ "มุกตลก" ที่ใส่ลงมาแบบพอดิบพอดี ไม่มากล้นจนเลยเถิดไปกินเนื้อหาหลัก แถมบางมุกนี่ก็คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะมาไม้นี้!! เอาเป็นว่าไม่ต้องคาดหวังกับมุกมาก แต่คุณจะได้เสียงหัวเราะเบาๆจากหนังเรื่องนี้ ให้หนังไม่รู้สึกหนักเกินไปบ้างครับ
จุดที่ไม่ค่อยชอบ.. คือพล็อทเรื่องดีมาก โอเคมากสำหรับผม แต่ในรายละเอียดการดำเนินเรื่องใน "บางจุด" นั้นส่วนตัวรู้สึกว่า ตัวละครตัดสินใจใช้วิธีที่ยาก ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากจนเป็นเรื่องเลยเถิดอยู่หลายครั้ง หรือบางจุดก็ทิ้งปมไว้ให้สงสัย แล้วก็ Time Skip ข้ามช่วงไปปล่อยให้เรานั่งงงในดงผู้ชมอยู่อย่างนั้นไป
สรุป.. ถือว่าชอบมากระดับหนึ่งเลยครับ โดยรวมเป็นหนังที่สะท้อนสังคม และชีวิตมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เป็นหนังที่เข้าถึงได้ง่าย แต่ยังคงสไตล์ มีกลิ่นความเป็น "พี่ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง" อยู่ในทุกๆจุดครับ
ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังที่ใช้อารมณ์ร่วม ใช้สมองคิดตามไม่มากก็น้อย หนังเรื่องนี้เหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าคุณจะดูโดยคิดว่าจะเป็นหนังลุ้นระทึก ฆาตกรโรคจิตไล่ล่า มีฉากสะดุ้งตุ้งแช่เยอะๆ อยากให้ตัดความคิดว่าเป็นหนังทริลเลอร์ออกไปครับ..
**คำเตือน หนังเรื่องนี้ทางโรงภาพยนตร์ให้เรท น 18+ ไม่เหมาะสำหรับเด็กนะครับ..
หนังเข้าฉายวันพรุ่งนี้ 1 กุมภาพันธ์ ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ยังไงก็ขอฝากหนังไทยดีๆเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคร้าบบบบบ ^________^
#ถึงเวลายกนิ้วนางให้ความรัก #SamuiSong #ไม่มีสมุยสำหรับเธอ
“รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองในโรงหนังดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^”
.
.
.
Facebook : ก็แค่คนชอบดูหนัง