ล่าสุดพึ่งจะจบไปกับเทศภาพยนตร์ Sundance วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา แต่ถึงจะฉายตั้งแต่ต้นปีคือเดือนมกราคม แต่ด้วยคุณภาพ หนังที่เปิดฉายที่ Sundance ก็สามารถพาตัวเองเข้าชิงออสการ์ได้มาตลอดในช่วงหลังๆ ปีที่แล้วมีหนังถึง 7 เรื่องที่ได้เข้าชิงออสการ์ ปีนี้Call Me By Your Name (2017), The Big Sick (2017), Get Out (2017), Mudbound (2017) และ 3 สารคดี Iracus (2017), Last Men in Aleppo (2017) และ Strong Island (2017) นี้คือหนัง 10(+1) เรื่องที่น่าสนใจว่าอาจมีลุ้นเข้าชิงออสการ์ปีหน้า อย่างน้อย 1-2 เรื่อง หรืออาจจไม่มีเลยมั้ง นอกจากนี้ยังมีหนังหลายเรื่องที่น่าสนใจจาก Sundance เช่น Mandy หนังบู๊คำวิจารณ์เยี่ยมของ ลุง Cage เป็นต้น
ทีม นำหญิง
*
The Tale
หนึ่งในหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดในเทศกาลและเป็นที่ถูกพูดมากที่สุด หนังกำกับโดยผู้กำกับหญิง Jennifer Fox เนื้อหาของเรื่องคือหัวข้อที่เป็นกระแสในฮอลลีวูดมาที่สุดช่วงนี้ หนังที่เล่าเรื่องการสำรวจความทรงจำของผู้หญิงคนหนึ่งเกี่ยวกับประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกของเธอ คือการที่เธอถูกข่มขืนในวัยเด็ก แสดงนำโดย 2 times Oscar nominee Laura Dern ที่นักวิจารณ์บอกว่าเธอเล่นดีมาก มีลุ้นเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 3 แต่หนังถูกซื้อไปโดย HBO ซึ่งหนังจะฉายทางทีวีแทน ทำให้หนังจะไม่สามารถเข้าชิงออสการ์ได้ ต้องไปเข้าชิง Emmy แทน ซึ่ง Dernก็พึ่งจะคว้า Emmy ได้เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าชิงมา 5 ครั้ง ปีนี้ในเวที Emmy เธอยังมี Twin Peaks อีกเรื่องหนึ่ง
Eighth Grade
นักแสดงตลก Bo Burnham กับการกำกับหนังครั้งแรก กับหนังตลกที่คำวิจารณ์อยู่ในระดับดีมาก เล่าเรื่องสัปดาห์สุดท้ายของก่อนการขึ้นมัธยมปลายของเด็กสาวคนหนึ่ง Elsie Fisherได้รับคำชมเยอะมาก ไม่รู้เธอจะเป็นหนังเด็กอีกคนที่ได้ชิงออสการ์หรือเปล่า แต่อนาคตการแสดงของเธอน่าจะยาวไกล
Colette
การกลับมาอีกครั้งกับเจ้าแม่หนังย้อนยุค 2 time Oscar Nominee Keira Knightley มาพร้อมกับผู้กำกับที่เคยพาป้า Moore คว้าออสการ์จาก Still Alice (2013) อย่าง Wash Westmoreland กับหนังชีวประวัติของ Colette นักเขียนหญิงผู้เคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัล Nobel กับ เรื่องราวหญิงสาวที่พยายามหลุดพ้นจากการควบคุมจากสามีและผลักดันตัวเองจนเป็นนักเขียนที่โด่งดัง คำวิจารณ์หนังอยู่แค่ระดับดี แต่Keira Knightleyได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมาก บอกว่านี้เป็นอีกขั้นของการแสดงของเธอ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอมีลุ้นเข้าชิงนำหญิงปีหน้า Dominic West ที่เล่นเป็นสามีก็ได้รับคำขม หนังได้ Bleecker Street เป็นผู้จัดจำหน่ายที่เคยพา Bryan Cranston เข้าชิงจาก Trumbo (2015) และ Viggo Mortensen เข้าชิงจาก Captain Fantastic (2016)
Tully
Jason Reitman come back ผู้กำกับ Juno (2007), Up in the Air (2009) ที่ช่วงหลังฟอร์มตกไป กลับมาอีกครั้งกับมือเขียนบท Diablo Cody และ Charize Theron หลังจากเคยเจอกันใน Young Adult (2012) ที่คำวิจารณ์ดี แต่ไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ รอบนี้มากับ Tully ที่เหมือนจะคืนฟอร์ม กับเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่ลูก 3 กับพี่เลี้ยงเด็ก คำวิจารณ์อยู่ในระดับดีเลย นักแสดงนำทั้ง 2 คนอย่าง Mackenzie Davisและ Charize Theron ก็ได้รับคำชมว่าดีมาก หนังได้ Focus Featureเป็นผู้จัดจำหน่าย Reitman มึหนังอีกเรื่อง The Front Runner เรื่องราวของ Gary Heart นักการเมืองที่ลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 1988 แต่ในช่วงปราศัยหาเสียง เจ้าตัวกับโดนนักข่าวแฉเรื่องราวความรักของเขาว่าเขามีชู้ รับบทนำโดย Hugh Jackman ร่วยด้วย Vera Farmiga และ J. K. Simmons เป็นต้น
Wildlife
Paul Dano ที่เล่นหนังมามากมาย เกือบชิงออสการ์หลายครั้ง ทั้ง Little Miss Sunshine (2006), There Will be Blood (2007) และ Love & Mercy (2014) แต่ยังไม่ได้ชิง แต่อาจจะมีลุ้นจากการเป็นผู้กำกับเหมือนนักแสดงสาว Greta Gerwig ที่ได้ชิงออสการ์สาขาผู้กำกับและสาขาบท เพราะหนังที่เขากำกับครั้งแรก ได้รับคำวิจารณ์ในระดับดีมาก โดยหนังดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกัน เรื่องราวในยุค 60 ที่เด็กหนุ่มต้องนั่งมองดูความสัมพันธ์ของพ่อแม่ที่ต้องแตกหัก หลังจากครอบครัวของเขาย้ายบ้านใหม่มาอยู่ที่เมือง Montana แต่แม่ของเขาดันไปหลงรักกับหนุ่มคนอื่น หนังเขียนบทโดย Danaและแฟนสาวสุดน่ารัก Zoe Kazan แสดงนำโดย Jake Gyllenhaal และ Carey Mulligan เล่นเป็นสามีภรรยา แต่เหมือน Jake จะดวงไม่ค่อยดี เพราะไม่มีใครพูดถึง Carey Mulligan ได้รับคำวิจารณ์อย่างท่วมท้น ว่ามีลุ้นเข้าชิงออสการ์ (ที่จริงช่วงหลังจาก An Eduacation (2009) เธอเล่นดีตลอด แต่ไม่ได้ชิงออสการ์ ทั้งใน Never Let Me Go (2010), Drive (2011), Shame (2011), The Great Gatsby (2013), Inside Llewyn Davis (2013), Far from the Madding Crowd (2015), Suffragette (2015), และ Mudbound (2017))
Hereditany
หนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดในเทศกาลและปีนี้จนถึงตอนนี้ และการแสดงที่ได้รับคำชมมากที่สุดในเทศกาลและปีนี้จนถึงตอนนี้ของ Toni Collette กับหนังผีเรื่องใหม่ของค่าย A24 และการกำกับครั้งแรกของ Ari Aster กับเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องพอเจอกับเรื่องลี้ลับบางอย่าง การแสดงของ Toni Collette ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก แถมก่อนหน้านี้เธอก็เคยเข้าชิงออสการ์จากหนัง Horror อย่าง The Sixth Sense (1999) ความหวังของหนังที่จะไปสู่ออสการ์ คงอยู่กับฝ่ายการตลาดของหนังจากค่าย A24 ที่จะส่งหนังทำเงินแบบหนัง Horror เรื่องอื่นอย่าง Get Out (2016) ได้หรือไม่
The Kindergarten Teacher
หนังรีเมคจากหนังอิสราเอลปี 2014 ที่มีชื่อเดียวกัน กำกับโดยผู้กำกับสาว Sara Colongelo กับเรื่องราวครูอนุบาลที่หมกหมุ่นกับนักเรียนคนหนึ่งของเธอที่เธอเชื่อว่ามีพลังพิเศษ Maggie Gyllenhaal ได้รับคำชมอย่างล้นหลามอีกเช่นเคย
ทีมนำชาย
Leave No Trace
Debra Granik ผู้กำกับหญิงจาก Winter's Bone (2010) ที่พา Jen Law แจ้งเกิดอย่างท่วมท้นกับมาอีกครั้งกับหนังเรื่องแรกในรอบหลายปี เรื่องราวพ่อกับลูกสาวที่ต้องออกมาใช้ชีวิตในเมือง หลังจากอาศัยอยู่ในป่า 2 คนมาอย่างยาวนาน (plot คล้ายๆกับ Captain Fantastic (2016) แต่คงไม่hippyเท่าเรื่องนั้น แถมได้ค่ายเดียวกันอย่าง Bleecker Streetอีก) คำวิจารณ์ออกมาดีมาก โดย i2 นักแสดงนำอย่าง Thomasin McKenzieและ Ben Foster ได้รับคำชมอย่างมาก รายหลังอย่าง Foster ที่เล่นบทดิบๆที่ไร ได้คำชมตลอด ทั้งใน 3:10 to Yuma (2007) และ Hell or High Water (2016) แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ลุ้นรางวัลกับเขา
Don't Worry He Won't Get Far on Foot
Gus Van Sant จาก Good Will Hunting (1997) กับ Milk (2008) comeback อีกราย หลังจากแป้กบ่อยช่วงหลังๆ แต่ครั้งนี้เหมือนจะดี กับเรื่องราวจากชีวิตจริงของ John Callahan ชายที่ต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่การสูญเสียครั้งนี้กับผลักดันเขาให้เป็นนักวาดการ์ตูนชื่อดัง รับบทนำโดย Joaquin Phoenix ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีมาก ที่หลายคนบอกว่ามีลุ้นชิงออสการ์ (จริงๆ ปีนี้มีหนังอีกเรื่องที่เล่นดีของ Lynn Ramsay อย่าง You Were Never Really Here ที่ฉายคานส์ปีที่แล้ว) นอกจากนี้ทีมสมทบอย่าง Jonah Hill, Rooney Mara และ Jack Black ก็เล่นดีเช่นเคย
The Happy Prince
การกำกับหนังครั้งแรกของ Rupert Everrett ที่ทั้งเขียนบทและแสดงเอง กับเรื่องราว 3 ปีสุดท้ายของนักเขียนชื่อดังชาวไอริชอย่าง Oscar Wilde หนังได้รับคำวิจารณ์ที่ดี และการแสดงของ Everrett ก็ได้รับคำชม
ทีมมาคู่
Private Life
การกลับมาในรอบ 11 ปีของหลังจากกำกับ The Savages (2007) เป็นเรื่องสุดท้าย ที่พา Laura Linney เข้าชิงออสการ์นำหญิง, ลุง Hoffman เข้าชิงนำชายในลูกโลกและพาตัวเธอเองเข้าชิงออสการ์สาขาบทดั้งเดิม เรื่องราวครั้งนี้คือเรื่องราวของนักเขียนหญิงและสามีที่พยายามรักษาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยดีนัก โดยการหาทุกวิธีทางเพื่อให้มีทายาท คำวิจารณ์ของหนังดีมาก การแสดงของนักแสดงนำทั้ง Kathryn Hahn และ Paul Giamatti ได้รับคำชมที่ดีมากทั้งคู่
(Early)Oscarwatch2019#1 จาก Sundance 2018 ไปสู่ออสการ์
ทีม นำหญิง
*The Tale
หนึ่งในหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดในเทศกาลและเป็นที่ถูกพูดมากที่สุด หนังกำกับโดยผู้กำกับหญิง Jennifer Fox เนื้อหาของเรื่องคือหัวข้อที่เป็นกระแสในฮอลลีวูดมาที่สุดช่วงนี้ หนังที่เล่าเรื่องการสำรวจความทรงจำของผู้หญิงคนหนึ่งเกี่ยวกับประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกของเธอ คือการที่เธอถูกข่มขืนในวัยเด็ก แสดงนำโดย 2 times Oscar nominee Laura Dern ที่นักวิจารณ์บอกว่าเธอเล่นดีมาก มีลุ้นเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 3 แต่หนังถูกซื้อไปโดย HBO ซึ่งหนังจะฉายทางทีวีแทน ทำให้หนังจะไม่สามารถเข้าชิงออสการ์ได้ ต้องไปเข้าชิง Emmy แทน ซึ่ง Dernก็พึ่งจะคว้า Emmy ได้เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าชิงมา 5 ครั้ง ปีนี้ในเวที Emmy เธอยังมี Twin Peaks อีกเรื่องหนึ่ง
Eighth Grade
นักแสดงตลก Bo Burnham กับการกำกับหนังครั้งแรก กับหนังตลกที่คำวิจารณ์อยู่ในระดับดีมาก เล่าเรื่องสัปดาห์สุดท้ายของก่อนการขึ้นมัธยมปลายของเด็กสาวคนหนึ่ง Elsie Fisherได้รับคำชมเยอะมาก ไม่รู้เธอจะเป็นหนังเด็กอีกคนที่ได้ชิงออสการ์หรือเปล่า แต่อนาคตการแสดงของเธอน่าจะยาวไกล
Colette
การกลับมาอีกครั้งกับเจ้าแม่หนังย้อนยุค 2 time Oscar Nominee Keira Knightley มาพร้อมกับผู้กำกับที่เคยพาป้า Moore คว้าออสการ์จาก Still Alice (2013) อย่าง Wash Westmoreland กับหนังชีวประวัติของ Colette นักเขียนหญิงผู้เคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัล Nobel กับ เรื่องราวหญิงสาวที่พยายามหลุดพ้นจากการควบคุมจากสามีและผลักดันตัวเองจนเป็นนักเขียนที่โด่งดัง คำวิจารณ์หนังอยู่แค่ระดับดี แต่Keira Knightleyได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมาก บอกว่านี้เป็นอีกขั้นของการแสดงของเธอ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอมีลุ้นเข้าชิงนำหญิงปีหน้า Dominic West ที่เล่นเป็นสามีก็ได้รับคำขม หนังได้ Bleecker Street เป็นผู้จัดจำหน่ายที่เคยพา Bryan Cranston เข้าชิงจาก Trumbo (2015) และ Viggo Mortensen เข้าชิงจาก Captain Fantastic (2016)
Tully
Jason Reitman come back ผู้กำกับ Juno (2007), Up in the Air (2009) ที่ช่วงหลังฟอร์มตกไป กลับมาอีกครั้งกับมือเขียนบท Diablo Cody และ Charize Theron หลังจากเคยเจอกันใน Young Adult (2012) ที่คำวิจารณ์ดี แต่ไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ รอบนี้มากับ Tully ที่เหมือนจะคืนฟอร์ม กับเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่ลูก 3 กับพี่เลี้ยงเด็ก คำวิจารณ์อยู่ในระดับดีเลย นักแสดงนำทั้ง 2 คนอย่าง Mackenzie Davisและ Charize Theron ก็ได้รับคำชมว่าดีมาก หนังได้ Focus Featureเป็นผู้จัดจำหน่าย Reitman มึหนังอีกเรื่อง The Front Runner เรื่องราวของ Gary Heart นักการเมืองที่ลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 1988 แต่ในช่วงปราศัยหาเสียง เจ้าตัวกับโดนนักข่าวแฉเรื่องราวความรักของเขาว่าเขามีชู้ รับบทนำโดย Hugh Jackman ร่วยด้วย Vera Farmiga และ J. K. Simmons เป็นต้น
Wildlife
Paul Dano ที่เล่นหนังมามากมาย เกือบชิงออสการ์หลายครั้ง ทั้ง Little Miss Sunshine (2006), There Will be Blood (2007) และ Love & Mercy (2014) แต่ยังไม่ได้ชิง แต่อาจจะมีลุ้นจากการเป็นผู้กำกับเหมือนนักแสดงสาว Greta Gerwig ที่ได้ชิงออสการ์สาขาผู้กำกับและสาขาบท เพราะหนังที่เขากำกับครั้งแรก ได้รับคำวิจารณ์ในระดับดีมาก โดยหนังดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกัน เรื่องราวในยุค 60 ที่เด็กหนุ่มต้องนั่งมองดูความสัมพันธ์ของพ่อแม่ที่ต้องแตกหัก หลังจากครอบครัวของเขาย้ายบ้านใหม่มาอยู่ที่เมือง Montana แต่แม่ของเขาดันไปหลงรักกับหนุ่มคนอื่น หนังเขียนบทโดย Danaและแฟนสาวสุดน่ารัก Zoe Kazan แสดงนำโดย Jake Gyllenhaal และ Carey Mulligan เล่นเป็นสามีภรรยา แต่เหมือน Jake จะดวงไม่ค่อยดี เพราะไม่มีใครพูดถึง Carey Mulligan ได้รับคำวิจารณ์อย่างท่วมท้น ว่ามีลุ้นเข้าชิงออสการ์ (ที่จริงช่วงหลังจาก An Eduacation (2009) เธอเล่นดีตลอด แต่ไม่ได้ชิงออสการ์ ทั้งใน Never Let Me Go (2010), Drive (2011), Shame (2011), The Great Gatsby (2013), Inside Llewyn Davis (2013), Far from the Madding Crowd (2015), Suffragette (2015), และ Mudbound (2017))
Hereditany
หนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดในเทศกาลและปีนี้จนถึงตอนนี้ และการแสดงที่ได้รับคำชมมากที่สุดในเทศกาลและปีนี้จนถึงตอนนี้ของ Toni Collette กับหนังผีเรื่องใหม่ของค่าย A24 และการกำกับครั้งแรกของ Ari Aster กับเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องพอเจอกับเรื่องลี้ลับบางอย่าง การแสดงของ Toni Collette ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก แถมก่อนหน้านี้เธอก็เคยเข้าชิงออสการ์จากหนัง Horror อย่าง The Sixth Sense (1999) ความหวังของหนังที่จะไปสู่ออสการ์ คงอยู่กับฝ่ายการตลาดของหนังจากค่าย A24 ที่จะส่งหนังทำเงินแบบหนัง Horror เรื่องอื่นอย่าง Get Out (2016) ได้หรือไม่
The Kindergarten Teacher
หนังรีเมคจากหนังอิสราเอลปี 2014 ที่มีชื่อเดียวกัน กำกับโดยผู้กำกับสาว Sara Colongelo กับเรื่องราวครูอนุบาลที่หมกหมุ่นกับนักเรียนคนหนึ่งของเธอที่เธอเชื่อว่ามีพลังพิเศษ Maggie Gyllenhaal ได้รับคำชมอย่างล้นหลามอีกเช่นเคย
ทีมนำชาย
Leave No Trace
Debra Granik ผู้กำกับหญิงจาก Winter's Bone (2010) ที่พา Jen Law แจ้งเกิดอย่างท่วมท้นกับมาอีกครั้งกับหนังเรื่องแรกในรอบหลายปี เรื่องราวพ่อกับลูกสาวที่ต้องออกมาใช้ชีวิตในเมือง หลังจากอาศัยอยู่ในป่า 2 คนมาอย่างยาวนาน (plot คล้ายๆกับ Captain Fantastic (2016) แต่คงไม่hippyเท่าเรื่องนั้น แถมได้ค่ายเดียวกันอย่าง Bleecker Streetอีก) คำวิจารณ์ออกมาดีมาก โดย i2 นักแสดงนำอย่าง Thomasin McKenzieและ Ben Foster ได้รับคำชมอย่างมาก รายหลังอย่าง Foster ที่เล่นบทดิบๆที่ไร ได้คำชมตลอด ทั้งใน 3:10 to Yuma (2007) และ Hell or High Water (2016) แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ลุ้นรางวัลกับเขา
Don't Worry He Won't Get Far on Foot
Gus Van Sant จาก Good Will Hunting (1997) กับ Milk (2008) comeback อีกราย หลังจากแป้กบ่อยช่วงหลังๆ แต่ครั้งนี้เหมือนจะดี กับเรื่องราวจากชีวิตจริงของ John Callahan ชายที่ต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่การสูญเสียครั้งนี้กับผลักดันเขาให้เป็นนักวาดการ์ตูนชื่อดัง รับบทนำโดย Joaquin Phoenix ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีมาก ที่หลายคนบอกว่ามีลุ้นชิงออสการ์ (จริงๆ ปีนี้มีหนังอีกเรื่องที่เล่นดีของ Lynn Ramsay อย่าง You Were Never Really Here ที่ฉายคานส์ปีที่แล้ว) นอกจากนี้ทีมสมทบอย่าง Jonah Hill, Rooney Mara และ Jack Black ก็เล่นดีเช่นเคย
The Happy Prince
การกำกับหนังครั้งแรกของ Rupert Everrett ที่ทั้งเขียนบทและแสดงเอง กับเรื่องราว 3 ปีสุดท้ายของนักเขียนชื่อดังชาวไอริชอย่าง Oscar Wilde หนังได้รับคำวิจารณ์ที่ดี และการแสดงของ Everrett ก็ได้รับคำชม
ทีมมาคู่
Private Life
การกลับมาในรอบ 11 ปีของหลังจากกำกับ The Savages (2007) เป็นเรื่องสุดท้าย ที่พา Laura Linney เข้าชิงออสการ์นำหญิง, ลุง Hoffman เข้าชิงนำชายในลูกโลกและพาตัวเธอเองเข้าชิงออสการ์สาขาบทดั้งเดิม เรื่องราวครั้งนี้คือเรื่องราวของนักเขียนหญิงและสามีที่พยายามรักษาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยดีนัก โดยการหาทุกวิธีทางเพื่อให้มีทายาท คำวิจารณ์ของหนังดีมาก การแสดงของนักแสดงนำทั้ง Kathryn Hahn และ Paul Giamatti ได้รับคำชมที่ดีมากทั้งคู่