ตกหลุมรัก ณ "น่าน นคร"

ทริปน่านครั้งนี้ ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะไป
แต่เพื่อนเรียกร้องว่า 'แกรรร' ไปเที่ยวน่านกันเถอะ อยากไปดูดาวว
แล้วก็ถือว่า เป็นการตัดสินใจถูกมากที่ไป เพราะเป็นทริปที่ประทับใจมากๆ

เราก็เลยโอเค อะ ไปก็ไป เป็นทริปที่เหนื่อยมากกก แต่ก็สนุกมากเช่นกัน
เพราะคืนนึง นอนไม่เกิน 3 ชม. แต่ต้องขับรถวันละ 8 ชม. ขึ้นเขา ลงห้วย คนเดียว

ทริปของเราเริ่มที่สนามบินดอนเมือง
เราบินด้วยสายการบิน Nok Air ออกเดินทาง 9.20 น. ถึงสนามบินน่านนครเวลา 10.25 น.
เครื่องบินจิ๋วลำนี้ พาเรามาถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพ
น่าน ต้อนรับเราด้วยฝน และเมฆครึ้ม คิดในใจว่าอย่าตกนะๆ

เมื่อมาถึงสนามบิน เราก็ไปติดต่อรับรถที่จองไว้กับบริษัท Avis ค่าเช่ารถ รวมภาษีและประกัน ประมาณ 4800 บาท 3 วัน

หลังจากรับรถ แล้วววว ท้องก็ร้องประท้วงทันทีว่า ได้เวลาทานข้าวแล้ววว

เราเลยขับไปร้าน สวนสะเนียน เพื่อหาอาหารลงท้อง ทริปนี้จะต้องเป็นทริปที่กินอิ่ม เราตั้งปณิธานกันไว้ 555+

ครัวสวนสะเนียนอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 12 กิโลเมตร หาจากGoogle Map แล้วตามไป หาง่ายมาก ร้านอยู่ริมน้ำ

อาหารเราสั่งมาทั้งหมด 3 จานด้วยกัน
1. ไก่มะนาว
2. ปูนิ่มทอดกระเทียม
3. ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน


อาหารค่อนข้างถูกปาก ชอบที่สุด คือ ปูนิ่ม ทอดกรอบพอดีมากๆ
ต้มยำเราว่าหวานไปหน่อย เพราะว่าเราไม่ชอบรสหวาน แต่เพื่อนบอกพอดี อ่ะ! ก็ไปลองกัน

ราคาอาหารมื้อนี้ 440 บาท รวมข้าวเปล่า 2 จาน และน้ำเปล่า 3 ขวด อิ่มท้องแตกกันไปเลย

เมื่อทานอาหารคาวแล้ว เราก็หากาแฟดิ่มต่อ
ก่อนที่จะขับรถขึ้นดอย ก็ต้องหาคาเฟอีน มากระตุ้นหน่อย เพราะหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดา

เราเลือกร้าน Workboxes Cafe' ตั้งอยู่ที่ กาดน่าน ไม่ไกลจากร้านอาหารที่เราไปทานมื้อเที่ยงมา ประมาณ 9 นาที

เมนูที่เราสั่งนั้นนนนน คือ มัทฉะเย็น และ ลาเต้ร้อน

มัทฉะ คือดี ส่วนลาเต้ร้อน ก็กลมกร่อม (สำหรับเรา)

เพื่อนเราสั่ง Caramel Macchiato ปั่น นางประทับใจมาก พูดแล้วพูดอีกว่าอร่อย

ถ้าอยากรู้ว่าอร่อยจริงป่าว ก็แวะไปได้ ร้านเปิด 8.30-18.00 น.

บรรยากาศในร้าน...

ได้กาแฟแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
อ่อ! ก่อนไป แวะซื้อขนม นม เนย น้ำไปด้วยก็ดีนะ ข้างบนอุทยานมีขายบ้างเล็กน้อย

เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ขับรถไปถึงดอยเสมอดาว ถึงดอยประมาณ 4 โมงเย็น
ตั้งใจให้ไปถึงประมาณนี้ เพราะว่ารีบขึ้นไปก็ไม่มีอะไรทำ อากาศร้อน นอนในเต๊นท์ไม่ไหววว
แต่ก็ไม่ควรไปถึงเกิน 16.30 น. เพราะว่ายิ่งเย็น รถก็ยิ่งเยอะ หาที่จอดยาก ถ้าเป็นวันหยุดนะ
แต่วันธรรมดา ไม่มีปัญหากับที่จอดรถมาก

ทางอุทยานเตรียมเต๊นท์ไว้ให้เราแล้ว แต่ถ้าใครต้องการนำเต๊นท์ไปเองก็มีพื้นที่ไว้ให้ตั้งเต๊นท์ ก็เอาที่สะดวก
แต่ถ้าใครเอารถไปเองจากบ้านแต่แรก แนะนำว่าเอาหมอน ผ้าห่มตัวเองไปก็ดีนะ
ของที่อุทยานเตรียมไว้ มันมีกลิ่นอะ

เต๊นท์ที่เราเช่ากับอุทยาน 345 บาทถ้วน ไม่มี VATเพิ่ม นะจ๊ะ

เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว เราก็ขอเดินเล่นชมรอบๆดอยซะหน่อย วิวดีทีเดียว

ผาหัวสิงห์ก็อยู่ใกล้ๆเต๊นท์ที่พักเลย

ชมดอยพอเป็นพิธี ก็ขนของเข้าเต๊นท์ และเตรียมอาบน้ำ
ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกเราคิดไว้แล้วว่าไม่อาบน้ำแน่นอน เพราะว่าเป็นมนุษย์ที่กังวลเรื่องห้องน้ำมากกกก...ก
แต่โชคดีตรงที่ พอไปถึงคนอื่นก็เดินเล่น ชมวิว แล้วห้องน้ำยังไม่มีคนใช้เลยย ฉะนั้น รีบเลยค่ะ
พออาบเสร็จเท่านั้นแหละ ห้องน้ำแตก คนเพียบ

มื้อเย็น เพื่อนเราอยากทานหมูกระทะมาก นางเห็นว่าอากาศเย็น มีของร้อนก็ดี
แต่คือ ไม่อร่อยเลยยยยยย หมูคือเหนียวยังกับหนังสติ๊ก มันก็มีหลายเจ้าอะนะที่เดินมาถาม
เราก็ไม่รู้ว่าเจ้าไหนดี Jackpot แตกเลย T T ชุดละ 200 บาท เช่าเตาถ่านข้างๆที่ทำการอุทยาน 100 บาท ค่าเสื่อ 50 บาท
(เสื่อ ถ้าเช่ากับอุทยานจะ 30 บาท ตอนเราจะเช่า มันหมดแล้ว หร่องห้ายยย T T ใครจะเช่าก็รีบเช่า คนเยอะ หมดไว)

ทานเสร็จแล้ว ไม่รู้ทำอะไร เปิดโคนันเล่มที่ซื้อติดมือมาอ่านสิ บรรยากาศได้เลย
เอ้อ! ถ้ากลัวมืด ทางเต๊นท์มีบริการโคมไฟให้เช่า 100 บาท!!! (ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองจ้ะ แค่ค่าถ่านกับเตา 100 บาท ก็กรี๊ดละ)

คืนที่เรามา ฝนตกกก ห๊ะ! อะไรนะ ฝนตกกก เมฆบังหมดเลยจ้าาา
เข้านอนเลยละกัน ห้าทุ่มละ ขับรถทั้งวัน หัวถึงหมอนหลับสบายย คืนก่อนนอนมา 1 ชม.ถ้วน ตื่นเต้นกลัวไปไม่ทันเครื่อง -..-
สะดุ้งตื่นเพราะฝันถึงแมงมุมตัวใหญ่ เลยโผล่หัวออกไปดูหน่อยว่ามีดาวป่าว
เฮ้ยยยย! มีเว้ยยยยยยยย ปลุกเพื่อนสิ รออะไร

นี่ดีใจมาก นึกว่าฝนจะตกทั้งคืน ตอนนี้ตี 3 ดาวเต็มฟ้า
ถ่ายดาวมาฝาก ได้แค่นี้

ถ่ายถึงตี 5 ไปนอนต่อละ ไว้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ยามเช้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่