เรามักไม่ค่อยได้สนใจกับทิศทางการเปล่งแสงสว่างของโคมไฟมากนัก เพราะสิ่งที่เราใส่ใจมากกว่าก็คือ ระดับการให้แสงสว่างของโคมไฟที่เหมาะสมกับห้องต่างๆ หรือไม่ จนทำให้ลืมการส่องสว่างที่มีทิศทางแตกต่างกันไป ความเข้าใจในการตกแต่งบ้านด้วยการส่องสว่างเช่นนี้ จะช่วยให้คุณเข้าถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีได้ในแบบที่ต้องการ
แม้จะเป็นแสงประดิษฐ์ที่เลียนแบบแสงจากธรรมชาติ แต่หากถูกนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันจะช่วยเติมเสน่ห์ให้บ้านของคุณดูสวยงาม เช่นเดียวกับทิศทางของแสงไฟที่ส่องสว่าง เพียงแค่ปรับมุมให้แสงเปลี่ยนไปส่องสว่างในตำแหน่งที่ใช่ ก็เปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึก และหน้าที่การทำงานของแสงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
INDIRECT LIGHTING คืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนวางแผนติดตั้งโคมไฟ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการติดตั้งแสงสว่างแบบ Indirect Lighting กันก่อน โดยเฉพาะมือใหม่ที่ไม่เคยมีความรู้ในด้านนี้เลย หากเป็นภาษาไทยทั่วๆ ไป เราจะรู้จักแสงสว่างชนิดนี้ในชื่อว่าไฟหลืบหรือไฟซ่อน แสงที่ส่องสว่างออกมาจะเกิดขึ้นได้จาการสะท้อนตัวผ่านแหล่งกำเนิดแสง แน่นอนว่ามาจากโคมไฟหรือหลอดไฟที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ของบ้าน การส่องสว่างมักจะส่องกระทบพื้นในแนวราบเพื่อให้เกิดการสะท้อนและกระจายแสง แสงสว่างที่ได้จะมีความนวลสบายตาอย่างสม่ำเสมอ โดยมากจะเน้นสร้างบรรยากาศมากกว่าการใช้งานจริงจัง นิยมนำไปใช้เพื่อการตกแต่งสำหรับบ้านหรืออาคารที่ไม่ต้องการมองเห็นหลอดไฟหรือส่วนอื่นๆ ของอุปกรณ์ภายหลังการติดตั้งเสร็จแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ประโยชน์ของไฟหลืบ ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในบางพื้นที่ๆ ไม่ต้องการให้แสงสว่างจ้าเกินไป สามารถเปลี่ยนจากหลอดไฟที่ส่องสว่างโดยตรงเป็นแบบ Indirect ได้ เช่น การติดตั้งเอาไว้เป็นไฟส่องสว่างในยามกลางคืน เน้นใช้ภายในห้อง และพื้นที่ทางเดินสำหรับเข้าห้องน้ำ โดยที่แสงสว่างเมื่อเปิดแล้วจะไม่รบกวนคนอื่นภายในห้องเดียวกัน อาจติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หรือใต้โต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้าน ในการใช้งานสำหรับใครที่ต้องการมองเห็นรายละเอียดของพื้นที่ในขณะเคลื่อนไหวได้โดยไม่ทำให้เกิดอันตราย และไม่ทำลายบรรยากาศการนอนหลับพักผ่อนของอีกคน
ไอเดียการติดตั้งโคมไฟแบบ INDIRECT LIGHTING ให้เหมาะสม
การติดตั้ง Indirect Lighting มีหลากหลายสไตล์การติดตั้งตามความชอบและประโยชน์ในการใช้งาน ไอเดียที่เน้นความสบายผ่อนคลายคือหัวใจหลักในการติดตั้ง หลักๆ ที่เราอยากแนะนำ มีด้วยกันถึง 8 แนวทางที่สามารถนำเอาไปเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ได้ เป็นการติดตั้งที่เห็นได้ทั่วไป ให้ประโยชน์ในการใช้งานได้อย่างที่ต้องการ ทั้งในแง่บรรยากาศและความผ่อนคลายสบายตา จัดแบ่งประเภทดังต่อไปนี้ คือ
1.Cove Lighting - เป็นการติดตั้งหลอดไฟเอาไว้ตามหลืบฝ้าเพดาน ซึ่งจะใช้งานได้ดีสำหรับบ้านยุคใหม่ที่มีฝ้าเพดานแบบเล่นจังหวะ แสงสว่างจะส่องกระทบด้านบนฝ้า และสะท้อนกลับลงมา ทำให้แสงสว่างกระจายได้พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป
2.Case Lighting - เป็นการติดตั้งแสงสว่างที่มีตัวกรองแสง อย่างกล่องไฟ เปรียบเหมือนผ้าม่านผืนบางที่กรองแสงอาทิตย์จากภายนอกไม่ให้ส่องสว่างเข้ามามากเกินไป เน้นใช้งานกับระนาบแนวนอนและแนวตั้ง วัสดุกรองแสงจะเป็นแบบโปร่งแสงแต่มีความทึบ ไม่โปร่งใส เช่น อะคลีลิค กระจกฝ้า เป็นต้น
3.Toe Kicks - เน้นใช้ส่องสว่างในทิศทางด้านล่างทางเดิน ส่องกระทบกับพื้นสะท้อนขึ้นมาด้านบน หลอดไฟไม่จำเป็นต้องมีปีกช่วยบังตัวหลอดไม่ให้แยงตา เพราะอย่างไรระดับไฟก็ต่ำกว่าสายตาอยู่แล้ว เนื่องจากใช้ติดตั้งตามขั้นบันได ทางเดินภายในสวนเข้าสู่ตัวบ้าน เป็นต้น
4.Under Cabinet / Shelf - เป็นแสงที่นิยมใช้ติดตั้งเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ทำงาน หรือชั้นวางของ ประโยชน์ก็เพื่อเน้นความสวย เหมาะสำหรับจัดวางของตกแต่ง แสงสว่างจากหลอดไฟจะกระทบวัตถุโดยตรง ทำให้ตัวงานโดดเด่นสะดุดตา
5.Curtain / Wall Washing - แสงสว่างจะถูกติดตั้งโดยการลอดผ่านเข้ามา ทิศทางการส่องสว่างตรงเข้าไปยังผ้าม่านหรือผนัง แสงสว่างจะส่องจากด้านบนของฝ้าเพดาน
6.Backlit Glass / Signage - ไอเดียนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยต้องการเน้นสร้างบรรยากาศ ติดตั้งบริเวณผนัง ป้าย และช่องที่เจาะผนัง แสงสว่างจะส่องทั้งในแนวขึ้นและลง ซึ่งนอกจากสร้างสุนทรียภาพแล้ว ยังช่วยทำให้พื้นที่ของผนังโดดเด่นมากขึ้นด้วย
7.Architectural Details - การติดตั้งเน้นสำหรับลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ภายในองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรม มีความสวยงามเป็นพิเศษ แสงสว่างที่ออกมาจะใกล้เคียงกับการติดตั้งแบบ Under Cabinet แต่ระยะของแสงสว่างจะสั้นกว่า ปริมาณแสงที่ได้น้อยกว่า
8.Backlit Mirror - เป็นแสงสว่างที่เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพื้นที่สำหรับแต่งหน้า แต่งตัว หลอดไฟจะซ่อนตัวโดยส่องสว่างโดยรอบวัตถุ นิยมติดเอาไว้กับกระจกห้องน้ำ เพื่อช่วยให้การมองเห็นชัดเจนและนวลตาเสมือนจริง
ไอเดียการติดตั้งหลอดไฟและโคมไฟในแบบ Indirect Lighting เช่นนี้ จะช่วยเปลี่ยนบ้านที่ให้แสงสว่างแบบเดิมๆ ดูมีบรรยากาศที่สวยงาม เต็มไปด้วยสีสันที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างชัดเจน เพียงเข้าใจหลักการติดตั้ง และการส่องสว่างของแสงประเภทนี้ ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกันได้แล้ว
ที่มา :
https://www.loungelovers.com/
ทำความรู้จักกับการแต่งบ้านด้วยโคมไฟที่มีแสงไฟแบบ INDIRECT LIGHTING
แม้จะเป็นแสงประดิษฐ์ที่เลียนแบบแสงจากธรรมชาติ แต่หากถูกนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันจะช่วยเติมเสน่ห์ให้บ้านของคุณดูสวยงาม เช่นเดียวกับทิศทางของแสงไฟที่ส่องสว่าง เพียงแค่ปรับมุมให้แสงเปลี่ยนไปส่องสว่างในตำแหน่งที่ใช่ ก็เปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึก และหน้าที่การทำงานของแสงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
INDIRECT LIGHTING คืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนวางแผนติดตั้งโคมไฟ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการติดตั้งแสงสว่างแบบ Indirect Lighting กันก่อน โดยเฉพาะมือใหม่ที่ไม่เคยมีความรู้ในด้านนี้เลย หากเป็นภาษาไทยทั่วๆ ไป เราจะรู้จักแสงสว่างชนิดนี้ในชื่อว่าไฟหลืบหรือไฟซ่อน แสงที่ส่องสว่างออกมาจะเกิดขึ้นได้จาการสะท้อนตัวผ่านแหล่งกำเนิดแสง แน่นอนว่ามาจากโคมไฟหรือหลอดไฟที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ของบ้าน การส่องสว่างมักจะส่องกระทบพื้นในแนวราบเพื่อให้เกิดการสะท้อนและกระจายแสง แสงสว่างที่ได้จะมีความนวลสบายตาอย่างสม่ำเสมอ โดยมากจะเน้นสร้างบรรยากาศมากกว่าการใช้งานจริงจัง นิยมนำไปใช้เพื่อการตกแต่งสำหรับบ้านหรืออาคารที่ไม่ต้องการมองเห็นหลอดไฟหรือส่วนอื่นๆ ของอุปกรณ์ภายหลังการติดตั้งเสร็จแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ประโยชน์ของไฟหลืบ ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในบางพื้นที่ๆ ไม่ต้องการให้แสงสว่างจ้าเกินไป สามารถเปลี่ยนจากหลอดไฟที่ส่องสว่างโดยตรงเป็นแบบ Indirect ได้ เช่น การติดตั้งเอาไว้เป็นไฟส่องสว่างในยามกลางคืน เน้นใช้ภายในห้อง และพื้นที่ทางเดินสำหรับเข้าห้องน้ำ โดยที่แสงสว่างเมื่อเปิดแล้วจะไม่รบกวนคนอื่นภายในห้องเดียวกัน อาจติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หรือใต้โต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้าน ในการใช้งานสำหรับใครที่ต้องการมองเห็นรายละเอียดของพื้นที่ในขณะเคลื่อนไหวได้โดยไม่ทำให้เกิดอันตราย และไม่ทำลายบรรยากาศการนอนหลับพักผ่อนของอีกคน
ไอเดียการติดตั้งโคมไฟแบบ INDIRECT LIGHTING ให้เหมาะสม
การติดตั้ง Indirect Lighting มีหลากหลายสไตล์การติดตั้งตามความชอบและประโยชน์ในการใช้งาน ไอเดียที่เน้นความสบายผ่อนคลายคือหัวใจหลักในการติดตั้ง หลักๆ ที่เราอยากแนะนำ มีด้วยกันถึง 8 แนวทางที่สามารถนำเอาไปเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ได้ เป็นการติดตั้งที่เห็นได้ทั่วไป ให้ประโยชน์ในการใช้งานได้อย่างที่ต้องการ ทั้งในแง่บรรยากาศและความผ่อนคลายสบายตา จัดแบ่งประเภทดังต่อไปนี้ คือ
1.Cove Lighting - เป็นการติดตั้งหลอดไฟเอาไว้ตามหลืบฝ้าเพดาน ซึ่งจะใช้งานได้ดีสำหรับบ้านยุคใหม่ที่มีฝ้าเพดานแบบเล่นจังหวะ แสงสว่างจะส่องกระทบด้านบนฝ้า และสะท้อนกลับลงมา ทำให้แสงสว่างกระจายได้พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป
2.Case Lighting - เป็นการติดตั้งแสงสว่างที่มีตัวกรองแสง อย่างกล่องไฟ เปรียบเหมือนผ้าม่านผืนบางที่กรองแสงอาทิตย์จากภายนอกไม่ให้ส่องสว่างเข้ามามากเกินไป เน้นใช้งานกับระนาบแนวนอนและแนวตั้ง วัสดุกรองแสงจะเป็นแบบโปร่งแสงแต่มีความทึบ ไม่โปร่งใส เช่น อะคลีลิค กระจกฝ้า เป็นต้น
3.Toe Kicks - เน้นใช้ส่องสว่างในทิศทางด้านล่างทางเดิน ส่องกระทบกับพื้นสะท้อนขึ้นมาด้านบน หลอดไฟไม่จำเป็นต้องมีปีกช่วยบังตัวหลอดไม่ให้แยงตา เพราะอย่างไรระดับไฟก็ต่ำกว่าสายตาอยู่แล้ว เนื่องจากใช้ติดตั้งตามขั้นบันได ทางเดินภายในสวนเข้าสู่ตัวบ้าน เป็นต้น
4.Under Cabinet / Shelf - เป็นแสงที่นิยมใช้ติดตั้งเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ทำงาน หรือชั้นวางของ ประโยชน์ก็เพื่อเน้นความสวย เหมาะสำหรับจัดวางของตกแต่ง แสงสว่างจากหลอดไฟจะกระทบวัตถุโดยตรง ทำให้ตัวงานโดดเด่นสะดุดตา
5.Curtain / Wall Washing - แสงสว่างจะถูกติดตั้งโดยการลอดผ่านเข้ามา ทิศทางการส่องสว่างตรงเข้าไปยังผ้าม่านหรือผนัง แสงสว่างจะส่องจากด้านบนของฝ้าเพดาน
6.Backlit Glass / Signage - ไอเดียนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยต้องการเน้นสร้างบรรยากาศ ติดตั้งบริเวณผนัง ป้าย และช่องที่เจาะผนัง แสงสว่างจะส่องทั้งในแนวขึ้นและลง ซึ่งนอกจากสร้างสุนทรียภาพแล้ว ยังช่วยทำให้พื้นที่ของผนังโดดเด่นมากขึ้นด้วย
7.Architectural Details - การติดตั้งเน้นสำหรับลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ภายในองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรม มีความสวยงามเป็นพิเศษ แสงสว่างที่ออกมาจะใกล้เคียงกับการติดตั้งแบบ Under Cabinet แต่ระยะของแสงสว่างจะสั้นกว่า ปริมาณแสงที่ได้น้อยกว่า
8.Backlit Mirror - เป็นแสงสว่างที่เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพื้นที่สำหรับแต่งหน้า แต่งตัว หลอดไฟจะซ่อนตัวโดยส่องสว่างโดยรอบวัตถุ นิยมติดเอาไว้กับกระจกห้องน้ำ เพื่อช่วยให้การมองเห็นชัดเจนและนวลตาเสมือนจริง
ไอเดียการติดตั้งหลอดไฟและโคมไฟในแบบ Indirect Lighting เช่นนี้ จะช่วยเปลี่ยนบ้านที่ให้แสงสว่างแบบเดิมๆ ดูมีบรรยากาศที่สวยงาม เต็มไปด้วยสีสันที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างชัดเจน เพียงเข้าใจหลักการติดตั้ง และการส่องสว่างของแสงประเภทนี้ ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกันได้แล้ว
ที่มา : https://www.loungelovers.com/