สวัสดีค่ะ สำหรับสาวๆที่โดนเท แต่อยากไปเที่ยวที่อากาศดีๆ ฟินๆ วันนี้เรามีอีกหนึ่งที่มาแนะนำ บอกก่อนเลยว่านี่เป็นการรีวิว การเดินทางคนเดียวแบบแบ็คแพ็ค แบกกระเป๋าขึ้นดอยครั้งแรกเลยยยยย และรูปอาจจะไม่สวยมาก ไม่ใช่มือโปร เพราะมีแค่กล้องmirrorlessคู่ใจ sony a5100 เท่านั้น อิอิ
วันแรก
-ออกจากที่พักในเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่06.45 โดยโบกรถสามล้อไปยังสถานีขนส่งช้างเผือก ไปถึง07.00พอดี แต่เจ้าหน้าที่บอกรถจะออกตอน07.30 ก็นั่งเล่นไปพลางๆ อิอิ โดยขึ้นรถ เชียงใหม่-ท่าตอน ค่าโดยสารคนละ 40 บาทจ๊ะ
-นี่คือที่ช่องซื้อตั๋วโดยสารและเวลารถออก (เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยค่ะ) บอกพนักงานขายตั๋วว่าลงโลตัสเชียงดาวได้เลย
-จากขนส่งช้างเผือกถึงโลตัสเชียงดาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ และนี่ก็ถึงแล้ว หน้าตาของโลตัสเชียงดาว กระโดดลงได้เลย อิอิ
-จากนั้นต้องต่อรถขึ้นไปเชียงดาว เดินทางด้วยรถ เชียงดาว-เมืองคอง แต่การเดินทางครั้งนี้เราไปคนเดียว ผู้หญิงแบ็คแพ็คคนเดียวจริงๆ และโชคดี เจอเพื่อนร่วมทางที่น่ารัก เขาเลยชวนขึ้นไปพร้อมกัน เพราะเขาได้ติดต่อรถไว้แล้ว เราเลยไม่ต้องจัดการเยอะ อิอิ และนี่คือเบอร์คุณลุงขับรถที่แสนใจดีนะคะ
081-0294622 ลุงหนาน ลุงคิดค่าโดยสารขึ้นไปแค่ขาละ 60 บาท และขาลงมาก็สามารถนัดกับคุณลุงให้มาส่งได้เช่นกันค่ะ โดยไปและกลับคิดแค่120บาทเอง น่ารักมากกกก เลยนัดกับคุณลุงที่ร้านข้าวขาหมูชื่อดังติดกับโลตัสเชียงดาวค่ะ ชื่อร้านพรเพ็ญ ขาหมูเสวย ที่ร่ำลือกันว่าอร่อยมาก
-ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงละจ้าาาา นี่เป็นบรรยากาศระหว่างทางขึ้นเชียงดาวค่ะ
-พอถึงที่พักคุณลุง ก็ตะโกนออกมาว่า เดี๋ยวไปส่งอีกทีมหนึ่งก่อนนะ เดี๋ยวถอยหลังกลับมาส่ง แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณลุงลืมส่งหนูที่โฮมสเตย์ มุ่งตรงไปเมืองคองทันที แง ลุงแกล้งหนูรึเปล่าเนี่ย 5555 แต่คุณลุงก็ตะโกนกลับมา เอ้าหนู ลุงลืม!!!! เอาอย่างนี้ ลุงจะพาหนูไปเที่ยวเมืองคองก่อน เดี๋ยวเวียนมาส่ง เดี๋ยวลุงเป็นไกด์ให้เอง จังหวะนั้นยังไงก็ได้ค่ะ เพราะทางน่ากลัวมาก55555555 แต่ใครจะรู้ว่าเมืองคอง เป็นเหมือนหุบเขาซึ่งมีคนอยู่อาศัยจริง และยังมีที่พักเป็นโฮมสเตย์อีกด้วย คุณลุงเล่าให้ฟังว่าตรงนี้เปิดใหม่ และนี่คือที่พักที่ต้องผ่านหุบเขาเมืองคองไป
หืมมมม คุ้มมากจ่ายค่ารถมา60บาท ได้มาเที่ยวในหุบเขาด้วย 55555
-ประมาณบ่าย2 คุณลุงก็กลับมาส่งที่โฮมสเตย์ตามสัญญา 5555 และนี่คือที่พักของเราเองง
ชื่อว่าม่านหมอกเชียงดาวววว หูยย สวยสมคำร่ำลือจริงๆ
เห็นแบบนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ
-แต่พอมาถึงขอนอนพักก่อนค่ะ เพราะไปตระเวรเที่ยวเมืองคองมาจนเพลียมาก
-ตื่นมาอีกที 16.30 ออกมาดูหน้าบ้านพัก อื้อออหื้ออออ สวยมากกกกก นี่คือบรรยากาศค่ะ
นี่เราเอง 55555 อันนี้ถ่ายกับกล้อง I6 กล้องปกติ ใช้ไม้เซลฟี่ อิอิ
-และแล้ว 18.00 เวลาอาหารเย็นก็มาถึง 5555 รอเลยจ๊ะ เพราะหิวมากกก ก.ไก่ล้านตัว นี่คืออาหารของที่นี่ เป็นกับข้าว3อย่าง แกงจืดเต้าหู้ไก่ ผัดผักรวมมิตร ไข่เจียว แล้วก็มีน้ำพริก กับข้าวสวยร้อนๆค่ะ
- กินข้าวเสร็จ อากาศเริ่มเย็น ก็ทำฟีล ชิลๆให้ตัวเองนิสสสนึง ด้วยการอ่านหนังสือ อิอิ
- ที่เชียงดาวค่ำเร็ว และอากาศก็เย็นเร็วนะคะ แนะนำเพื่อนๆ รีบอาบน้ำก่อน1ทุ่มค่ะ ไม่งั้นน้ำจะเย็นเหมือนอาบน้ำแข็งเลย
- อาบน้ำเสร็จก็มืดค่ำพอดี มองออกไปหน้าบ้าน หื้ออ เห็นดาวและวิวสวยๆจากนักท่องเที่ยวที่พักเต้นท์ด้านล่าง บรรยากาศจริงสวยมากค่ะ แต่เราอาจจะถ่ายไม่สวยเท่าของจริง แหะๆ ต้องไปลองเองเลยยจ้าาา
- ขอตัวไปนอนก่อนนะ ฟิ้ววววว เย็นมาก อากาศตอนกลางคืนวันนั้นประมาณ 8-10 องศาคะ นี่ก็ไม่แน่ใจว่าอยู่เชียงดาวหรืออยู่เกาหลีกันแน่ 5555 พร็อบเยอะค่ะ ต้องใช้หน่อย อุตส่าห์ขนมา ขำตัวเองมาก
วันที่สอง
- รีบตื่นตั้งแต่ 05.00 เพราะกะจะมาดูทะเลหมอก แต่ดันไม่ค่อยมี อันนี้แล้วแต่ดวงของแต่ละคน ได้คุยกับพี่เจ้าของ เขาบอกว่าหมอกไม่เยอะมา3วันแล้ว แงๆๆๆๆ ในใจคิดว่าไม่เป็นไร ค่อยกลับมาอีก 55555 นี่เป็นบรรยากาศตอนเช้าค่ะ มาถ่ายเล่นก่อนมื้อเช้า อิอิ ปล.รูปที่ถ่ายจากด้านหลังขอช่วยให้นักท่องเที่ยวคนอื่นถ่ายให้แหละ
- มื้อเช้ามาแล้วววจ้า ยกขันโตกชุดมื้อเช้ามาให้ถึงที่พักเลย ก็จะมี ข้าวต้ม โอวัลติน/กาแฟ(แต่เรากินแค่โอวัลตินค่ะ) แล้วก็มีไข่ลวกกับน้ำพริกด้วย 555ก็แปลกดีมีน้ำพริกทุกมื้อเลย แต่ก็อร่อยดีค่ะ
- มาเที่ยวเชียงดาว สามารถเดินไปถ่ายรูปได้ทุกโฮมสเตย์เลย เพราะอยู่ใกล้กัน เราเลยลองเดินเล่นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ไปที่โฮมสเตย์ลีซูโฮมอันเลื่องลือ สวยจริงๆค่ะ วิวดี และก็มีคนถ่ายรูปตอนเราเผลอด้วย55555 แล้วมาส่งให้ตอนเขาจะกลับ ได้รูปสวยๆเพิ่มละ เขาบอกชื่อพี่ต้อ ขอบคุณด้วยนะคะ
- เริ่มสายแสงก็เริ่มมาแล้ว ได้บรรยากาศหนาวๆ แต่มีแดดค่ะ อากาศสายๆอยู่ที่ประมาณ 20 องศาค่ะ
อันนี้แถม 55555 ภาพนี้เซลฟี่ตัวเองค่ะ แต่แสงมาพอดีเป๊ะ
- 10โมง ได้เวลากลับลงจากเชียงดาวแล้วค่ะ นัดกับคุณลุงคนขับรถเอาไว้ แถมคุณลุงใจดีมาก มาตามถึงหน้าบ้านที่พักเลย อิอิ ก่อนกลับขอถ่ายบรรยากาศจากในบ้านพักออกมา จะเห็นวิว คือดีมากอ่ะ บอกเลยย อากาศเย็นแต่มีแดดค่ะ
- อ่อ เกือบลืม เวลาลงจากดอยเชียงดาว ถ้าไม่มีรถมาเอง ต้องลงช่วงเช้าก่อนเที่ยงนะคะ เพราะเดี๋ยวจะไม่มีรถลงไปในตัวเมืองเชียงดาว เพราะแถวนั้นคือรถของชาวบ้านที่อยู่ข้างบนค่ะ บะบ๊ายย เชียงดาวไว้เดี๋ยวเรามาเที่ยวใหม่นะ มีภาพเก็บตกน่ารักๆรอบๆบ้านพัก อิอิ
- สรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางนะคะ
ค่ารถ เชียงใหม่-ท่าตอน 40 บาท
ค่ารถ เชียงดาว-เมืองคอง 60 บาท
ค่าที่พัก ถ้าเป็นบ้านพัก ((คนละ600 เต้นท์คนละ500ค่ะ)) แต่เราไปคนเดียว พี่เจ้าของคิด 1000 ก็คุ้มนะคะกับความสวยงาม ฟิน อิอิ
ค่ารถลงในเมืองเชียงดาว 60 บาท
ค่ารถเข้าเมืองเชียงใหม่ 40 บาท
รวม 1200 บาท
ปล.ไม่รวมค่าเครื่องบิน ค่าที่พักในเมืองเชียงใหม่จ้าาาาาาา
อีกนิดนะ อิอิ นี่คือเบอร์โฮมสเตย์ที่เราพักนะ เผื่อใครสนใจ ชื่อ
ม่านหมอกเชียงดาว 093-2434898
เบอร์ลุงหนาน คนขับรถขึ้นดอยเชียงดาวคะ
081-0294622
[REVIEW] เชียงดาว แบ็คแพ็ค ฉายเดี่ยวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจ๊ะ
วันแรก
-ออกจากที่พักในเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่06.45 โดยโบกรถสามล้อไปยังสถานีขนส่งช้างเผือก ไปถึง07.00พอดี แต่เจ้าหน้าที่บอกรถจะออกตอน07.30 ก็นั่งเล่นไปพลางๆ อิอิ โดยขึ้นรถ เชียงใหม่-ท่าตอน ค่าโดยสารคนละ 40 บาทจ๊ะ
-นี่คือที่ช่องซื้อตั๋วโดยสารและเวลารถออก (เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยค่ะ) บอกพนักงานขายตั๋วว่าลงโลตัสเชียงดาวได้เลย
-จากขนส่งช้างเผือกถึงโลตัสเชียงดาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ และนี่ก็ถึงแล้ว หน้าตาของโลตัสเชียงดาว กระโดดลงได้เลย อิอิ
-จากนั้นต้องต่อรถขึ้นไปเชียงดาว เดินทางด้วยรถ เชียงดาว-เมืองคอง แต่การเดินทางครั้งนี้เราไปคนเดียว ผู้หญิงแบ็คแพ็คคนเดียวจริงๆ และโชคดี เจอเพื่อนร่วมทางที่น่ารัก เขาเลยชวนขึ้นไปพร้อมกัน เพราะเขาได้ติดต่อรถไว้แล้ว เราเลยไม่ต้องจัดการเยอะ อิอิ และนี่คือเบอร์คุณลุงขับรถที่แสนใจดีนะคะ 081-0294622 ลุงหนาน ลุงคิดค่าโดยสารขึ้นไปแค่ขาละ 60 บาท และขาลงมาก็สามารถนัดกับคุณลุงให้มาส่งได้เช่นกันค่ะ โดยไปและกลับคิดแค่120บาทเอง น่ารักมากกกก เลยนัดกับคุณลุงที่ร้านข้าวขาหมูชื่อดังติดกับโลตัสเชียงดาวค่ะ ชื่อร้านพรเพ็ญ ขาหมูเสวย ที่ร่ำลือกันว่าอร่อยมาก
-ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงละจ้าาาา นี่เป็นบรรยากาศระหว่างทางขึ้นเชียงดาวค่ะ
-พอถึงที่พักคุณลุง ก็ตะโกนออกมาว่า เดี๋ยวไปส่งอีกทีมหนึ่งก่อนนะ เดี๋ยวถอยหลังกลับมาส่ง แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณลุงลืมส่งหนูที่โฮมสเตย์ มุ่งตรงไปเมืองคองทันที แง ลุงแกล้งหนูรึเปล่าเนี่ย 5555 แต่คุณลุงก็ตะโกนกลับมา เอ้าหนู ลุงลืม!!!! เอาอย่างนี้ ลุงจะพาหนูไปเที่ยวเมืองคองก่อน เดี๋ยวเวียนมาส่ง เดี๋ยวลุงเป็นไกด์ให้เอง จังหวะนั้นยังไงก็ได้ค่ะ เพราะทางน่ากลัวมาก55555555 แต่ใครจะรู้ว่าเมืองคอง เป็นเหมือนหุบเขาซึ่งมีคนอยู่อาศัยจริง และยังมีที่พักเป็นโฮมสเตย์อีกด้วย คุณลุงเล่าให้ฟังว่าตรงนี้เปิดใหม่ และนี่คือที่พักที่ต้องผ่านหุบเขาเมืองคองไป
หืมมมม คุ้มมากจ่ายค่ารถมา60บาท ได้มาเที่ยวในหุบเขาด้วย 55555
-ประมาณบ่าย2 คุณลุงก็กลับมาส่งที่โฮมสเตย์ตามสัญญา 5555 และนี่คือที่พักของเราเองง ชื่อว่าม่านหมอกเชียงดาวววว หูยย สวยสมคำร่ำลือจริงๆ
เห็นแบบนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ
-แต่พอมาถึงขอนอนพักก่อนค่ะ เพราะไปตระเวรเที่ยวเมืองคองมาจนเพลียมาก
-ตื่นมาอีกที 16.30 ออกมาดูหน้าบ้านพัก อื้อออหื้ออออ สวยมากกกกก นี่คือบรรยากาศค่ะ
นี่เราเอง 55555 อันนี้ถ่ายกับกล้อง I6 กล้องปกติ ใช้ไม้เซลฟี่ อิอิ
-และแล้ว 18.00 เวลาอาหารเย็นก็มาถึง 5555 รอเลยจ๊ะ เพราะหิวมากกก ก.ไก่ล้านตัว นี่คืออาหารของที่นี่ เป็นกับข้าว3อย่าง แกงจืดเต้าหู้ไก่ ผัดผักรวมมิตร ไข่เจียว แล้วก็มีน้ำพริก กับข้าวสวยร้อนๆค่ะ
- กินข้าวเสร็จ อากาศเริ่มเย็น ก็ทำฟีล ชิลๆให้ตัวเองนิสสสนึง ด้วยการอ่านหนังสือ อิอิ
- ที่เชียงดาวค่ำเร็ว และอากาศก็เย็นเร็วนะคะ แนะนำเพื่อนๆ รีบอาบน้ำก่อน1ทุ่มค่ะ ไม่งั้นน้ำจะเย็นเหมือนอาบน้ำแข็งเลย
- อาบน้ำเสร็จก็มืดค่ำพอดี มองออกไปหน้าบ้าน หื้ออ เห็นดาวและวิวสวยๆจากนักท่องเที่ยวที่พักเต้นท์ด้านล่าง บรรยากาศจริงสวยมากค่ะ แต่เราอาจจะถ่ายไม่สวยเท่าของจริง แหะๆ ต้องไปลองเองเลยยจ้าาา
- ขอตัวไปนอนก่อนนะ ฟิ้ววววว เย็นมาก อากาศตอนกลางคืนวันนั้นประมาณ 8-10 องศาคะ นี่ก็ไม่แน่ใจว่าอยู่เชียงดาวหรืออยู่เกาหลีกันแน่ 5555 พร็อบเยอะค่ะ ต้องใช้หน่อย อุตส่าห์ขนมา ขำตัวเองมาก
วันที่สอง
- รีบตื่นตั้งแต่ 05.00 เพราะกะจะมาดูทะเลหมอก แต่ดันไม่ค่อยมี อันนี้แล้วแต่ดวงของแต่ละคน ได้คุยกับพี่เจ้าของ เขาบอกว่าหมอกไม่เยอะมา3วันแล้ว แงๆๆๆๆ ในใจคิดว่าไม่เป็นไร ค่อยกลับมาอีก 55555 นี่เป็นบรรยากาศตอนเช้าค่ะ มาถ่ายเล่นก่อนมื้อเช้า อิอิ ปล.รูปที่ถ่ายจากด้านหลังขอช่วยให้นักท่องเที่ยวคนอื่นถ่ายให้แหละ
- มื้อเช้ามาแล้วววจ้า ยกขันโตกชุดมื้อเช้ามาให้ถึงที่พักเลย ก็จะมี ข้าวต้ม โอวัลติน/กาแฟ(แต่เรากินแค่โอวัลตินค่ะ) แล้วก็มีไข่ลวกกับน้ำพริกด้วย 555ก็แปลกดีมีน้ำพริกทุกมื้อเลย แต่ก็อร่อยดีค่ะ
- มาเที่ยวเชียงดาว สามารถเดินไปถ่ายรูปได้ทุกโฮมสเตย์เลย เพราะอยู่ใกล้กัน เราเลยลองเดินเล่นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ไปที่โฮมสเตย์ลีซูโฮมอันเลื่องลือ สวยจริงๆค่ะ วิวดี และก็มีคนถ่ายรูปตอนเราเผลอด้วย55555 แล้วมาส่งให้ตอนเขาจะกลับ ได้รูปสวยๆเพิ่มละ เขาบอกชื่อพี่ต้อ ขอบคุณด้วยนะคะ
- เริ่มสายแสงก็เริ่มมาแล้ว ได้บรรยากาศหนาวๆ แต่มีแดดค่ะ อากาศสายๆอยู่ที่ประมาณ 20 องศาค่ะ
อันนี้แถม 55555 ภาพนี้เซลฟี่ตัวเองค่ะ แต่แสงมาพอดีเป๊ะ
- 10โมง ได้เวลากลับลงจากเชียงดาวแล้วค่ะ นัดกับคุณลุงคนขับรถเอาไว้ แถมคุณลุงใจดีมาก มาตามถึงหน้าบ้านที่พักเลย อิอิ ก่อนกลับขอถ่ายบรรยากาศจากในบ้านพักออกมา จะเห็นวิว คือดีมากอ่ะ บอกเลยย อากาศเย็นแต่มีแดดค่ะ
- อ่อ เกือบลืม เวลาลงจากดอยเชียงดาว ถ้าไม่มีรถมาเอง ต้องลงช่วงเช้าก่อนเที่ยงนะคะ เพราะเดี๋ยวจะไม่มีรถลงไปในตัวเมืองเชียงดาว เพราะแถวนั้นคือรถของชาวบ้านที่อยู่ข้างบนค่ะ บะบ๊ายย เชียงดาวไว้เดี๋ยวเรามาเที่ยวใหม่นะ มีภาพเก็บตกน่ารักๆรอบๆบ้านพัก อิอิ
- สรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางนะคะ
ค่ารถ เชียงใหม่-ท่าตอน 40 บาท
ค่ารถ เชียงดาว-เมืองคอง 60 บาท
ค่าที่พัก ถ้าเป็นบ้านพัก ((คนละ600 เต้นท์คนละ500ค่ะ)) แต่เราไปคนเดียว พี่เจ้าของคิด 1000 ก็คุ้มนะคะกับความสวยงาม ฟิน อิอิ
ค่ารถลงในเมืองเชียงดาว 60 บาท
ค่ารถเข้าเมืองเชียงใหม่ 40 บาท
รวม 1200 บาท
ปล.ไม่รวมค่าเครื่องบิน ค่าที่พักในเมืองเชียงใหม่จ้าาาาาาา
อีกนิดนะ อิอิ นี่คือเบอร์โฮมสเตย์ที่เราพักนะ เผื่อใครสนใจ ชื่อ ม่านหมอกเชียงดาว 093-2434898
เบอร์ลุงหนาน คนขับรถขึ้นดอยเชียงดาวคะ 081-0294622