สัมผัสทะเลหมอกท่ามกลางขุนเขา อากาศเย็นสบาย เที่ยวได้ทั้งปี ณ เชียงดาว
จะเข้าฤดูหนาวแล้วเชื่อว่าที่เที่ยวในใจของใครหลาย ๆ คนรวมทั้งเราด้วยคงจะหนีไม่พ้นการได้ไปเที่ยวทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่รอทุกคนไปสัมผัสอากาศหนาว ฟิน ๆ กันอยู่น๊า สำหรับทริปครั้งนี้ของเราออกเดินทางไปที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เป็นการขึ้นเหนือในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่จะยังมีฝนตกอยู่บ้างแต่ก็ได้อากาศหนาวฟิน ๆ แล้วด้วยนะ รอบนี้เราอยากไปเก็บภาพสวย ๆ หนีร้อนไปพักผ่อนกับธรรมชาติ และอากาศเย็นก่อนใคร ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้ามืด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง ก็เดินทางถึงตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว กว่าจะไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว จึงพักการเดินทางนอนที่ตัวเมืองเชียงใหม่ 1 คืน ก่อนออกเดินทางไปเชียงดาวกัน
ตื่นเช้ามาพร้อมออกเดินทาง มุ่งสู่ บ้านขุนคอง อ.เชียงดาว ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ
เราก็เดินทางมาถึง ขุนคองฟาร์มสเตย์ ที่เป็นโฮมสเตย์เปิดใหม่กิ๊ง ๆ มีจุดเด่นที่มองเห็นตั้งแต่ขับรถเข้ามาที่ บ้านขุนคองเลย คือ กังหันลม สีเหลืองแดง แสนสดใส
สัมผัสแรกเมื่อถึงเดินทางมาเหนื่อย ๆ พอเปิดประตูลงจากรถ ก็รู้สึกสดชื่นกับอากาศของที่นี่มาก อากาศเย็น ๆ บวกกับความชุ่มฉ่ำของฝนเพิ่งตกไปในฤดูปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ บรรยากาศดีมาก
เก็บกระเป๋าไปที่ห้องพักของเรากันดีกว่า ห้องพักของเราเป็นแบบบ้านพักส่วนตัว 1 หลัง
ภายในห้องพักเป็นเตียงคู่ มีห้องน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นในตัว ถือว่าสะดวกสบายเลยทีเดียว
หน้าบ้านมีเก้าอี้ไม้ให้นั่งพักผ่อน มองวิวภูเขา ป่าไม้ และหมอกจาง ๆ อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา
สำหรับใครที่อยากมาพักเป็นครอบครัวหรือมากับแก๊งค์เพื่อน ๆ ที่ขุนคองฟาร์มสเตย์มีบ้านพักแบบหลังใหญ่นอนได้ 7-8 คน
ภายในห้องกว้างขวาง เป็นฟูกปูนอน ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านล่างของบ้านค่ะ
เนื่องจากช่วงนี้ยังมีฝนอยู่บ้างเล็กน้อย ใครที่มาในปลายปีรับรองได้ฟินกับอากาศของที่นี่สุดๆเพราะมีลานกางเต้นท์ ไว้ให้บริการอีกด้วยนะ
ห้องพักของที่ขุนคองฟาร์มสเตย์ มีอยู่เพียง 4 หลัง ไม่รวมห้องพักรวมนะ เป็นโฮมสเตย์ที่สงบเงียบดีมาก เหมาะกับการมาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ
ออกมาเดินเล่นบริเวณที่พักกัน อากาศดีซะขนาดนี้
ตอนที่เรามาทางโฮมสเตย์เพิ่งลงแปลงปลูกสตอเบอรี่เลย คาดว่าจะออกดอก ออกผลก็ประมาณเดือนธันวาคม นู่นแหละ ไว้จะหาเวลามาเที่ยว มาชิมสตอเบอรี่อีกน๊า
หันไปเจอเจ้ากังหันลม เกิดอยากเป็นนักสำรวจขึ้นมาทันที ป่ะ เราพาไปสำรวจ ถ่ายรูปเก๋ๆ กับกังหันลมยักษ์กัน
จริง ๆ แล้วกังหันลมแห่งนี้ เป็นคาเฟ่ และร้านอาหารของทางขุนคองฟาร์มสเตย์ ตอนเราไปยังไม่เสร็จเต็มรูปแบบดี แต่บอกเลยว่าสวยมาก ด้านหลังกังหันก็เป็นวิวป่าภูเขา ชมทะเลหมอกยามเช้า
ถ่ายมุมไหนก็สวย ถ่ายไป ถ่ายมา ฝนลงซะงั้น
ไม่เป็นไร มาหลบฝน จิบกาแฟอาราบิกาแบบออแกนิคที่ทางขุนคองฟาร์มสเตย์กำลังเตรียมสำหรับเปิดคาเฟ่เร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้เรายังได้ลองเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ที่รสชาติเข้มข้น ซอสครีมเข้าเส้นดี โรยด้วยเบคอนมาให้เยอะมากก
บรรยากาศภายในคาเฟ่กังหันลมยักษ์ อีกจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด
สำหรับผู้ที่มาเข้าพักจะได้อาหาร2มื้อ มื้อค่ำจะเป็นชุดข้าวใส่ขันโตกมาแบบชาวเหนือเลยเจ้า มีผัดผักตามฤดูกาล ต้มจืด ไข่เจียว เป็นต้น ส่วนมื้อเช้าจะเป็นข้าวต้มและไข่ต้มค่ะ หรือจะสั่งอาหารเป็นแบบเมนูตามสั่ง ทางขุนคองฟาร์มสเตย์ก็มีเช่นกันค่ะ
วิวในยามค่ำคืน
ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส และตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะได้มาเที่ยว 555 มารับอากาศดี ๆ ยามเช้า เดินออกมาหน้าห้องพักได้เห็นวิวหมอกสวย ๆ นั่งมองได้เพลิน ๆ อีกแล้ว
นอกจากนี้ทางโฮมสเตย์มีกิจกรรมพาเราไปไร่ส้ม ไปเก็บส้มเขียวหวาน กินส้มได้ไม่อั้น จ่ายเพิ่มเพียง 100 บาท/คน ได้ไปเก็บส้มสด ๆ จากไร่มาทานแล้ว
มาสวนส้มทั้งที จะมัวกินอย่างเดียวมิได้ มาแบบนี้ต้องขอรูปเท่ ๆ หน่อย
นอกจากสวนส้มแล้วทางฟาร์มสเตย์ยังมีพาไปชมไร่กาแฟฟรี! อีกด้วยนะ แต่เราไม่ได้ไปเพราะเวลาไม่พอต้องรีบกลับแล้ว หากใครมาพักที่นี่แล้วได้ไปไร่กาแฟ เก็บรูปมาอวดเราหน่อยนะ อยากเห็นจริง ๆ
สำหรับทริปนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้พักแบบแนวโฮมเตย์บนเขา ส่วนตัวประทับใจมาก แม้ทางมาจะค่อนข้างไกล แต่ด้วยวิว วิถีชีวิตของชาวบ้านขุนคอง ได้อยู่กับธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายแบบไม่ต้องมีแอร์หรือพัดลมเลย แม้จะมีความเป็นธรรมชาติแต่ก็มีความสะดวกสบายมีคาเฟ่ ที่พักที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ราคา
บ้าน 1 หลัง
• 1,800 บาท/หลัง ข้าว 2 มื้อ
บ้านหลังใหญ่นอนได้ 7-8 คน
• 600 บาท/คน ข้าว 2 มื้อ
กางเต้นท์
• 600 บาท/คน ข้าว 2 มื้อ
ทริปพิเศษ
• ทริปละ 100 บาท/คน ชมสวนส้ม+กินส้มบุฟเฟ่
• ทริปละ 100 บาท/คน รับ 5 คนขึ้นไปต่อเที่ยว ชมทะเลหมอกดอยค้ำฟ้า
• ชมสวนกาแฟฟรี
ติดต่อ
เบอร์โทร : 089 552 1196 , 062 592 6263 และ 097 947 2656
Facebook :
https://www.facebook.com/khunkongfarmstay/
พิกัด:
https://her.is/2BASsNn
ติดตามพวกเราได้ที่ :
https://www.facebook.com/laewtaetaw
รีวิวอื่นๆ:
https://www.laewtaetaw.com
[SR] ไปสูดอากาศสดชื่น กันให้เต็มปอด ณ ขุนคองฟาร์มสเตย์ ฟาร์มเสตย์เปิดใหม่ ใสกิ๊ก
สัมผัสทะเลหมอกท่ามกลางขุนเขา อากาศเย็นสบาย เที่ยวได้ทั้งปี ณ เชียงดาว
จะเข้าฤดูหนาวแล้วเชื่อว่าที่เที่ยวในใจของใครหลาย ๆ คนรวมทั้งเราด้วยคงจะหนีไม่พ้นการได้ไปเที่ยวทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่รอทุกคนไปสัมผัสอากาศหนาว ฟิน ๆ กันอยู่น๊า สำหรับทริปครั้งนี้ของเราออกเดินทางไปที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เป็นการขึ้นเหนือในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่จะยังมีฝนตกอยู่บ้างแต่ก็ได้อากาศหนาวฟิน ๆ แล้วด้วยนะ รอบนี้เราอยากไปเก็บภาพสวย ๆ หนีร้อนไปพักผ่อนกับธรรมชาติ และอากาศเย็นก่อนใคร ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้ามืด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง ก็เดินทางถึงตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว กว่าจะไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว จึงพักการเดินทางนอนที่ตัวเมืองเชียงใหม่ 1 คืน ก่อนออกเดินทางไปเชียงดาวกัน
ตื่นเช้ามาพร้อมออกเดินทาง มุ่งสู่ บ้านขุนคอง อ.เชียงดาว ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ
เราก็เดินทางมาถึง ขุนคองฟาร์มสเตย์ ที่เป็นโฮมสเตย์เปิดใหม่กิ๊ง ๆ มีจุดเด่นที่มองเห็นตั้งแต่ขับรถเข้ามาที่ บ้านขุนคองเลย คือ กังหันลม สีเหลืองแดง แสนสดใส
สัมผัสแรกเมื่อถึงเดินทางมาเหนื่อย ๆ พอเปิดประตูลงจากรถ ก็รู้สึกสดชื่นกับอากาศของที่นี่มาก อากาศเย็น ๆ บวกกับความชุ่มฉ่ำของฝนเพิ่งตกไปในฤดูปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ บรรยากาศดีมาก
เก็บกระเป๋าไปที่ห้องพักของเรากันดีกว่า ห้องพักของเราเป็นแบบบ้านพักส่วนตัว 1 หลัง
ภายในห้องพักเป็นเตียงคู่ มีห้องน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นในตัว ถือว่าสะดวกสบายเลยทีเดียว
หน้าบ้านมีเก้าอี้ไม้ให้นั่งพักผ่อน มองวิวภูเขา ป่าไม้ และหมอกจาง ๆ อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา
สำหรับใครที่อยากมาพักเป็นครอบครัวหรือมากับแก๊งค์เพื่อน ๆ ที่ขุนคองฟาร์มสเตย์มีบ้านพักแบบหลังใหญ่นอนได้ 7-8 คน
ภายในห้องกว้างขวาง เป็นฟูกปูนอน ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านล่างของบ้านค่ะ
เนื่องจากช่วงนี้ยังมีฝนอยู่บ้างเล็กน้อย ใครที่มาในปลายปีรับรองได้ฟินกับอากาศของที่นี่สุดๆเพราะมีลานกางเต้นท์ ไว้ให้บริการอีกด้วยนะ
ห้องพักของที่ขุนคองฟาร์มสเตย์ มีอยู่เพียง 4 หลัง ไม่รวมห้องพักรวมนะ เป็นโฮมสเตย์ที่สงบเงียบดีมาก เหมาะกับการมาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ
ออกมาเดินเล่นบริเวณที่พักกัน อากาศดีซะขนาดนี้
ตอนที่เรามาทางโฮมสเตย์เพิ่งลงแปลงปลูกสตอเบอรี่เลย คาดว่าจะออกดอก ออกผลก็ประมาณเดือนธันวาคม นู่นแหละ ไว้จะหาเวลามาเที่ยว มาชิมสตอเบอรี่อีกน๊า
หันไปเจอเจ้ากังหันลม เกิดอยากเป็นนักสำรวจขึ้นมาทันที ป่ะ เราพาไปสำรวจ ถ่ายรูปเก๋ๆ กับกังหันลมยักษ์กัน
จริง ๆ แล้วกังหันลมแห่งนี้ เป็นคาเฟ่ และร้านอาหารของทางขุนคองฟาร์มสเตย์ ตอนเราไปยังไม่เสร็จเต็มรูปแบบดี แต่บอกเลยว่าสวยมาก ด้านหลังกังหันก็เป็นวิวป่าภูเขา ชมทะเลหมอกยามเช้า
ถ่ายมุมไหนก็สวย ถ่ายไป ถ่ายมา ฝนลงซะงั้น
ไม่เป็นไร มาหลบฝน จิบกาแฟอาราบิกาแบบออแกนิคที่ทางขุนคองฟาร์มสเตย์กำลังเตรียมสำหรับเปิดคาเฟ่เร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้เรายังได้ลองเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ที่รสชาติเข้มข้น ซอสครีมเข้าเส้นดี โรยด้วยเบคอนมาให้เยอะมากก
บรรยากาศภายในคาเฟ่กังหันลมยักษ์ อีกจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด
สำหรับผู้ที่มาเข้าพักจะได้อาหาร2มื้อ มื้อค่ำจะเป็นชุดข้าวใส่ขันโตกมาแบบชาวเหนือเลยเจ้า มีผัดผักตามฤดูกาล ต้มจืด ไข่เจียว เป็นต้น ส่วนมื้อเช้าจะเป็นข้าวต้มและไข่ต้มค่ะ หรือจะสั่งอาหารเป็นแบบเมนูตามสั่ง ทางขุนคองฟาร์มสเตย์ก็มีเช่นกันค่ะ
วิวในยามค่ำคืน
ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส และตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะได้มาเที่ยว 555 มารับอากาศดี ๆ ยามเช้า เดินออกมาหน้าห้องพักได้เห็นวิวหมอกสวย ๆ นั่งมองได้เพลิน ๆ อีกแล้ว
นอกจากนี้ทางโฮมสเตย์มีกิจกรรมพาเราไปไร่ส้ม ไปเก็บส้มเขียวหวาน กินส้มได้ไม่อั้น จ่ายเพิ่มเพียง 100 บาท/คน ได้ไปเก็บส้มสด ๆ จากไร่มาทานแล้ว
มาสวนส้มทั้งที จะมัวกินอย่างเดียวมิได้ มาแบบนี้ต้องขอรูปเท่ ๆ หน่อย
นอกจากสวนส้มแล้วทางฟาร์มสเตย์ยังมีพาไปชมไร่กาแฟฟรี! อีกด้วยนะ แต่เราไม่ได้ไปเพราะเวลาไม่พอต้องรีบกลับแล้ว หากใครมาพักที่นี่แล้วได้ไปไร่กาแฟ เก็บรูปมาอวดเราหน่อยนะ อยากเห็นจริง ๆ
สำหรับทริปนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้พักแบบแนวโฮมเตย์บนเขา ส่วนตัวประทับใจมาก แม้ทางมาจะค่อนข้างไกล แต่ด้วยวิว วิถีชีวิตของชาวบ้านขุนคอง ได้อยู่กับธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายแบบไม่ต้องมีแอร์หรือพัดลมเลย แม้จะมีความเป็นธรรมชาติแต่ก็มีความสะดวกสบายมีคาเฟ่ ที่พักที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ราคา
บ้าน 1 หลัง
• 1,800 บาท/หลัง ข้าว 2 มื้อ
บ้านหลังใหญ่นอนได้ 7-8 คน
• 600 บาท/คน ข้าว 2 มื้อ
กางเต้นท์
• 600 บาท/คน ข้าว 2 มื้อ
ทริปพิเศษ
• ทริปละ 100 บาท/คน ชมสวนส้ม+กินส้มบุฟเฟ่
• ทริปละ 100 บาท/คน รับ 5 คนขึ้นไปต่อเที่ยว ชมทะเลหมอกดอยค้ำฟ้า
• ชมสวนกาแฟฟรี
ติดต่อ
เบอร์โทร : 089 552 1196 , 062 592 6263 และ 097 947 2656
Facebook : https://www.facebook.com/khunkongfarmstay/
พิกัด: https://her.is/2BASsNn
ติดตามพวกเราได้ที่ : https://www.facebook.com/laewtaetaw
รีวิวอื่นๆ: https://www.laewtaetaw.com
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม