สวัสดีคะทุกคน กระทู้นี้เราจะนั่งรถไฟไปบ้านกกกอดกัน
เหตุเกิดจากมีวันว่างอยู่แค่ 2 - 3 วัน แต่อยากไปเที่ยว ปกติในช่วงมกราคมเราจะต้องขึ้นเหนือไปรับอากาศเย็นๆ แต่กว่าจะไปเหนือก็คงหมดวันเที่ยวกันพอดี
เลยเสิร์ชเข้าใน pantip ว่า 2 วัน 1 คืน ขึ้นลิสเที่ยวมาเต็มไปหมด จึงตัดสินตามรอยนั่งรถไฟไปเที่ยวกาญ แต่ทริปจะเรียกเที่ยวกาญก็ไม่ใช่ เพราะส่วนใหญ่เราก็อยู่เล่นแต่ในที่พัก ที่บ้านกกกอดนั่นเอง
หลังจากที่ปักจังหวัดว่าจะไปกาญ จึงโทรสอบถามที่พัก ที่บ้านกกกอด ว่าพรุ่งนี้มีบ้านพักว่างไหม และบังเอิญว่ายังมีว่างอยู่ เราจึงรีบจองและแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวขึ้นรถไฟในวันรุ่งขึ้น
เราไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี มีรอบรถไปกาญจนบุรี รอบ 7.45 และ 13.55
http://www.kanchanaburi-info.com/th/train.html#price - เช็ครอบรถไฟ ไปกาญจนบุรี
ด้วยความที่ต้องไปเช้ามาก จึงนั่งMRT หัวลำโพง ทางออก 4 นั่งแท็กซี่ต่อไป (80-85บาท) เพื่อความรวดเร็ว
เมื่อมาถึงก็รีบไปซื้อตั๋ว
ได้ตั๋วมาเเล้ว ราคา 25 บาท
ระหว่างนั่งรอรถก็สามารถข้ามถนนไปกินข้าวก่อนได้เลย
ได้ขึ้นรถไฟแล้ว เพราะเคยอ่านรีวิวว่าคนเยอะแต่รีบขึ้นเพื่อหาที่นั่ง แต่ดันลืมว่าเราไปวันธรรมดาคนน้อย เลยไม่ได้ถ่ายรูปรถไฟ รีบขึ้นมาจองที่ ปรากฏรถไฟโล่งพอสมควรเลยจ้า 5555
ขึ้นรถไฟแล้วก็ต้องถ่ายรูปสิจ๊ะ เพื่อนร่วมทางทริปนี้ ผลัดกันถ่ายไปถ่ายมา และได้ลองเล่นแอพใหม่ จึงมีความเห่ออยู่พอสมควร 55555
ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท
ข้าวแกงเขียวหวาน 10 บาท
นั่งกินฝุ่น เอ้ย กินลมชมวิสองข้างทางไปเรื่อยก็ถึงสถานีกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ก่อนหน้าที่อยู่บนรถไฟ เจ้าหน้าที่เก็บตั๋ว มาถามว่าจะไปที่ไหน เราเลยตอบว่าจะไปน้ำตกเอรวัณ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าข้ามฝั่งไปรอรถเม ฝั่งตรงข้ามสถานี ไปถึงน้ำตกเลย ไม่ต้องไปขึ้นที่ขนส่ง เราจึงข้ามถนนไปรอรถตรงเซเว่น
ที่บ้านกกกอดมีขนมและน้ำขาย แต่ไม่เยอะเราเลยเเวะเซเว่นเพื่อซื้อเสบียงตุนเอาไว้ ก่อนเข้าที่พัก
ระหว่างจ่ายเงินเลยถามพี่เเคชเชียร์ว่ารถเมไปน้ำตกเอราวัณผ่านข้างหน้าจริงๆ เหรอ พี่เขาบอกว่าผ่าน เดี๋ยวรถก็มาแล้ว
เราจึงออกไปรอรถหน้าเซเว่นดังในภาพ
รอแล้วรอเล่าก็ไม่มา เลยเดินไปแวะกินข้าวแกง คุณป้าคุณลุงร้านขายข้าวแกงน่ารักมาก บอกข้อมูลเพิ่มเติมของรถเม เพื่อให้เรามีความหวังมากขึ้นในการมองหารถ คือรถสีฟ้าแถบเหลืองและเขียนตัวใหญ่ว่าเอราวัณ เช่นเดียวกับพี่แคชเชียร์ เดี๋ยวรถก็มาแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ไปยืนรอที่เดิม รถก็ยังไม่มา เลยรอเช็คในเว็บ รถออกทุก 50 นาที และประมาณ 10 นาทีคือเวลาที่จากที่ขนส่งมาสถานีรถไฟกาญ ทำให้เราได้รอรถ หนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ดังนั้น ถ้าใครที่มาถึงก่อน 11.50 ไปขึ้นที่ขนส่งดีกว่า เพราะรถจะออกตอน 11.50 จากขนส่งกาญ
ในที่สุด เราได้ขึ้นรถแล้ว!!! บอกคนขับว่าไปแยกโป่งปัด ราคา 40 บาท คนเต็มรถเลยต้องนั่งตรงข้างคนขับ (ถ้ามามากกว่า 3 คน ไปขึ้นที่ขนส่งจะดีกว่า)
ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็ถึงแยกโป่งปัด
พอลงรถเราก็เดินไปที่ร้านปะยาง บอกพี่เขาว่าจะไปที่บ้านพักกกกอด พี่ขับจะขับซาเล้งไปส่ง (ราคาคนละ 40 บาท)
ประมาณ 3 กิโล ถึงแล้วบ้านกกกอด
ร้านขายขนมและที่เช็คอินเข้าที่พัก (เวลาเช็คอิน 13.00 น. เช็คเอ้าท์ 12.00 น.)
เราพักบ้านวิวเขื่อน มีปลั๊ก มีพัดลมในห้องแต่ห้องน้ำรวม ขอบอกเลยว่าห้องน้ำสะอาดมาก มีน้ำอุ่นด้วย
ปกติห้องพักบ้านริมเขื่อนนอนได้ 2 คน แต่เราขอเตียงเสริม เพิ่มคนเข้าพักเป็น 3 คน
ภายในห้อง
วิวเมื่อเปิดม่านจากในห้อง
ที่ทานอาหารเช้า
พอเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา นั่งตามพัดลม รอให้แดดร่มสักนิด ก็ได้เวลาออกไปพายเรือกัน !!!
ข้างๆที่ทานอาหารเช้า จะมีอุปกรณ์พายเรือและเสื้อชูชีพให้ยืม
สามารถเลือกเรือที่ชอบได้เลย แต่อย่าลืมผูกเชือกกลับหลังจากที่ใช้เรือเสร็จแล้วกันนะคะ
เอาเรือออกว่ายากแล้ว ตอนถอยเข้านี่ยากยิ่งกว่า
พายเรือท่ามกลางเขา
*คำเตือน* พายไกลแค่ไหนก็ได้ แต่เผื่อแรงพายกลับกันด้วยนะคะ เดี่ยวหมดแรงอยู่กลางน้ำเอา 5555
พายจนเหนื่อย ก็ขึ้นมาพัก ถ่ายรูป นั่งแช่เท้ากันชิวๆ รออาหารเย็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่พักมีอาหารเย็นให้แต่ต้องสั่งเป็นขันโตกนะคะ ราคา 450 บาทต่อ 2 คนคะ หรือสั่งอาหารตามสั่งร้านลุงก็ได้คะ สามารถติดต่อผ่านทางโรงแรมได้เลย
อาหารเย็นของพวกเรา (ขันโตก) สามารถเลือกที่จะกินที่ทานอาหารหรือกินหน้าห้องชมเขื่อนชิวๆก็ได้นะคะ
อาหารอร่อยทุกอย่าง ทั้งน้ำพริก ปลา ไก่ทอดนี่ของโปรดที่สุด
หลังจากกินไปสักพัก พระอาทิตย์ก็ตกดิน และก็ได้จบวันที่หนึ่งลงไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่สอง ตื่นแต่เช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่จริงไม่เชิงเช้า ประมาณเกือบ 7 โมง พระอาทิตย์ถึงขึ้น 5555 โชคดีเพราะตอนแรกจะตื่น หกโมงแต่ไม่ไหว เลยถอดใจ แต่สุดท้ายก็ได้เห็น
มีเพื่อนมานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน
อาหารเช้ามีทั้ง American breakfast และข้าวต้ม
กินข้าวเรียบร้อย แพ็คกระเป๋า เตรียมตัวกลับ ที่พักมีรถไปส่งที่แยกโป่งปัด เวลา 10.00 น. สาเหตุที่มีแค่รอบนี้รอบเดียวเพราะ เป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวออกไปแล้วสามารถออกไปเที่ยวที่อื่นๆได้
ระหว่างรอ ขอถ่ายรูปเพิ่มกันสักหน่อย
สักพักรถก็มารับ ถ้าจะกลับเข้าไปในเมืองให้ไปขึ้นฝั่งป้อมตำรวจ ขึ้นรถเมสีฟ้าเหมือนเดิม ใครที่จะกลับรถตู้บอกคนขับรถได้เลยนะคะ เขามีไปส่งที่ขึ้นรถตู้ หรือถ้าจะกลับรถไฟแบบพวกเราก็สามารถบอกคนขับได้เลยคะ ราคา 40 บาทเหมือนเดิม
เรามาที่สถานีกาญจนบุรีก่อนเพื่อเช็ครอบและซื้อตั๋วกลับ ซึ่งรถไฟมาประมาณบ่ายสองกว่าๆ ตอนนั้นพึ่ง 11 โมงเช้า
พวกเราจึงตัดสินใจนั่งวิน (30 บาท) ไปสะพานข้ามแม่น้ำแควและไปขึ้นรถไฟที่นู่น เพราะเป็นสถานีที่ถึงก่อน
ตั๋วรถไฟจะสามารถซื้อได้ก่อนหนึ่งชั่วโมงนะคะ
แวะดื่มน้ำร้านคุณป้า ร้อยแก้ว ทั้งคุณป้า คุณลุงน่ารักมาก น้ำอร่อยแถมราคาไม่แพงด้วย
รูปรวมสักหน่อย
ร้านfood express อาหารอร่อย ไม่แพง บริการดีเยื่ยม ห้องแอร์
จากภาพที่เห็นถ่ายทันแค่ต้มยำปลาคังแห้ง ส่วนอาหารที่เหลือ เข้าท้องไปเรียบร้อย
และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน รถไฟมาแล้วจ้าาาาาาา
อีกสักนิดก่อนกลับ ขนมจีบหมู 10 บาท อร่อยดีจนต้องเบิ้ลสี่
สำหรับค่าที่พัก ราคาบ้านวิวเขื่อน 1300 ไม่รวม VAT แต่มีรูปแบบบ้านอื่นๆ สามารถเข้าไปดูและจองได้ที่
www.baankokkod.com
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง เป็นทริปที่สนุกมาก รู้สึกได้ชาร์จแบตให้ตัวเองแบบเต็มที่
ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จากป็อปและคนถ่ายสุดชิคจากลูกไม้ ดีคะ ดี 55555
ทริป 2 วัน 1 คืนที่บ้านกกกอดก็จะจบลงไปแล้ว สำหรับกระทู้นี้ บะบายคะ
IG : #unexpectedkanmailahohlala
[CR] ทริปด่วน....ชาร์จแบตให้ตัวเองที่บ้านกกกอด 2 วัน 1 คืน เวลาน้อยก็เที่ยวได้!
เหตุเกิดจากมีวันว่างอยู่แค่ 2 - 3 วัน แต่อยากไปเที่ยว ปกติในช่วงมกราคมเราจะต้องขึ้นเหนือไปรับอากาศเย็นๆ แต่กว่าจะไปเหนือก็คงหมดวันเที่ยวกันพอดี
เลยเสิร์ชเข้าใน pantip ว่า 2 วัน 1 คืน ขึ้นลิสเที่ยวมาเต็มไปหมด จึงตัดสินตามรอยนั่งรถไฟไปเที่ยวกาญ แต่ทริปจะเรียกเที่ยวกาญก็ไม่ใช่ เพราะส่วนใหญ่เราก็อยู่เล่นแต่ในที่พัก ที่บ้านกกกอดนั่นเอง
หลังจากที่ปักจังหวัดว่าจะไปกาญ จึงโทรสอบถามที่พัก ที่บ้านกกกอด ว่าพรุ่งนี้มีบ้านพักว่างไหม และบังเอิญว่ายังมีว่างอยู่ เราจึงรีบจองและแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวขึ้นรถไฟในวันรุ่งขึ้น
เราไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี มีรอบรถไปกาญจนบุรี รอบ 7.45 และ 13.55
http://www.kanchanaburi-info.com/th/train.html#price - เช็ครอบรถไฟ ไปกาญจนบุรี
ด้วยความที่ต้องไปเช้ามาก จึงนั่งMRT หัวลำโพง ทางออก 4 นั่งแท็กซี่ต่อไป (80-85บาท) เพื่อความรวดเร็ว
เมื่อมาถึงก็รีบไปซื้อตั๋ว
ได้ตั๋วมาเเล้ว ราคา 25 บาท
ได้ขึ้นรถไฟแล้ว เพราะเคยอ่านรีวิวว่าคนเยอะแต่รีบขึ้นเพื่อหาที่นั่ง แต่ดันลืมว่าเราไปวันธรรมดาคนน้อย เลยไม่ได้ถ่ายรูปรถไฟ รีบขึ้นมาจองที่ ปรากฏรถไฟโล่งพอสมควรเลยจ้า 5555
ขึ้นรถไฟแล้วก็ต้องถ่ายรูปสิจ๊ะ เพื่อนร่วมทางทริปนี้ ผลัดกันถ่ายไปถ่ายมา และได้ลองเล่นแอพใหม่ จึงมีความเห่ออยู่พอสมควร 55555
ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท
ข้าวแกงเขียวหวาน 10 บาท
นั่งกินฝุ่น เอ้ย กินลมชมวิสองข้างทางไปเรื่อยก็ถึงสถานีกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ที่บ้านกกกอดมีขนมและน้ำขาย แต่ไม่เยอะเราเลยเเวะเซเว่นเพื่อซื้อเสบียงตุนเอาไว้ ก่อนเข้าที่พัก
ระหว่างจ่ายเงินเลยถามพี่เเคชเชียร์ว่ารถเมไปน้ำตกเอราวัณผ่านข้างหน้าจริงๆ เหรอ พี่เขาบอกว่าผ่าน เดี๋ยวรถก็มาแล้ว
เราจึงออกไปรอรถหน้าเซเว่นดังในภาพ
รอแล้วรอเล่าก็ไม่มา เลยเดินไปแวะกินข้าวแกง คุณป้าคุณลุงร้านขายข้าวแกงน่ารักมาก บอกข้อมูลเพิ่มเติมของรถเม เพื่อให้เรามีความหวังมากขึ้นในการมองหารถ คือรถสีฟ้าแถบเหลืองและเขียนตัวใหญ่ว่าเอราวัณ เช่นเดียวกับพี่แคชเชียร์ เดี๋ยวรถก็มาแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ไปยืนรอที่เดิม รถก็ยังไม่มา เลยรอเช็คในเว็บ รถออกทุก 50 นาที และประมาณ 10 นาทีคือเวลาที่จากที่ขนส่งมาสถานีรถไฟกาญ ทำให้เราได้รอรถ หนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ดังนั้น ถ้าใครที่มาถึงก่อน 11.50 ไปขึ้นที่ขนส่งดีกว่า เพราะรถจะออกตอน 11.50 จากขนส่งกาญ
ในที่สุด เราได้ขึ้นรถแล้ว!!! บอกคนขับว่าไปแยกโป่งปัด ราคา 40 บาท คนเต็มรถเลยต้องนั่งตรงข้างคนขับ (ถ้ามามากกว่า 3 คน ไปขึ้นที่ขนส่งจะดีกว่า)
ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็ถึงแยกโป่งปัด
พอลงรถเราก็เดินไปที่ร้านปะยาง บอกพี่เขาว่าจะไปที่บ้านพักกกกอด พี่ขับจะขับซาเล้งไปส่ง (ราคาคนละ 40 บาท)
ประมาณ 3 กิโล ถึงแล้วบ้านกกกอด
ร้านขายขนมและที่เช็คอินเข้าที่พัก (เวลาเช็คอิน 13.00 น. เช็คเอ้าท์ 12.00 น.)
เราพักบ้านวิวเขื่อน มีปลั๊ก มีพัดลมในห้องแต่ห้องน้ำรวม ขอบอกเลยว่าห้องน้ำสะอาดมาก มีน้ำอุ่นด้วย
ปกติห้องพักบ้านริมเขื่อนนอนได้ 2 คน แต่เราขอเตียงเสริม เพิ่มคนเข้าพักเป็น 3 คน
ภายในห้อง
วิวเมื่อเปิดม่านจากในห้อง
ที่ทานอาหารเช้า
พอเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา นั่งตามพัดลม รอให้แดดร่มสักนิด ก็ได้เวลาออกไปพายเรือกัน !!!
ข้างๆที่ทานอาหารเช้า จะมีอุปกรณ์พายเรือและเสื้อชูชีพให้ยืม
สามารถเลือกเรือที่ชอบได้เลย แต่อย่าลืมผูกเชือกกลับหลังจากที่ใช้เรือเสร็จแล้วกันนะคะ
เอาเรือออกว่ายากแล้ว ตอนถอยเข้านี่ยากยิ่งกว่า
พายเรือท่ามกลางเขา
*คำเตือน* พายไกลแค่ไหนก็ได้ แต่เผื่อแรงพายกลับกันด้วยนะคะ เดี่ยวหมดแรงอยู่กลางน้ำเอา 5555
พายจนเหนื่อย ก็ขึ้นมาพัก ถ่ายรูป นั่งแช่เท้ากันชิวๆ รออาหารเย็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาหารเย็นของพวกเรา (ขันโตก) สามารถเลือกที่จะกินที่ทานอาหารหรือกินหน้าห้องชมเขื่อนชิวๆก็ได้นะคะ
อาหารอร่อยทุกอย่าง ทั้งน้ำพริก ปลา ไก่ทอดนี่ของโปรดที่สุด
หลังจากกินไปสักพัก พระอาทิตย์ก็ตกดิน และก็ได้จบวันที่หนึ่งลงไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่สอง ตื่นแต่เช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่จริงไม่เชิงเช้า ประมาณเกือบ 7 โมง พระอาทิตย์ถึงขึ้น 5555 โชคดีเพราะตอนแรกจะตื่น หกโมงแต่ไม่ไหว เลยถอดใจ แต่สุดท้ายก็ได้เห็น
มีเพื่อนมานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน
อาหารเช้ามีทั้ง American breakfast และข้าวต้ม
กินข้าวเรียบร้อย แพ็คกระเป๋า เตรียมตัวกลับ ที่พักมีรถไปส่งที่แยกโป่งปัด เวลา 10.00 น. สาเหตุที่มีแค่รอบนี้รอบเดียวเพราะ เป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวออกไปแล้วสามารถออกไปเที่ยวที่อื่นๆได้
ระหว่างรอ ขอถ่ายรูปเพิ่มกันสักหน่อย
สักพักรถก็มารับ ถ้าจะกลับเข้าไปในเมืองให้ไปขึ้นฝั่งป้อมตำรวจ ขึ้นรถเมสีฟ้าเหมือนเดิม ใครที่จะกลับรถตู้บอกคนขับรถได้เลยนะคะ เขามีไปส่งที่ขึ้นรถตู้ หรือถ้าจะกลับรถไฟแบบพวกเราก็สามารถบอกคนขับได้เลยคะ ราคา 40 บาทเหมือนเดิม
เรามาที่สถานีกาญจนบุรีก่อนเพื่อเช็ครอบและซื้อตั๋วกลับ ซึ่งรถไฟมาประมาณบ่ายสองกว่าๆ ตอนนั้นพึ่ง 11 โมงเช้า
พวกเราจึงตัดสินใจนั่งวิน (30 บาท) ไปสะพานข้ามแม่น้ำแควและไปขึ้นรถไฟที่นู่น เพราะเป็นสถานีที่ถึงก่อน
ร้านfood express อาหารอร่อย ไม่แพง บริการดีเยื่ยม ห้องแอร์
จากภาพที่เห็นถ่ายทันแค่ต้มยำปลาคังแห้ง ส่วนอาหารที่เหลือ เข้าท้องไปเรียบร้อย
และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน รถไฟมาแล้วจ้าาาาาาา
อีกสักนิดก่อนกลับ ขนมจีบหมู 10 บาท อร่อยดีจนต้องเบิ้ลสี่
สำหรับค่าที่พัก ราคาบ้านวิวเขื่อน 1300 ไม่รวม VAT แต่มีรูปแบบบ้านอื่นๆ สามารถเข้าไปดูและจองได้ที่
www.baankokkod.com
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง เป็นทริปที่สนุกมาก รู้สึกได้ชาร์จแบตให้ตัวเองแบบเต็มที่
ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จากป็อปและคนถ่ายสุดชิคจากลูกไม้ ดีคะ ดี 55555
ทริป 2 วัน 1 คืนที่บ้านกกกอดก็จะจบลงไปแล้ว สำหรับกระทู้นี้ บะบายคะ
IG : #unexpectedkanmailahohlala