ไข้มรณะ The Death Cure
"1 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน The Scorch Trials นับจากการถูกหักหลัง โดยคนที่เขาไว้ใจที่สุด โทมัสเเละพรรคพวก ต้องตามไปช่วยมินโฮที่ถูกจับใน "เมืองสุดท้าย" เเละหยุดยั้งเเผนขององค์กรวิคเคดให้ได้ ก่อนเผ่าพันธ์มนุษย์จะสูญสิ้น บทสรุปของชีวิตเหล่าชาวทุ่งได้มาถึงเเล้ว"
นับเป็นเวลา เกือบ 3 ปีกับการรอคอย ในที่สุดก็ได้ชมกันเสียที สำหรับภาคนี้เราจะเข้าสู่สงครามอย่างเเท้จริงเเละไม่มีกั๊ก เราจะได้เห็นเเอ็คชั่นที่ระห่ำ เเละ รวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะค่อยๆ หยอดปมที่ทิ้งท้ายไว้ในภาค 2 ก่อนจะหนังจะเดินหน้าเเบบไม่มีหยุด ตัดสลับกับมุมมองของตัวละครที่เกี่ยวข้องที่ดไหลลื่นกว่าภาคที่เเล้ว เเละด้วยความยาวของภาคนี้มีถึงสองชั่วโมงครึ่ง (ยังกับสตาร์วอร์) หนังก็ได้ใช้จุดเด่นอย่างคุ้มค่าเเละหน้าตื่นตาเเบบที่ไม่เคยเห็นในภาคก่อนๆ ซึ่งเป็นข้อดีมากของภาคนี้ เพราะทุกฉากในหนังนั้นสำคัญหมด ไม่ใช่ฉากที่ใส่มาเพื่อคั่นเวลา จนอดเเปลกใจไม่ได้ว่า เวส บอล ผู้กำกับนี่สามารถอุดช่องโหว่ของหนังภาค2ได้สมบูรณ์ โดยไม่เสียอรรถรสจากการนำหนังสือมาตีความใหม่ โดยเฉพาะฉากสำคัญของเรื่อง
สำหรับตัวละครในเรื่องนั้น ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลยล่ะครับ
- ดีเเลน โอ ไบรอัน (ที่เพิ่งมีผลงานหนังนักฆ่าอย่าง American Assassin) กลับมารับบทโทมัสอีกครั้งหลังต้องพักฟื้นจากการผิดคิว ท่าทางไม่ค่อยอึนๆเเล้ว ดูเป็นผู้นำขึ้น เเละบ้าบิ่นกว่าเดิม เพิ่มเติมคือดราม่าสุด
- คายา สโคเดลาริโอ (สาวคนนี้มั่นใจว่าคงเกลียดกันมาตั้งเเต่ภาคก่อน เเต่ผมเกลียดไม่ลงจริงๆ) เธอทำหน้าที่ในการเป็นเทเรซ่าที่เต็มไปด้วยความสับสนในอุดมการณ์ได้ดี บางครั้งก็อยากจะเขย่าเธอเเล้วบอกว่า "พอซะทีเหอะ" เเต่ในท้ายที่สุดผมก็ยอมรับว่าเธอนี่เเหละ "ดีจริงๆ"
- โทมัส โบรดี แซงสเตอร์ หรือ นิวท์ นั่นเอง มาคราวนี้เขาคือตัวเอกของภาคเลยก็ว่าได้ หลังจากถูกมินโฮเเย่งไปในภาคที่เเล้ว ทุกฉากมีเสน่ห์ เเละ ชวนเอาใจช่วย เเละบอกได้เลยว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนิวท์ เเบบที่หาคนอื่นมาเเทนไม่ได้เเล้ว
- กี ฮอง ลี หรือ มินโฮ ที่กลับมาครั้งนี้ ดูจะเด่นน้อยลง เเต่เพิ่มความเกรี้ยวกราดมากขึ้น ยอมให้นิวท์ละกันภาคนี้
- โรซ่า ซาลาซาร์ กับบทของ เเบรนด้า ที่ภาคก่อนดูขัดๆกับหนัง มาภาคนี้ถูกเสริมให้มีอารมณ์มากขึ้น มีความเท่ในหลายๆฉาก เเละเคมีเข้ากับโทมัสมากกว่าภาคก่อนๆ ชอบเธอนะ เเต่ก็ยังชอบเทเรซ่ามากกว่า 5555
ที่เหลือก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน เพราะ ไอแดน กิลเลน (ลิตเติ้ลฟิงเกอร์ จาก GOT) ที่เล่นเป็น เเจนสัน ผู้โหดหน้ายิ้มก็ไม่มีอะไรไปกว่าการไล่ล่าพวกโทมัสเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเลือดเย็นขึ้นนิดนึง
นอกจากนี้ยังมีตัวละครสุดเซอร์ไพรส์ด้วย เเต่เป็นใครต้องไปชมครับ
ประเด็นของเรื่องดูไม่ซับซ้อน เเต่ก็คมดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- เรากล้าที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อคนส่วนมากหรือไม่
- ถ้าหากเลือกได้ จะทำเเบบนั้นอยู่รึเปล่า
- การปล่อยวางเรื่องบางอย่างไป
- มิตรภาพของเพื่อนฝูงที่จะไม่มีวันลืม
- ใจมนุษย์น่ากลัวกว่าไข้มรณะอีก
ไม่รู้จะติอะไรเลยครับ อยากให้คนที่ติดตามมาสองภาค อย่าลืมไปดูภาคนี้กัน เเต่ถ้าคนที่ไม่ได้ดูสักภาค ลองไปดูก็เป็นหนังเเอ็คชั่นระทึกขวัญดีๆเรื่องนึง เเต่อาจไม่อินกับความเป็นมาของตัวละคร เพราะว่าหนังปูนิดเดียว เเถมค่อยๆหยอด จนอาจงงได้
ถือว่านี่เป็นภาคที่ผมชอบที่สุดเเล้วในทั้งสามภาค เรียงตามนี้
ไข้มรณะ 10/10
วงกตมฤตยู 8/10
สมรภูมิมอดไหม้ 6.5/10
ปล. ชอบที่มีการปรับเงื่อนไขในหนังให้ไม่เหมือนในหนังสือ ทำให้คนที่อ่านหนังสือไม่สามารถเดาเรื่องระหว่างทางได้เลย
เเละก็อย่าไปสนคะเเนนมะเขือครับ ไม่จำเป็นเลยสักนิด
ผมถือว่านี่เป็นการจบเรื่องราวของไตรภาคนี้ได้อย่างเต็มอิ่ม ซาบซึ้งเเละประทับใจที่สุดเเล้วครับ
รีวิว เรื่องที่ 3 : Maze Runner The Death Cure ไข้มรณะไม่สู้เท่าใจคน ปิดฉากไตรภาควงกตมฤตยูอย่างสมบูรณ์
ไข้มรณะ The Death Cure
"1 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน The Scorch Trials นับจากการถูกหักหลัง โดยคนที่เขาไว้ใจที่สุด โทมัสเเละพรรคพวก ต้องตามไปช่วยมินโฮที่ถูกจับใน "เมืองสุดท้าย" เเละหยุดยั้งเเผนขององค์กรวิคเคดให้ได้ ก่อนเผ่าพันธ์มนุษย์จะสูญสิ้น บทสรุปของชีวิตเหล่าชาวทุ่งได้มาถึงเเล้ว"
นับเป็นเวลา เกือบ 3 ปีกับการรอคอย ในที่สุดก็ได้ชมกันเสียที สำหรับภาคนี้เราจะเข้าสู่สงครามอย่างเเท้จริงเเละไม่มีกั๊ก เราจะได้เห็นเเอ็คชั่นที่ระห่ำ เเละ รวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะค่อยๆ หยอดปมที่ทิ้งท้ายไว้ในภาค 2 ก่อนจะหนังจะเดินหน้าเเบบไม่มีหยุด ตัดสลับกับมุมมองของตัวละครที่เกี่ยวข้องที่ดไหลลื่นกว่าภาคที่เเล้ว เเละด้วยความยาวของภาคนี้มีถึงสองชั่วโมงครึ่ง (ยังกับสตาร์วอร์) หนังก็ได้ใช้จุดเด่นอย่างคุ้มค่าเเละหน้าตื่นตาเเบบที่ไม่เคยเห็นในภาคก่อนๆ ซึ่งเป็นข้อดีมากของภาคนี้ เพราะทุกฉากในหนังนั้นสำคัญหมด ไม่ใช่ฉากที่ใส่มาเพื่อคั่นเวลา จนอดเเปลกใจไม่ได้ว่า เวส บอล ผู้กำกับนี่สามารถอุดช่องโหว่ของหนังภาค2ได้สมบูรณ์ โดยไม่เสียอรรถรสจากการนำหนังสือมาตีความใหม่ โดยเฉพาะฉากสำคัญของเรื่อง
สำหรับตัวละครในเรื่องนั้น ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลยล่ะครับ
- ดีเเลน โอ ไบรอัน (ที่เพิ่งมีผลงานหนังนักฆ่าอย่าง American Assassin) กลับมารับบทโทมัสอีกครั้งหลังต้องพักฟื้นจากการผิดคิว ท่าทางไม่ค่อยอึนๆเเล้ว ดูเป็นผู้นำขึ้น เเละบ้าบิ่นกว่าเดิม เพิ่มเติมคือดราม่าสุด
- คายา สโคเดลาริโอ (สาวคนนี้มั่นใจว่าคงเกลียดกันมาตั้งเเต่ภาคก่อน เเต่ผมเกลียดไม่ลงจริงๆ) เธอทำหน้าที่ในการเป็นเทเรซ่าที่เต็มไปด้วยความสับสนในอุดมการณ์ได้ดี บางครั้งก็อยากจะเขย่าเธอเเล้วบอกว่า "พอซะทีเหอะ" เเต่ในท้ายที่สุดผมก็ยอมรับว่าเธอนี่เเหละ "ดีจริงๆ"
- โทมัส โบรดี แซงสเตอร์ หรือ นิวท์ นั่นเอง มาคราวนี้เขาคือตัวเอกของภาคเลยก็ว่าได้ หลังจากถูกมินโฮเเย่งไปในภาคที่เเล้ว ทุกฉากมีเสน่ห์ เเละ ชวนเอาใจช่วย เเละบอกได้เลยว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนิวท์ เเบบที่หาคนอื่นมาเเทนไม่ได้เเล้ว
- กี ฮอง ลี หรือ มินโฮ ที่กลับมาครั้งนี้ ดูจะเด่นน้อยลง เเต่เพิ่มความเกรี้ยวกราดมากขึ้น ยอมให้นิวท์ละกันภาคนี้
- โรซ่า ซาลาซาร์ กับบทของ เเบรนด้า ที่ภาคก่อนดูขัดๆกับหนัง มาภาคนี้ถูกเสริมให้มีอารมณ์มากขึ้น มีความเท่ในหลายๆฉาก เเละเคมีเข้ากับโทมัสมากกว่าภาคก่อนๆ ชอบเธอนะ เเต่ก็ยังชอบเทเรซ่ามากกว่า 5555
ที่เหลือก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน เพราะ ไอแดน กิลเลน (ลิตเติ้ลฟิงเกอร์ จาก GOT) ที่เล่นเป็น เเจนสัน ผู้โหดหน้ายิ้มก็ไม่มีอะไรไปกว่าการไล่ล่าพวกโทมัสเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเลือดเย็นขึ้นนิดนึง
นอกจากนี้ยังมีตัวละครสุดเซอร์ไพรส์ด้วย เเต่เป็นใครต้องไปชมครับ
ประเด็นของเรื่องดูไม่ซับซ้อน เเต่ก็คมดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่รู้จะติอะไรเลยครับ อยากให้คนที่ติดตามมาสองภาค อย่าลืมไปดูภาคนี้กัน เเต่ถ้าคนที่ไม่ได้ดูสักภาค ลองไปดูก็เป็นหนังเเอ็คชั่นระทึกขวัญดีๆเรื่องนึง เเต่อาจไม่อินกับความเป็นมาของตัวละคร เพราะว่าหนังปูนิดเดียว เเถมค่อยๆหยอด จนอาจงงได้
ถือว่านี่เป็นภาคที่ผมชอบที่สุดเเล้วในทั้งสามภาค เรียงตามนี้
ไข้มรณะ 10/10
วงกตมฤตยู 8/10
สมรภูมิมอดไหม้ 6.5/10
ปล. ชอบที่มีการปรับเงื่อนไขในหนังให้ไม่เหมือนในหนังสือ ทำให้คนที่อ่านหนังสือไม่สามารถเดาเรื่องระหว่างทางได้เลย
เเละก็อย่าไปสนคะเเนนมะเขือครับ ไม่จำเป็นเลยสักนิด
ผมถือว่านี่เป็นการจบเรื่องราวของไตรภาคนี้ได้อย่างเต็มอิ่ม ซาบซึ้งเเละประทับใจที่สุดเเล้วครับ