อภิมหากาพย์สาวไทยเจ้าปัญหากับบักสีดาขี้เก๊ก (Diary แห่งเมียฝรั่ง)

*** เรื่องราวดังกล่าวถูก copy มาจากเพจ พี่คะหนูอยากได้ผัวฝรั่ง ใน Facebook ***

อภิมหากาพย์สาวไทยเจ้าปัญหากับบักสีดาขี้เก๊ก ep. pilot

#โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านถ้าปั่นจักรยานอยู่ให้ลงก่อน
เรท ซ.13+ (*ย่อมาจาก* แซ่บมาก...อาจมีข้อความชวนวิงเวียน คลื่นเหียน กระตุ้นต่อมหมั่นไส้ วาทะหยาบคาย... ในบางบุคคลอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบเกิดอาการเบะปาก ตาเหลือกมองบน เท้าชักกะตุกเป็นภัยแก่ตนเองและคนข้างกาย ไม่เหมาะแก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี เพราะอ่านไปชะนีอ่อนต่อโลกอย่างพวกหล่อนก็ไม่เก็ตหรอกย่ะ 😝)

#พี่คะพี่กับแฟนเจอกันได้ไง

ตอนแรกคิดว่าจะเขียนเป็นเรท 18 + ไปเลย แต่เกรงใจ คุณน้าคุณป้าคุณยายแฟนคลับเด็กๆ มันจะเสียเวลาพวกท่านต้องปลุกพระเพื่อมาอ่าน อีกอย่างเราจำเป็นต้องรักษาภาพพจน์อนาคตแม่เหล่าซุปตาร์แห่งอนาคตไว้ก่อน เผื่อโตไปลูกลิงทั้งสามตัวจะได้ให้แม่เกาะกินได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

คำถามอันดับหนึ่งที่มีคนถามก็คือ... พี่คะ พี่เจอแฟนได้ยังไง เจอที่ไหน เล่าประสบการณ์ได้ไหมคะ?
ถึงจะเจอกันไม่นานเราก็ลองเช็คแรงม้า เช็คน้ำมันเครื่องกันแล้ว... แถมสี่เดือนต่อมาก็ทำพิธีเอาเสาลงหลุม แต่พี่กลับมีความรู้สึกเหมือนชีวิตช่วงนั้นมันเข้มข้นมากดั่งปลาร้าพาสเจอร์ไรส์ by ไมค์ ภิรมย์พร (ขอทิปแนค่า 😂)

ตั้งแต่เกิดมา... ตัวพี่ก็มีแต่ลูกตาที่เฉิดฉาย ขุ่นแม่ตั้งความหวังไว้แล้วว่า "ดำๆ อย่างแกเนี่ยต้องได้ผัวฝรั่งแน่นอน" พ่อพี่เป็นคนอีสานผิวดำเมี่ยม แม่พี่เป็นคนเหนือผิวขาว ตัวพี่ออกมา...ไม่ว่าจะด้วยกรรมพันธ์หรือเวรกรรมก็แล้วแต่ ดันเลือกเอาสีผิวพ่อมาค่ะ! จุดพีคคือไปเติบโตจากตีนเท่าฝาหอย กลายเป็นหอยเท่าฝ่าตีนอยู่นครเชียงใหม่เจ้า! ถ้าคิดภาพไม่ออกให้นึกถึงอนาคตในวงการของป้าลีน่าซัง ใช่ค่ะ...ไม่ว่าจะพยายามสร้างกระแสแค่ไหนก็ยังคงมืดมิดอยู่เช่นนั้นแล!

อยู่ในดงคนเหนือผิวขาว ไม่ว่าพี่จะไปที่ไหน จะแต่งตัวอย่างไร ตัดผมทรงไหน ทุกคนก็โฟกัสที่สีผิวพี่เสมอ จนพี่ก็ไม่รู้ว่าตกลงพี่เป็นคนหรือราหู ไปที่ไหนแม่ม! ล้อกูกันจัง อีดำๆ ... ยิ่งมีคนล้อ ยิ่งมีคนว่ายังไงหล่อนก็ได้ผัวฝรั่ง ยิ่งแอนตี้ค่ะ หลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่ทั้งเกลียดทั้งกลัวฝรั่ง พยายามทำสีผิวให้ขาวขึ้น ใครแนะนำใช้อะไรดีนี่ลองหมด ถลุงกลูต้าบวกวิตามินซีจนนิ่วถามหาก็เคย พอสงครามทางกายภาพพ่ายแพ้ย่อยยับ พี่ก็เลยเบนเข็มมาทางการสร้างภาพ... หาแฟนสิคะ... ต้องเอเชียนพันธ์แท้เท่านั้น! คบๆ เลิกๆ มาหลายคนจนกระทั่งมาเจอกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเป็นเอเชี่ยคนสุดท้ายที่พี่เอา (ไม่ได้ตก น ตั้งใจพิมพ์ ฮึ!)

ถ้าถามว่าทำไมถึงเป็นคนสุดท้าย ก็เหตุผลเดิมๆ ค่ะ เป็นเหตุผลที่ทำให้เมียฝรั่งแทบทุกคนตัดสินใจมาเอาฝรั่ง (เราจะยังไม่พูดถึงเรื่องนั้น ไว้รอตอนต่อไปเนอะ) จะยังไงก็ตาม...ผู้ชายไทยคนนี้ เป็นคนที่ทำให้พี่ตัดสินใจลองชิมฝรั่งดูค่ะ (ขอบคุณและ RIP มันด้วยล่ะกัน)

อ่านต่อ... ep 2
ลิงสามตัวหิวข้าว เดี๋ยวมาเพ้อต่อ...

----------------------------------------------------------------------------------


Ep.2 อภิมหากาพย์สาวไทยเจ้าปัญหากับบักสีดาขี้เก๊ก

เอาล่ะค่ะ หลังจากที่ให้อาหารลิงลิงลิงและนั่งปลดทุกข์ โดนสายฉีดตูดลวกหอยกันไปแล้ว เรามาต่อกันที่ ...หนีผู้ชาย สะพายกระเป๋า Go อินเตอร์ ออกทดลองชิมฝรั่งแบบ International ทริป...

เรท ซ.13+ (ไม่ใช่ ซอย 3 แห่งพัฒพงษ์ อย่าอ่านผิด)

หลังจากที่เข็ดจากการกินละมุดไทยแล้วท้องเสีย พี่ก็อยากเป็นโสดและออกไปสู่โลกกว้าง แต่ด้วยความที่ตัวเราเป็นนกน้อยเพิ่งหัดบิน จึงไม่กล้าออกไปสอยฝรั่งโดยลำพัง เนื่องจากตอนนั้นสภาวะทางการเงิน ทางครอบครัวของพี่เอง ทางจิตใจ ทางสติสตัง อยู่ในภาวะวิกฤต (ปล.เรื่องโศกเกี่ยวกับครอบครัวจะไปอยู่ในตอนหน้า) ทุกสิ่งทุกอย่างมันทำให้พี่เบื่อประเทศไทยอย่างที่สุด คุณแม่ของพี่ก็อยู่ในภาวะเดียวกัน พี่จึงหาทางทดแทนบุญคุณค่าน้ำนมช้างแมมมอธบนเทือกเขาหิมาลัยของคุณแม่ด้วยการ... ยุให้คุณแม่เอาสามีฝรั่งค่ะ 😂😂😂

ตัวพี่เองก็อยากเป็นโสด ส่วนคุณแม่ก็เพิ่งหย่าจากคุณพ่อ จริงๆก็ไม่ใช่พึ่งหรอก...หย่านานแล้วแหละ มันจึงเป็นวิธีที่กิ๊บเก๋ยูเรก้า ตัวพี่ได้ไปลัลล้า ส่วนคุณแม่ก็จะได้มีคนดูแล แต่เนื่องด้วยกำลังของเราไม่พอที่จะไปผจญภัยกัน 2 คนแม่ลูก เราจึงต้องหาสปอนเซอร์ (เราจะไม่วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์นะคะ ถ้าไม่เห็นด้วยและโลกสวยก็เงียบๆไว้ แบบนั้นก็น่ารักดีค่ะ) สิ่งแรกที่คิดได้คือ Internet พี่ก็จัดการสมัครสมาชิกเว็บต่างๆ ให้คุณแม่เลยค่ะ ถ้าตอนนั้นมีคนมาซื้อของที่ร้านคุณแม่ ภาพที่เห็นกันจนชินตาก็คือ เราสองคนแม่ลูก มุ้งมิ้ง งุ้งงิ้ง กระหนุงกระหนิง ช่วยกันแสกนฝรั่งในเว็บ... เป็นที่ชื่นชมแก่บรรดาผู้ที่ผ่านมาและผ่านไป

แล้วหวยก็มาออกบนหัวล้านๆ ของฝ.นายหนึ่ง โปรไฟล์ดี มีกล้าม อายุอานามก็พอใช้งานแล้วหลังไม่เดาะ หน้าที่ของพี่ตอนนั้นคือ ช่วยแม่ตอบข้อความ และช่วยเรื่องภาษาอังกฤษ หลังจากคุยกันอยู่ไม่ถึงเดือน บักสีดาคนนี้ก็ตัดสินใจมาเยี่ยมพวกเราที่ประเทศไทย ... โอเอ็มจี! ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน ในที่สุดเราสองแม่ลูกก็จะได้โกอินเตอร์เสียที

ช่วงที่ฝรั่งนายนี้ มาเที่ยวที่ประเทศไทย เราสองแม่ลูกก็ช่วยเป็นไกด์พาเที่ยว ในเวลา 2 3 อาทิตย์นั้น เราก็ศึกษานายคนนี้ไปในตัวด้วย ไม่อยากจะเชื่อในโชคชะตาเหมือนกัน ว่าเจอกับฝรั่งคนแรกเขาก็ offer อยากให้แม่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับเขา ซึ่งตัวพี่เองก็สนับสนุนนะ เพราะอยากไปเยี่ยมแม่บ่อยๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยออกสยามประเทศเลย และในช่วงนั้นเอง ละมุดไทยนายนั้น ก็ตามรังควานพี่เหลือเกิน ไปที่ไหนก็ตาม แล้วตามเจอสะด้วย ฮึ! แฟนของแม่คนนี้ (ใช่ค่ะ ใช้คำว่าแฟนแล้ว 😁) จึงออกความเห็น ให้พี่ตามไปด้วยวีซ่านร. ไปเรียนที่ประเทศของเขา และเขาจะออกค่าคอล์สเรียนให้พี่ด้วย!!!

เหมือนถูกหวยสองงวดซ้อนทั้งโต้ดทั้งเต็ง... ตอนนั้นพี่กำลังเรียนครุศาสตร์ เพิ่งจบปี 1 ก็ยังสองจิตสองใจว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี เพราะเสียดายหน่วยกิตและเงินที่เสียไป อีกอย่างตอนนั้นก็เป็นครูอัตราจ้างอยู่ที่รร.แห่งหนึ่งด้วย อารมณ์นางงามคิดถึงเด็กๆ 😢 แต่สิ่งที่ทำให้พี่ตัดสินใจไปเรียนต่างประเทศก็คือ ความโลกแคบ ของครูที่สอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน (และแฟนเก่าของพี่ด้วยแหละค่ะ) เขาเริ่มสร้างข่าวลือเกี่ยวกับคุณแม่ของพี่ ว่าเกาะฝรั่งกิน ไม่มีปัญญาใช้ชีวิตเอง... ตอนนั้นถ้าพี่สตรองอย่างทุกวันนี้ คงได้เห็นดีเห็นงามกันไป แต่ตอนนั้นมันอารมณ์นางเอกกิน Vodka ผสมน้ำส้มเนาะ เราเลยได้แต่ร้องไห้กลับบ้านทุกวัน...

และแล้ววันเดินทางก็มาถึง หลังจากที่เราต้องขายบ้านขายกิจการ เพื่อเป็นค่าวีซ่าและค่าเครื่องบิน คุณแม่ได้วีซ่าท่องเที่ยวติดตามลูกเป็นเวลา 1 ปี ส่วนตัวพี่ ได้วีซ่านักเรียนสำหรับคอร์ส 9 เดือน (บักฝรั่งออกให้แค่ค่าเรียน) ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่เราสองคนแม่ลูกก็ใส่ผ้าพันจมูก เตรียมดำควันไปอยู่ในต่างแดน แฟนของแม่ก็เตรียมต้อนรับพวกเราอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่พวกเรานั้นหารู้ไม่...ว่าฝรั่งคนนี้ เขาไม่ได้เตรียมต้อนรับพวกเราด้วยอ้อมแขนที่ไร้กลิ่นเต่าเสมอไป ...

จบ Ep.2
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่