ต่อจากกระทู้แรกนะคะ เช่นกันใช้ log in น้องคนเดิม
กระทู้ตอนที่ 1 ตามด้านล่าง
https://ppantip.com/topic/37311062
ตอนที่ 2 เที่ยวสิบสองปันนาและเดินทางต่อไปหยวนหยาง
ตอนเช้าเราตื่นมาก็นั่งรถไปวัดป่าเจ (วัดป่าเชต์มหาราชฐาน) 西双版纳总佛寺เป็นวัดพุทธหินยาน( เถรวาส ) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสวนม่านทิง อยู่บนเนื้อที่ 3,000 ตารางเมตรในอดีตวัดแห่งนี้ เคยเป็นวัดที่เจ้าปกครองสิบสองปันนาได้ใช้เป็นที่ไหว้พระและประกอบศาสนกิจ ภายในวัดมีวิหาร อุโบสถและกุฏิซึ่งเป็นที่จำวัดของพระสงค์ รวมไปถึงอาคารที่เป็นที่ตั้งของวิทยาลัยพุทธศาสนาของมณฑลยูนนานอีกด้วย วัดป่าเจถือได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเมืองเชียงรุ้ง ในปัจจุบันมีชาวไทลื้อและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดอยู่ไม่ขาดสาย
บริเวณหน้าวัด เรานั่งแท็กซี่จากที่พักมา 15 หยวนค่ะ
ตั๋วเข้าชมคนละ 100 หยวน
ด้านในประกอบด้วย
สถูปเจดีย์สีขาว หรือเจดีย์หน่อไม้ เป็นเจดีย์ที่จำลองมาจากเจดีย์อีกแห่งหนึ่งในสิบสองปันนา ห่างจากที่นี่ราว 70 กม. ที่มีชื่อว่า Manfeilong
และมีเจดีย์ด้านในที่เป็นศิลปะแบบไทลื้อล้วนๆ หลังคาหลายชั้น ปั้นลมมีส่วนโค้งงอค่ะ
โรงเรียนปริยัติธรรม ศูนย์การศึกษาของสงฆ์ในสิบสองปันนา
อนุสาวรีย์ "โจว เอิน ไหล" อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ในชุดไทลื้อ เมื่อครั้งมาเล่นสงกรานต์ที่สิบสองปันนา หรือสมัยที่จีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ชาวสิบสองปันนาสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นการรำลึกขึ้นที่ "สวนม่านเทิง" ในฐานะที่เป็นนายกฯคนแรกของจีน ที่มาเยือนสิบสองปันนา
ด้านในมีประดับด้วยเครื่องดนตรี ขนาดใหญ่ ด้วยค่ะ
ห้องที่เป็นเหมือนท้องพระโรงของกษัตรย์องค์สุดท้ายของเมืองเชียงรุ้งแห่งนี้
อันนี้เป็นเหมือนเสาหลักเมืองของเมืองนี้
อาคารจัดแสดง จะมีการแสดงตอนรอบบ่ายๆเย็นซึ่งเราอยู่ไม่ทันได้ดู
พระอินสาน หนึ่งในพระพุทธรูปที่สานขึ้นด้วยไม้ไผ่
ซึ่งชาวบ้านชาวสิบสองปันนา ช่วยกันสานและถวายที่วัดแห่งนี้
ตลอดทางจะมีป้ายบอกทาง 4 ภาษา ไทย อังกฤษ จีนและภาษาไทลื้อค่ะ
ซุ้มประตูทางออก มีเจดีย์ยอดแหลม(แบบหน่อไม้) ศิลปะแบบนี้ถูกนำไปเป็นต้นแบบของวัดบางแห่งทางภาคเหนือ เช่นเจดีย์สีทองที่วัดพระธาตุสุโทน อ.เด่นชัย จ.แพร่ ค่ะ
ซึ่งหลวงพ่อมนตรี (เจ้าอาวาส) เคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า นำต้นแบบมาจากสิบสองปันนา)
หลังจากเดินเที่ยววัดได้ซักพักเราก็มาจองซื้อตั๋วรถเพื่อเดินทางต่อไปที่หยวนหยาง ซึ่งไม่มีรถสายตรง เราต้องไปต่อรถที่หนานซา และมีรถรอบเดียวเพื่อออกจากเมืองนี้ไปหนานซา คือเวลา 12.00 ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงค่ารถ 177 หยวนค่ะ
ด้านหน้าจะมีร้านหมูข้าวเหนียวกับพวกผลไม้ แนะนำว่าถ้าพอมีเวลาซื้อขึ้นไปกินบนรถได้ค่ะ
ระหว่างทางก็มีวิวทุ่งนาขั้นบันไดให้ชม มีฟาร์มมีอะไรให้ดูเพลินตาดีค่ะ เป็นพวกไร่นา สวนผสม ต่างๆๆ ซึ่งฟ้าใสมากค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงหนานซาประมาณ สองทุ่ม ซึ่งเนื่องจากอยู่นอกแพลน เราไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนว่าไม่มีรถตรงไปหยวนหยาง เลยต้องเดินหาที่พักกันที่นี่ได้ที่พักมาคืนละ 60 หยวน แต่ไม่แนะนำนะค่ะ เพราะเก่ามาก หลายอย่างในห้องก็พัง แต่เจ้าของใจดีตอนแรกเค้าจะไม่รับต่างชาติพักแต่เราขอร้องเค้าเพราะขี้เกียจเดินหาแล้ว และดึกด้วยค่ะ
หลังจากได้ที่พักเราก็เดินออกมาหาของกิน ฟินมากค่ะ สตอเบอรี่ลูกใหญ่เนื้อฟูหวานมากกก ครึ่งโล 15 หยวน แนะนำว่าต้องซื้อค่ะ
ต่อด้วยการกินหมาล่าแบบต้ม รสชาติอาจจะไม่เข้มข้นเท่าแบบย่าง เพราะใส่พริกลงในน้ำซุปซึ่งที่นี่จะแปลกขึ้นไปอีกคือ นอกจากใส่พริกที่มีลักษณะคล้ายพริกเผาก็ยังใส่ถั่วลิสงด้วย จบการรีวิววันที่ 2 ในจีนด้วยภาพของกินค่ะ
ตอนที่ 3 ตอนที่ 3 ถึงแล้วหยวนหยาง
https://ppantip.com/topic/37314897
[CR] รีวิวทริปแบกเป้ตะลุย 4 ชายแดน ไทย ลาว จีน เวียดนาม ตอนที่ 2
กระทู้ตอนที่ 1 ตามด้านล่าง
https://ppantip.com/topic/37311062
ตอนที่ 2 เที่ยวสิบสองปันนาและเดินทางต่อไปหยวนหยาง
ตอนเช้าเราตื่นมาก็นั่งรถไปวัดป่าเจ (วัดป่าเชต์มหาราชฐาน) 西双版纳总佛寺เป็นวัดพุทธหินยาน( เถรวาส ) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสวนม่านทิง อยู่บนเนื้อที่ 3,000 ตารางเมตรในอดีตวัดแห่งนี้ เคยเป็นวัดที่เจ้าปกครองสิบสองปันนาได้ใช้เป็นที่ไหว้พระและประกอบศาสนกิจ ภายในวัดมีวิหาร อุโบสถและกุฏิซึ่งเป็นที่จำวัดของพระสงค์ รวมไปถึงอาคารที่เป็นที่ตั้งของวิทยาลัยพุทธศาสนาของมณฑลยูนนานอีกด้วย วัดป่าเจถือได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเมืองเชียงรุ้ง ในปัจจุบันมีชาวไทลื้อและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดอยู่ไม่ขาดสาย
บริเวณหน้าวัด เรานั่งแท็กซี่จากที่พักมา 15 หยวนค่ะ
ตั๋วเข้าชมคนละ 100 หยวน
ด้านในประกอบด้วย
สถูปเจดีย์สีขาว หรือเจดีย์หน่อไม้ เป็นเจดีย์ที่จำลองมาจากเจดีย์อีกแห่งหนึ่งในสิบสองปันนา ห่างจากที่นี่ราว 70 กม. ที่มีชื่อว่า Manfeilong
และมีเจดีย์ด้านในที่เป็นศิลปะแบบไทลื้อล้วนๆ หลังคาหลายชั้น ปั้นลมมีส่วนโค้งงอค่ะ
โรงเรียนปริยัติธรรม ศูนย์การศึกษาของสงฆ์ในสิบสองปันนา
อนุสาวรีย์ "โจว เอิน ไหล" อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ในชุดไทลื้อ เมื่อครั้งมาเล่นสงกรานต์ที่สิบสองปันนา หรือสมัยที่จีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ชาวสิบสองปันนาสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นการรำลึกขึ้นที่ "สวนม่านเทิง" ในฐานะที่เป็นนายกฯคนแรกของจีน ที่มาเยือนสิบสองปันนา
ด้านในมีประดับด้วยเครื่องดนตรี ขนาดใหญ่ ด้วยค่ะ
ห้องที่เป็นเหมือนท้องพระโรงของกษัตรย์องค์สุดท้ายของเมืองเชียงรุ้งแห่งนี้
อันนี้เป็นเหมือนเสาหลักเมืองของเมืองนี้
อาคารจัดแสดง จะมีการแสดงตอนรอบบ่ายๆเย็นซึ่งเราอยู่ไม่ทันได้ดู
พระอินสาน หนึ่งในพระพุทธรูปที่สานขึ้นด้วยไม้ไผ่
ซึ่งชาวบ้านชาวสิบสองปันนา ช่วยกันสานและถวายที่วัดแห่งนี้
ตลอดทางจะมีป้ายบอกทาง 4 ภาษา ไทย อังกฤษ จีนและภาษาไทลื้อค่ะ
ซุ้มประตูทางออก มีเจดีย์ยอดแหลม(แบบหน่อไม้) ศิลปะแบบนี้ถูกนำไปเป็นต้นแบบของวัดบางแห่งทางภาคเหนือ เช่นเจดีย์สีทองที่วัดพระธาตุสุโทน อ.เด่นชัย จ.แพร่ ค่ะ
ซึ่งหลวงพ่อมนตรี (เจ้าอาวาส) เคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า นำต้นแบบมาจากสิบสองปันนา)
หลังจากเดินเที่ยววัดได้ซักพักเราก็มาจองซื้อตั๋วรถเพื่อเดินทางต่อไปที่หยวนหยาง ซึ่งไม่มีรถสายตรง เราต้องไปต่อรถที่หนานซา และมีรถรอบเดียวเพื่อออกจากเมืองนี้ไปหนานซา คือเวลา 12.00 ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงค่ารถ 177 หยวนค่ะ
ด้านหน้าจะมีร้านหมูข้าวเหนียวกับพวกผลไม้ แนะนำว่าถ้าพอมีเวลาซื้อขึ้นไปกินบนรถได้ค่ะ
ระหว่างทางก็มีวิวทุ่งนาขั้นบันไดให้ชม มีฟาร์มมีอะไรให้ดูเพลินตาดีค่ะ เป็นพวกไร่นา สวนผสม ต่างๆๆ ซึ่งฟ้าใสมากค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงหนานซาประมาณ สองทุ่ม ซึ่งเนื่องจากอยู่นอกแพลน เราไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนว่าไม่มีรถตรงไปหยวนหยาง เลยต้องเดินหาที่พักกันที่นี่ได้ที่พักมาคืนละ 60 หยวน แต่ไม่แนะนำนะค่ะ เพราะเก่ามาก หลายอย่างในห้องก็พัง แต่เจ้าของใจดีตอนแรกเค้าจะไม่รับต่างชาติพักแต่เราขอร้องเค้าเพราะขี้เกียจเดินหาแล้ว และดึกด้วยค่ะ
หลังจากได้ที่พักเราก็เดินออกมาหาของกิน ฟินมากค่ะ สตอเบอรี่ลูกใหญ่เนื้อฟูหวานมากกก ครึ่งโล 15 หยวน แนะนำว่าต้องซื้อค่ะ
ต่อด้วยการกินหมาล่าแบบต้ม รสชาติอาจจะไม่เข้มข้นเท่าแบบย่าง เพราะใส่พริกลงในน้ำซุปซึ่งที่นี่จะแปลกขึ้นไปอีกคือ นอกจากใส่พริกที่มีลักษณะคล้ายพริกเผาก็ยังใส่ถั่วลิสงด้วย จบการรีวิววันที่ 2 ในจีนด้วยภาพของกินค่ะ
ตอนที่ 3 ตอนที่ 3 ถึงแล้วหยวนหยาง
https://ppantip.com/topic/37314897