เกมมาวาน พิสูจน์คำพูดผมชัดๆ เลยว่า ประสบการณ์บอลเอเชียสำคัญไฉน แม้แต่แข่งกับถ้วยเล็ก เอเอฟซี คัพ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ปรีซีซั่นโขยก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ ฟอร์มปีการแข่งขันที่แล้วก็ร้อนแรงตบยักษ์ใหญ่หลายทีมในไทยลีกลงได้ แต่อนิจา พอเล่นถ้วยเอเชียกับ บาหลี ยูไนเต็ด ดันเกร็ง ทำเกมส์รุกไม่ปะติปะต่อ เล่นมีแต่บอลไดเร็คแผนเดียว แล้วหน้าโดนประกบจนกว่ายิง บาหลี ยูไนเต็ดได้ ต้องพึ่งลูกยิงไกลในช่วงต่อเวลา ทั้งที่ บาหลี ยูไนเต็ด เป็นทีมที่พึ่งมีโอกาสได้เล่นถ้วยเอเชียเหมือนกัน ในขณะที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจอ โจโฮร์ ดารุล ตะก์ซิม อดีตแชมป์เอเอฟซี คัพ (ถึงแม้ได้มาแบบส้มหล่นก็เถอะ) ประสบการณ์บอลถ้วยเอเชีย โชกโชน แม้จะแข่งถ้วยเล็ก สามารถทำ แบงค็อก ยู ตกรอบนี้มาแล้วในบอลถ้วยใบเดียวกัน แต่กลายเป็น เมืองทอง โขยก เจดีที ชนิดตั้งเกมส์รับแทบไม่ทัน ชิลเหมือนแข่งกับทีมเวียดนามในบอลแม่โขง ทั้งที่ตัวผู้เล่นเมื่อเทียบกับบอลแม่โขงกับดูอ่อนกว่าด้วยจากการ เสีย อัสซุมป์เซา และ กวิน ทำไมกลายเป็นเช่นนั้น
สาเหตุหลักๆ เลยคือ ประสบการณ์บอลถ้วยเอเชียของสโมสรอื่นของไทย แทบไม่มีเลย เนื่องจากไม่มีแม้แต่บอลถ้วยเล็กอย่าง เอเอฟซี คัพ ได้แข่ง ไม่ทราบว่าคู่แข่งในแต่ละประเทศเขาเล่นกันสไตล์ไหน ควรเล่นแบบไหนถึงเอาชนะคู่แข่งในแต่ละประเทศ กรรมการบอลถ้วยเอเชียแบบไหนถึงได้ฟลาว แบบไหนถึงไม่ ควรเตรียมตัวกับการแข่งบอลถ้วยเอเชียอย่างไร แฟนบอลหลายคนหยามประสบการณ์จาก เอเอฟซี คัพ ว่าเจอแต่ประเทศอ่อน แข่งระแวกเดียวกัน มันจะไปสร้างประสบการณ์อะไร แต่พวกท่านคงลืมนึกไปเราไม่มีแม้แต่โอกาสไอ่ประสบการณ์กับประเทศอ่อนแบบนี้ ในขณะที่สโมสรเพื่อนบ้านมีกัน มันไม่แย่กว่าหรือ มันเหมือนเราจบ ป.โท เวลาทำงานชิ้นแรกในชีวิต เรากังวลไหมละครับ ลนไหมละ ต้องพยายามนึกว่าเราต้องอะไร อะไร ในแต่ละขั้น ในขณะที่อีกคนจบ ม.6 แต่ทำงานเป็นลูกจ้างมา 10 ปี บางทีไม่ต้องนึกภาพ แค่หัวหน้าสั่งแล้วทำตามสัญชาตญาณ แม้งานชิ้นเดียวกันไม่เคยทำมาก่อนเหมือนกัน แต่ดันทำออกมาได้ดีกว่าคนจบ ป.โททำงานชินแรกอีก นี้คือประสบการณ์จริงมันต่างกัน
ลองคิดดูถ้าสลับคู่กันไปมา เอา เชียงราย ยูไนเต็ด ไปเจอ เจดีที ผมนึกภาพตามแล้วไม่อยากคิดถึงสภาพทีม เชียงราย ว่าตอนแข่งจะมีสภาพอย่างไร ในขณะที่ เมืองทอง ไปเจอ บาหลี ยูไนเต็ด คงหวานหมูของ เมืองทอง ยิ่งกว่าเดิม
ตราบใดที่ เอเอฟซี เป็นแขกอยู่คงหวังให้เปลี่ยนกติกาตรงนี้ลำบาก งั้นเรามาสร้างประสบการณ์ตรงนี้เองเลยดีกว่า ใช้ประโยชน์จาก EAFF ของเอเชียตะวันออกที่พยายามขยายธุรกิจ มาตีตลาดอาเซียนให้เป็นประโยชน์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาคนั้นที่เริ่มชะลอตัว ตั้งบอลถ้วยแข่งกันระหว่างสโมสร EAFF กับ AFF ซะ ให้ทีมที่ไม่ได้โควต้าเอเชีย หรือ ตกรอบคัดเลือกเป็นเวทีประลองกำลังกัน โดยเอาไปแทนบอลแม่โขง คัพ ที่กำลังจะตาย แข่งพร้อมกับปฏิทินบอลถ้วยเอเชีย มันส่งผลประโยชน์ต่อสโมสรเรามหาศาลในเรื่องประสบการณ์การบริหารทีม การซื้อตัวนักเตะ รูปแบบการเล่น ประสบการณ์นักเตะ ได้ซักซ้อมในบอลถ้วยนี้ก่อนจะไปเจอของจริงรอบคัดเลือก บอลถ้วยเอเอฟซี เวลาแข่งจะได้มีผลงานดี เรียกสัมประสิทธิมาเพิ่มให้กับตัวแทนสโมสรประเทศไทยไปแข่งบอลถ้วยเอเชียมากขึ้น ผมว่าจะมีประโยชน์มากกว่าครับ
ถ้วยสโมสร EAFF และ AFF แก้ปัญหาประสบการณ์บอลเอเชียสโมสรอื่นในไทย
สาเหตุหลักๆ เลยคือ ประสบการณ์บอลถ้วยเอเชียของสโมสรอื่นของไทย แทบไม่มีเลย เนื่องจากไม่มีแม้แต่บอลถ้วยเล็กอย่าง เอเอฟซี คัพ ได้แข่ง ไม่ทราบว่าคู่แข่งในแต่ละประเทศเขาเล่นกันสไตล์ไหน ควรเล่นแบบไหนถึงเอาชนะคู่แข่งในแต่ละประเทศ กรรมการบอลถ้วยเอเชียแบบไหนถึงได้ฟลาว แบบไหนถึงไม่ ควรเตรียมตัวกับการแข่งบอลถ้วยเอเชียอย่างไร แฟนบอลหลายคนหยามประสบการณ์จาก เอเอฟซี คัพ ว่าเจอแต่ประเทศอ่อน แข่งระแวกเดียวกัน มันจะไปสร้างประสบการณ์อะไร แต่พวกท่านคงลืมนึกไปเราไม่มีแม้แต่โอกาสไอ่ประสบการณ์กับประเทศอ่อนแบบนี้ ในขณะที่สโมสรเพื่อนบ้านมีกัน มันไม่แย่กว่าหรือ มันเหมือนเราจบ ป.โท เวลาทำงานชิ้นแรกในชีวิต เรากังวลไหมละครับ ลนไหมละ ต้องพยายามนึกว่าเราต้องอะไร อะไร ในแต่ละขั้น ในขณะที่อีกคนจบ ม.6 แต่ทำงานเป็นลูกจ้างมา 10 ปี บางทีไม่ต้องนึกภาพ แค่หัวหน้าสั่งแล้วทำตามสัญชาตญาณ แม้งานชิ้นเดียวกันไม่เคยทำมาก่อนเหมือนกัน แต่ดันทำออกมาได้ดีกว่าคนจบ ป.โททำงานชินแรกอีก นี้คือประสบการณ์จริงมันต่างกัน
ลองคิดดูถ้าสลับคู่กันไปมา เอา เชียงราย ยูไนเต็ด ไปเจอ เจดีที ผมนึกภาพตามแล้วไม่อยากคิดถึงสภาพทีม เชียงราย ว่าตอนแข่งจะมีสภาพอย่างไร ในขณะที่ เมืองทอง ไปเจอ บาหลี ยูไนเต็ด คงหวานหมูของ เมืองทอง ยิ่งกว่าเดิม
ตราบใดที่ เอเอฟซี เป็นแขกอยู่คงหวังให้เปลี่ยนกติกาตรงนี้ลำบาก งั้นเรามาสร้างประสบการณ์ตรงนี้เองเลยดีกว่า ใช้ประโยชน์จาก EAFF ของเอเชียตะวันออกที่พยายามขยายธุรกิจ มาตีตลาดอาเซียนให้เป็นประโยชน์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาคนั้นที่เริ่มชะลอตัว ตั้งบอลถ้วยแข่งกันระหว่างสโมสร EAFF กับ AFF ซะ ให้ทีมที่ไม่ได้โควต้าเอเชีย หรือ ตกรอบคัดเลือกเป็นเวทีประลองกำลังกัน โดยเอาไปแทนบอลแม่โขง คัพ ที่กำลังจะตาย แข่งพร้อมกับปฏิทินบอลถ้วยเอเชีย มันส่งผลประโยชน์ต่อสโมสรเรามหาศาลในเรื่องประสบการณ์การบริหารทีม การซื้อตัวนักเตะ รูปแบบการเล่น ประสบการณ์นักเตะ ได้ซักซ้อมในบอลถ้วยนี้ก่อนจะไปเจอของจริงรอบคัดเลือก บอลถ้วยเอเอฟซี เวลาแข่งจะได้มีผลงานดี เรียกสัมประสิทธิมาเพิ่มให้กับตัวแทนสโมสรประเทศไทยไปแข่งบอลถ้วยเอเชียมากขึ้น ผมว่าจะมีประโยชน์มากกว่าครับ