แม่อายสะอื้นวันนี้ มาถึงตอนที่ดาวนิลถูกหลอกไปขายตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดาวนิลต้องเจออะไรบ้าง ไม่นับวิไลคนที่สะท้อนถึงความดำมืด ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
ดาวนิลมาเจอเสี่ยเจ้าของอาบอบนวด ตอนแรกก็เหมือนจะมีจิตใจที่เมตตาอยู่บ้าง บอกว่าถ้าเด็กไม่ยอมก็ไม่เอา
แต่ว่าเพราะกิเลศและความโลภบังตา สุดท้ายก็จ่ายเงินซื้อตัวดาวนิลไว้ แต่ให้เงื่อนไขว่า หากอยากจะเลิกก็ทำงานใช้หนี้ให้หมด
ต่อมาคือเสี่ยคนที่สอง ที่ถูกดาวนิลเอาขวดตีหัว เป็นเหมือนตัวแทนของด้านมืดผู้ชายที่เต็มไปด้วยกิเลสราคะเห็นแก่ตัว
จากนั้นดาวนิลมาเจอ แขกที่เป็นผู้ชายหนุ่มใหญ่ แต่ดาวนิลเอาแต่ร้องไห้ รับแขกไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่บังคับ ไม่เอาเงินคืน
แถมยังบอกกับเสี่ยเจ้าของอาบอบนวดด้วยว่า ถ้าเด็กมันไม่เต็มใจก็ปล่อยไปซะ เป็นบาปเปล่าๆ
ทำให้รู้ว่าคนที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดีเสมอไป คนที่รู้จักเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ก็ยังมีถมไป
แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ มาม่าซัง ประจำอาบอบนวด
เป็นคนที่คอยช่วยดาวนิลอยู่เงียบๆ ซึ่งก็เป็นการช่วยในขอบเขตที่สามารถจะทำได้
ประทับใจตั้งแต่หลอกเสี่ยอ้วนว่าดาวนิลลาออกไปแล้ว เพื่อไม่ให้ดาวนิลต้องไปรับแขก (ซึ่งสุดท้ายก็ไม่รอด)
โกหกแขกที่อยากซื้อดาวนิลว่าดาวนิลมีแต่รอยแผล บริการไม่ได้ และเชียร์ขายคนอื่นแทน
มาม่าซังคนนี้เป็นตัวแทนของความจริงของสังคมที่ว่า ต่อให้เป็นในสถานที่อโคจรหรือที่ไหนๆ
ก็ยอมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี เพราะว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ มองแค่ภายนอกไม่อาจตัดสินได้
และจริงอย่างที่พี่แกว่า คนที่มาขายตัวที่นี่ บางคนชอบงาน หลายคนก็ไม่ชอบแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อความจำเป็น
สำหรับวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ดาวนิลค่ะ ดูไปแล้วก็สงสาร น้ำตาจิไหล
แม้จะเป็นสถานที่อโคจร ก็ยังมีคนดี เหรียญมีสองด้านเสมอ (สปอยเล็กน้อย)
ดาวนิลต้องเจออะไรบ้าง ไม่นับวิไลคนที่สะท้อนถึงความดำมืด ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
ดาวนิลมาเจอเสี่ยเจ้าของอาบอบนวด ตอนแรกก็เหมือนจะมีจิตใจที่เมตตาอยู่บ้าง บอกว่าถ้าเด็กไม่ยอมก็ไม่เอา
แต่ว่าเพราะกิเลศและความโลภบังตา สุดท้ายก็จ่ายเงินซื้อตัวดาวนิลไว้ แต่ให้เงื่อนไขว่า หากอยากจะเลิกก็ทำงานใช้หนี้ให้หมด
ต่อมาคือเสี่ยคนที่สอง ที่ถูกดาวนิลเอาขวดตีหัว เป็นเหมือนตัวแทนของด้านมืดผู้ชายที่เต็มไปด้วยกิเลสราคะเห็นแก่ตัว
จากนั้นดาวนิลมาเจอ แขกที่เป็นผู้ชายหนุ่มใหญ่ แต่ดาวนิลเอาแต่ร้องไห้ รับแขกไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่บังคับ ไม่เอาเงินคืน
แถมยังบอกกับเสี่ยเจ้าของอาบอบนวดด้วยว่า ถ้าเด็กมันไม่เต็มใจก็ปล่อยไปซะ เป็นบาปเปล่าๆ
ทำให้รู้ว่าคนที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดีเสมอไป คนที่รู้จักเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ก็ยังมีถมไป
แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ มาม่าซัง ประจำอาบอบนวด
เป็นคนที่คอยช่วยดาวนิลอยู่เงียบๆ ซึ่งก็เป็นการช่วยในขอบเขตที่สามารถจะทำได้
ประทับใจตั้งแต่หลอกเสี่ยอ้วนว่าดาวนิลลาออกไปแล้ว เพื่อไม่ให้ดาวนิลต้องไปรับแขก (ซึ่งสุดท้ายก็ไม่รอด)
โกหกแขกที่อยากซื้อดาวนิลว่าดาวนิลมีแต่รอยแผล บริการไม่ได้ และเชียร์ขายคนอื่นแทน
มาม่าซังคนนี้เป็นตัวแทนของความจริงของสังคมที่ว่า ต่อให้เป็นในสถานที่อโคจรหรือที่ไหนๆ
ก็ยอมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี เพราะว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ มองแค่ภายนอกไม่อาจตัดสินได้
และจริงอย่างที่พี่แกว่า คนที่มาขายตัวที่นี่ บางคนชอบงาน หลายคนก็ไม่ชอบแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อความจำเป็น
สำหรับวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ดาวนิลค่ะ ดูไปแล้วก็สงสาร น้ำตาจิไหล