-ีโหม่..โยนแมวให้หมาฟัด ปะทะ ไอ้โหม่โชว์นากา

-ีโหม่ ..โยนแมวให้หมาฟัด ปะทะ ไอ้โหม์โชวนากา

..............................

ในบรรดาเรื่องเล่าของเด็กวัดนั้น มีเรื่องของเด็กผู้หญิงผู้อารีย์ โยนแมวให้หมาฟัดอยู่ด้วยเรื่องหนึ่ง

.............................

เมื่อครั้ง แก้ผ้าโดดคลองอาบน้ำนั้นได้อาศัยข้าวก้นบาตรกินอยู่ 2 พรรษา ใน 2 พรรษา ที่อาศัยข้าวก้นบาตรกินนั้น

ก็มีเรื่องเล่นตามประสาเด็กวัดมากมาย ทั้งการพนันขั้นต่อ พวกเหรียญทอยหลุม เป่ากบ ขว้างราว ยิงยาง

ยางทอยหลัก ตุกกิด ตี่ เตย โพ้งป๋อง ฯ

เหล่านี้เป็นการเล่นภาคกลางวัน หลังเลิกเรียนก่อนกินข้าวเย็นและล้างชั้น ต่อเมื่อไปล้างชั้นที่คลองหน้าวัดนั้น ก็จะอาบน้ำไปด้วย

ที่นี้จะมีการเล่นที่เป็นพวกขว้างหลุด(โคลน)แกล้งเพื่อน โดยขว้างให้ไปตกใกล้ ๆ กับชั้นที่เพื่อนล้างเสร็จแหล้ว

หรือไหมก็เล่นเก้ ดำพุด ดำว่ายหยิกจับกันสนั่นคลอง  บางวันเล่นกันจนได้ยินเสียงกลองตีเป็นสัญญาพระเข้าโบสถ์ทำวัดเย็น

ตกค่ำขึ้นมาหลังจากที่จัดการเรื่องราวในโบสถ์เสร็จ ถ้าวันไหนไม่มีโยมมาไหว้พระด้วย เป็นอันว่าวันนั้นอดกิน น้ำอัฏฐบาน

จึงค่อย ๆ หย้องออกจากโบสถ์ไปเล่นอีหยบกันในศาลาโรงธรรม และในเจดีย์ เด็กวัดรุ่นใหญ่บางคน บางวันทะลึ่ง ไปหยบในเปลว

เพื่อแกล้งเด็กที่เป็น คนโพ้ง (คนหา) ยิ่งวันไหนที่ตกลงกันว่าถ้าหากไม่พบตามจำนวนที่นับ จะต้องแบกรอบเจดีย์ เป็นที่รู้กันว่า

วันนั้นใครที่ได้เป็นคนโพ้ง คนแรก มีสิทธิเข้าไปในเปลวคนเดียว ก็มีบางคืนเหมือนกันที่ต้องเลิกเล่นเพราะคนที่ต้องเป็น คนโพ้ง คน

แรกมันไม่เล่นด้วย. ต้องเปลียนไปเล่นอย่างอื่น ถ้าเดือนแจ้งก็ เล่นเตย ไป.ถ้าเดือนมืดก็กลับเข้าโบสถ์ รอกิน น้ำอัฏฐบาน

..............................................

เรื่องเล่าการเล่นกันของเด็กวัดนั้นมีมาก เล่ากันยาว เดี่ยวจะหลุดการแกล้งหมาแมวเสียก่อน เรื่องของการแกล้งสัตว์นั้น

มีหลายอย่าแต่จะยกเอามาส่วนที่เกี่ยวกับหมาและแมว ซึ่งเป็นของคู่วัด แกล้งหมาก็มี เอากระป๋องเจาะรูใส่เชือกผู้ติดกันเป็นพวง

หลั่มกับหางหมา หรือขาหมา แล้วหยิกให้มันวิ่ง ผ่านหน้าสีกา ที่มาหาพระ ที่หนักกว่านั้น ก็เอาผ้าชุบน้ำมันก๊าด

หลั่มติดกับขาหมาหรือแมว จุดไฟ แหล้วให้มันวิ่ง ยิ่งเป็นกลางคืนเดือนมืดยิ่งสนุก

แต่เล่นได้ไม่บ่อยนักเพราะต้องเสี่ยงกับหวายสมภาร

.........................................

ส่วนการแกล้งหมา แมว อีกอย่างที่จะกล่าวถึง คือการโยนแมวใส่หมา ให้หมากัดแมว

แต่โดยมากแล้วแมวจะตบหน้าหมาครั้งหนึ่งแล้ววิ่งหนีหาย ขึ้นต้นไม้ ขึ้นกุฏิไป มีอยู่ครั้งหนึ่งพ้มไม่เห็นกับตาตนเอง

แต่เพื่อนเด็กวันมันเล่าให้ฟัง ว่ามันกำลังแกล้งหมา แมว ตามปรกติ แมวก็วิ่งหนีหายไปไหนแหล้วไม่รู้ เจ้าหมาก็ตาม

หาแมวศัตรูคู่ปรับของมันตามปรกติ แต่แมวตัวนั้น ดันกลับไปอยู่ที่บนอกเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตามย่าหรือยายมาวัด

เจ้าหมาเมื่อเห็นดังนั้นมันก็เห่าเจ้าแมวตามประสาของมัน เด็กนั้นตกใจ โยนแมวใส่หมา

อนิจจาการโยนของเด็กหญิงคนนั้น หมาตั้งท่ารออยู่แหล้ว หาใช่การโยนที่พวกพ้มเล่นกันไหม

ที่ต้องโยนจากข้างหลังหมา ให้ตกบนหลังหมา แต่เธอ (ตอนนั้นเรียก ยิ้ม หรืออีโหม่) โยนซึ่ง ๆ หน้าหมา ด้วยความตกใจ

แมวไม่ตาย เพราะหลวงพี่ช่วยได้ทัน แต่เพื่อนเด็กวัดของพ้ม โดนไปหลายกระทง แต่ไม่ถึงกับลงหวาย..

.......................................

ไอ้บ่าว สมุดบันทึกเล่นนี้ใครเขียน สมันก่อนมีอีโหม่.. โยนแมวให้หมาฟัด แมวไม่ตายเพราะถูกหมารุ่มกะบุญแหล้ว น้าหลัมแหลงพลาง

หยิบพรกหวากซดไปพลาง

สมัยนี้ มีแต่ไอ้โหม่....โชว์นากา โชว์แหวน  ทำท่าอีไม่รอดพ่าหยู้ ไม่รู้มั้งเห้อ ไอ้หลัม...วิทยุฟังทำไหร มีแต่เสียงไอ้โหม่

กูว่า-ึงเอาไปโยนให้หมาฟัดเสียดีหวา...

โยนให้หมาฟัด  หมาขบไข่ เสียมั้งกะดี จะได้แหม็ดพันโหม่

-ึง หมายถึงใครไอ้เจ็กจ้อง...

แหล้ว-ึงหมายถึงใคร  -ู กะหมายถึงคนฮั้นแหละ.. ชาดโหม่ไม่เพื่อน...
......................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่