สวัสดีค่ะ พอดีเรามีเรื่องอึดอัดใจมาก
เจ้านายให้เราออกจากงาน โดยที่เขาบอกว่า เขาให้โอกาสและให้เวลาหางานใหม่
โดยอยู่ที่นี่ไปก่อน
เขาให้ออกเพราะเขาบอกเราว่าเราทำงานได้ไม่ดีเท่าที่เขาต้องการ ทำงานเสร็จล่าช้า
แต่หลายครั้งที่มันช้า เพราะเขาไม่ Approve งานว่าผ่านทั้งๆที่เราส่งไปแล้ว
และประกอบกับว่า เราลาป่วยบ่อยด้วย เขาบอกเขาให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว
เขาเคยเรียกเข้าไปเตือนปากเปล่า ก็จริง ไม่มีใบเตือน ทีนี้ เราเลยโทรไประบายกับแม่
แม่เราบอกว่าแบบนี้ก็เรียกร้องค่าชดเชยได้ และอธิบายให้เราฟัง
เราเลยไปบอกกับเจ้านาย เขาบอกว่า เราทำตัวไม่ดี ลาก็บ่อย ยังจะมาเรียกร้องอีกเหรอ มันไม่แฟร์กับเขา
เราก็โอเค ขอโทษไปเพราะจริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันเรียกร้องได้หรือไม่ได้
เพราะแม่เราบอกมาแบบนั้น เราเลยบอกตามที่แม่พูดไป

ทีนี้ เราก็เลยถามเขาว่า แล้วถ้าไปสัมภาษณ์งานแล้วผ่าน เราขอออกเลยได้มั้ย
เขาบอกว่า ไม่ได้ ก็ต้องอยู่ให้ถึงสิ้นเดือน เช่น สมมติว่า เราไปสัมภาษณ์งาน และได้งานตอนต้นเดือนกุมภา
เราก็ต้องทำกับบริษัทนี้ จนสิ้นเดือนกุมภาถึงจะออกได้
เพราะเขาจะรับสมัครคนใหม่เลยอยากให้เราสอนงาน
แล้วแบบนี้ มันต่างอะไรกับเราลาออกเองอ่ะคะ? ในเมื่อเขาบอกให้เราออก แต่พอเราได้งานเขากลับไม่ให้เราออกทันที
กลายเป็นว่า ตอนนี้เราก็ไม่กล้าที่จะไปถามเขา ว่าแล้วถ้าเราหางานได้ก่อนสิ้นเดือนมกราล่ะ? เราจะขอออกเลยได้มั้ย

ความรู้สึกเราตอนนี้ คือมันแย่มากๆ มันคับอยู่ในใจ อึดอัดมากๆ เราไม่มีสมาธิมาโฟกัสกับงานแล้ว
รู้แต่ว่า เราอยากพัก เราเหนื่อย เรายอมรับนะว่าเราก็คงทำงานได้ไม่ดีพอ เพราะเราอคติกับวิธีการทำงานของเจ้านาย
เราเลยต่อต้านเขา แต่แบบนี้...มันแฟร์กับเราแล้วเหรอ หรือจริงๆ แล้วเราคิดแบบเห็นแก่ตัวเกินไป
เราเครียดจนเรากินข้าวแทบไม่ลง จนเราเริ่มกลับมาอยากฆ่าตัวตายอีกครั้งเพื่อหนีปัญหา

เราควรทำยังไงดีคะ?