12 Strong (Nicolai Fuglsig, 2018) คะแนน C+
"การโต้กลับของสหรัฐอเมริกาจากทหาร 12 นาย" ภาพยนตร์อิงเรื่องจริงหลังจากเหตุการณ์ 9/11 โศกนาฏกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่ถือเป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกาได้ทำภารกิจลับส่งหน่วยรบไปโจมตีกลุ่มอัลเคดาในอัฟกานิสถาน ทำให้นายทหาร 12 นาย เป็นหน่วยรบพิเศษชุดแรกในการต่อสู้สวนกลับต่อผู้ก่อการร้าย ภาพรวมของ '12 Strong' จึงเหมือนการร่วมมือกันระหว่างทหารอาหรับในการขับไล่กลุ่มอัลกออิดะฮ์ วิธีการเล่าของภาพยนตร์จึงขับเคลื่อนไปด้วยบรรยากาศและสายสัมพันธ์ระหว่างทหารสองฝ่ายเพื่อโจมตีผู้ก่อการร้าย ซึ่งหนังจงใจเล่าประเด็นนี้อย่างชัดเจน จนทำให้ '12 Strong' มีช่วงเวลาเนิบช้าและนิ่งเฉยจนอาจเผลอหลับได้ในบางจังหวะ อย่างไรก็ตาม ความช้าของหนังในบางช่วงขณะกลับให้แง่มุมต่อภาวะสงครามได้ดี แต่บางช่วงกลับเป็นความยืดเยื้อที่ไม่ค่อยจำเป็น ความช้าของตัวหนังจึงไม่จัดเป็นข้อเสียมากจนเกิน แต่ถ้าใครหวังอยากได้รับอารมณ์ความดุเดือดในสมรภูมิสงครามงานนี้อาจจะไม่ได้จัดเต็มเท่าที่คาดคิด
อย่างไรเสีย '12 Strong' ยังคงตอบสนองภาพยนตร์แนวสงครามด้วยฉากระเบิด เอฟเฟคและเสียงปืน พอเอาตัวรอดให้ได้ชื่อหนังแอคชั่นสงครามไปได้ รวมถึงเหล่านักแสดงที่ไม่ได้รับส่งบทกันแย่เกินไปในสถานการณ์ภายในเรื่อง ภารกิจของเหล่าทหารกล้าทั้ง 12 ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบวิธีสื่อสารมากกว่าตะลุยถล่มศัตรูกันทั้งเรื่องแล้วจบไป เราจึงมองเห็นความสัมพันธ์ของตัวละครอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ แม้ว่าสุดท้าย ทุกอย่างจะจบลงในรูปแบบสำเร็จรูปและให้ไดอะล็อกที่เราคุ้นเคยจากหนังแนวนี้อยู่ก็ตาม ท้ายสุด งานนี้สามารถรับชมได้เพลินๆ ไม่มีพิษมีภัย บอกเล่าเรื่องจริงในความสัมพันธ์ต่างเชื้อชาตินำพามาสู่การขับไล่กลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นภาพยนตร์สงครามธรรมดาๆเรื่องหนึ่งที่ไม่โดดเด่นและมีประเด็นที่น่าสนใจให้ขบคิดต่อไม่มากนัก...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: 12 Strong (Nicolai Fuglsig, 2018) เขียนโดย Form Corleone
"การโต้กลับของสหรัฐอเมริกาจากทหาร 12 นาย" ภาพยนตร์อิงเรื่องจริงหลังจากเหตุการณ์ 9/11 โศกนาฏกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่ถือเป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกาได้ทำภารกิจลับส่งหน่วยรบไปโจมตีกลุ่มอัลเคดาในอัฟกานิสถาน ทำให้นายทหาร 12 นาย เป็นหน่วยรบพิเศษชุดแรกในการต่อสู้สวนกลับต่อผู้ก่อการร้าย ภาพรวมของ '12 Strong' จึงเหมือนการร่วมมือกันระหว่างทหารอาหรับในการขับไล่กลุ่มอัลกออิดะฮ์ วิธีการเล่าของภาพยนตร์จึงขับเคลื่อนไปด้วยบรรยากาศและสายสัมพันธ์ระหว่างทหารสองฝ่ายเพื่อโจมตีผู้ก่อการร้าย ซึ่งหนังจงใจเล่าประเด็นนี้อย่างชัดเจน จนทำให้ '12 Strong' มีช่วงเวลาเนิบช้าและนิ่งเฉยจนอาจเผลอหลับได้ในบางจังหวะ อย่างไรก็ตาม ความช้าของหนังในบางช่วงขณะกลับให้แง่มุมต่อภาวะสงครามได้ดี แต่บางช่วงกลับเป็นความยืดเยื้อที่ไม่ค่อยจำเป็น ความช้าของตัวหนังจึงไม่จัดเป็นข้อเสียมากจนเกิน แต่ถ้าใครหวังอยากได้รับอารมณ์ความดุเดือดในสมรภูมิสงครามงานนี้อาจจะไม่ได้จัดเต็มเท่าที่คาดคิด
อย่างไรเสีย '12 Strong' ยังคงตอบสนองภาพยนตร์แนวสงครามด้วยฉากระเบิด เอฟเฟคและเสียงปืน พอเอาตัวรอดให้ได้ชื่อหนังแอคชั่นสงครามไปได้ รวมถึงเหล่านักแสดงที่ไม่ได้รับส่งบทกันแย่เกินไปในสถานการณ์ภายในเรื่อง ภารกิจของเหล่าทหารกล้าทั้ง 12 ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบวิธีสื่อสารมากกว่าตะลุยถล่มศัตรูกันทั้งเรื่องแล้วจบไป เราจึงมองเห็นความสัมพันธ์ของตัวละครอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ แม้ว่าสุดท้าย ทุกอย่างจะจบลงในรูปแบบสำเร็จรูปและให้ไดอะล็อกที่เราคุ้นเคยจากหนังแนวนี้อยู่ก็ตาม ท้ายสุด งานนี้สามารถรับชมได้เพลินๆ ไม่มีพิษมีภัย บอกเล่าเรื่องจริงในความสัมพันธ์ต่างเชื้อชาตินำพามาสู่การขับไล่กลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นภาพยนตร์สงครามธรรมดาๆเรื่องหนึ่งที่ไม่โดดเด่นและมีประเด็นที่น่าสนใจให้ขบคิดต่อไม่มากนัก...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/