[SR] แชร์ประสบการณ์ หนาวสุดขั้ว -110 องศา ที่ ICELAB

ต้องบอกก่อนเลยว่า ค่ำคืนก่อนที่จะไปเข้า ICE Lab มีความแอบกลัว ชั้นจะเป็นอะไรไม๊เนี่ย -110 C

ก็ลองไปหาข้อมูลดู เห็นมีคนรู้จักไปใช้บริการก็ใจชื้น สบายใจขึ้นนิดนึง


คนรู้จัก



(ชั้นรู้จักเค้าข้างเดียว อมยิ้ม07 )

ก่อนจะเข้าไป ก็จะมีหมอมาอธิบายว่า ICE Lab ใช้ทำอะไร เพื่ออะไร(เดี๋ยวจะขยายความต่อไปนะคะ) มีการเช็กสุขภาพ
ว่าใครสามารถเข้าได้บ้าง คร่าวๆที่จำได้ ที่ไม่ควรเข้า คนเป็นโรคหัวใจ เด็กเล็กเกินไป สตรีมีครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน4เดือน เป็นภูมิแพ้ผื่นแพ้น้ำแข็ง

มีการวัดความดันก่อนเข้า



แลดูหนาว


แปปเดียวผู้นำทาง ก็พาเราเดินมาถึงหน้าห้องแล้ว


ข้างในจะเป็นห้องเล็กๆ 3 ห้องเชื่อมติดกัน มีประตูกั้นในแต่ละห้อง
โดยห้องแรกจะอุณหภูมิ -10 , ห้องที่สอง -60 , และห้องสุดท้ายคือห้องสำคัญติดลบถึง -110


ลืมบอกว่า การแต่งกาย แนะนำให้ใส่ สปอร์ตบรา กางเกงขาสั้น รองเท้ากีฬา(ใส่ถุงเท้าด้วยน้า)
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการบำบัด

ยังไม่ยอมเข้า ขอเล่าถึงความกังวลต่อ แบบรู้สึกว่าเย็นติดลบขนาดนี้ เสื้อผ้า รองเท้าจะแข็งไม๊ ใส่คอนแทคเลนส์เข้าไปจะแข็งคาตาหรือเปล่า
หูจะขาดไม๊ ปลายนิ้วล่ะ กลัวขนาดนั้น มันต้องหนาวมากแน่ๆ ให้อยู่ 3 นาทีเลยหรอ? บลาๆๆ

แต่เค้ามีให้ใส่ผ้าปิดปาก กับ ปิดหูนะคะ ^^


เอาหละเตรียมใจไว้หน่อยมันจะหัวก้อยต้องเสี่ยงกัน ... เย้ เย เย


(เอามือถือเข้าไปไม่ได้เนอะ เดี๋ยวมันจะเสีย)

เข้าไปในห้องแรก -10 ไหวอยู่ ตู้ไอติม
- ความเย็นระดับเหมือนเปิดตู้ไอติม ยัง ชิลล์ ชิลล์
เรียกว่าเดินผ่านดีกว่า อยู่ในห้องนี่ประมาณ สิบวินาทีเองมั้ง

ห้องที่สอง -60 ชักจะหนาวจริงๆละนะ มีลมพัดด้วย โอยย ..
เป็นทางผ่านเหมือนกัน คือ ใช้เวลาสั้นๆ ประมาณสิบวิเช่นเดิม
การที่เราเดินผ่านห้องที่หนึ่งและห้องที่สอง เพื่อให้ร่างกายปรับตัว และ เพื่อไล่ความชื้นด้วย

ห้องที่สาม -110 C หนาวจริงอะไรจริง สามนาทีเต็มๆ
มอนิเตอร์จากข้างนอกจะคอยดูเรา ปลุกใจ และ นับเวลาอยู่ตลอด
เมื่ออยู่ในห้องนี้ เราจะค่อยๆ เดินวนรอบห้องไปเรื่อยๆ หายใจเพื่อรับอ๊อกซิเจน ให้เต็มที่
คือในสภาวะแบบนี้ เค้าบอกว่า ร่างกายจะได้รับ อ็อกซิเจนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเลย
1 นาทีแรก หนาวๆๆ มือกอดอกไว้ เดินวนไปเรื่อยๆ จริงๆเค้าบอกให้แกว่งแขนเบาๆ แต่.. ไม่เอาล่ะ หนาวววว
1.30 ผ่านไป ความรู้สึกก้ำกึ่ง เหมือนจะทนได้ เหมือนจะทนไม่ได้
2.00 ผ่านไป ขาเริ่มหนัก ก้าวไม่ค่อยออก ตาจะหรี่ๆหน่อย คอยมองไปทางประตู นับถอยหลังในใจไปเรื่อยๆ อย่าลืมหายใจให้ลึกๆ
รู้สึกอุปทานว่ามีน้ำแข็งเกาะขา เดินวนกันไปเรื่อย ทำไมข้างหลังเดินเร็วจัง
ครบสามนาทีแล้วค่า !!
เดินย้อนกลับไปผ่าน ห้อง -60องศา และ ห้อง -10 องศา เพื่อออกประตูเดิมที่เข้ามา  
อ่า.. ห้อง -10 วันนี้ช่างอบอุ่นเหลือเกิน

ตอนเข้านี่ก็ลืมความเครียด ลืมทุกอย่างจริงๆนะ จดจ่ออยู่แค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า


นี่คือประตูฉุกเฉิน ที่อยู่ในห้องที่สาม เผื่อใครทนไม่ได้ ไม่สามารถอยู่ได้ครบสามนาทีก็ออกประตูนี้เลย



ออกมาใหม่ๆ ผิวจะแดงๆ มีเลือดฝาดหน่อย


ห้องเล็กนะคะ แต่เข้าพร้อมกัน 3-4 คน ได้อยู่

ออกประตูเดิม ห้องแรกที่เข้าไปเลยจ้า


คอนเฟิร์มความเย็นและสดชื่น
ตอนแรกคิดว่าจะรู้สึกยังไงนะ จะเย็นจนไม่รู้สึกเย็นเลยหรือเปล่า แบบชาไปเลย

ตอนนี้รู้แล้วว่า มันก็ไม่ได้น่ากลัว ขนาดนั้น แค่เย็นเฉยๆ
ให้เข้าอีกก็ยังไหว หมอบอกวันนึงเข้าได้เต็มที่ ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง เพราะว่า มันช่วยเผาผลาญ แคลอรี่ด้วย เดี๋ยวเพลียเกินไป
เข้าครั้งนึงเบิร์นประมาณ 800 แคล(ประมาณข้าวขาหมู1จาน)




เล่ามาตั้งนานยังไม่ได้กล่าวเลยว่า ICE Lab คืออะไร ขออนุญาต ยกมาเลยละกันนะคะ


ICE LAB คืออะไร

นวัตกรรมการบำบัดด้วยความเย็นสุดขั้ว (CRYOTHERAPY) -110°C หรือ Ice Lab เป็นที่นิยม และรู้จักกันดีในการรักษาแนวแพทย์ทางเลือกในยุโรป มีการนำไปใช้ในศูนย์สุขภาพชั้นนำ สโมสรกีฬาระดับโลก และสปาระดับพรีเมียมมากมาย ด้วยผลลัพธ์ ที่ชัดเจนในการบำบัดการบาดเจ็บภายในของร่างกาย ช่วยฟื้นฟูจากภายใน และช่วยเพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ความสงบ และความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า ความเย็นสามารถใช้ในการรักษาโรค และช่วยรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ ตลอดจนการเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย อย่างการว่ายน้ำในน้ำที่เย็นจัดในช่วงฤดูหนาว เพื่อช่วยเสริมสร้างการต่อต้านอนุมูลอิสระ อันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวยุโรป เป็นต้น
ไอซ์แล็บ(Ice Lab) เป็น เทคโนโลยี การบำบัดด้วยความเย็น (Cryotherapy) ที่พัฒนาโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมการใช้ความเย็นทางการแพทย์ ในประเทศเยอรมัน ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวในโลก โดยออกแบบให้มีห้องที่ส่งไอความเย็น 3 ระดับ คือ -10 องศาเซลเซียส, -60 องศาเซลเซียส และ -110 องศาเซลเซียส โดยผู้เข้าบำบัด จะเดินผ่านไปทีละห้อง เพื่อให้ร่างกายมีการปรับตัว และไล่ความชื้นออกให้หมด เมื่อถึงห้องที่อุณหภูมิ -110°C ก็คือไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่เลย (zero humidity) ทำให้ในช่วงเวลาสั้นๆเพียง 3 นาทีนี้  เป็นนาทีทองของระบบภายในร่างกายที่จะฟื้นฟูการบาดเจ็บภายใน หยุดการอักเสบในช่วงสั้นๆ และในขณะที่สูดหายใจเข้า ร่างกายจะได้รับปริมาณออกซิเจนในจำนวนมหาศาล เนื่องจากที่อุณหภูมิ -110°C มวลอากาศจะหดตัวลงถึง 45% เมื่อเทียบกับที่อุณหภูมิห้องปกติ ซึ่งก็หมายถึงเมื่อสูดหายใจเข้าจะได้รับปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าต่อการสูดหายใจเข้าแต่ละครั้ง ประสบการณ์ 3 นาที สั้นๆใน อุณหภูมิ ติดลบ -110°C นี้ จึงเป็นประสบการณ์พิเศษที่ไม่สามารถอธิบายได้ และช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างน่าประหลาดใจ ผลของการบำบัดด้วยความเย็นติดลบในลักษณะนี้ จึงได้มีการศึกษากันมาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา


สรุปจุดเด่นคือ
ฟื้นฟูการบาดเจ็บภายใน ลดการอักเสบกล้ามเนื้อให้หายไวขึ้น  ส่วนเรื่องลดความอ้วนเนี่ยเป็นเหมือนผลพลอยได้ ไม่ได้ลดความอ้วนโดยตรง
แต่ฟีลว่า ออกกำลังกาย เตะบอล เต้นแอโรบิก จนปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ แล้วมาเข้า ICE Lab เพื่อบำบัด แล้วยังช่วยเาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า
แล้วก็การที่ร่างกายได้ออกซิเจนมากขึ้น ทำให้สุขภาพดีขึ้น ไมเกรน และ ภูมิแพ้ดีขึ้นด้วย นี่ก็เป็นครบเลย นั่งผิดท่าผิดทางเจ็บกล้ามเนื้ออยู่ แถมเป็นภูมิแพ้อากาศ แพ้ขนแมวด้วย ตอนนั่งรอเข้าห้องเย็น เจอไอเย็นนิดเดียวก็จามแล้ว แต่ตอนเข้าไม่จามเลยนะ หายใจ(ผ่านแมสปิดปาก) โล่งมากต้องรอดูว่าจะดีขึ้นจริงไหม ^^





สถานที่ Apex Medical center สาขาเพลินจิต ( ตอนนี้ที่นี่ เป็น ICE Lab แห่งเดียวในไทย )

ราคา 1 DAY PASS 5000 บาท มีแพคเกจแบบหลายวันด้วยค่ะ แต่จำราคาไม่ได้ ^^
ชื่อสินค้า:   APEX ICE Lab
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่