100 ปี ชาตกาล พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)

สวัสดีค่ะ จขกท.เพิ่งไปร่วมงาน 100 ปี ชาตกาล ของหลวงปู่ชามาเลยอยากแชร์ค่ะ
เราไปกับพี่และหลาน รวม 4 คน เดินทางโดยสายการบินนกแอร์ จองตอนโปร 490 ไป-กลับ คนละ 980
จองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ใช้เวลาบินจาก กทม. 45-60 นาทีก็ถึง เดินทางวันที่ 16 เวลา 7.25
ถึงอุบลฯ 8.45 (ช้ากว่าปกติเล็กน้อย) พอถึงแล้วเราเลือกแท็กซี่สนามบินค่ะ ออกมาแล้วเดินไปทางขวามือสุด
บอกว่าไปวัดหนองป่าพง แท็กซี่จะรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่นี่แท็กซี่เริ่มที่ 40 บาท ไปถึงวัดก็ประมาณ 180.-
ถึงวัดแล้วตื่นตาตื่นใจมาก เพราะผู้คนเยอะมากเลยค่ะ โรงทานก่อนเข้าวัดก็เยอะ แต่เราเลือกเดินเข้าวัด
และไปรับอาหารในวัด ถึงแม้คนจะเยอะ แต่ก็อยู่ในความสงบ เราชอบการจัดการอาหารของที่นี่มาก
เพราะให้พระเป็นลำดับแรก ตามด้วย แม่ชี ผู้ปฏิบัติธรรม และญาติโยม ส่วนที่เหลือใครจะเอาถุงมาใส่กลับก็ได้
และสุดท้ายจะส่งไปที่โรงทานของวัด ทำให้ของใส่บาตรที่นี่ได้ใช้ประโชน์เต็มที่ ชอบๆ แต่ถ้าไม่ใช่บารมีหลวงปู่ชา
ก็อาจจะไม่ใช่แบบนี้ การมาวัดก็ทำให้เราได้เห็นสัจธรรมต่างๆ มากมาย ทุกอย่างล้วนเป็นครูจริงๆ
หลังจากอิ่มท้องก็ต้องสักรูปนะคะ
การมาช่วงนี้จะนอนกันในป่าบริเวณวัดจะติดป้ายบอกเอาไว้ว่าตรงไหนกางเต้นท์ได้
ส่วนเราได้บุญหลวงพ่อครั้งก่อนที่มาปฏิบัติธรรม ทำให้รู้จักแม่ชีที่นี่ ชื่อแม่หงวน
แม่น่ารักทำที่นอนไว้ให้ลูกๆ บอกจะมากางเองก็ไม่ยอม บอกจะกางไว้ก่อนคนเยอะ
หลังจากได้ที่นอนแล้วซ้อมนอนสักครู่ เราก็เปลี่ยนเป็นชุดปฏิบัติธรรมที่เตรียมมา
และเตรียมตัวเวียนเทียนรอบเจดีย์
ช่วงบ่าย 3 เราได้นั่งฟังธรรม และหลังจากนั้นครูบาอาจารย์ และพระภิกษุก็นำพวกเราเวียนเทียน
จำนวนพระสงฆ์ประมาณ 1000 กว่ารูป และแม่ชี ผู้ปฏิบัติธรรม และญาติโยมอีกจำนวนเยอะมากๆ
ถึงคนจะเยอะ เดินกันได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุด แต่ทุกคนก็มาด้วยหัวใจเดียวกัน
คือมาสักการะหลวงปู่ชา ทำให้รอนานแค่ไหน ก็ไม่มีปัญหา ส่วนใครที่จะหน้ามืดเป็นลม
ก็ขอยาจากอาสาได้ เค้ามีแจกตลอดทางค่ะ
ใช้เวลาในการเดินจากธรรมศาลาไปบริเวณเจดีย์นานพอสมควร
แต่การได้อยู่ในบรรยาการที่อบอวลไปด้วยการแสดงความเคารพต่อหลวงปู่ชา
ทำให้ทุกคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไปมา จขกท.เองไม่มีดอกไม้ธูปเทียนไป
ก็มีกัลยาณมิตร นำมาให้พวกเราทั้ง 4 คน ขอบคุณน้ำใจของกัลยาณมิตรจริงๆ ค่ะ
หลังจากเรานำดอกไม้ธูปเทียนไปวางในเจดีย์แล้ว ก็จะมีการแจกหนังสือหลวงปู่ชาด้วย
แต่เราไม่ได้ไปรับ แต่ขอถ่ายรูปเก็บความประทับใจครั้งนี้แทน
ปีนี้ทางวัดจัดดอกทานตะวันมาวางไว้ตั้งแต่ทางเข้าวัด จนถึงบริเวณเจดีย์
แม่ชีบอกว่าครั้งนี้หลวงพ่อเลี่ยมท่านไม่ได้จ้าง แต่ทำเอง ดอกทานตะวันสวย
ดอกใหญ่มาก และที่สำคัญเกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของลูกศิษย์หลวงปู่ทั้งสิ้น
และที่ดอกทานตะวันใหญ่ขนาดนี้ก็เพราะว่าใส่ฮอร์โมนที่ทำเอง เป็นอินทรีย์
ซึ่งแม่ชีบอกว่าเป็นสูตรที่ทำให้ดอกใหญ่และโตเร็วด้วย
เราเวียนเทียนเสร็จประมาณ 5 โมงกว่า หลังจากนั้นก็ต่างแยกย้ายทำกิจของแต่ละคน
โรงทานก็มีบริการถึง 1 ทุ่ม ใครหิว ก็ไปรับแจกได้ หรือใส่ถุงกลับบ้านก็ไม่ว่ากัน
เพราะตั้งใจเอามาแจกจริงๆ
พอ 6 โมงเย็น ก็ทำวัตรเย็น ถึงประมาณ 1 ทุ่มเศษ ก็มีการแสดงธรรมของครูบาอาจารย์ที่มาร่วมงานในครั้งนี้
ใช้เวลาท่านละ 30 นาที โดยแสดงธรรมตลอดทั้งคืนถึง 6 โมงเช้า
สำหรับคนที่ปฏิบัติอาจาริยบูชา ก็จะนั่งสมาธิ เดินจงกลม ฟังธรรม สลับกันไปโดยไม่นอนจนถึงเช้า
แต่จขกท.อยู่ถึงประมาณ 4 ทุ่มกว่า ก็เข้าที่พักนอนฟังธรรมสักครู่ก็หลับค่ะ
การนอนกลางป่าแบบโล่งๆ ครั้งแรกในชีวิต แต่แวดล้อมไปด้วยธรรมะ ธรรมชาติ
สุข สงบ ถึงไม่สะดวก แต่สบายใจมากค่ะ
ตื่นเช้าเราเก็บที่นอน และออกไปช่วยแม่ชีที่โรงครัวเพื่อเตรียมอาหาร
ได้รับอาหารเช้า ยังพอมีเวลาเราเลยไปดูพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ชากันค่ะ
ด้านในมีการจัดแสดงที่เรียบง่าย เพื่อนๆ มีโอกาสแวะไปเที่ยวชมได้นะคะ
เราเดิน ถึง 11 โมง ก็ไปเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ
แต่เราจองตั๋วกลับไว้ 3 ทุ่ม เลยยังมีเวลาเหลืออีก ครึ่งวัน
จึงใช้บริการพี่แท็กซี่พาทัวร์อุบลฯ ซะหน่อย
เราไปเที่ยววัดป่านานาชาติ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดหนองป่าพงมากนัก
ที่นี่สงบ ร่มรื่น ด้วยป่า และต้นไม้ใหญ่ เราไม่ได้พบกับพระนานาชาติอย่างเดียวนะคะ
ญาติโยมก็นานาชาติเช่นเดียวกัน เราอยู่ที่นี่ไม่นาน ก็เดินทางกันต่อ
โดยเลือกไปที่ราชธานีอโศกเป็นสถานีต่อไป
เอาเป็นว่าเราขอจบงานบุญ 100 ปี หลวงปู่ชาก่อนนะคะ
แล้วจะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสชาวราชธานีอโศกแบบตัวเป็นๆ
ในกระทู้ต่อไป คือปกติจะได้เห็นแต่ในยูทูปในรายการบุญนิยม หรือถึงสื่อถึงคน
ที่เป็นชาวอโศก คราวนี้ได้เจอตัวจริงเสียงจริง มีอะไรเล่าเยอะเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ผิดถูกประการใด ขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่