เซลล์รถหรุ เยอรมันออโต้ เชิดเงินลูกค้า โดยที่ก็ผู้จัดการ ช่วยแก้อะไรไม่ได้

ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจดทะเบียนรถใหม่ของผม เริ่มต้นขึ้นจากการไว้ใจเซลล์ขายรถ โดยให้เงินเธอเพื่อไปจดทะเบียนเลขประมูล ที่เธอเสนอมา เป็นเงิน 35,000 บาท สุดท้าย เลขที่จองไว้ หลุด นอกจากเธอยังไม่ยอมรับผิด ยังไม่ยอมคืนเงินนี้
และการจัดการของผู้จัดการในเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ยึดความเสียหายต่อลูกค้า เป็นที่ตั้ง ทำเพียงดีดตัวเอง ออกจากปัญหาครับ
ลองอ่านกันดูหน่อยครับว่า ผมควรทำอย่างไร

ต้นปีที่แล้ว (พ.ศ. 2560) ผมตัดสินใจซื้อรถใหม่ ยี่ห้อหนึ่งที่มีโลโกเป็นรูปใบพัดสีฟ้าสลับสีขาว กับเซลล์ ชื่อ อ.​ (ซึ่งชื่อย่อมาจากกคำภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า น้ำมัน) จากดีลเลอร์ บนถนนแจ้งวัฒนะ
จนถึง เดือน สิงหาคม 2560 เซลล์ อ. เสนอหาเลขประมูลสวยๆ ให้ ตอนแรกผมบอกเธอไปว่า ตั้งแต่ขับรถมา ผมก็ไม่เคยเสียเงินเพื่อซื้อเลขสวย แต่เธอให้เหตุผลจูงใจต่างๆ และ อาสาเป็นธุระไปหาให้ โดย น้อง อ. แจ้งว่าเธอไม่ได้รับคอมมิชชันใดๆ จากผู้ขายเลขประมูล ราคาที่เสนอไม่ผิดหวังแน่นอน

ผมจึงตัดสินใจซื้อเลขทะเ่บียนกับเธอ โดยโอนเงินให้ น้อง อ. เป็นเงิน 35,000 (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เพื่อจองเลขทะเบียนตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 โดยส่งหลักฐานการเงินให้น้อง อ. ทางไลน์ มีเพียงข้อความจากน้องเค้าตอบกลับมา และมารู้ทีหลังที่โอน ว่า เลขที่เธอหามาไม่ใช่เลขประมูลด้วย แค่เลขสวย ป้ายดำเท่านั้น

ด้วยความไว้ใจในตัวน้องเค้า และชื่อเสียงของแบรนด์ ทำให้ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรจากเธอ ซึ่งกลับกลายมาส่งผลเสียตามมาอย่างไม่คาดคิด❗️
จนผ่านไป 4 เดือน (ธันวาคม 2560) ที่ผมพยายามติดตามเรื่องป้ายทะเบียนจากเธอ ก็ผัดผ่อนมาตลอด หลังจากนั้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเซลล์ อ. อีกเลย ไลน์ ไปถาม ก็ไม่ขึ้นว่า อ่าน
“ความจริงมาปรากฏ” เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามที่ฝ่ายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ได้ความว่า
เลขทะเบียนที่ผมโอนไปถูกจดทะเบียนไปแล้ว แต่ในชื่อคนอื่น‼️ 😱😱

บ่ายโมง วันพุธ 10 ม.ค. 61
ผมเข้าไปพบที่โชว์รูม ปรากฏว่า ผู้จัดการ ชื่อ อักษรย่อ จ. ที่เป็นหัวหน้าของ เซลล์ น้อง อ. ลาไปหาหมอ ส่วน เซลล์​ อ.​ ก็อยู่ที่ รพ. (บังเอิญป่วยพร้อมกันพอดี)
เลยขอร้องเธอว่า ถ้าวันนี้ พอสะดวก เราประชุม 3 สาย พร้อมกับ เซลล์ อ. เพื่อรับรู้ปัญหา และหาทางออกเบื้องต้นได้ไหม กว่าทุกอย่างจะติดต่อกันลงตัวก็เกือบ 5 โมงเย็น (รออยู่เกือบ 4 ชั่วโมง)
การคุย แบบ 3 สาย จึงเริ่มขึ้น

เซลล์ อ. เปิดบทสนทนาขึ้นมาในทันที ว่า “เลขที่เธอไปดำเนินการให้ จดได้แน่นอน คนที่ขายเลขทะเบียนให้เธอยืนยัน คุณหมอไม่ต้องห่วง” และอ้างถึงปัญหาที่ติดขัดต่างๆนานา แต่บอกตรงๆนะครับว่า ตอนนั้นผมหูดับไปแล้ว เพราะคาดไม่ถึงว่า ผมจะได้ยินคำตอบเช่นนี้
ผมชี้แจงผ่านสายไปยังทั้งสองท่านว่า “แต่ข้อมูลที่ผมได้จากขนส่ง คือ เลขถูกจดไปแล้วในชื่อคนอื่น”

เซลล์ อ. ถามกลับมาทันทีว่า “ขนส่งคนนั้นชื่ออะไร” ผมตอบเธอกลับไปว่าไม่ได้ถามชื่อผู้รับเรื่อง แต่ได้ติดต่อกับฝ่ายทะเบียนโดยตรง
เซลล์ อ. จึงรีบกลับตัวแว้บว่า ถ้าอย่างนั้นจะหาเลขเดิม ในหมวดอื่นให้ เธอยังออกตัวว่า เธอไม่ได้คอมมิชชันใดๆจากการช่วยหาเลขให้ผม ให้ผมตรวจสอบได้เลย

ไม่ใช่แล้วปะครับ สิ่งที่คุณยังไม่ได้ยิน คือคำขอโทษ ที่ตรงกับประเด็นที่เกิดจริงๆ เหมือนที่ผมก็ยังไม่ได้ยินหรือเปล่า


ก่อนที่เรื่องนี้ จะถูกเบี่ยงประเด็น เหลือเพียงแค่ จดทะเบียนเลขใหม่ ผมสรุปให้ทั้งสองคนฟังว่า ขอให้แยกเรื่องนี้ เป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก การจดทะเบียนต้องเสร็จสิ้น

และ อีกประเด็น คือ ต้องมีคำตอบให้ผมว่า ทำไมเลขที่ผมเสียเงินให้ไปจด จึงหลุดเป็นของคนอื่น

ประเด็นเรื่องป้ายทะเบียน ผมเสนอให้ 2 ทางคือ
ถ้าเซลล์ อ. ยัง ‘มั่น’ เช่นนั้น ให้ไปจดเลขเดิม อักษรเดิม ที่ผมเสียเงินไป ผมจะจบทันที เพื่อไม่ให้ดูว่า ผู้ใหญ่รังแกเด็ก และข้อมูลจากกรมขนส่งทางบก ของผม อาจจะไม่น่าเชื่อถือพอ
ตรงนี้ผู้อ่าน คงรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่า มันเป็นไปไม่ได้ ผมจึงเสนออีกทางรอไว้

2. ทางเลือกอีกทาง คือ จดเลขที่ผมไปหามาใหม่ จากตัวแทน ชื่อ ช. ซึ่งเลขนี้ มีส่วนต่างจากเลขเดิมอีก 10,000 บาท โดยให้รับผิดชอบส่วนต่างนี้ เป็นค่าชดเชยความผิดพลาดทั้งหมด ให้กับผม

อ่านถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งคิดว่า ผมมีเจตนาจะเอาเปรียบใครนะครับ ผมแค่อยากวัดใจ ทั้ง น้อง อ. และ ผู้จัดการ จ. ว่าจะ ‘ใจ’ แค่ไหน กับลูกค้าอย่างผม

จากนั้น ผู้จัดการ จ. โทรมาหาผม หาผมเป็นการส่วนตัว
ประโยคแรกคือ เธอบอกว่า อาจจะต้องให้ เซลล์ อ. ออก ส่วนตัวเธอไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ และไม่เกี่ยวกับบริษัท เพราะเป็นการโอนเงินให้เซลล์ส่วนตัว และถ้าเซลล์ถูกออก เค้าก็ถือว่า เป็นคนนอก ไม่เกี่ยวกับบริษัท อีกต่อไป
สิ่งที่เธอพรั่งพรูออกมา โดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดเลยนั้น ไม่มีคำตอบเรื่องป้ายให้กับผมเลย เธอพร่ำย้ำแต่ว่า เธอไม่เกี่ยว เธอทำงานอย่างตรงไปตรงมาตลอด เธอคงจะต้องแจ้งผู้ใหญ่ ก่อนที่คนอื่นจะเอาไปเล่า ซ้ำๆ วนๆ แต่ตรงนี้
กว่าจะได้เข้าประเด็นก็ผ่านไปสิบกว่านาที

ประเด็นแรก เธอบอกว่า เลขเดิมหลุดแน่นอน เธอเชื่ออย่างนั้น ส่วนต่างของเลขใหม่ ที่ผมหามา เธอไม่รับผิดชอบ ไม่ใช่ความผิดเธอ

ประเด็นที่สอง ว่า เลขหลุดได้อย่างไร
ผมขอนัดเจอพร้อมกันเพื่อจบเรื่อง เธอสวนกลับมาทันทีว่า ไม่ต้องนัดหรอก เพราะเธอรู้ว่าเงินไปไหน เซลล์ อ. ไม่ได้ไปเอาเลข เลขจึงหลุด เซลล์ อ. เคยทำแบบนี้มาครั้งนึงแล้ว นี่เป็นครั้งที่สอง

จบจากที่คุยกัน ที่เหลือก็เป็นการติดตามการแก้ปัญหาในไลน์กรุป ตั้งแต่วันเสาร์ ที่ผ่านมา (13 มกราคม 2561) จนถึงวันจันทร์ ที่ผ่านมา พาไปสู่บทสรุป สุดพีค ที่ผมต้องจัดใจ รับการจัดการปัญหา ของนางทั้งสอง

เธอเริ่มกระหน่ำใส่ เซลล์ อ. อย่างไม่ยั้งในไลน์
“ถ้าเราคุยกันไม่รู้เรื่องใบเตือนที่ได้พร้อม ออกได้ทันที”
พูดตรงๆ นะคะ (อันนี้ นางคงพูดกับผม) คือ ถ้าเอาเลขนี้เค้า (หมายถึง อ. ) คงไม่สามารถ จ่าย ส่วนต่างอีก 10,000 แน่นอน”

ผมลองเสนอทางแก้ไขไปว่า ที่เคยดูแลเคสร้องเรียนที่ รพ. ถ้าคนของเราผิดจริง และเห็นว่าลูกค้าเป็นผู้เสียหาย จะเคลียร์ให้จบกับลูกค้า แล้วเรื่องเงินก็ไปหักจากผู้ทำผิดเป็นการภายใน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ องค์กร

นางสวนกลับมาทันทีว่า “คือเราอาจไม่ได้ให้ผู้กระทำผิดได้อยู่ต่อนะคะ” โดยไม่คิดจะเจรจาต่อรอง
“อย่างแรกบริษัทคงไม่ได้เข้าไปรับผิดชอบ ส่วนต่าง 10000 ของเคสนี้ค่ะ ในการทำงาน ทุกคนหน้าที่รับผิดชอบเท่าที่ทำได้ และ คงไม่สามารถทำอะไรที่เกินความสามารถ นะคะ”

สิ่งเดียวที่เธอจะรับผิดชอบมีอย่างเดียว คือ ถ้าได้เลข จะส่งจดเร็วให้ ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายบ้างจะจ่ายให้ แต่ถ้ามากกว่า นี้ จะขอไม่คุยต่อดีกว่า”

“เพราะถึงเป็นหัวหน้า ก็คือ คน ปรกติ ไม่ใช่ทั้งชืวิต อุทิศให้ อ. ค่ะ เข้าใจนะคะ”
พีคที่สุด อยู่ตรงที่ผู้จัดการ จ. รัวต่อมาว่า
“ทั้งวันนี้ เครียดมาก ถ้าวันนี้ไม่สรุป นางจะขอออกจากกลุ่มไลน์ !!! ”
ออกได้ยังไงครับ !!⁉️ เธอคือหัวหน้าที่จะต้องจัดการปัญหานี้มิใช่หรือ เธอโอดครวญมาว่าเครียดมาทั้งวัน แต่ใครกันแน่ที่เครียดที่สุด ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา เห็น 'ใจ' เธอ และ เห็นใจ ผมไหมครับ

จากนั้น ผู้จัดการ จ. ตัดสินให้ โดยไม่ให้ทางเลือก ว่า ในเมื่อบริษัทไม่จ่าย อ. ก็ไม่มีเงินจ่าย เพราะฉะนั้น ให้ อ. คืนเงิน ล/ค แล้วจบ

(เรียกกันง่ายๆว่า ล/ค ครับ ศัพท์เทคนิค ที่ผมต้องเรียนรู้ว่า หมายถึงผม)

เซลล์ อ. (ยังมีหน้ามา) ถามต่อว่า ต้องคืนวันนี้ เลยหรือคะ เธอไม่มีเงิน ขออีก 3 วัน คนที่เธอไปยืมไว้ จะให้เงินวันศุกร์เย็น

ความรู้สึกกรุ่นๆมากมายตีกันวุ่นอยู่ในหัว สองนางสนทนาตอบโต้กัน โดยผมผู้เสียหายนั่งอ่าน ราวกับเป็นคนนอก
ถามผมสักคำไหม ว่าผมพอใจหรือเปล่า คิดจะจบ ก็จบง่ายๆอย่างนี้หรือ

ผมจัดใจอยู่นาน ว่าจะเอายังไงดี จนรู้สึกว่าพลังงานเรามีค่ากว่าจะไปเจรจาอะไรอีก และอยากให้จบเสียที จึงจำใจรับทางออกอย่างไม่มีทางเลือก

กำหนดให้เซลล์ อ. คืนเงินเต็มจำนวน ภายในวันศุกร์ ที่ 19 มกราคม 2561 นี้ โดยไม่ผ่อนชำระ
ซึ่งก็คือ วันนี้ ! ครับ
และบัดนี้ ยังไม่ได้เงินคืนครับ


ขออนุญาตอ้างอิงไปถึง บริษัท German Auto และ BMW Thailand ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันรับทราบปัญหาและเป็นพยานรู้เห็นครับ

เงินที่โอนให้เซลล์ เป็นส่วนบุคคลก็จริง แต่เซลล์ ก็เป็นพนักงานของคุณ แล้วการที่หัวหน้าปล่อยให้เซลล์ ที่มีพฤติกรรมทุจริต ยังขายรถ และหลอกลูกค้าเช่นนี้ มันชอบธรรมหรือครับ

และถ้าเรื่องนี้ รู้ออกไปในวงกว้าง คนจะจำชื่อเซลล์ ที่มีปัญหา กับผม หรือ ชื่อบริษัท ได้มากกว่ากัน

เรียนปรึกษาท่านผู้บริหารครับว่า สื่งที่ผู้จัดการท่านทำอยู่ มันไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท และความน่าเชื่อถือขององค์กร จริงๆหรือ

พนักงานของคุณกำลังทำการที่ส่อไปในทางทุจริต (ซ้ำเป็นครั้งที่สอง) โดยมีหัวหน้ายืนกรานว่าไม่เกี่ยวกับบริษัท และ จัดการปัญหาเยี่ยงนี้ จนบัดนี้ยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากใครเลยนะครับ นอกจากข้อความทางไลน์

ผมไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงของบริษัท องค์กร หรือบุคคลใด แค่อยากให้เป็นกรณีศึกษาในการพัฒนาการบริการ ไม่ให้เป็นเรื่องคลาสสิก แล้วบอกว่าใครๆเค้าก็โดนกัน

นอกจากเงินที่เสียไปแล้ว สิ่งที่ผมสูญเสียที่สุดก็คือ ความไว้ใจ ที่มีต่อบุคคล และความมั่นใจ จากการจัดการของผู้จัดการ ในฐานะ บุคลากรในบริษัท

และ ถ้าผู้จัดการ ไม่สามารถจัดการปัญหานี้ให้จบได้ อยากขอให้ผู้บริหารของ German Auto ช่วยมาแก้ไขให้ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่