ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจดทะเบียนรถใหม่ของผม เริ่มต้นขึ้นจากการไว้ใจเซลล์รถหรู
ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อน เรื่องที่เขียนขึ้นนี้ ผมไม่ได้เขียนด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง หรือมีเจตนากลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการส่วนตัว
แต่อยากแบ่งปันเรื่องนี้ ให้เป็นเครื่องเตือนภัย และ เตือนใจ เป็นกรณีศึกษาให้กับคนอื่น และหากผู้อ่านเห็นเป็นประโยชน์ จะส่งต่อเรื่องราวนี้ก็ขอให้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล ซึ่งผมไม่อาจบังคับได้
ต้นปีที่แล้ว (พ.ศ. 2560) ผมตัดสินใจซื้อรถใหม่ ยี่ห้อหนึ่งที่มีโลโกเป็นรูปใบพัดสีฟ้าสลับสีขาว จากเดิมที่เคยขับแต่รถญี่ปุ่นมาเกือบ 20 ปี
ตามประสาลูกค้า ผมลองตัดสินใจเปรียบเทียบจากหลาย ดีลเลอร์ เจ้าแรกเป็นที่ดีลเลอร์ที่อยู่ใกล้บ้าน โดยผมวอล์กอิน เข้าไปดูรถ และทดลองขับ ผ่านตัวแทน ชื่อตัวอักษรย่อว่า น้อง อ. (ซึ่งชื่อย่อมาจากกคำภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า น้ำมัน) ซึ่งให้การดูแลอย่างดี กับอีก ดีลเลอร์หนึ่ง ได้รับการแนะนำผ่านผู้จัดการศูนย์
ด้วยความประทับใจในบริการของน้อง อ. ตั้งแต่ ข้อเสนอ การติดตามงาน ช่วยเป็นธุระในการขายรถคันเดิม รวมไปถึง หาฤกษ์ออกรถ และอีกมากมาย ผมจึงตัดสินใจซื้อรถกับเธอด้วยความไว้วางใจ และเห็นว่า เธอเป็นคนแรกที่ติดต่อด้วย อยากให้โอกาสน้องเค้าได้ยอด
เมื่อซื้อไปแล้ว เธอก็ยังดูแลเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่เมื่อถึงเวลาต้องเอารถเข้าไปเช็คระยะ น้อง อ. ก้ช่วยติดต่อทำนัดให้ แถมยังใจดีเสนอให้เอารถเธอไปใช้ทำธุระ ระหว่างที่รอรับรถ ซึ่งเธอก็บอกว่า ทำให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ผมก็ปฏิเสธเธอไป ด้วยความเกรงใจ
จนถึง เดือน สิงหาคม 2559 ผมสอบถามเรื่องการจดป้ายทะเบียนรถกับเธอ
ด้วยความใส่ใจลูกค้าของน้อง อ. เธอเสนอหาเลขประมูลสวยๆ ให้ ตอนแรกผมบอกเธอไปว่า ตั้งแต่ขับรถมา ผมก็ไม่เคยเสียเงินเพื่อซื้อเลขสวย แต่เธอให้เหตุผลจูงใจว่า ทะเบียนเลขสวย เป็นสมบัติของเรา สามารถเอาไปใส่ รถคันต่อไป หรือขายต่อได้ น้อง อ. อาสาเป็นธุระไปหาเลขสวยๆมาให้ โดย น้อง อ. แจ้งว่าเธอไม่ได้รับคอมมิชชันใดๆ จากผู้ขายเลขประมูล ราคาที่เสนอไม่ผิดหวังแน่นอน และที่สำคัญเธอทำให้ผมเป็นกรณีพิเศษ (อีกแล้ว)
ผมจึงตัดสินใจซื้อเลขทะเ่บียนกับเธอ โดยโอนเงินให้ น้อง อ. เป็นเงิน 35,000 (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เพื่อจองเลขทะเบียนตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 โดยส่งหลักฐานการเงินให้น้อง อ.ทางไลน์ มีเพียงข้อความจากน้องเค้าตอบกลับมา โดยที่ไม่มีเอกสารยืนยันใดๆ
ด้วยความไว้ใจในตัวน้องเค้า และชื่อเสียงของแบรนด์ ทำให้ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรจากเธอ ซึ่งกลับกลายมาส่งผลเสียตามมาอย่างไม่คาดคิด ❗️
สัปดาห์ต่อมาผมติดตามเรื่องป้ายทะเบียนจากเธอ ทั้งทางโทรศัพท์ และส่งข้อความทางไลน์ พยายามขอเอกสารที่เกี่ยวกับชุดจดทะเบียน เธอก็มีข้ออ้างบ่ายเบี่ยงมาตลอด ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เช่น ตอนนี้ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ขนส่งฯ มีปัญหาเนื่องจากทุกคนมาเร่งจดทะเบียน จากกฎหมายเรื่องการถือป้ายแดงที่ออกใหม่ ทำให้ล่าช้า
ผมทวงถามถี่ขึ้น น้อง อ. ก็ผัดผ่อนมาตลอด อ้างว่า สัปดาห์หน้าจะได้บ้าง ไม่เกินกี่วันบ้าง ให้อดทนรอหน่อย
จนผ่านไป 4 เดือน (ธันวาคม 2560) เริ่มรู้สึกว่า ชักมีกลิ่นแปลกๆ จึงส่งไลน์ไปว่า ถ้ารู้ว่าเสียตังค์แล้ว จะมีปัญหาขนาดนี้ ผมไปเอาเลขอะไรก็ได้ จากขนส่งฯ ป่านนี้ คงจบเรื่องไปแล้ว
น้อง อ. ตอบกลับมาว่า รู้สึกไม่สบายใจ และไม่อยากทำให้เรื่องนี้ทำให้เราไม่รักกัน เธอเสนอที่จะคืนเงินนั้นให้ผม และยืนยันว่าจะได้ป้ายก่อนปีใหม่ (พ.ศ. 2561)
ในตอนนนั้น ผมเห็นว่า ในเมื่อก็รอมาถึงขั้นนี้แล้ว จะได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ ผมจึงตัดสินใจบอกให้เธอรีบไปจัดการ หลังจากนั้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากน้อง อ. อีกเลย ไลน์ ไปถาม ก็ไม่ขึ้นว่า อ่าน
“ความจริงมาปรากฏ” เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามที่ฝ่ายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ได้ความว่า
1. ระบบคอมฯที่ขนส่งไม่เคยล่ม อย่างที่เธอกล่าวอ้าง
และ 2.ที่พีคที่สุดคือ เลขทะเบียนที่ผมโอนให้เงิน 35,000 บาท ให้ น้อง อ. ไปจัดการให้นั้น ถูกจดทะเบียนไปแล้ว แต่ในชื่อคนอื่น‼️ 😱😱
พีค มั้ยล่ะครับ
ถึงตอนนี้ผู้อ่านอาจจะตั้งข้อสังเกตหรือคิดไปได้หลายประเด็นครับ
• น้อง อ. เอาเงินไปหมุนใช้ก่อน หรือ เชิดเงินไปแล้ว
• น้อง อ. คงไม่ได้ทำกับผมเป็นรายแรก
• การกระทำเช่นนี้ เข้าข่ายทุจริต ในหน้าที่ไหม
• ผู้จัดการอาจอ้างว่า บริษัทไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของผม กับเซลล์ ตกลงกัน อาจมีอีกหลายคนแย้งว่า แต่เซลล์ ก็ทำงานภายใต้ชื่อของบริษัทคุณ
• บางคนอาจตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายในวงกว้าง คนอาจจะจำชื่อเซลล์ ไม่ได้ แต่เวลาเอาไปพูดต่อ ยังไงก็ต้องอ้างอิงไปที่ เซลล์บริษัท.... หรือ กว้างกว่านั้น ก็อาจเป็น เซลล์รถแบรนด์....
• ถ้าเป็นเช่นนี้ ดีลเลอร์ แบรนด์ระดับนี้ ควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
⁉️อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินครับ เพราะเรื่องเพิ่งเริ่มต้น...
บ่ายโมงวันนี้ (พุธ 10 มค. 2561) ผมมีนัดไปคุยกับผู้จัดการบริษัท เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครับ อยากทราบไหมครับว่า เรื่องจะลงเอยอย่างไร
#จดทะเบียนรถยนต์ #ปัญหาจองเลขแล้วไม่ได้
“เซลล์รถหรู เจตนาเชิดเงินค่าทะเบียนเลขสวย ?”
ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อน เรื่องที่เขียนขึ้นนี้ ผมไม่ได้เขียนด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง หรือมีเจตนากลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการส่วนตัว
แต่อยากแบ่งปันเรื่องนี้ ให้เป็นเครื่องเตือนภัย และ เตือนใจ เป็นกรณีศึกษาให้กับคนอื่น และหากผู้อ่านเห็นเป็นประโยชน์ จะส่งต่อเรื่องราวนี้ก็ขอให้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล ซึ่งผมไม่อาจบังคับได้
ต้นปีที่แล้ว (พ.ศ. 2560) ผมตัดสินใจซื้อรถใหม่ ยี่ห้อหนึ่งที่มีโลโกเป็นรูปใบพัดสีฟ้าสลับสีขาว จากเดิมที่เคยขับแต่รถญี่ปุ่นมาเกือบ 20 ปี
ตามประสาลูกค้า ผมลองตัดสินใจเปรียบเทียบจากหลาย ดีลเลอร์ เจ้าแรกเป็นที่ดีลเลอร์ที่อยู่ใกล้บ้าน โดยผมวอล์กอิน เข้าไปดูรถ และทดลองขับ ผ่านตัวแทน ชื่อตัวอักษรย่อว่า น้อง อ. (ซึ่งชื่อย่อมาจากกคำภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า น้ำมัน) ซึ่งให้การดูแลอย่างดี กับอีก ดีลเลอร์หนึ่ง ได้รับการแนะนำผ่านผู้จัดการศูนย์
ด้วยความประทับใจในบริการของน้อง อ. ตั้งแต่ ข้อเสนอ การติดตามงาน ช่วยเป็นธุระในการขายรถคันเดิม รวมไปถึง หาฤกษ์ออกรถ และอีกมากมาย ผมจึงตัดสินใจซื้อรถกับเธอด้วยความไว้วางใจ และเห็นว่า เธอเป็นคนแรกที่ติดต่อด้วย อยากให้โอกาสน้องเค้าได้ยอด
เมื่อซื้อไปแล้ว เธอก็ยังดูแลเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่เมื่อถึงเวลาต้องเอารถเข้าไปเช็คระยะ น้อง อ. ก้ช่วยติดต่อทำนัดให้ แถมยังใจดีเสนอให้เอารถเธอไปใช้ทำธุระ ระหว่างที่รอรับรถ ซึ่งเธอก็บอกว่า ทำให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ผมก็ปฏิเสธเธอไป ด้วยความเกรงใจ
จนถึง เดือน สิงหาคม 2559 ผมสอบถามเรื่องการจดป้ายทะเบียนรถกับเธอ
ด้วยความใส่ใจลูกค้าของน้อง อ. เธอเสนอหาเลขประมูลสวยๆ ให้ ตอนแรกผมบอกเธอไปว่า ตั้งแต่ขับรถมา ผมก็ไม่เคยเสียเงินเพื่อซื้อเลขสวย แต่เธอให้เหตุผลจูงใจว่า ทะเบียนเลขสวย เป็นสมบัติของเรา สามารถเอาไปใส่ รถคันต่อไป หรือขายต่อได้ น้อง อ. อาสาเป็นธุระไปหาเลขสวยๆมาให้ โดย น้อง อ. แจ้งว่าเธอไม่ได้รับคอมมิชชันใดๆ จากผู้ขายเลขประมูล ราคาที่เสนอไม่ผิดหวังแน่นอน และที่สำคัญเธอทำให้ผมเป็นกรณีพิเศษ (อีกแล้ว)
ผมจึงตัดสินใจซื้อเลขทะเ่บียนกับเธอ โดยโอนเงินให้ น้อง อ. เป็นเงิน 35,000 (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เพื่อจองเลขทะเบียนตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 โดยส่งหลักฐานการเงินให้น้อง อ.ทางไลน์ มีเพียงข้อความจากน้องเค้าตอบกลับมา โดยที่ไม่มีเอกสารยืนยันใดๆ
ด้วยความไว้ใจในตัวน้องเค้า และชื่อเสียงของแบรนด์ ทำให้ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรจากเธอ ซึ่งกลับกลายมาส่งผลเสียตามมาอย่างไม่คาดคิด ❗️
สัปดาห์ต่อมาผมติดตามเรื่องป้ายทะเบียนจากเธอ ทั้งทางโทรศัพท์ และส่งข้อความทางไลน์ พยายามขอเอกสารที่เกี่ยวกับชุดจดทะเบียน เธอก็มีข้ออ้างบ่ายเบี่ยงมาตลอด ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เช่น ตอนนี้ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ขนส่งฯ มีปัญหาเนื่องจากทุกคนมาเร่งจดทะเบียน จากกฎหมายเรื่องการถือป้ายแดงที่ออกใหม่ ทำให้ล่าช้า
ผมทวงถามถี่ขึ้น น้อง อ. ก็ผัดผ่อนมาตลอด อ้างว่า สัปดาห์หน้าจะได้บ้าง ไม่เกินกี่วันบ้าง ให้อดทนรอหน่อย
จนผ่านไป 4 เดือน (ธันวาคม 2560) เริ่มรู้สึกว่า ชักมีกลิ่นแปลกๆ จึงส่งไลน์ไปว่า ถ้ารู้ว่าเสียตังค์แล้ว จะมีปัญหาขนาดนี้ ผมไปเอาเลขอะไรก็ได้ จากขนส่งฯ ป่านนี้ คงจบเรื่องไปแล้ว
น้อง อ. ตอบกลับมาว่า รู้สึกไม่สบายใจ และไม่อยากทำให้เรื่องนี้ทำให้เราไม่รักกัน เธอเสนอที่จะคืนเงินนั้นให้ผม และยืนยันว่าจะได้ป้ายก่อนปีใหม่ (พ.ศ. 2561)
ในตอนนนั้น ผมเห็นว่า ในเมื่อก็รอมาถึงขั้นนี้แล้ว จะได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ ผมจึงตัดสินใจบอกให้เธอรีบไปจัดการ หลังจากนั้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากน้อง อ. อีกเลย ไลน์ ไปถาม ก็ไม่ขึ้นว่า อ่าน
“ความจริงมาปรากฏ” เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามที่ฝ่ายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ได้ความว่า
1. ระบบคอมฯที่ขนส่งไม่เคยล่ม อย่างที่เธอกล่าวอ้าง
และ 2.ที่พีคที่สุดคือ เลขทะเบียนที่ผมโอนให้เงิน 35,000 บาท ให้ น้อง อ. ไปจัดการให้นั้น ถูกจดทะเบียนไปแล้ว แต่ในชื่อคนอื่น‼️ 😱😱
พีค มั้ยล่ะครับ
ถึงตอนนี้ผู้อ่านอาจจะตั้งข้อสังเกตหรือคิดไปได้หลายประเด็นครับ
• น้อง อ. เอาเงินไปหมุนใช้ก่อน หรือ เชิดเงินไปแล้ว
• น้อง อ. คงไม่ได้ทำกับผมเป็นรายแรก
• การกระทำเช่นนี้ เข้าข่ายทุจริต ในหน้าที่ไหม
• ผู้จัดการอาจอ้างว่า บริษัทไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของผม กับเซลล์ ตกลงกัน อาจมีอีกหลายคนแย้งว่า แต่เซลล์ ก็ทำงานภายใต้ชื่อของบริษัทคุณ
• บางคนอาจตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายในวงกว้าง คนอาจจะจำชื่อเซลล์ ไม่ได้ แต่เวลาเอาไปพูดต่อ ยังไงก็ต้องอ้างอิงไปที่ เซลล์บริษัท.... หรือ กว้างกว่านั้น ก็อาจเป็น เซลล์รถแบรนด์....
• ถ้าเป็นเช่นนี้ ดีลเลอร์ แบรนด์ระดับนี้ ควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
⁉️อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินครับ เพราะเรื่องเพิ่งเริ่มต้น...
บ่ายโมงวันนี้ (พุธ 10 มค. 2561) ผมมีนัดไปคุยกับผู้จัดการบริษัท เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครับ อยากทราบไหมครับว่า เรื่องจะลงเอยอย่างไร
#จดทะเบียนรถยนต์ #ปัญหาจองเลขแล้วไม่ได้