ระเบียงเศรษฐกิจ เป็นคำที่คนไทยยุคนี้เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว ซึ่งนโยบายระเบียงเศรษฐกิจมีขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในโซนเอเชียและอัฟริกา โดยเป็นการพัฒนาพื้นที่ที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นหนักทางด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลักก่อน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงในกิจกรรมส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น
โครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะครอบคลุมทุกระบบที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางถนนปกติ ทางด่วน ทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน โดยสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ๆ โดยรอบ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ส่วนกิจกรรมในระเบียงเศรษฐกิจจะมีทั้งอุตสาหกรรม เทคโนโลยี บริการ การขนส่ง ฯลฯ โดยนอกจากจะคำนึงถึงด้านธุรกิจแล้ว ยังต้องสนใจด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันด้วย เพื่อให้ครอบคลุมการพัฒนาทุกด้าน โดยไม่ทิ้งด้านใดด้านหนึ่งไว้
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังดำเนินโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในเขต 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว เมื่อมีการต่อยอดการพัฒนา จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนักลงทุนจากต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุน และเสนอขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจำนวนมาก
เมื่อแนวคิดโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกถูกนำมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มที่ดี จึงทำให้เกิดแนวคิดในการต่อยอดระเบียงเศรษฐกิจไปยังพื้นที่อื่น ๆ อีก เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างโอกาสในการจ้างงาน และการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่หัวเมืองสำคัญ
โดยสมาคมการผังเมืองไทยเห็นว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะทำระเบียงเศรษฐกิจได้อีกหลายแห่ง จึงจะเสนอรัฐบาลให้พิจาณาผลักดันให้เกิดขึ้นอีกอย่างน้อย 5 แห่งจากทั้งหมด 15 แห่ง ได้แก่
1. ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กำลังศึกษาอยู่
2. ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย)
3. ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลางตอนบน (สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว)
4. ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (พัทลุง หาดใหญ่ สะเดา)
5. ระเบียงเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวภาคใต้ (ภูเก็ต พังงา และกระบี่)
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ 15 แห่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประกอบด้วย
ภาคเหนือ 2 กลุ่ม
1. ระเบียงภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่-เชียงราย-แม่สาย)
2. ระเบียงภาคเหนือตอนล่างหรือภาคตะวันตก หรือ EWEC (พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 กลุ่ม
1. ระเบียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (อุดรธานี-หนองคาย)
2. ระเบียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง (ขอนแก่น-มหาสารคาม-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร)
3. ระเบียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (นครราชสีมา-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี)
ภาคกลาง 5 กลุ่ม
1. ระเบียงภาคกลางตอนบนด้านตะวันตก (พระนครศรีอยุธยา-สุพรรณบุรี-ราชบุรี (บ้านโป่ง)-กาญจนบุรี)
2. ระเบียงภาคกลางตอนบนด้านตะวันออก (สระบุรี-นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว)
3. ระเบียงภาคกลางตอนล่างด้านตะวันตก 1 (นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์)
4. ระเบียงภาคกลางตอนล่างด้านตะวันตก 2 (สมุทรปราการ-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม)
5. ระเบียงภาค กลางตอนล่างด้านตะวันออก (ชลบุรี- ฉะเชิงเทรา-ระยอง-จันทบุรี-ตราด)
ภาคใต้ 5 กลุ่ม
1. ระเบียงภาคใต้ตอนบน 1 (ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี)
2. ระเบียงภาคใต้ตอนบน 2 (พังงา-ภูเก็ต-กระบี่)
3. ระเบียงภาคใต้ตอนล่าง 1 (พัทลุง-สะเดา-หาดใหญ่)
4. ระเบียงภาคใต้ตอนล่าง 2 (หาดใหญ่-ยะลา-เบตง)
5. ระเบียงภาคใต้ตอนล่าง 3 (ปัตตานี-นราธิวาส-ตากใบ)
อ่านเพิ่มเติม: ดัน 6 กลุ่มนำร่อง 15 ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ http://www.thansettakij.com/content/249843?ts
หากแนวคิดการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจทั่วทุกภาคของไทยสามารถเกิดขึ้นจริงได้ จะเป็นการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด แม้จะใช้ระยะเวลานาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันจนเกินไป และทำให้เกิดความหวังของการพึ่งพาตนเองได้ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคนี้ ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมไปด้วยกัน ซึ่งหากไม่พัฒนาหรือไม่เปลี่ยนแปลงก็เท่ากับการย่ำอยู่กับที่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาจะเป็นส่วนที่ทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และจะไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน หากเราทุกคนร่วมมือร่วมใจทำไปด้วยกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ
อีอีซีผลักดันแนวคิดระเบียงเศรษฐกิจทั่วไทย
โครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะครอบคลุมทุกระบบที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางถนนปกติ ทางด่วน ทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน โดยสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ๆ โดยรอบ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ส่วนกิจกรรมในระเบียงเศรษฐกิจจะมีทั้งอุตสาหกรรม เทคโนโลยี บริการ การขนส่ง ฯลฯ โดยนอกจากจะคำนึงถึงด้านธุรกิจแล้ว ยังต้องสนใจด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันด้วย เพื่อให้ครอบคลุมการพัฒนาทุกด้าน โดยไม่ทิ้งด้านใดด้านหนึ่งไว้
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังดำเนินโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในเขต 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว เมื่อมีการต่อยอดการพัฒนา จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนักลงทุนจากต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุน และเสนอขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจำนวนมาก
เมื่อแนวคิดโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกถูกนำมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มที่ดี จึงทำให้เกิดแนวคิดในการต่อยอดระเบียงเศรษฐกิจไปยังพื้นที่อื่น ๆ อีก เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างโอกาสในการจ้างงาน และการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่หัวเมืองสำคัญ
โดยสมาคมการผังเมืองไทยเห็นว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะทำระเบียงเศรษฐกิจได้อีกหลายแห่ง จึงจะเสนอรัฐบาลให้พิจาณาผลักดันให้เกิดขึ้นอีกอย่างน้อย 5 แห่งจากทั้งหมด 15 แห่ง ได้แก่
1. ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กำลังศึกษาอยู่
2. ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย)
3. ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลางตอนบน (สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว)
4. ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (พัทลุง หาดใหญ่ สะเดา)
5. ระเบียงเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวภาคใต้ (ภูเก็ต พังงา และกระบี่)
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ 15 แห่ง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากแนวคิดการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจทั่วทุกภาคของไทยสามารถเกิดขึ้นจริงได้ จะเป็นการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด แม้จะใช้ระยะเวลานาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันจนเกินไป และทำให้เกิดความหวังของการพึ่งพาตนเองได้ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคนี้ ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมไปด้วยกัน ซึ่งหากไม่พัฒนาหรือไม่เปลี่ยนแปลงก็เท่ากับการย่ำอยู่กับที่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาจะเป็นส่วนที่ทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และจะไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน หากเราทุกคนร่วมมือร่วมใจทำไปด้วยกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้