ทริปเสี่ยงตายแต่ความสวยไม่มีวันลืม แคชเมียร์ - เลห์ ลาดัก – อักรา (Kashmir - Leh - Agra)

พอมีเวลาก็มาลงรีวิวการเที่ยวของปีที่แล้วหลังจากเพิ่งลงกระทู้โอกินาว่าไปขอลงอินเดียต่อเลยละกันค่ะ

เริ่มจากเห็นรีวิวในพันทิพนี่แหละ ทำให้เราและเพื่อนๆ ตัดสินใจจะไปอินเดียกัน ในตอนแรกคิดว่าจะไปแค่เลห์ กับอักราแค่นั้น แต่อุปสรรคคือตั๋วแพงและไม่ลงตัวทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนแพลน ไม่มีอะไรได้อย่างใจเลย ต้องมีอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นก่อนไปตลอด ลุ้นทั้งทริป

จองตั๋วกันข้ามปีเชควันที่ลงตัวและหวยก็ออกเป็นช่วง ปลายเดือนพฤษภาจนถึงต้นเดือนมิถุนายน 2017 รวมทั้งหมด 8 วัน ทุกคนยุ่งมากไม่มีใครแพลนอะไรไว้ จากตอนแรกจะไป 8 คนแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้ทุกคน ถอนตัวกันเหลือแค่ 5 ชีวิต เราคิดกันว่าไหนๆ เราจะไปประเทศที่ถูกกล่าวขานในเรื่องความลำบากและสุขอนามัยที่ไม่ค่อยจะดีและค่อนข้างอันตราย เราก็ไปมันให้ครบที่เค้าว่าสวยๆ กันทางเหนือ ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วแบบนี้ กรุงเทพ - ลงนิวเดลี ละต่อเครื่องไปลง แคชเมียร์ จากแคชเมียร์เช่ารถไปเที่ยวตามทางจะถึงเลห์ ละจากเลห์นั่งเครื่องกลับไปเดลี ละนั่งรถไปอักรา เพื่อชม ทัชมาฮาล

ปรึกษาพี่ๆ น้องๆ ที่เคยไป ต้องขอใบผ่านเข้าแคว้นแคชเมียร์และเข้าแคว้นลาดัก แต่เดี๋ยวนี้พอเราสามารถขอวีซ่าออนไลน์ได้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องขอแล้ว ไปขอและจ่ายเงินตอนไปถึงเลย คนละไม่ถึงสามร้อยบาท เดี๋ยวนี้การขอวีซ่าออนไลน์ก็สะดวกมากๆ ค่าใช้จ่าย 50 เหรียญ

มา เข้าเรื่องเลย ก่อนวันเดินทางสามวันเพื่อนอินเดียมาเตือนว่าตอนนี้ในแคว้นแคชเมียร์ไม่สงบถูก curfew อยู่เพราะเหตุการปะทะใหญ่ระหว่างประชาชนละทหาร (เล่าคร่าวๆ ว่า แคชเมียร์และลาดักเคยเป็นของจีนมาก่อนละถูกอินเดียยึดมา สองแคว้นนี้มีวัฒนธรรมและศาสนาต่างออกไปจากส่วนอื่นๆ จึงอยากจะขอแยกตัวออกจากอินเดียหรืออยากเป็นเขตปกครองตนเอง รัฐบาลจึงส่งทหารเข้ามาหวังจะยึดคืน แต่ก็ยังทำไม่ได้) พวกเราก็แอบกลัว เอาไงดีวะไปไม่ไปๆๆๆ เพราะเพื่อนโดนหินปาใส่เข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว แต่เราคิดว่าเหตุการณ์มันสองเดือนมาละ เอาวะ ไม่เปลี่ยนแผนเว้ย และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

เราเที่ยวแบบนี้ค่ะ Srinagra - Pahalgam – Sonamarg ละก็จาก Sonamarg – Drass – Kargil – Lamayaru – LEH – Pangon – Leh  ละบินกลับมา Delhi -  Agra

ฝ่าฝันอุปสรรคความจุ๊งตั้งแต่เริ่มบินเกือบไมได้เช็กอินเพราะทำบัตรเครดิตหาย และจองตั๋วไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว (สายการบิน indigo แต่ติดต่อแบงค์และบอกถึงความจำเป็นและทางสายการบินต้องการเลข 4 ตัวหน้าและ 4 ตัวสุดท้ายเผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน) ละก็ได้มาถึงนิวเดลีจนได้ มีการลืมกระเป๋าไว้บนเครื่องเพื่อความสนุกสนานเล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปด้วยดี


ไปต่อเครื่องเพื่อไปศรีนาคา แคชเมียร์ เราเข้าพักที่นี่ New World Guest House หายากหน่อยโรงแรมในหลืบแต่ราคาถูกและที่โชคดีกว่านั้นคือเจ้าของโรงแรมให้เราเช่ารถและเป็นไกด์ให้เราด้วย โชคดีมากๆ

เจ้าของโรงแรมที่มาเป็นไกด์และรรถของเขา


ไมได้นอนบนบ้านเรือนะคะ รู้สึกหนาวมากละก็อากาศไม่ค่อยน่านอน ไปแวะเดินเที่ยวอย่างเดียว การเดินทางที่นี่ลำบากค่ะต้องมีรถเท่านั้นไม่แนะนำให้ไปคนน้อยๆ เพราะค่าใช้จ่ายจะแพงขึ้น 5 – 8 คนกำลังดี

มีรูปให้ดูประกอบนิดหน่อยค่ะ เผื่อใครชอบและอยากไปตามรอย อากาศหนาวพอสมควร เดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากถนนและการต้องขึ้นเขาลงเขาตลอดทริป มาถึงสามวันแรกเป็น Altitude sickness ค่ะ เหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน ง่วงตลอดเวลา แต่อึดและใจรักก็พยายามฝืนๆ ตัวเอง ละก็กิน Diamox ร่วมด้วยค่ะ อีกอย่างเรื่องอาหาร ใครไม่ชอบเครื่องเทศแนะนำให้พกปลากระป๋องทูน่าทุกรสหรือมาม่าทุกรสที่สามารถนำไปได้ค่ะ และที่นี่คนไม่กินเนื้อสัตว์เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็น vegetarian ค่ะ แต่ชอบกินอาหารอินเดียเลยอยู่รอดตาย อิอิ

อยากบอกว่าถ้าได้มีโอกาสไปแคว้นเลห์อยากให้ไปเที่ยวแคว้นแคชเมียร์ด้วย
สองแคว้นนี้ค่อนข้างมีความต่างกันค่ะ แคว้นแคชเมียร์จะค่อนข้างสวยแบบเขียวๆ แต่เลห์จะสวยแบบแห้งๆ ค่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ แล้วแต่คนชอบค่ะ

ส่วนข้อมูลพวกชื่อสถานที่อาจไม่ละเอียดเท่าที่ควรคือไปมาตั้งแต่มิถุนาปี 2017 แต่ไม่มีโอกาศได้เขียนกระทู้ซักที ช่วงนี้ว่างละก็จัดซักหน่อย ก็มีลืมๆ ชื่อสถานที่ไปบ้าง ขออภัยไว้ล่วงหน้าค่ะ

เริ่มกันที่แคว้นแรก Srinagra - Pahalgam - sonamarg สามเมืองในแคว้นแคชเมียร์ที่พวกเรา ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวได้ไปเห็นมา หลังจากที่ตอนแรกคิดกันหนักมากว่าจะไปดีไหม เนื่องจากสถานะการณ์ความปลอดภัยค่อนข้างไม่ค่อยดีเนื่องจากการเมืองในท้องถิ่นทำให้มีม็อบประชาชนปะทะกับทหาร แต่หลังจากได้ไปมาเมื่อต้นเดือนก็พบว่าเหตุการณ์สงบแล้วแต่ยังมีเคอร์ฟิวส์อยู่ แต่ความกลัวทั้งหลายทั้งแหลจะหมดไปในบัดดลเมื่อได้เห็นสถานที่ๆ แคว้นนี้ครอบครองอยู่ สวยอลังการงานสร้างลงทุนไม่กี่พันแต่วิวและประสบการณ์ที่จะได้เจอระดับล้าน ลองดูรูปละกันนะ

นั่งรถเที่ยวใน หนึ่งวัน ตามไกด์ทัวร์พาไปได้กินอาหารท้องถิ่นอร่อยมากๆ ค่ะ

บ้านเรือและที่เที่ยวในศรีนาคา






ออกนอกเมืองมาหน่อย


หน้าตาอาหารที่นี่



พอวันที่ 2 ก็ได้ไปเที่ยวที่ Pahalgam ขี้ม้าขึ้นเขาไปตามจุดต่างๆ ค่ะ ขึ้นไปแค่จุดพักเดียวเพราะเวลาน้อย ก็จะเห็นได้จากรูป ฟ้ามืดๆ หน่อยเพราะฝนตกตอนนั้นพอดี



ก็จะมีคนท้องถิ่นมาขายของนะคะ จะตื้อๆๆ หนักมาก ต้องใจแข็งค่ะ เพราะของจะแพงเป็นพิเศษ




หลังจากลงมาได้ลองเล่นล่องแก่งที่น้ำเย็น 0 องศาตามที่คนท้องถิ่นบอก ซึ่งก็เชื่อค่ะเพราะน้ำเหมือนโดนเอาน้ำแช่น้ำแข็งมาสาดกันเลยทีเดียวเพราะน้ำมันไหลมาจากภูเขาหิมะ สนุกมากแบบไหลแรงสุดๆ และก็หนาวมาก กรีดร้องแบบว่าไม่ใช่เสียวนะ เย็นนนน


พวกเราพักและเที่ยวที่ Srinagra สองคืน พอวันที่สามก็ออกเดินทางโดยรถและได้เจ้าของโรงแรมมาเป็นไกด์พาไปส่งถึงเลห์เลยค่ะ ถ้าสนใจติดต่อไปได้ที่โรงแรมนี้นะคะ

ระหว่างทางเราก็จะเห็นวิวสวยตลอดเลยแต่พีคหน่อยก็คือรถติดบนเขาที่เราจะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ มีหินกลิ้งหล่นลงมาทับรถบ้างประปรายค่ะ แฮ่ๆ –“ ก็จะเสียวๆ หน่อย




มาถึงกลางทางแวะที่ sonamarg สวยมากกกกกกกกกกกกก เหมือนอยู่สวิสยังไงยังงั้น ที่นี่จะเป็นแหล่งที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแบบโดยเฉพาะ มีรีสอร์ท มีร้านอาหาร แต่คนไม่เยอะมาก ดีงามจริงๆ ต้องจ้างม้าขึ้นไปค่ะ ขึ้นไปตรงหิมะ ข้างบน สวยมากๆ เลยค่ะ





ขึ้นมาแล้วแบบนึกว่าอยู่ในนิยาย


ต่อไปก็จะเป็นการเดินทางจาก Sonamarg – Drass – Kargil – Lamayaru จนมาถึง Leh  

หลังจากตรง Sonamarg มาหนทางก็จะเหมือนเข้าไปในหนังสือนิยายผจญภัยกันเลย สองข้างทางมีเขาสวยๆ สีแปลกๆ สูงๆ ชันๆ แม่น้ำ หิมะ มีทุกอย่าง ต้องผ่านด่านตรวจที่ Drass ก่อน ก็จะเจอป้ายเข้าแคว้นเลห์









มาจนถึง Kargil เป็นเหมือนเมืองโอเอซิสเลยค่ะ เมืองเล็กๆ แต่น่ารักอากาศดี ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเป็นเหมือนเมืองที่ไว้พักระหว่างทางไปเลห์ ผู้คนจะตื่นเต้นกับนักท่องเที่ยวค่ะ

มีตลาด มีแม่น้ำ มีปั๊มน้ำมันนอนหนึ่งคืนค่ะ โรงแรมอยู่ริมแม่น้ำเลย เจ้าของโรงแรมใจดีมากให้คนขับและไกด์นอนฟรีเช้าวันต่อมาก็ออกเดินทางต่อ


หยุดพักกินข้าวที่ Lamayaru เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเลห์ขับรถมาเที่ยวค่ะ แต่เราแวะระหว่างทางไปเลยเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาทางเดิม




เดี๋ยวมาต่อค่ะตัวหนังสือเต็มลิมิตละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่