For foreigner:
https://wangchinlong.wordpress.com/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เว็บไซต์นี้เราได้จัดทำขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่ะ
ดอกไม้ตอนนี้เธอไปอยู่ไหน...ถ้าใจเธอให้ใครและฉันจะอยู่อย่างไร...ถ้าขอพรจากฟ้าของหนึ่งได้...จะขอเธอกลับมาอย่าให้ไปรักใคร
นั่นมันก็เรื่องของหน้าหนาวที่เเล้ว
หน้าหนาวนี้ เราไปเที่ยวเเพร่ เวอชั่น เดิน เข้า ป่า
ถ้าพูดถึงจังหวัดเเพร่ ทุกคนจะนึกถึงอะไรคะ? เเพะเมืองผี พระธาตุช่อเเฮ บ้านวงศ์บุรี หรือคุ้มเจ้าหลวง?
สถานที่ยอดนิยมเหล่านี้ อยู่บริเวณตัวเมืองเเพร่
เเต่พวกเรา เยาวชนผู้กำลังออกจากกะลา จะพาทุกท่าน ไปเที่ยว อ.ลอง เเละ อ.วังชิ้น ค่ะ
ทริปนี้ มีผู้ร่วมเดินทาง ทั้งหมด 5 คนค่ะ
เจอกันที่สถานีรถไฟนะเพื่อนๆ
ณ สถานีรถไฟเด่นชัย สวยงาม สะอาด สงบ
ตั๋วรถไฟ (รถธรรมดา) จากสถานีเด่นชัย-สถานีบ้านปิน ราคา156 บาท
ในตารางรถไฟ รถไฟจะออก 7.20 น. - 7.55 น.
เเต่วันนี้ รถออกช้ากว่ากำหนดเป็น 8.30น.-9.05น.
(ถ่ายรูปรอวนไปค่ะ)
รถไฟมาเเล้ววว~ วิวข้างทาง สวยงามประทับใจมากค่าา
ถึงสถานีบ้านปิน บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ
พวกเราได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ปกครอง ช่วยรับส่ง ไปสถานที่ต่างๆ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ที่เเรกที่จะเดินทางไปก็คืออ ภูเขาหินปะการัง ในอุทยานเเห่งชาติดอยผากลอง ค่ะ ออกจากตัวเมืองลองไปประมาณ20 กม.
ได้เจอกับ พี่ทิม เเละ พี่นุก เป็นเจ้าหน้าที่อุทยาน พี่ๆทั้งสองคนให้บริการอย่างเป็นกันเอง ประทับใจมากค่ะ
พี่นุกก็ช่วยเเนะนำทริปที่วางเเผนไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้น พี่ทิมก็พาพวกเราเยาวชน เดิน เข้า ป่าาาา
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีอยู่ 4 จุด ดังนี้ค่ะ
1.ถ้ำแอร์ธรรมชาติ
2.ถ้ำผากลอง
3.เขาหินปะการัง
4.ดงตะแบก
เราจะไปกันที่
ถ้ำเเอร์ธรรมชาติ เเละภูเขาหินปะการังกันค่ะ
เพราะ ถ้ำผากลองปิดไม่เปิดให้ได้ชมเนื่องจาก ช่วงนี้หนทาง อันตรายค่ะ
ส่วนดงตะเเบก ยังไม่ได้ไปเนื่องจาก ช่วงนี้ดอกไม่บาน(จะบานช่วงฤดูฝนค่ะ) อีกทั้งระยะทางไกล จะไม่ทันตามกำหนดการค่ะ
เดินลอด อุโมงค์ไผ่ เดินไปเรื่อยๆ เเม้หนทางจะยากลำบาก ชันขึ้นเรื่อยๆ
เหนื่อยหน่อย ชมวิวสวยๆสักนิด ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
เดินทางกันมาเหนื่อยๆ ก็รู้สึกได้ถึงอาการหอบเล็กๆ ไปตากแอร์กัน ไม่ใช่เเอร์เบอร์5อะไรหรอกค่ะ
เเต่เป็น แอร์ธรรมชาติ~ เย็นชื่นใจจีงๆ
พักกันให้หายเหนื่อย ก็เดินทางไปที่ต่อปายย
ทางเดินช่วงนี้ก็จะทรหดอยู่หน่อยค่ะ เป็นบันไดบ้าง เป็นหิน(แหลมคม)บ้างก็มี ต้อเดินอย่างระมัดระวังค่ะ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงกองทัพยุงป่าริมทาง ที่พร้อมจะหามเราไปได้ทุกเมื่อ
ถึงจุดหมาย คุ้มค่ากับเลือดที่บริจาคให้น้องยุงเป็นอย่างยิ่งค่ะ! ภาพที่เห็นคือภูเขาหินที่มีหินเเหลมๆบางๆสีเทาๆสลับเฉดกันไปมาคล้ายปะการังใต้ท้องทะเล มีเรียกได้ว่าธรรมชาติสรรค์สร้างจริงๆค่ะ ภูเขาหินปะการังนี้ มีอายุมากกว่า270ล้านปี ตรงกับยุคเพอร์เมียน เป็นยุคก่อนไดโนเสาร์เสียอีกค่ะ! เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเเละการที่ฝนกรดที่ตกลงมาเเต่ละปีกัดกร่อนหินบริเวณนี้ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่สึกกร่อนได้ง่ายนั่นเองค่ะ
ช่วงที่พวกเรามาเป็นช่วงเดือนธันวาคม ก็จะมีความเเห้งเเล้งนิดหน่อยค่ะ เเต่ประมาณเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ป่าที่เป็นป่าเต็งรังจะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีส้มค่ะ อาจมีสีม่วงซึ่งเป็นสีของดอกเครือออนมาเเซมช่วงเดือน มีนาคม ถึง เมษายน ด้วยค่า
มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้อย่างทั่วบริเวณ สวยงามมากๆค่ะ เราจะเห็นพืชชนิดนี้ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณเลยค่ะ เรียกว่า ต้นจันผา ค่ะ
ถึงจุดนี้ก็สิ้นสุดการเดินทางทีภูเขาหินปะการังเป็นอันเรียบร้อยค่ะ
พวกเราเดินทางกลับ ระหว่างทางก็เห็นพืชบางชนิดที่ไม่ค่อยได้พบเห็น
เช่น ต้นกากหมากตาฤาษี(ชื่อเเปลกฝุดๆ) เป็นพืชประเภทกาฝาก อยู่ในวงศ์ ขนุนดินค่ะ ที่เรียกว่าขนุนดิน เพราะช่อของเพศเมียขนุนดินนั้นคล้ายกับช่อดอกขนุนอ่อนๆนั่นเอง
ได้เห็นดอกของต้นลิ้นมังกร ซึ่งปกติไม่ค่อยจะได้พบ
ต้นข่อยหนามซึ่งขึ้นอย่างเเพร่หลายในบริเวณป่า
ต้นชายผ้าสีดา
เถาวัลย์กระไดลิง(ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง
)
ประมวลภาพกันเสียหน่อยยย
น้องตุลย์กับน้องสเเตมป์ โอ๊ยยย เด็กน้อยน่ารักจริงๆ
ขอขอบคุณ พี่ทิมเเละพี่นุกเป็นอย่างสูงค่ะ
ออกจากป่าเเล้วก็ไปเติมพลังกัน เดินทางกลับเข้าตัวเมืองลอง ตามหาอาหารอันเลื่องชื่อ นั่นก็คือ
ขนมจีนน้ำย้อยเเม่ลาน ค่ะ
ร้านที่เราได้ไปลองลิ้มชิมรสนี้ เป็นร้านดั้งเดิมระดับตำนานกันเลยทีเดียว ชื่อว่าร้าน
ธงชัยน้ำย้อยเเม่ลาน ค่า
เหตุที่เรียกว่า “ขนมจีนน้ำย้อย” นั้นก็มีที่มาจากการทำเส้นขนมจีนขายแบบสดๆใช้แป้งข้าวเจ้ามาทำขนมจีน แล้วทำการบีบเส้นขนมจีนสดๆ ลงในกระทะที่ต้มน้ำเดือดไว้จนเส้นสุก แล้วก็นำเส้นขนมจีนมาล้างน้ำ สะเด็ดน้ำจับขายได้ทันที ตอนจับเส้นขนมจีนล้างสะเด็ดน้ำ จะมีน้ำไหลย้อย จึงเป็นที่มาของชื่อขนมจีนน้ำย้อย ค่ะ
ของที่ขาดไม่ได้ก็คือ "น้ำพริกน้ำย้อย" ค่ะ เป็นน้ำพริกที่มีส่วนผสมของพริก กระเทียม และหอมเจียว ที่นำมาทอด แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส ได้น้ำพริกแห้งๆกินคู่กับเส้นขนมจีน อร่อยถูกปากสุดๆไปเลยค่ะ
เมนูพวกเราสั่งได้เเก่
ขนมจีนน้ำย้อย น้ำหมู น้ำเงี้ยว ตำไทย และตำปลาร้าค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ ราคาสบายกระเป๋า
เติมพลังเสร็จเเล้ว ไปเปิดโลกแฟชั่นกันที่
โกมลผ้าโบราณ
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ในตัวเมืองลอง ตรงข้ามโรงเรียนลองวิทยาค่ะ อาคารพิพัธภัณฑ์โดดเด่นมาก ไม่มีจำผิดเเน่นอนค่า ฮ่าฮ่า
เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจัดเเสดงผ้าซิ่นตีนจกที่มีอายุเก่าเเก่นับร้อยปี ซึ่งได้รับการรวบรวมโดย อาจารย์โกมล พานิชพันธ์
เหตุที่เรียกว่า"ผ้าซิ่นตีนจกนั้น" เนื่องจากตัวผ้าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ หัวซิ่น ใช้ผ้าขาวและแดง ต่อกัน ตัวซิ่นมีลาย ทางขวาง และ ตีนซิ่นหรือตีนจก ใช้เทคนิคการจกที่มีลวดลายดอกโดยใช้สีตัดกัน นิยมใช้ เส้นใยฝ้ายหรือไหมสีเหลืองเป็นสีหลักในการจกตกแต่งลวดลาย เมื่อนำทั้งสามส่วนมาต่อกันจะเรียก “ซิ่นตีนจก” มีความสวยงามมากค่ะ ผ้าซิ่นเเต่ละผืนจะมีลวดลายไม่ซ้ำกัน เรียกได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะของผู้ทอค่ะ
ภายในพิพิธภัณฑ์นอกจากมีผ้าโบราณ ของเมืองลองอายุร้อยกว่าปี ยังมีผ้าที่ได้รับรางวัลจากการประกวดทั้งในและต่างประเทศ ผ้าที่ทอขึ้นใหม่ใน โอกาสพิเศษหรือเพื่อการสะสม และผ้าซิ่น จากแหล่งต่างๆทั่วประเทศ จัดไว้ให้ชมพร้อมกับภาพถ่ายการแต่งกายของเจ้านายล้านนาและราชสำนักสยาม รวมถึงเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์หลายเรื่องที่อาจารย์โกมลรับผิดชอบจัดหาเครื่องแต่งกายให้นักแสดง เช่น สุริโยทัย กษัตริยา รอยไหม และการประกวดชุดแต่งกายประจำชาติในการประกวดนางงามระดับโลกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีวัตถุโบราณจัดแสดงสลับกับผ้าตามความเหมาะสมเพื่อเล่าเรื่องราวในอดีต เช่น ภาพเขียนโบราณ ขันดอกไม้แบบล้านนา ตุง พิณเปี๊ยะ พานเงิน สลุงเงิน ดาบเหล็กลองและขันซี่ ให้ชมด้วยค่ะ
[CR] ตะลุย ลอง-วังชิ้น มันส์ได้ในวันเดียว Wangchin-Long trip, short time!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั่นมันก็เรื่องของหน้าหนาวที่เเล้ว
หน้าหนาวนี้ เราไปเที่ยวเเพร่ เวอชั่น เดิน เข้า ป่า
ถ้าพูดถึงจังหวัดเเพร่ ทุกคนจะนึกถึงอะไรคะ? เเพะเมืองผี พระธาตุช่อเเฮ บ้านวงศ์บุรี หรือคุ้มเจ้าหลวง?
สถานที่ยอดนิยมเหล่านี้ อยู่บริเวณตัวเมืองเเพร่
เเต่พวกเรา เยาวชนผู้กำลังออกจากกะลา จะพาทุกท่าน ไปเที่ยว อ.ลอง เเละ อ.วังชิ้น ค่ะ
ทริปนี้ มีผู้ร่วมเดินทาง ทั้งหมด 5 คนค่ะ
เจอกันที่สถานีรถไฟนะเพื่อนๆ
ณ สถานีรถไฟเด่นชัย สวยงาม สะอาด สงบ
ตั๋วรถไฟ (รถธรรมดา) จากสถานีเด่นชัย-สถานีบ้านปิน ราคา156 บาท
ในตารางรถไฟ รถไฟจะออก 7.20 น. - 7.55 น.
เเต่วันนี้ รถออกช้ากว่ากำหนดเป็น 8.30น.-9.05น. (ถ่ายรูปรอวนไปค่ะ)
รถไฟมาเเล้ววว~ วิวข้างทาง สวยงามประทับใจมากค่าา
ถึงสถานีบ้านปิน บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ
พวกเราได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ปกครอง ช่วยรับส่ง ไปสถานที่ต่างๆ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ที่เเรกที่จะเดินทางไปก็คืออ ภูเขาหินปะการัง ในอุทยานเเห่งชาติดอยผากลอง ค่ะ ออกจากตัวเมืองลองไปประมาณ20 กม.
ได้เจอกับ พี่ทิม เเละ พี่นุก เป็นเจ้าหน้าที่อุทยาน พี่ๆทั้งสองคนให้บริการอย่างเป็นกันเอง ประทับใจมากค่ะ
พี่นุกก็ช่วยเเนะนำทริปที่วางเเผนไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้น พี่ทิมก็พาพวกเราเยาวชน เดิน เข้า ป่าาาา
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีอยู่ 4 จุด ดังนี้ค่ะ
1.ถ้ำแอร์ธรรมชาติ
2.ถ้ำผากลอง
3.เขาหินปะการัง
4.ดงตะแบก
เราจะไปกันที่ ถ้ำเเอร์ธรรมชาติ เเละภูเขาหินปะการังกันค่ะ
เพราะ ถ้ำผากลองปิดไม่เปิดให้ได้ชมเนื่องจาก ช่วงนี้หนทาง อันตรายค่ะ
ส่วนดงตะเเบก ยังไม่ได้ไปเนื่องจาก ช่วงนี้ดอกไม่บาน(จะบานช่วงฤดูฝนค่ะ) อีกทั้งระยะทางไกล จะไม่ทันตามกำหนดการค่ะ
เดินลอด อุโมงค์ไผ่ เดินไปเรื่อยๆ เเม้หนทางจะยากลำบาก ชันขึ้นเรื่อยๆ
เหนื่อยหน่อย ชมวิวสวยๆสักนิด ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
เดินทางกันมาเหนื่อยๆ ก็รู้สึกได้ถึงอาการหอบเล็กๆ ไปตากแอร์กัน ไม่ใช่เเอร์เบอร์5อะไรหรอกค่ะ
เเต่เป็น แอร์ธรรมชาติ~ เย็นชื่นใจจีงๆ
พักกันให้หายเหนื่อย ก็เดินทางไปที่ต่อปายย
ทางเดินช่วงนี้ก็จะทรหดอยู่หน่อยค่ะ เป็นบันไดบ้าง เป็นหิน(แหลมคม)บ้างก็มี ต้อเดินอย่างระมัดระวังค่ะ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงกองทัพยุงป่าริมทาง ที่พร้อมจะหามเราไปได้ทุกเมื่อ
ถึงจุดหมาย คุ้มค่ากับเลือดที่บริจาคให้น้องยุงเป็นอย่างยิ่งค่ะ! ภาพที่เห็นคือภูเขาหินที่มีหินเเหลมๆบางๆสีเทาๆสลับเฉดกันไปมาคล้ายปะการังใต้ท้องทะเล มีเรียกได้ว่าธรรมชาติสรรค์สร้างจริงๆค่ะ ภูเขาหินปะการังนี้ มีอายุมากกว่า270ล้านปี ตรงกับยุคเพอร์เมียน เป็นยุคก่อนไดโนเสาร์เสียอีกค่ะ! เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเเละการที่ฝนกรดที่ตกลงมาเเต่ละปีกัดกร่อนหินบริเวณนี้ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่สึกกร่อนได้ง่ายนั่นเองค่ะ
ช่วงที่พวกเรามาเป็นช่วงเดือนธันวาคม ก็จะมีความเเห้งเเล้งนิดหน่อยค่ะ เเต่ประมาณเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ป่าที่เป็นป่าเต็งรังจะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีส้มค่ะ อาจมีสีม่วงซึ่งเป็นสีของดอกเครือออนมาเเซมช่วงเดือน มีนาคม ถึง เมษายน ด้วยค่า
มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้อย่างทั่วบริเวณ สวยงามมากๆค่ะ เราจะเห็นพืชชนิดนี้ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณเลยค่ะ เรียกว่า ต้นจันผา ค่ะ
ถึงจุดนี้ก็สิ้นสุดการเดินทางทีภูเขาหินปะการังเป็นอันเรียบร้อยค่ะ
พวกเราเดินทางกลับ ระหว่างทางก็เห็นพืชบางชนิดที่ไม่ค่อยได้พบเห็น
เช่น ต้นกากหมากตาฤาษี(ชื่อเเปลกฝุดๆ) เป็นพืชประเภทกาฝาก อยู่ในวงศ์ ขนุนดินค่ะ ที่เรียกว่าขนุนดิน เพราะช่อของเพศเมียขนุนดินนั้นคล้ายกับช่อดอกขนุนอ่อนๆนั่นเอง
ได้เห็นดอกของต้นลิ้นมังกร ซึ่งปกติไม่ค่อยจะได้พบ
ต้นข่อยหนามซึ่งขึ้นอย่างเเพร่หลายในบริเวณป่า
ต้นชายผ้าสีดา
เถาวัลย์กระไดลิง(ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง )
ประมวลภาพกันเสียหน่อยยย
น้องตุลย์กับน้องสเเตมป์ โอ๊ยยย เด็กน้อยน่ารักจริงๆ
ขอขอบคุณ พี่ทิมเเละพี่นุกเป็นอย่างสูงค่ะ
ออกจากป่าเเล้วก็ไปเติมพลังกัน เดินทางกลับเข้าตัวเมืองลอง ตามหาอาหารอันเลื่องชื่อ นั่นก็คือ ขนมจีนน้ำย้อยเเม่ลาน ค่ะ
ร้านที่เราได้ไปลองลิ้มชิมรสนี้ เป็นร้านดั้งเดิมระดับตำนานกันเลยทีเดียว ชื่อว่าร้าน ธงชัยน้ำย้อยเเม่ลาน ค่า
เหตุที่เรียกว่า “ขนมจีนน้ำย้อย” นั้นก็มีที่มาจากการทำเส้นขนมจีนขายแบบสดๆใช้แป้งข้าวเจ้ามาทำขนมจีน แล้วทำการบีบเส้นขนมจีนสดๆ ลงในกระทะที่ต้มน้ำเดือดไว้จนเส้นสุก แล้วก็นำเส้นขนมจีนมาล้างน้ำ สะเด็ดน้ำจับขายได้ทันที ตอนจับเส้นขนมจีนล้างสะเด็ดน้ำ จะมีน้ำไหลย้อย จึงเป็นที่มาของชื่อขนมจีนน้ำย้อย ค่ะ
ของที่ขาดไม่ได้ก็คือ "น้ำพริกน้ำย้อย" ค่ะ เป็นน้ำพริกที่มีส่วนผสมของพริก กระเทียม และหอมเจียว ที่นำมาทอด แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส ได้น้ำพริกแห้งๆกินคู่กับเส้นขนมจีน อร่อยถูกปากสุดๆไปเลยค่ะ
เมนูพวกเราสั่งได้เเก่
ขนมจีนน้ำย้อย น้ำหมู น้ำเงี้ยว ตำไทย และตำปลาร้าค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ ราคาสบายกระเป๋า
เติมพลังเสร็จเเล้ว ไปเปิดโลกแฟชั่นกันที่ โกมลผ้าโบราณ
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ในตัวเมืองลอง ตรงข้ามโรงเรียนลองวิทยาค่ะ อาคารพิพัธภัณฑ์โดดเด่นมาก ไม่มีจำผิดเเน่นอนค่า ฮ่าฮ่า
เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจัดเเสดงผ้าซิ่นตีนจกที่มีอายุเก่าเเก่นับร้อยปี ซึ่งได้รับการรวบรวมโดย อาจารย์โกมล พานิชพันธ์
เหตุที่เรียกว่า"ผ้าซิ่นตีนจกนั้น" เนื่องจากตัวผ้าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ หัวซิ่น ใช้ผ้าขาวและแดง ต่อกัน ตัวซิ่นมีลาย ทางขวาง และ ตีนซิ่นหรือตีนจก ใช้เทคนิคการจกที่มีลวดลายดอกโดยใช้สีตัดกัน นิยมใช้ เส้นใยฝ้ายหรือไหมสีเหลืองเป็นสีหลักในการจกตกแต่งลวดลาย เมื่อนำทั้งสามส่วนมาต่อกันจะเรียก “ซิ่นตีนจก” มีความสวยงามมากค่ะ ผ้าซิ่นเเต่ละผืนจะมีลวดลายไม่ซ้ำกัน เรียกได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะของผู้ทอค่ะ
ภายในพิพิธภัณฑ์นอกจากมีผ้าโบราณ ของเมืองลองอายุร้อยกว่าปี ยังมีผ้าที่ได้รับรางวัลจากการประกวดทั้งในและต่างประเทศ ผ้าที่ทอขึ้นใหม่ใน โอกาสพิเศษหรือเพื่อการสะสม และผ้าซิ่น จากแหล่งต่างๆทั่วประเทศ จัดไว้ให้ชมพร้อมกับภาพถ่ายการแต่งกายของเจ้านายล้านนาและราชสำนักสยาม รวมถึงเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์หลายเรื่องที่อาจารย์โกมลรับผิดชอบจัดหาเครื่องแต่งกายให้นักแสดง เช่น สุริโยทัย กษัตริยา รอยไหม และการประกวดชุดแต่งกายประจำชาติในการประกวดนางงามระดับโลกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีวัตถุโบราณจัดแสดงสลับกับผ้าตามความเหมาะสมเพื่อเล่าเรื่องราวในอดีต เช่น ภาพเขียนโบราณ ขันดอกไม้แบบล้านนา ตุง พิณเปี๊ยะ พานเงิน สลุงเงิน ดาบเหล็กลองและขันซี่ ให้ชมด้วยค่ะ